จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 582 โม่เหลิ่งเหยียน เจ้าหาเรื่องตาย
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 582 โม่เหลิ่งเหยียน เจ้าหาเรื่องตาย
คอหอยหยุนถิงโดนบีบไว้ หายใจลำบาก คิ้วเธอขมวดมุ่น
“ซื่อจื่อเฟย!” หลงเอ้อร์ตะโกนเสียงดัง พลางพุ่งเข้ามาทันที
องครักษ์เงามังกรคนอื่นก็เห็นเช่นกัน ต่างรีบเข้ามาช่วยคน
“ซื่อจื่อปล่อยมือเร็ว นี่ซื่อจื่อเฟยนะ คนที่ท่านรักที่สุดไง รีบปล่อยเร็ว!” หลงเอ้อร์ตะโกนเสียงดัง
แต่จวินหย่วนโยวกลับไม่สะทกสะท้านเลย สีหน้าเย็นเยียบดุจน้ำแข็ง สองตาแดงก่ำไร้ความอบอุ่น แถมยังว่างเปล่ายิ่งนัก
“ซื่อจื่อ อย่าทำร้ายซื่อจื่อเฟย รีบปล่อยมือเร็ว!” หลงยีเหาะเข้ามา คว้าจับแขนจวินหย่วนโยวที่บีบคอหยุนถิงอยู่
จวินหย่วนโยวเหมือนไม่ได้ยิน อีกมือซัดใส่หลงยีทันที
องครักษ์เงามังกรคนอื่นตะลึงไปตามๆกัน ซื่อจื่อเป็นอะไรกันนี่?
หยุนถิงเห็นสายตาว่างเปล่าของจวินหย่วนโยว แดงก่ำราวกับสีเลือด สายตานั้นมองตนอย่างเย็นชา เหมือนกับมองคนแปลกหน้า
เธอมือลูบผมทันที เสียงขลุ่ยนั่นเปลี่ยนทันที มือที่บีบคอหอยหยุนถิงอยู่ของจวินหย่วนโยวออกแรงหนักขึ้นเช่นกัน
“เสียงขลุ่ย เสียงขลุ่ยควบคุมซื่อจื่ออยู่!” หยุนถิงพูดออกมาอย่างยากลำบาก
“ทุกคนรีบไปตามหาคนเป่าขลุ่ยเร็ว จะให้เขาควบคุมซื่อจื่อมิได้!” หลงยีออกคำสั่ง
“ขอรับ!” องครักษ์เงามังกรทั้งหมดกระจายกันออกไปทันที
หลงเอ้อร์เห็นซื่อจื่อเฟยเหลือกตาแล้ว เลยใช้กำลังทั้งสิบส่วนโจมตีจวินหย่วนโยวทันที “ซื่อจื่อ ขออภัยด้วย!”
จวินหย่วนโยวที่ขาดการควบคุมรับรู้รังสีกระบี่ที่พุ่งเข้ามาด้านหน้า เขาปล่อยหยุนถิงทันที ร่างกายเบนหลบเล็กน้อย และซัดฝ่ามือกลับใส่หลงเอ้อร์
รั่วจิ่งสบโอกาส ดึงหยุนถิงมาด้านข้างและขวางหน้านางไว้ทันที
“ซื่อจื่อเฟย ท่านมิเป็นไรใช่หรือไม่?”
หยุนถิงได้รับอิสระ หอบหายใจคำโต “ข้าไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล”
ระหว่างพูด จวินหย่วนโยวออกมาจากหนองน้ำเย็นแล้ว และโจมตีหยุนถิงจากด้านหน้า
“ซื่อจื่อเฟย รีบไปเร็ว!” รั่วจิ่งร้องเสียงดัง รีบเข้ามาสกัดการโจมตีของซื่อจื่อ
แต่ก่อนหน้านี้เขาโดนคนตัดเส้นประสาทแขนขา ถึงไทเก๊กจะฝึกจนเชี่ยวชาญ หากเขาไร้ซึ่งไม่มีกำลังภายในไหนเลยจะรับฝ่ามือของซื่อจื่อไหว
รั่วจิ่งเตรียมใจตายไว้แล้ว เขาจะให้ซื่อจื่อทำร้ายซื่อจื่อเฟยไม่ได้เด็ดขาด
พอเห็นฝ่ามือนั่นจะซัดใส่ตัวรั่วจิ่ง จวินหย่วนโยวพลันหยุดนิ่งลง ด้านหลังเขาคือโม่เหลิ่งเหยียน
เข็มเงินในมือหยุนถิงเร็วและมีมากยิ่งนัก ซัดใส่จวินหย่วนโยวอย่างรวดเร็ว
รั่วจิ่งบื้อไปเลย มองดูซื่อจื่อที่นิ่งไม่ขยับตัวเบื้องหน้า แล้วแอบถอนหายใจโล่งอก
เขายังคิดว่า ตนคงตายแน่แล้ว
“หยุนถิง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” โม่เหลิ่งเหยียนรีบรุดเข้ามามองนางอย่างกังวล
ระยะนี้เขาส่งคนมาแอบสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวจองจวนซื่อจื่ออย่างลับๆ พอรู้ว่า วันนี้จวินหย่วนโยวและหยุนถิงออกจากเมืองมาที่หนองน้ำเย็น โม่เหลิ่งเหยียนก็เดาได้ทันทีว่าต้องเกี่ยวกับพิษร้ายในตัวจวินหย่วนโยวแน่ เขาไม่วางใจเลยตามมา
ไม่คิดเลยว่า พอมาถึงที่นี่ก็เห็นจวินหย่วนโยวบีบคอหยุนถิง โม่เหลิ่งเหยียนเลยลงมือทันที
“ขอบคุณซวนอ๋องที่ช่วย เมื่อครู่มีเสียงขลุ่ยควบคุมซื่อจื่อ ดังนั้นเขาจึงทำเช่นนั้น ท่านมาได้อย่างไรน่ะ?” หยุนถิงบอกอย่างซาบซึ้ง
หากมิใช่ซวนอ๋อง ตอนนี้รั่วจิ่งคงตายแน่แล้ว เธอไม่รู้เลยว่าเวลาซื่อจื่อขาดสติจะน่ากลัวขนาดนี้
“จวินหย่วนโยวบอกข้าถึงเรื่องเคราะห์กรรมในรอบสามเดือนนี้ของเจ้า ข้าไม่วางใจ เลยให้คนแอบคุ้มครองเจ้า ถึงรู้ว่าวันนี้พวกเจ้าออกจากเมืองกัน เลยแวะมาดูหน่อย” โม่เหลิ่งเหยียนอธิบายง่ายๆ
“ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง ขอบคุณซวนอ๋องมาก ขอซวนอ๋องช่วยหามซื่อจื่อกลับหนองน้ำเย็น!หยุนถิงบอก
“ได้!” โม่เหลิ่งเหยียนรีบเข้าไปพยุงจวินหย่วนโยวทันที เห็นสีหน้าซีดเผือดของเขาแล้วอยากจะอัดซักยกจริงๆ
รั่วจิ่งก็เข้าไปช่วยด้วย หยุนถิงรีบเข้าไปช่วยจับชีพจรให้จวินหย่วนโยว และใช้ยากับลงเข็มไปด้วย
ไม่นาน พวกหลงยีกลับมา “ซื่อจื่อเฟย ขออภัยด้วย พวกข้าไร้ความสามารถ ปล่อยให้คนผู้นั้นหนีไปได้ ขอซื่อจื่อเฟยลงโทษด้วย!”
“พวกเจ้ามิต้องโทษตัวเองดอก เขาสามารถลงมือในเวลาพอเหมาะพอเจาะเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าแอบตามพวกเรามานานแล้ว แต่พวกเรากลับไม่รู้เลย เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้เก่งกาจนัก ทุกคนระมัดระวังให้ดี จะให้ซื่อจื่อเกิดเหตุผิดพลาดไม่ได้!” หยุนถิงบอก
“ขอรับ!” หลงยีจัดการด้วยตัวเอง วางคนไว้หนึ่งคนทุกๆห้าสิบเมตร ทุกสารทิศพากันแวดระวังขึ้นมา
โม่เหลิ่งเหยียนคิ้วขมวดมุ่น “คนที่สามารถหนีรอดมือหลงยีไปได้ ทั่วทั้งสี่แคว้นมีไม่มีคนเท่านั้น ดูท่าครั้งนี้จะเป็นศัตรูตัวฉกาจ หยุนถิงเจ้าต้องระวังให้ดีนะ!”
“อืม”
โม่เหลิ่งเหยียนรีบเรียกองครักษ์ลับของตนมาทันที ให้พวกเขาระวังด้วย ส่วนตนคอยอยู่ด้านหลังหยุนถิง คุ้มครองความปลอดภัยของนางตลอดเวลา
เวลาค่อยๆผ่านไป อาการของจวินหย่วนโยวดีขึ้นหน่อย เพียงแต่ระหว่างนั้นทุกข์ทรมานมาก ถึงเขาจะยังสลบอยู่ แต่ก็คำรามเสียงต่ำอย่างทรมานเป็นระยะๆ บางครั้งยังทำร้ายตัวเองอย่างควบคุมไม่อยู่
หยุนถิงเป็นกังวลว่าซื่อจื่อจะทำร้ายตนเอง ก็เลยจะกระโดดลงน้ำ โม่เหลิ่งเหยียนกลับกระโดดลงหนองน้ำเย็นก่อนเธอก้าวหนึ่ง “ข้าเอง บัดนี้เจ้ามีครรภ์ น้ำในหนองน้ำเย็นนี้เจ้ารับมิได้ดอก!”
“งั้นท่านจับสองแขนของซื่อจื่อไว้นะ อย่าให้เขาทำร้ายตนเองได้!” หยุนถิงเองก็ไม่เกรงใจเขา
“ได้!” ซวนอ๋องทำตาม
เพราะจวินหย่วนโยวสลบ พิษร้ายและยาถอนพิษสู้รบกันในร่าง ต้องสังเกตเส้นเลือดในร่างตลอดเวลา ดังนั้นจะจี้จุดไม่ได้
พออยู่ก็อยู่ถึงสามวัน สามวันให้หลัง จวินหย่วนโยวฟื้นขึ้นมา พอลืมตาก็เห็นใบหน้าขยายใหญ่อยู่ต่อหน้าตน เขาคิดจะผลักอีกฝ่ายออก แต่พบว่าสองมือของตนโดนจวินหย่วนโยวรวบไว้อยู่ คราวนี้จวินหย่วนโยวตกใจนัก
ทั้งสองคนนั่งประจันหน้ากันในหนองน้ำเย็นอย่างนี้ ร่างกายของทั้งคู่แนบชิดกัน แถมโม่เหลิ่งเหยียนรวบมือตนไว้อยู่ ไม่ว่าเป็นใครก็ตามล้วนต้องคิดมากทั้งนั้น
“ซวนอ๋อง เจ้าจับมือข้าไว้ทำไมกัน ข้าไม่สนใจเจ้า!” จวินหย่วนโยวตะคอกด้วยความโกรธ
โม่เหลิ่งเหยียนอดทนอยู่นานตั้งแต่วินาทีที่เขาฟื้นแล้ว แต่ไม่ได้ปล่อยมือ
“หยุนถิงเป็นห่วงว่าเจ้าจะทำร้ายตัวเอง คิดจะกระโดดลงหนองน้ำเย็นด้วยตัวเอง ข้ากลัวว่านางจะทานทนความหนาวเหน็บไม่ไหว เลยยอมทนฝืนช่วยเจ้าสักครั้ง!” โม่เหลิ่งเหยียนอธิบายอย่างไม่พอใจ
หยุนถิงอดทนมาสองวันสองคืน สถานการณ์ของจวินหย่วนโยวคงที่แล้ว รอแค่เพียงเขาฟื้นขึ้นมา โม่เหลิ่งเหยียนเลยให้นางไปพักผ่อน เพราะตอนนี้หยุนถิงท้องอยู่ เธออยากเฝ้าจวินหย่วนโยวแต่ร่างกายไม่อำนวย ดังนั้นเลยไปงีบหลับสักหน่อย
จวินหย่วนโยวมองพื้นที่ว่างๆข้างๆทันที มีกระโจมเพิ่มมาหนึ่งหลัง เขาทั้งสงสารและรู้สึกผิดนัก “ตอนนี้ข้าได้สติแล้ว เจ้าปล่อยมือข้าได้แล้ว!”
โม่เหลิ่งเหยียนเห็นสายตาเขาเย็นเยียบ พูดจารู้เรื่อง เห็นได้ชัดว่าได้สติแล้วจริงๆ วินาทีที่ปล่อยมือ โม่เหลิ่งเหยียนซัดหมัดใส่จวินหย่วนโยวอย่างแรงหนึ่งที
“อ๊าก!” จวินหย่วนโยวคำรามเสียงต่ำ สีหน้าเย็นเยียบทันที สายตาดุดันดุจคมดาบ “โม่เหลิ่งเหยียน เจ้าหาเรื่องตายรึ?”
เขาไม่คิดเลยว่าจู่ๆโม่เหลิ่งเหยียนจะลงมือ ดังนั้นเลยมิได้เตรียมใจ รับไปหมัดหนึ่งเต็มๆ
“หมัดนี้ข้าชกแทนหยุนถิง เจ้าคนสารเลว เจ้าเกือบบีบคอหยุนถิงตายไปแล้ว หมัดเดียวนี่ยังน้อยไปด้วยซ้ำ!” โม่เหลิ่งเหยียนพูดอย่างกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน
เขาทนมาสามวันแล้ว ทนรอจนจวินหย่วนโยวฟื้น ย่อมต้องสั่งสอนเขาอย่างหนักสิ
หากตนมาช้าเพียงนิด หยุนถิงคงตายแล้วแน่
จวินหย่วนโยวที่เดิมเดือดดาลนัก เขานิ่งตะลึงไปเลย “เจ้าพูดอะไรนะ ข้าบีบคอถิงเอ๋อร์?”