จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 593 ท่านอา ข้าเจ็บมือ
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 593 ท่านอา ข้าเจ็บมือ
เสวี่ยเชียนโฉวไม่คิดเลยว่า คุณหนูสี่แห่งจวนตระกูลหยุนอย่างนางจะพูดจาเช่นนี้ออกมา มันทำให้เขาต้องมองนางใหม่จริงๆ
ลั่วรื่อไป๋ที่อยู่ข้างๆมองหยุนหลีอย่างตกตะลึง ไม่เคยมีใครพูดกับเขาเช่นนี้มาก่อน ตั้งแต่เล็กจนโต ครอบครัวเขาก็บอกให้เขาประจบเอาใจเสวี่ยรั่วหย่า ต้องนอบน้อมต่อนาง ห้ามขัดใจนางเด็ดขาด ดังนั้นต่อให้เสวี่ยรั่วหย่าจะฟาดแส้ทำร้ายตน ลั่วรื่อไป๋ก็ไม่กล้าขัดขืนอยู่ดี
ตอนนี้มาเห็นชายร่างผอมบางตรงหน้า ลั่วรื่อไป๋ทั้งตื้นตัน ทั้งซาบซึ้งใจ
เขาเป็นคนแรกที่เป็นห่วงตน นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนออกหน้าสู้เพื่อตน และเป็นครั้งแรกที่มีคนคิดถึงเขา
เสวี่ยรั่วหย่าเจ็บปวดมาก มีหรือจะมีแก่ใจย้อน นางไม่คิดเลยว่าไอ้หนูที่หน้าตาอัปลักษณ์นี่จะแย่งแส้ตนไปและฟาดใส่อย่างหนักเยี่ยงนี้
นางสาบานในใจ จะต้องจับหยุนหลีสับเป็นหมื่นๆชิ้น เอาให้เละไม่มีชิ้นดีเลย
เสวี่ยรั่วหย่าที่กำลังร้องโหยหวน เหลือบไปเห็นเสวี่ยเชียนโฉวทางด้านนี้พอดี นางพลันมีสีหน้าราวกับเจอพระมาโปรดก็ไม่ปาน “พี่ใหญ่ช่วยข้าด้วย รีบฆ่าไอ้สารเลวนี่ซะ เขารังแกข้า!”
พอได้ยินคำนี้ หยุนหลีก็หันมามองทางนี้เหมือนกัน คนที่มาใส่ชุดคลุมสีดำแขนเสื้อปักลวดลายก้อนเมฆ ที่เอวห้อยป้ายหยกสีเขียวดำชิ้นหนึ่ง ดูองอาจเย็นชา
ใบหน้าเย็นชาอำมหิต เหลี่ยมคางชัดเจน โดยเฉพาะดวงตาดำขลับคู่นั้นอำมหิตนัก มีแววเย็นเยียบ เหินห่างเล็กน้อย บรรยากาศรอบตัวแข็งกล้านัก ทำให้คนไม่กล้าดูถูก
เพียงแต่ใบหน้าคนผู้นี้ทำไมดูคุ้นตานัก หยุนหลีนึกขึ้นมาได้ทันที “ท่านอา!”
เสวี่ยเชียนโฉวหน้าทะมึนทันที เขาดูแก่ชราเพียงนั้นรึ นังหนูน่าตายนี่กล้าเรียกตนว่าท่านอา
คำว่าท่านอาคำเดียวทำให้ทุกคนพากันตกตะลึง ขนาดเสวี่ยรั่วหย่าที่อยู่บนพื้นยังตะลึงไปด้วยเลย
“พี่ใหญ่ ท่านรู้จักเขารึ?” เสวี่ยรั่วหย่าถามอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
เสวี่ยเชียนโฉวยังไม่ทันได้ตอบ หยุนหลีก็พูดแทรกขึ้นมาว่า “รู้จักอยู่แล้ว ข้าเคยช่วยชีวิตท่านอาไว้นะ” พูดพลางเดินไปหาเสวี่ยเชียนโฉว
เสวี่ยเชียนโฉวไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็ไม่ได้ยอมรับ เพียงสีหน้าบูดบึ้งมากขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น นังหนูน่าตายนี่ยังกล้าพูดว่าช่วยตนไว้ มีใครเขาช่วยคนแบบนี้บ้างกัน
หยุนหลีเดินเข้ามา มองดูใบหน้างดงามเย็นชานั้นอย่างยินดีปรีดา วินาทีต่อมานางยกมือขึ้นไปหยิกแก้มสองข้างเสวี่ยเชียนโฉวเสียดื้อๆ
“ท่านอา ไม่คิดว่าพอใบหน้าท่านสะอาดหมดจดแล้วจะหล่อเหลาปานนี้ ผิวนี้เรียบเนียนนุ่มลื่นเสียยิ่งกว่าผิวสตรีเสียอีก ท่านว่ามาสิว่า ทำไมครั้งก่อนที่ข้าช่วยท่านไว้ ใบหน้าท่านถึงได้สกปรกยิ่งนัก ถ้ารู้ว่าท่านหล่อเหลาขนาดนี้แต่แรก ข้าก็ไม่ขายท่านไปหรอก!” หยุนหลีพูดอย่างยินดีปนเสียดาย
ทำเอาทุกคนตะลึงไปตามๆกัน นั่นน่ะเจ้าอุทยานที่อำมหิตกระหายเลือดคนนั้นของพวกเขา เป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของตระกูลเสวี่ย
อำมหิตโหดเหี้ยม ดุดันรุนแรง เย็นชากระหายเลือด กระหายเลือดเด็ดขาด ฝีมือในการทรมานคนยิ่งทำให้คนที่ได้ฟังสะท้านเยือกอย่างหวาดหวั่น เจ้าอุทยานที่เป็นราวกับพญายม บัดนี้กลับมาโดนสาวน้อยคนหนึ่งหยิกแก้ม หากให้บรรดาผู้อาวุโสเหล่านั้นเห็นเข้า คงตกใจจนอ้าปากค้างแน่
องครักษ์ลับและเจ๋ออวี่พากันตะลึงอึ้ง และแอบปาดเหงื่อแทนหยุนหลี นังหนูนี่หาเรื่องตายชัดๆ
เสวี่ยเชียนโฉวเองก็ไม่คิดว่าหยุนหลีจะใจกล้าปานนี้ กล้าหยิกแก้มตน พอเห็นนางจ้องมองตนด้วยสายตาสนใจ ดวงตาดำขลับดุจราตรีของเสวี่ยเชียนโฉวพลันถลึงตาใส่อย่างเดือดดาล
“ปล่อยมือ!”
“ไม่ปล่อย ท่านอาท่านอย่างกได้หรือไม่ แค่หยิกนิดเดียวไม่สึกหรอหรอก ใบหน้าท่านนี่เนียนจริงๆ!” หยุนหลียิ้มแหะๆ
วินาทีต่อมา เสวี่ยเชียนโฉวลงมือสะบัดมือหยุนหลีออกอย่างไม่ไว้หน้า “ห้ามเหลวไหล!”
“อ๊า เจ็บนะ ไม่หยิกก็ไม่หยิกสิ ท่านตีข้าทำไมกัน ขี้งก!” หยุนหลีเบ้ปาก เดือดดาลและไม่พอใจ
เสวี่ยเชียนโฉวมุมปากกระตุก หรือว่าไม่ให้นางหยิกแก้มตนนี่เป็นความผิดตนอีกรึ
“เจ้ากล้าว่าพี่ใหญ่ข้าขี้งก พี่ใหญ่ ท่านรีบฆ่าเขาเสียเถอะ เขากล้าเอาแส้ฟาดข้า พี่ใหญ่ต้องจัดการให้ข้านะ!” เสวี่ยรั่วหย่ารีบพุ่งเข้ามาทันที และยกแขนของตนขึ้นมาให้ดู
บนกระโปรงยาวสีเหลืองห่าน รอยเลือดพาดพันไปมาเต็มไปหมด ดูแล้วอนาถนัก
พอหยุนหลีเห็นนางฟ้อง ก็ยื่นมือเข้ามาทันที “ท่านอา ข้าเจ็บมือ เพราะนางทั้งนั้นเลยนะ!”
เสวี่ยเชียนโฉวเหล่มองมือขวานาง แดงเถือกไปทั้งแถบจริงๆ น่าจะเกิดจากตอนที่ต่อสู้กับรั่วหย่าเมื่อครู่
“ชั่วร้ายนัก เจ้าเสแสร้งชัดๆ เมื่อครู่เจ้าฟาดข้าชัดๆ ยังมาบอกเจ็บมือ หน้าหนาเกินไปกระมัง?” เสวี่ยรั่วหย่าย้อนถามอย่างเดือดดาล
“หุบปาก เจ้าเป็นถึงคุณหนูใหญ่แห่งอุทยานตระกูลเสวี่ย กลับใช้ลูกชายผู้อาวุโสมาเป็นเป้าฝึกซ้อม ใช้ได้ที่ไหนกัน ตระกูลเสวี่ยไม่มีทางยอมให้เจ้าเห็นชีวิตคนเป็นผักปลาเยี่ยงนี้ ข้าจะลงโทษให้เจ้ากลับไปสำนึกตนที่เรือน และหากมิมีคำสั่งของข้าห้ามออกมาเด็ดขาด!” เสวี่ยเชียนโฉวตะคอกอย่างเดือดดาล
“พี่ใหญ่ ท่าน—“ เสวี่ยรั่วหย่าร้องอย่างน่าสงสาร แต่เมื่อสบตากับดวงตาดำขลับกระหายเลือดคู่นั้นของพี่ใหญ่แล้ว นางตกใจตัวสั่นเทา ไม่กล้าพูดอะไรอีก
ถึงนางจะเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของตระกูลเสวี่ย ไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดินตั้งแต่เด็ก แต่กลัวพี่ใหญ่ที่พึ่งกลับมาไม่นานคนนี้แค่คนเดียว
ตอนแรกอุทยานตระกูลเสวี่ยไม่ยอมรับเสวี่ยเชียนโฉว กระทั่งยังออกมาคัดค้านอย่างเปิดเผยกับการที่เขาจะสืบทอดตำแหน่งเจ้าตระกูล แอบลอบกัดลอบฆ่าลับหลังต่างๆนานานับไม่ถ้วน
สุดท้ายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน คนที่คัดค้านเหล่านั้นไม่ตายก็พิการ หลายคนยังตายอนาถ ทำให้เหล่าผู้อาวุโสที่คัดค้านไม่กล้าโต้แย้งอีก พากันเคารพนอบน้อมต่อพี่ใหญ่ มันทำให้เสวี่ยรั่วหย่าอดสงสัยในวิธีการและฝีมือของพี่ใหญ่ไม่ได้
โชคดีที่นางเป็นสตรี ไม่ได้เข้าร่วมแย่งชิงตำแหน่งเจ้าตระกูล และยังถือว่ายำเกรงเสวี่ยเชียนโฉวอยู่ ดังนั้นเสวี่ยเชียนโฉวเลยละเว้นนาง
“ยังไม่ไปอีก?” น้ำเสียงเย็นชาของเสวี่ยเชียนโฉวทำเอาคนฟังขนหัวลุก
เสวี่ยรั่วหย่าตกใจจนหน้าซีดเผือด ออกไปอย่างจำยอม
นางเดินไปไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงหยุนหลีตามหลังมาว่า “ท่านอา ท่านดูสิ มือข้าบวมปูดขนาดนี้ ข้าเจ็บมากเลย ท่านช่วยเป่าให้ข้าหน่อยสิ!”
“น่าตายนัก ไม่ดูตนเองเสียบ้างเลย พี่ใหญ่ข้าน่ะรักความสะอาดมาตลอด และยิ่งไม่ชอบบุรุษ หาเรื่องตาย!” เสวี่ยรั่วหย่าแค่นเสียงหึในใจ
สุดท้ายก็ได้ยินน้ำเสียงเย็นชาพูดว่า “บวมก็ไปใส่ยา มาออดอ้อนอะไร”
“แต่ข้าไม่มียานี่นา?” หยุนหลีย้อน
“ตามข้ามา!” เสวี่ยเชียนโฉวพูดไว้ พลางหมุนตัวเดินออกไป
“ดีเลย ท่านอาดีกับข้าจริงๆด้วย!” หยุนหลีรีบตามไปอย่างรวดเร็วทันที
เสวี่ยรั่วหย่าตกใจนัก เดินสะดุดจะล้มลงพื้นทันที
สาวใช้รีบพยุงนางไว้ “คุณหนู ท่านมิเป็นไรใช่หรือไม่?”
“ข้าจะมิเป็นไรได้อย่างไร พี่ใหญ่ดันช่วยคนนอก แต่กลับไม่สนใจความเป็นความตายของน้องสาวแท้ๆเช่นข้า น่าตายนัก! ที่สำคัญ มันเป็นบุรุษด้วย” เสวี่ยรั่วหย่าจากไปอย่างเคียดแค้น
อีกด้านหนึ่ง หยุนหลีตามเสวี่ยเชียนโฉวมาได้ระยะหนึ่ง พลันนึกอะไรขึ้นมาได้ “ท่านอา ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน ท่านเป็นพี่ชายของคุณหนูใหญ่ที่จองหองเอาแต่ใจคนนั้นจริงรึ เช่นนั้นท่านรู้หรือไม่ว่าไอ้สารเลวคนใดลักพาตัวข้ามาที่นี่น่ะ?”
เสวี่ยเชียนโฉวมุมปากกระตุก ใบหน้าเย็นชายิ่งเคลือบด้วยน้ำค้างแข็งไปใหญ่ นี่เขากลายเป็นไอ้สารเลวที่นังหนูนี่ว่าไปเสียแล้ว
“หากให้ข้ารู้ว่าเป็นไอ้สารเลวคนไหนลักพาตัวข้ามานะ ข้าจะจับมันสับเป็นแปดชิ้นสิบชิ้น แล้วโยนทิ้งหลุมศพอนาถาให้หมากินเลย!” หยุนหลีบอกอย่างกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน
จากนั้นเสวี่ยเชียนโฉวก็จามออกมาหนึ่งที