จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 571 ข้าอุ้มเจ้าไป
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 571 ข้าอุ้มเจ้าไป
หยุนถิงมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย สมกับคำว่า ไม่หาเรื่องตายก็ไม่ตายจริงๆ
มือของไอ้หมูอ้วนยังไม่ทันโดนตัวหยุนถิง ก็โดนจวินหย่วนโยวที่ยืนข้างๆคว้าหมับที่ข้อมือเขา และบิดอย่างแรง
“พลั่ก!”
“อ๊าก!” เสียงกระดูกหักดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด ทำเอาทุกคนตกตะลึง ฝูงชนที่ห้อมล้อมตกใจถอยร่นกันกรูด
“อ๊าก เจ็บนัก มือของข้า ท่านแม่ช่วยข้า ช่วยข้าด้วย!” ไอ้หมูอ้วนร้องโหยหวน มือเขาโดนจับหักเอาดื้อๆ
แม่สามีใจร้ายก็ตกใจหนัก รีบพุ่งเข้ามาหา “กล้าทำร้ายลูกชายข้ากลางวันแสกๆ ยังมีกฎหมายอยู่หรือไม่ ทุกคนมาดูเร็ว ฆ่าคนแล้ว!”
พลันมีกระบี่ยาวพาดมาที่คอนาง “ลูกชายเจ้าลวนลามซื่อจื่อเฟยของเรา หาเรื่องตาย หากเจ้ายังแหกปากโวยวายอีก ข้าจะตัดลิ้นเจ้าเดี๋ยวนี้!”
แม่สามีใจร้ายตกใจหน้าซีดเผือด รีบหุบปากทันที
“ซื่อ ซื่อจื่อเฟย!” ไอ้หมูอ้วนเองก็ตกใจเช่นกัน
“กล้าลวนลามซื่อจื่อเฟยขงอข้าต่อหน้าทุกคน องครักษ์ ตัดมือและเท้ามันไปให้หมากินซะ!” จวินหย่วนโยวสะบัดมือไอ้หมูอ้วนทิ้งอย่างรังเกียจ และหยิบผ้าออกมาเช็ดมือตนเอง
“ขอรับ!” หลิงเฟิงรีบเข้ามาทันที
“นี่คือจวินซื่อจื่อและซื่อจื่อเฟยรึนี่ ข้าเคยเห็นเขาที่เมืองหลวง คนผู้นี้โชคร้ายละ จวินซื่อจื่อน่ะเลื่องชื่อว่ารักใคร่ซื่อจื่อเฟยยิ่งนัก!” มีคนหนึ่งพูดขึ้นท่ามกลางฝูงชน
คนมากมายจำจวินซื่อจื่อและซื่อจื่อเฟยได้ขฌ สองแม่ลูกคู่นี้เดือดร้อนแน่ แต่พวกเขากลับไม่น่าเห็นใจเลยสักนิด เอาแค่ที่พวกเขาโหดร้ายทารุณลูกสะใภ้ ก็สมควรโดนแล้ว
“ซื่อจื่อ จวินซื่อจื่อ ข้าสำนึกผิดแล้ว ข้าสมควรตายนัก ข้าหลงผิดไปชั่ววูบ ข้าสารเลวเอง ขอร้องท่านปล่อยข้าไปเถอะ!” ไอ้หมูอ้วนอ้อนวอน
หลิงเฟิงตัดขาสองข้างของเขาทันที เลือดสดสาดกระเซ็น ทุกคนตกใจกันยิ่งนัก
ไอ้หมูอ้วนร้องโหยหวน เจ็บจนแผดเสียงดัง
“ลูกแม่ ลูกแม่เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ซื่อจื่อเฟย ท่านเป็นผู้ใหญ่ใจกว้าง พวกข้ามีตาหามีแววไม่เอง!” แม่สามีใจร้ายตกใจคุกเข่าโขกศีรษะรัวๆ
“ซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟย ขอร้องท่านปล่อยสามีและแม่สะใภ้ข้าไปเถอะ ข้าผิดเอง จะลงโทษก็ลงโทษข้าเถอะ!” นางอ้อนวอนทันที
หยุนถิงอดสงสัยไม่ได้ “เมื่อครู่พวกเขาทำเช่นนั้นกับเจ้า เหตุใดเจ้ายังขอร้องแทนพวกเขาอีกเล่า?”
“ข้าไม่ดีเองฝภ หลายปีมานี้ข้าไม่ท้องเสียที ไม่เกี่ยวกับพวกเขา ดังนั้นขอซื่อจื่อเฟยโปรดเมตตา ไม่ว่าจะลงโทษข้าอย่างไรก็ได้ ขอร้องท่านปล่อยพวกเขาไปเถอะ” นางอ้อนวอน
“เรื่องมีลูกต้องดูบุพเพวาสนาด้วย ในเมื่อพวกเจ้าแต่งงานมาหลายปีกลับไม่ท้อง เช่นนั้นแสดงว่าเป็นปัญหาที่ฝ่ายชาย เรื่องไม่มีลูกมิใช่เพียงปัญหาของสตรีเท่านั้น บุรุษต่างหากที่เป็นจุดสำคัญ
สามีเจ้าน่ะหัวมีแต่ไขมัน ขาหนัก ไขมันพอกเต็มขา เนื้อตัวเต็มไปด้วยกลิ่นเหล้า แค่ดูก็รู้ว่าเขาดื่มหนักมานานหลายปี ดังนั้นถึงทำให้เจ้าไม่อาจท้องได้
ต่อให้เจ้าท้องแล้ว ตอนนี้พวกเขาทำเช่นนี้ต่อเจ้า ต่อไปก็ทำแบบเดิม หากเจ้ามีลูกสาว เจ้าอยากให้ลูกสาวเจ้าโดนพวกเขาด่าว่าทำร้ายทั้งชาติเหมือนเจ้ารึ
หากเจ้ามีลูกชาย ก็คงดีไม่ถึงไหน ขอแค่พวกเขาไม่พอใจก็จะทุบตีด่าทอเจ้า ถึงเวลานั้นเจ้าจะอดทนเพื่อลูกชายเจ้ารึ ชีวิตที่ลำบากเสียยิ่งกว่าหมูหมานั่นเป็นชีวิตที่เจ้าต้องการจริงรึ!” น้ำเสียงเย็นเยียบของหยุนถิง แต่ละคำเสียดแทงหัวใจ
นางผู้นั้นอึ้งตะลึงไปเลย ตะลึงอยู่นานไม่พูดอะไร
นางไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้มาก่อน และยิ่งไม่เคยคิดถึงวันข้างหน้า เพียงแต่รู้สึกว่าตนผิดต่อตระกูลอู๋
บัดนี้พอได้ยินซื่อจื่อเฟยพูดเช่นนี้ นางใบหน้าซีดเผือดหม่นหมองลงทันที
ใช่สิ ต่อให้นางมีลูกแล้วอย่างไร จะให้ลูกต้องมาใช้ชีวิตอย่างนางเช่นนี้หรือ โดนด่าทอทุบตี โดนเหยียดหยาม โดนทารุณทั้งวัน—
“สตรีมิได้มีเพียงไว้แต่งงานมีลูกเท่านั้น เจ้าสามารถอยู่เพื่อตนเองได้ ทำเรื่องใดก็ได้ที่เจ้าอยากทำ!”
นางผู้นั้นมองหยุนถิงอย่างตะลึง “ข้าจะทำได้จริงรึ?”
“แน่นอน ขอเพียงเจ้าต้องการ นับจากวันนี้ไปเจ้ามาติดตามข้า ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับพวกเขาอีก!”
“ชุ่ยฮวา เจ้าคิดให้ดีนะ ไปจากข้าแล้วจะมีผู้ใดต้องการเจ้า หญิงแก่หง่อมเช่นเจ้าก็มีเพียงข้าที่ไม่รังเกียจเจ้า—“ ไอ้หมูอ้วนร้องบอก
“หุบปาก!” หยุนถิงแค่นเสียงเย็น เข็มเงินในมือพุ่งไปทันที
ไอ้หมูอ้วนยังไม่ทันรู้ตัว ก็พูดอะไรไม่ได้แล้ว ทำเขาตกใจแทบตาย
“เจ้ามิต้องกลัวเขา ขอเพียงบอกข้าว่าเจ้าต้องการจากไปหรือไม่ โอกาสมีเพียงครั้งเดียว เจ้าคิดให้ดีล่ะ!” หยุนถิงแค่นเสียงเย็น
“ข้ายินดี ซื่อจื่อเฟยญฌ ขอท่านช่วยข้าด้วย!” นางผู้นั้นตอบออกมาทันที
“เจ้าคนไร้หัวใจ กล้าทอดทิ้งพวกเราแม่ลูก!” แม่สามีใจร้ายด่าทอ
“ข้าไร้หัวใจ นับจากแต่งงานมาจนบัดนี้พวกท่านแม่ลูกด่าทอทุบตีข้า ลูกชายท่านไม่เคยทำงานหาเงิน ล้วนอาศัยข้าทำงานเลี้ยงดูทั้งนั้น
เขาเอาเงินของข้าไปกินดื่มอย่างสุขสำราญ ดื่มเหล้าเมายาทุกวัน พอมีเรื่องใดไม่พอใจก็ลงไม้ลงมือกับข้า ส่วนท่านก็ใส่สีตีไข่ เหยียดหยามด่าทอข้า ทรมานข้าต่างๆนานา
ชีวิตเช่นนี้ข้าพอแล้ว ข้าไม่อยากลูกข้าต่อไปก็ต้องเป็นอย่างข้าญญ ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางเสียงด่าทอและเหยียดหยามทั้งชาติ!” นางผู้นั้นเล่าความน้อยเนื้อต่ำใจที่ได้รับมาในหลายปีนี้ออกมาทั้งหมด
ทำให้ทุกคนยิ่งเห็นใจและสงสารนางมากขึ้น ไม่คิดว่าแม่ลูกคู่นี้จะชั่วร้ายปานนี้
“พล่ามมากเสียจริง หลงเอ้อร์!” จวินหย่วนโยวแค่นเสียงเย็น
หลงเอ้อร์ตวัดกระบี่ฟันแขนข้างหนึ่งของไอ้หมูอ้วน
ทำเอาเขาเจ็บจนสลบไป เลือดสีแดงสดไหลลงกางเกง ทำเอาแม่สามีใจร้ายตกใจร้องหวีด และจะสลบไปเหมือนกัน
“หากเจ้าสลบไป ข้าจะฆ่าลูกชายเจ้าตอนนี้เลย!” หลงเอ้อร์แค่นเสียงเย็น
แม่สามีใจร้ายมีหรือจะกล้าสลบไปอีก โขกศีรษะซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ขอร้องซื่อจื่อเฟย ซื่อจื่อว้ชีวิตด้วย ข้าสำนึกผิดแล้ว”
“หลิงเฟิง ให้เขาเขียนหนังสือหย่าร้าง!” หยุนถิงแค่นเสียงเย็น
หลิงเฟิงหยิบกระดาษพู่กันมาทันที เตะไอ้หมูอ้วนที่สลบให้ฟื้น “เขียนซะ!”
ไอ้หมูอ้วนเจ็บแทบอยากตาย แต่ไม่กล้าขัดขืน รีบเขียนทันที
หลิงเฟิงรับมาดูแวบหนึ่งพบว่าไม่มีปัญหา ก็ยื่นให้นางผู้นั้น นางกัดนิ้วตนเองแตะประทับอย่างไม่ลังเลเลย
“ไปเถอะ!” หยุนถิงพูดจบ หมุนตัวจากไปทันที
จวินหย่วนโยวจูงมือนาง คอยดูแลนางขึ้นเขาต่อไป
นางผู้นั้นมองตามแผ่นหลังหยุนถิง เดินตามไปอย่างไม่หันกลับมามองเลย ในที่สุดนางก็หลุดพ้นเสียที
“ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!” หลงเอ้อร์แค่นเสียงเย็น
แม่สามีใจร้ายตกใจรีบลากลูกชายจากไป ทั้งสองคนกลิ้งลงเขาไป ทุกคนต่างพากันปรบมือยินดี
หน้าประตูวัดชิงหยุน เจ้าอาวาสยืนรออยู่ที่นั่นแล้ว และพาจวินหย่วนโยวกับหยุนถิงไปเขาด้านหลังด้วยตัวเอง
“เหนื่อยแล้วรึ ข้าอุ้มเจ้าไปเอง!” จวินหย่วนโยวบอกอย่างสงสาร
“ไม่ต้องหรอก ข้ามิได้อ่อนแอเพียงนั้น” หยุนถิงตอบ
หลังจากจัดการสองแม่ลูกใจร้ายนั่นแล้ว ก็หายใจหายคอคล่องขึ้น
“ไอ้โหย นังหนูเจ้ามันนี่ชอบยุ่งเรื่องผู้อื่นจริงนะ กลัวจะอายุยืนมากไปรึไร!” คงอู๋ไต้ซือถือน้ำเต้าใส่เหล้า พูดไปดื่มไป
สีหน้าจวินหย่วนโยวอึ้งตะลึง “ไต้ซือ ท่านพูดเช่นนี้หมายความว่ากระไร?”