จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 581 อ๊า ท่านพี่ท่านทำอะไรน่ะ
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 581 อ๊า ท่านพี่ท่านทำอะไรน่ะ
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคุกหลวงลอยไปถึงจวนซื่อจื่ออย่างรวดเร็ว
หยุนถิงมีสีหน้าประหลาดใจ “ท่านพี่ เป็นฝีมือผู้ใดกัน กล้าวางยาพิษเฟิ่งไท่เว่ยในคุกหลวง?”
“หลายปีมานี้ ตระกูลเฟิ่งเหิมเกริมเกกมะเหรกเกเรเกินไป มีศัตรูไม่น้อย บัดนี้เฟิ่งไท่เว่ยตกอับ ย่อมมีคนทนไม่ไหวอยู่แล้ว” จวินหย่วนโยวตอบ
“พูดไปก็จริง ทำชั่วเองย่อมไม่อาจหลีกหนีได้ ในจดหมายเริ่นเซวียนเอ๋อร์บอกว่าผิงหนานอ๋องแตกหักและลงมือกับองค์หญิงใหญ่เพราะเซียจิ่วเซียว ส่วนฮ่องเต้แคว้นเทียนจิ่วยิ่งเก็บกวาดอำนาจที่องค์หญิงใหญ่สะสมมาหลายปีเสียจนเกลี้ยง ไม่คิดว่าพวกเขาจะทำเรื่องได้อย่างเด็ดขาดขนาดนี้
ในเมื่อเด็ดเขี้ยวเล็บหมดแล้ว พวกเราก็ควรเข้าวังได้แล้ว ฝ่าบาทสลบมานานพอแล้ว ได้เวลาฟื้นแล้ว!” หยุนถิงวางจดหมายในมือลง
“เซียจิ่วเซียวเป็นลูกชายโทนของผิงหนานอ๋อง และเป็นเส้นตายของเขาด้วย ต่อให้เป็นองค์หญิงใหญ่ ผิงหนานอ๋องก็ไม่ใจอ่อนหรอก ไม่อย่างนั้นข้าก็ไม่ให้องครักษ์ลับส่งเซียจิ่วเซียวกลับไปดอก” น้ำเสียงจวินหย่วนโยวเย็นเยียบดุจน้ำแข็ง
ก่อนหน้านี้ไม่นานองค์หญิงใหญ่มาจวนซื่อจื่อช่วยคน สุดท้ายถูกหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวเหยียดหยาม ตนเองหนีออกมาอย่างน่าอนาถ ทิ้งเซียจิ่วเซียวไว้ นี่ทำให้เซียจิ่วเซียวเกลียดองค์หญิงใหญ่เข้ากระดูกดำ
ดังนั้นจวินหย่วนโยวส่งองครักษ์ลับพาเซียจิ่วเซียวกลับมา เป้าหมายเพื่อให้ผิงหนานอ๋องกับองค์หญิงใหญ่แตกหักเป็นศัตรูกัน แบบนี้ผิงหนานอ๋องก็จะไม่ปล่อยองค์หญิงใหญ่แน่ อีกทั้งประหยัดแรงตนเองด้วย
ถึงคนของจวินหย่วนโยวจะมีกระจายไปทั่วทั้งสี่แคว้น แต่สำหรับคนเจ้าเล่ห์ชั่วร้ายอย่างองค์หญิงใหญ่ จะมีใครรู้จักนางดียิ่งไปกว่าผิงหนานอ๋อง
“ท่านพี่เฉลียวฉลาดนัก!” หยุนถิงชมเชย
“นางหาเรื่องเอง!”
จากนั้นจวินหย่วนโยวก็ขึ้นรถม้าเป็นเพื่อนหยุนถิง หลงเอ้อร์และหยุนเฟิงรั่วจิ่งตามติด พวกเขามุ่งตรงเข้าวังหลวง
ตำหนักของฮ่องเต้
หยุนถิงเห็นเหมยเฟยผอมซูบลงไปไม่น้อย ดวงตาลึกโบ๋ สีหน้าซีดเผือด ผอมซูบไปมาก แค่ดูก็รู้ว่าพักผ่อนไม่พอ
“จวินซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟยพวกท่านมาแล้ว ดียิ่งนัก ซื่อจื่อเฟยท่านฟื้นแล้ว ฝ่าบาทมีหนทางช่วยแล้วใช่หรือไม่?” เหมยเฟยตื่นเต้นยิ่งนัก นางลุกขึ้นยืนจากขอบเตียง
อาจเพราะยืนเร็วเกินไป เหมยเฟยตางุนงงวิงเวียน เกือบล้มลง โชคดีที่หยุนถิงมือไวพยุงนางไว้ทัน
“เหมยเฟย มิเป็นไรกระมัง?”
“ข้ามิเป็นไร ซื่อจื่อเฟย ขอร้องท่านช่วยฝ่าบาทเร็ว ขอเพียงฝ่าบาทสบายดีก็เรียบร้อยแล้ว!” เหมยเฟยพูดน้ำเสียงแหบพร่า เห็นได้ชัดว่าอ่อนระโหยเพลียแรง
“เรียนซื่อจื่อเฟย นับจากฝ่าบาทสลบ นายท่านของข้าก็ดูแลฝ่าบาทอย่างดีมาตลอด ระยะนี้ไม่ได้กลับตำหนักตนเองเลย ดังนั้นเลยมิได้พักผ่อนเลย ข้าเตือนก็ไม่ฟัง บอกเพียงว่าจะรอฝ่าบาทฟื้นให้ได้ก่อน!” สาวใช้ข้างกายตอบอย่างนอบน้อม
หยุนถิงปวดใจนัก “ท่านนี่น้า ร่างกายของตนเองก็ต้องสนใจนะ ไม่เช่นนั้นฝ่าบาทฟื้นแล้ว ท่านก็จะล้มป่วยเสียเอง”
“มิเป็นไร ข้ายังทนไหว”
“ซื่อจื่อเฟย ขอร้องท่านช่วยฝ่าบาทด้วยเถิด ข้าน้อยโขกศีรษะให้ท่านแล้ว!” ซูกงกงบอกพลางจะคุกเข่าลง
กลับโดนหยุนถิงคว้าตัวไว้ “ซูกงกงไม่ต้องคารวะข้าเพียงนี้ เป็นคนกันเองทั้งนั้น รีบลุกขึ้นเถอะ”
ซูกงกงซาบซึ้งใจนัก “ขอบคุณซื่อจื่อเฟย”
หยุนถิงรีบช่วยจับชีพจรฮ่องเต้ทันที พลางหยิบยาถอนพิษและยาฟื้นกำลังออกมาให้เหมยเฟย ให้นางป้อนฝ่าบาทกินลงไป
“ซูกงกง ให้คนเตรียมถังอาบน้ำ ฝ่าบาทต้องแช่น้ำยา!” หยุนถิงเอ่ยปาก
“ขอรับ” ซูกงกงรีบให้คนไปเตรียมทันที ไม่นานองครักษ์หลายคนยกถังน้ำเข้ามา
ซูกงกงกับเหมยเฟยหามฝ่าบาทลงถังน้ำ หยุนถิงเริ่มลงเข็มให้ฝ่าบาท จวินหย่วนโยวยกเก้าอี้ข้างๆมาให้ “ถิงเอ๋อร์ นั่งลงฝังเข็มเถิด!”
“ได้!” หยุนถิงนั่งลงทันที
เวลาค่อยๆผ่านไป ผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม ฮ่องเต้ที่อยู่ในถังน้ำค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ
“ฝ่าบาท ทรงฟื้นเสียที ดียิ่งนัก เป็นอย่างไรบ้าง รู้สึกอย่างไร?” เหมยเฟยดีใจยิ่งนัก ถามออกมารัวๆ
พอลืมตามา ฮ่องเต้ก็เห็นสีหน้าซีดเผือดอิดโรยของเหมยเฟย ดูเหนื่อยล้ายิ่งนัก แต่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง โดยเฉพาะน้ำตาในดวงตานาง ดูแจ่มชัด เป็นห่วงร้อนรนนั่น ฮ่องเต้เห็นมันอย่างชัดเจน
“ไม่ต้องเป็นห่วง ข้ามิเป็นไรแล้ว!”
“มิเป็นไรก็ดีแล้ว ท่านสลบมานานขนาดนี้แล้วหม่อมฉันตกใจยิ่งนัก” เหมยเฟยดีใจจนน้ำตาไหล พลันหน้ามืดเป็นลมไปเลย
“เหนียงเหนียง เป็นอะไรเพคะ?” สาวใช้รีบเข้าไปพยุงนาง
หยุนถิงรีบเข้ามาช่วยจับชีพจรนางทันที “เหมยเฟยเหน็ดเหนื่อยเกินไป พักผ่อนไม่เพียงพอ ให้นางพักผ่อนเสียหลายวันก็ได้แล้ว”
“ขอบคุณซื่อจื่อเฟย!” สาวใช้บอกอย่างซาบซึ้ง
ฮ่องเต้ปวดใจนัก เหล่าสนมมากมายในวังหลัง คนที่มาดูแลตนกลับมีเพียงเหมยเฟย เห็นได้ถึงความจริงใจที่นางมีต่อตน
“พยุงเจ้านายเจ้าไปพักผ่อนเถอะ!” ฮ่องเต้พูดเสียงเนิบช้า
“เพคะ”
“ฝ่าบาทพึ่งฟื้น ต้องพักผ่อนให้ดี พักฟื้นเสียหลายวันก็ฟื้นฟูกลับมาได้แล้ว” หยุนถิงบอก ดึงเข็มที่ปักอยู่บนหัวฝ่าบาทออกมา
“ได้ พิษในตัวเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” ฮ่องเต้ถาม
ตอนนั้นเขากับหยุนถิงโดนพิษเหมือนกัน หยุนถิงเสี่ยงอันตรายมาช่วยตน ฮ่องเต้จำได้แน่นอน
“ขอบพระทัยที่ฝ่าบาทเป็นห่วง น้องกินยาถอนพิษ มิเป็นไรแล้ว”
“งั้นก็ดี!”
หยุนถิงกำชับอีกหลายคำ ถึงได้ออกไปจากจวินหย่วนโยว
พอออกจากวัง หยุนถิงเอ่ยขึ้น “ซื่อจื่อ ตอนนี้อำนาจขององค์หญิงใหญ่โดนกำจัดหมดแล้ว นางเองก็โดนขังอยู่ในวัง ท่านหาโอกาสกินยาถอนพิษเถอะ ถอนพิษในตัวท่านเสียก่อน!”
“ได้!”
“แต่การถอนพิษครั้งนี้อันตรายยิ่งนัก ต้องผสานกับน้ำในหนองน้ำเย็น แบบนี้จะสามารถสะกดพิษในตัวท่านได้” หยุนถิงขมวดคิ้ว
“เช่นนั้นวันนี้ออกเดินทางไปหนองน้ำเย็น ไปกินยาถอนพิษทางนั้นเลย!” จวินหย่วนโยวตอบ
“ได้”
พอทั้งสองคนกลับไปยังจวนซื่อจื่อ ก็ให้คนเก็บข้าวของ และไปหนองน้ำเย็นในวันนั้นทันที
หลงยีนำองครักษ์เงามังกรทั้งหมดและองครักษ์ลับจำนวนนับไม่ถ้วนลอบอารักขาอย่างลับๆ การที่ซื่อจื่อจะถอนพิษมิใช่เรื่องเล็กๆ จะมีเหตุผิดพลาดใดๆเกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด
จวินหย่วนโยวกินยาถอนพิษห้าชนิด จากนั้นก็แช่อยู่ในใจกลางหนองน้ำเย็น น้ำในหนองน้ำเย็นที่เย็นเสียดกระดูกทำให้เขาสะท้าน แต่ร่างกายกลับค่อยๆร้อนขึ้นมา ประหนึ่งอยู่ในเตาไฟก็ไม่ปาน ร้อนยิ่งนัก ในร่างยิ่งเหมือนกับมีหนอนนับหมื่นนับพันตัวกัดกินเขาอยู่ เจ็บปวดทรมานยิ่งนัก
ร่างกายราวกับน้ำและไฟกำลังห้ำหั่นกัน ทุกข์ทรมานยิ่งนัก จวินหย่วนโยวหลับตาแน่น คิ้วขมวดแน่นสองมือที่อยู่ใต้น้ำกำแน่นยิ่งขึ้น
“อ๊าก!” เสียงคำรามด้วยความเจ็บปวดของจวินหย่วนโยว ทำเอาหยุนถิงที่อยู่ข้างๆสงสารยิ่งนัก
“ท่านพี่อดทนไว้นะ ยาถอนพิษกำลังต่อต้านกับพิษร้ายในเลือดของท่าน ขอเพียงท่านผ่านหนึ่งชั่วยามนี้ไปได้ ก็ได้แล้ว ข้ารู้ว่าท่านทรมานมาก ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนท่านที่นี่ตลอดนะ!” หยุนถิงปลอบเสียงเบา
นางกระซิบเสียงเบาตลอด พูดเรื่องระหว่างพวกเขา วาดภาพถึงอนาคตของลูกๆพวกเขา—สรุปแล้วเธอพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของจวินหย่วนโยวอย่างสุดชีวิต ให้เขาไม่ทรมานขนาดนั้น
จวินหย่วนโยวสีหน้าซีดเผือด ริมฝีปากซีดไร้สีเลือดเลย ดูแล้วทรมานมาก แต่เขาพยายามอดทนอยู่ตลอด
ทันใดนั้นพลันมีเสียงขลุ่ยดังมาจากในป่า ขาดๆหายๆ เสียงเสียดแก้วหู
จวินหย่วนโยวที่เดิมหลับตาอยู่พลันลืมตาโพลงขึ้นมา ดวงตาส่องประกายสีแดง และบีบคอหอยหยุนถิงทันที อีกทั้งยังออกแรงมาก
“อ๊า ท่านพี่ ทำอะไรน่ะ?”