จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 588 ถิงเอ๋อร์ สบายขึ้นหน่อยหรือไม่
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 588 ถิงเอ๋อร์ สบายขึ้นหน่อยหรือไม่
ม่อเซิงรีบวิ่งหนีทันที แต่เขาหรือจะใช่คู่ต่อสู้ของคนชุดดำ พอเห็นมีดสั้นนั่นจะแทงเข้าตนเอง ม่อเซิงก็สาดผงสีขาวใส่ไปทันที
“อ๊าก!” คนชุดดำคำรามเสียงต่ำ เจ็บตามาก มองเห็นไม่ชัด เขาควงมีดสั้นมั่วไปมา
ม่อเซิงรีบหลบทันที องครักษ์ลับเหาะออกมาทันที “กล้ามาฆ่าคนในจวนซื่อจื่อ หาเรื่องตาย!”
องครักษ์ลับฟันแขนคนผู้นั้นทันที เขาเจ็บปวดนัก รีบหลบหนีอุตลุด
องครักษ์ลับที่ปีนกำแพงอยู่รีบไล่ตามไปทันที พวกเขาได้รับคำสั่งซื่อจื่อให้คุ้มครองจวนซื่อจื่อ นับตั้งแต่วินาทีที่คนชุดดำปรากฏตัวที่ห้องครัว ก็โดนองครักษ์ลับจับตาดูไว้แล้ว
เพียงแต่เหล่าองครักษ์ลับไม่ได้เข้าไปยับยั้งทันที เพราะอยากดูว่ามันมาทำอะไร แต่ไม่คิดว่าจะปะเข้ากับเด็กสองคนอย่างม่อเซิงและจิ่งไป๋พอดี
“เจ้าไม่เป็นไรกระมัง?” องครักษ์ลับถาม
“ขอบคุณท่านพี่องครักษ์ลับมาก ข้านึกว่าตนเองคงตายแน่แท้แล้ว” ม่อเซิงบอกอย่างซาบซึ้ง คิดๆแล้วยังหวาดเสียวไม่หาย
หากท่านพี่องครักษ์ลับช้าไปนิดเดียว ตนคงไม่รอดแล้ว
“ไม่ต้องเกรงใจ คนกันเองทั้งนั้น เจ้าจะไปหาของกินที่ห้องครัวมิใช่รึ รีบไปเถอะ!” องครักษ์ลับเอ่ยปาก
ม่อเซิงมองมาอย่างสงสัย “ท่านพี่องครักษ์ลับ ท่านรู้ได้อย่างไรกัน?”
“พวกข้ารับหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัยของจวนซื่อจื่อ ย่อมต้องจับตาดูอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว”
ม่อเซิงจึงถึงบางอ้อ “ดังนั้นเมื่อครู่ข้ากับจิ่งไป๋วิ่งเสียแรงเปล่า?”
เสียแรงที่พวกเขาสองคนกลัวแทบตาย ดูท่าท่านพี่องครักษ์ลับคงจับตาดูอยู่นานแล้ว ทำเอาเขาคิดว่าตนคงตายแน่แล้ว กระต่ายตื่นตูมไปเองจริงๆ
“พูดเช่นนี้ก็ได้ ต่อไปเจอเรื่องแบบนี้หลบให้ไกลเลยนะ มีพวกเราอยู่!” องครักษ์ลับกำชับ
“ขอรับ!”
อีกด้านหนึ่ง จิ่งไป๋รีบวิ่งไปเรือนซื่อจื่อ เพียงแต่เขายังไม่ทันได้เข้าเรือนซื่อจื่อ ก็โดนองครักษ์ลับคนหนึ่งสกัดไว้
“จิ่งไป๋ วิ่งมาทำอะไรน่ะ?”
จิ่งไป๋มองเห็นเป็นหลงซาน ถึงถอนหายใจโล่งอก รีบดึงมือหลงซานที่ปิดปากตัวเองออก
“ท่านพี่หลงซาน ท่านรีบไปช่วยม่อเซิงที่ห้องครัวแล้ว พวกข้าเห็นมีคนทำลับๆล่อๆที่ห้องครัว ม่อเซิงให้ข้ามาบอกซื่อจื่อ สุดท้ายข้าเผลอทำเสียง ม่อเซิงให้ข้าหนีก่อน ขอร้องท่านรีบไปช่วยเขาเร็ว ข้ากลัวเขามีอันตราย!”
หลงซานถึงเข้าใจเรื่องราว “วางใจเถอะ เขาไม่มีอันตรายหรอก องครักษ์ลับที่ปีนกำแพงมิได้ไร้ฝีมือนะ”
“จริงรึ ม่อเซิงจะไม่โดนทำร้ายจริงรึ?” จิ่งไป๋ยังไม่วางใจ
“แน่นอน หากอยู่ในจวนซื่อจื่อยังโดนคนนอกทำร้ายเอาได้ เช่นนั้นองครักษ์เงามังกรและองครักษ์ลับอย่างพวกเรามิกลายเป็นขยะรึ!” หลงซานปลอบ
จิ่งไป๋คิดๆแล้วก็เห็นด้วย แต่ยังอดกังวลไม่หาย กำลังอ้าปากถาม หลงซานก็พูดก่อนว่า “เจ้ารออยู่ที่นี่อย่าขยับ มีนักฆ่าเข้าห้องของซื่อจื่อ อีกเดี๋ยวถ้าข้าไปแล้ว เจ้าระวังด้วยนะ!”
จิ่งไป๋ตกใจนัก รีบพยักหน้าหงึกๆ
ในห้อง นักฆ่าชุดดำคนหนึ่งอาศัยจังหวะที่หลิงเฟิงไปห้องน้ำ แอบลอบเข้าไป อาศัยแสงจันทร์ สามารถมองเห็นจวินหย่วนโยวที่นอนหลับอยู่บนเตียงเล็กน้อย
สายตานักฆ่าเย็นเยียบ ควักมีดสั้นที่เอวออกมาแทงลงไปที่จวินหย่วนโยวบนเตียง
ซื่อจื่อเฟยออกไปแล้ว หลิงเฟิงก็จากไปเช่นกัน เขาจับตาดูอยู่ทั้งคืน ตอนนี้เป็นโอกาสเพียงหนึ่งเดียวของเขา
พอเห็นมีดสั้นนั่นกำลังจะแทงลงไปที่หน้าอกจวินหย่วนโยว กระบี่ยาวเล่มหนึ่งปรากฏขึ้น และสกัดมีดสั้นนั่นเอาไว้ได้พอดี
“กล้าทำร้ายซื่อจื่อ หาเรื่องตาย!” หลงยีตะคอกดังอย่างเดือดดาล
จวินหย่วนโยวที่อยู่บนเตีงยงพลันลืมตาโพลงขึ้น ดวงตาดำขลับในความมืดนั่นทอประกายเย็นเยียบดุดัน อำมหิตอันตราย ทำคนสะท้านทรวง
นักฆ่าตกใจจนตัวสั่นเทา “ซื่อจื่อ เจ้ามิได้สลบดอกรึ?”
“หากข้าไม่สลบ จะล่อเจ้าออกมาได้อย่างไร ใครบงการเจ้ามากันแน่?” จวินหย่วนโยวถามเสียงเย็นชา
นักฆ่าอึ้ง หมุนตัวจะออกไป แต่หลงยีไหนเลยจะให้โอกาสเขา กระบี่ยาวในมือแทงเข้ามาทันที
ทั้งสองคนต่อสู้กัน มีเสียงต่อสู้ดังมาจากในห้อง และยังมีเสียงข้าวของหล่นแตก
พวกหลงซานด้านนอกระแวงขึ้นมาทันที จ้องมองห้องนั้นเขม็ง อย่างพร้อมจะลงมือทุกเมื่อ
“ปึ้ง!” เสียงสนั่นดังขึ้น นักฆ่ากระแทกเข้ากับหน้าต่าง ทำเอาคนลอยออกมาทั้งหน้าต่าง
นักฆ่าล้มลงกระแทกลงกับพื้นอย่างแรง กระอักเลือดออกมาอย่างเจ็บปวด แต่เขาไม่มีเวลาสนใจความเจ็บปวด หมุนตัวจะหนี
“ไอ้หนู ยืนให้ดีนะ!” หลงซานกำชับออกมา รีบเหาะเข้าไปทันที ในเวลาเดียวกันก็มีองครักษ์เงามังกรหลายคนเหาะเข้ามาจากทุกสารทิศ ประหนึ่งตาข่ายไร้รูปอันใหญ่ครอบคลุมทำให้นักฆ่าไร้หนทางหนี
พอนักฆ่าเห็นคนเหาะเข้าหาเขา เขาหลบทางนี้ได้ กลับโดนหลงซานถีบเข้าให้
“อ๊าก!” นักฆ่าคำรามเสียงต่ำ จากนั้นก็ล้มลงพื้น อวัยวะภายในประหนึ่งโดนสะท้านสะเทือนเข้าให้ เจ็บจนอยากตาย
กระบี่ยาวในมือหลงซานพาดอยู่ที่คอนักฆ่า “ใครส่งเจ้ามากันแน่?”
จวินหย่วนโยวกับหลงยีที่เดินออกมามองนักฆ่าอย่างเย็นชา สายตานั้นประหนึ่งอสุรกายจากนรกที่โหดเหี้ยม ทำเอานักฆ่าตกใจจนหน้าซีดเผือด
ตกมาอยู่ในเงื้อมมือจวินซื่อจื่อ เรียกได้ว่าอยู่ไม่สู้ตาย
นักฆ่ากลั้นใจ กัดฟันที่ซ่อนพิษเอาไว้ให้แตกออก
“ไม่ได้การ รีบหยุดมัน!” หลงยีร้องเสียงดัง
หลงซานพยายามเปิดปากนักฆ่า แต่ไม่ทันการณ์แล้ว นักฆ่าขาดใจตายคาที่
“น่าตายนัก!” หลงซานสบถออกมา และกระชากผ้าปิดหน้าสีดำออก
“มันนั่นเอง มันเป็นคนรับใช้ที่รับชอบปลูกต้นหญ้าในจวนซื่อจื่อ ขอซื่อจื่อลงโทษด้วย ข้าน้อยประมาทเอง!” หลิงเฟิงโทษตัวเอง
จวินหย่วนดยวเหล่มองนักฆ่าคนนั้น สายตาทะมึน “สืบที่มาของมัน อย่าให้เกิดเรื่องเช่นในคืนนี้อีก!”
“ขอรับ!”
จวินหย่วนโยวเหล่มองท้องฟ้า “ซื่อจื่อเฟยยังมิกลับมา?”
“เรียนซื่อจื่อ ใช่ขอรับ!” องครักษ์ฃับคนหนึ่งรายงานทันที
“ซื่อจื่อเฟยไปที่ใด?” จวินหย่วนโยวถามอีก
“จวนซวนอ๋อง”
คราวนี้จวินหย่วนโยวหน้าดำทะมึนทันที “รีบไปบอกซื่อจื่อเฟยว่า ข้าได้รับบาดเจ็บ”
“ขอรับ!” องครักษ์ลับรีบเหาะไปทันที
ในเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป หยุนถิงกับหลงเอ้อร์เร่งรุดกลับมา พอเข้าห้อง หยุนถิงพุ่งไปที่เตียงทันที “ซื่อจื่อ ท่านได้รับบาดเจ็บตรงไหนรึ สาหัสไหม มีองครักษ์เงามังกรเยอะมิใช่รึ ทำไมยังบาดเจ็บได้อีก?”
ได้ยินน้ำเสียงร้อนใจของหยุนถิง จวินหย่วนโยวยื่นมือรับนางเข้าอ้อมกอด “ข้ามิเป็นไร”
หยุนถิงถึงได้สติกลับมา “ซื่อจื่อ ท่านหลอกข้า?”
“เปล่า บาดเจ็บจริงๆ แต่ไม่สาหัส แค่เจ็บหน้าอกเล็กน้อยเท่านั้น เจ้าช่วยนวดให้ข้าดีกว่า” จวินหย่วนโยวบอกอย่างเง้างอน
หยุนถิงยื่นมือไปนวดให้เขา มองดูใบหน้าอิ่มเอมของเขาแล้ว ก็หน้าดำทะมึน แกล้งออกแรงหนักขึ้น
“อ๊าก!” จวินหย่วนโยวคำรามเสียงต่ำ เจ็บจนขมวดคิ้ว
“ต่อไปอย่าได้หลอกข้าอีก ข้าเป็นห่วงท่านมาตลอดทางเลยนะ” หยุนถิงต่อว่า
“ได้ ข้าแค่อยากเจอเจ้าเร็วขึ้นเท่านั้นเอง ถิงเอ๋อร์เหนื่อยมากแล้ว เข้านอนเร็วหน่อยเถอะ” จวินหย่วนโยวช่วยถอดเสื้อผ้าให้หยุนถิงอย่างรู้งาน จากนั้นก็ช่วยนางผลัดเปลี่ยนเป็นชุดนอน
“ซื่อจื่อ ข้าเดินเร็วไปหน่อย ตอนนี้ปวดเมื่อยนัก” หยุนถิงแกล้งค้อนบอก
หมอนี่กล้าหลอกเธอ ต้องสั่งสอนเขาสักหน่อย
จวินหย่วนโยวรีบให้หลิงเฟินไปยกน้ำร้อนมาถังหนึ่ง และช่วยแช่เท้าให้หยุนถิงด้วยตัวเอง จากนั้นช่วยนวดขาให้นางด้วย
“ถิงเอ๋อร์ สบายขึ้นหน่อยหรือไม่?”