จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 663 สองปีแล้ว ในที่สุดข้าก็หาเจ้าเจอแล้ว
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 663 สองปีแล้ว ในที่สุดข้าก็หาเจ้าเจอแล้ว
สตรีหลายคนที่กำลังโปรยดอกไม้นั้นพลันชักมีดสั้นออกมาจากตะกร้าดอกไม้ แทงมาที่หยุนถิงและจวินหย่วนโยว “ตายซะเถอะ!”
จวินหย่วนโยวดึงมือหยุนถิงในบัดดล พลันหมุนตัวอย่างแรง “ถิงเอ๋อร์ พวกเราไป”
น้ำเสียงนั้นไม่เห็นสตรีที่กำลังโปรยดอกไม้พวกนั้นในสายตาเลยสักนิด
“ได้” หยุนถิงร่วมมือด้วยดี
สตรีหลายคนโดนเหยียดหยามเช่นนี้ ต่างพากันโกรธขึ้งนัก เพียงแต่นางยังไม่ทันได้แตะโดนตัวหยุนถิงและจวินหย่วนโยว ก็โดนยิงตายแล้ว
ผู้คนที่รายล้อมเห็นภาพนี้เข้าก็ตกตะลึงยิ่งนัก ต่างมีสีหน้าเหลือเชื่อ แต่พวกเขายังไม่ทันรู้ตัว ก็พากันล้มลงหมดแล้ว
พวกเยว่เอ๋อร์และซูหลินรีบอารักขาซื่อจื่อเฟยและจวินซื่อจื่อถอยหนี ออกไปไกลมาก พอพวกเขาหันกลับมาก็เห็นคนล้มกันระเนระนาด
“คุณหนูใหญ่ ผิงหนานอ๋องส่งคนพวกนั้นมารึ?” ซูหลินสีหน้าตึงเครียด
“ไม่แน่ แต่ทุกคนระวังไว้หน่อยก็ดี” หยุนถิงกำชับ ควักยาถอนพิษออกมาหนึ่งขวดแจกจ่ายให้ทุกคนกินลงไป
“เจ้าค่ะ!” ซูหลินแจกจ่ายให้ทุกคนกินทันที
“ถิงเอ๋อร์ เล่นสนุกไปเถอะ มีข้าอยู่!” จวินหย่วนโยวปลอบ
“ตกลง!”
หยุนถิงพาลูกๆเดินเล่นต่อ ระหว่างทางมีคนจะลอบฆ่าหลายกลุ่ม แต่พวกมันยังไม่ทันได้เข้าใกล้ก็โดนคนที่จวินหย่วนโยวจัดวางไว้ในที่ลับฆ่าหมดแล้ว
จวินหย่วนโยวคอยตามดูแลหยุนถิงอยู่ไม่ห่าง แค่เพียงถิงเอ๋อร์ปรายตามองหลายทีหน่อยก็ซื้อให้ทั้งหมด ระหว่างทางมีชายมากมายตกตะลึงในความงามของหยุนถิง อยากจะเข้ามามอบปิ่นดอกไม้ให้ แต่ก็โดนสายตาอาฆาตของจวินหย่วนโยวทำล่าถอยไปเสียหมด
ห่างไปไม่ไกล จวินหย่วนโยวมองเห็นรแผงขายหน้ากากแผงหนึ่ง รีบเข้าไปซื้อมาสองอันทันที ให้หยุนถิงสวมหนึ่งอัน ตนเองก็สวมด้วย
“ท่านพี่ ทำไมต้องสวมหน้ากากด้วย?” หยุนถิงแสร้งถามเขา
“ไมอยากให้คนอื่นเห็นเมียข้า แน่นอน ข้าเองก็ต้องทำให้เมียวางใจ จะไม่ให้สตรีอื่นมองเห็นหน้าข้าเด็ดขาด” จวินหย่วนโยวอธิบาย
หยุนถิงหัวเราะเบาๆ ไหน้ำส้มอย่างท่านพี่นี่น่าสนใจจริงๆ
“ท่านพี่รู้ตัวดีนี่นา” หยุนถิงเย้าหยอก
“แน่นอนสิ การทำให้เมียวางใจเป็นหน้าที่ที่ข้าควรทำอยู่แล้ว”
คนหนุ่มสาวหลายคนข้างๆพอเห็นพวกเขาสวมหน้ากาก ก็นึกสนุก พากันไปซื้อมาสวมบ้าง แบบนี้ต่อให้มอบปิ่นดอกไม้ออกไปแล้วโดนปฏิเสธก็ไม่รู้ว้าเจ้าเป็นใครอยู่ดี เช่นนี้ก็ไม่รู้สึกขายหน้าแล้ว
แผงที่ห่างไปไม่ไกลแออัดไปด้วยผู้คน เห็นว่าชาดอกไม้ในวันนี้ไม่คิดเงิน แถมนี่ยังเป็นร้านเก่าแก่ที่มีประวัติมาร้อยปี ปกติชาดอกไม้ที่นี่ราคาแพงยิ่งนัก หายากนักที่จะไม่คิดเงิน ชาวบ้านพากันมาต่อแถวดื่มชา
“ท่านพี่ คนด้านหน้าเยอะมาก พวกเราอย่าไปเลย มีลูกมาด้วยมันไม่สะดวก ไปที่ที่คนน้อยหน่อยดีกว่า” หยุนถิงเสนอ
หากในหมู่คนเหล่านี้มีนักฆ่าหรือไส้ศึกซ่อนอยู่ จะไม่เป็นผลดีกับเด็ก
“ตกลง!” จวินหย่วนโยวพยักหน้าเห็นด้วย อุ้มลูกจะเดินออกไป
ทันใดนั้นกลับมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามา “รีบดูเร็ว ร้านน้ำชาทางนั้นมีน้ำชาให้ดื่มไม่คิดเงิน ทุกคนรีบมาชิมเร็ว หนึ่งปีมีคืนนี้แค่คืนเดียวนะ”
ในหมู่ชาวบ้านมีคนตะโกนขึ้นมา คนอื่นๆเลยพากันพุ่งเข้ามา
“รีบดูเร็ว ทางนั้นมีพลุด้วย งามมาก ทุกคนรีบไปเร็วอย่าพลาดล่ะ!” ชาวบ้านอีกคนร้องบอก
กลางอากาศ พลุมากมายแผ่กระจาย สดใส โดดเด่น ทำเอาทุกคนร้องอุทานไปตามๆกัน
คนที่เดิมพุ่งเข้ามาจู่ๆเพิ่มขึ้นหลายเท่า จวินหย่วนโยวจะคว้ามือหยุนถิงมากุมไว้ ไหนเลยกลับมีลุงคนนี้เข้ามาแทรกกลางระหว่างพวกเขา ด้านหลังก็มีคนมากมายแทรกเข้ามา แยกหยุนถิงกับพวกจวินหย่วนโยวกระจายกันไป
“ถิงเอ๋อร์ ถิงเอ๋อร์!” จวินหย่วนโยวร้องตะโกน
เขาอยากจะลงมือ แต่รอบด้านมีแต่ชาวบ้าน ไม่ใช่พวกปลอมแปลง แต่เป็นชาวบ้านจริงๆ
มีคนแก่มีเด็ก มีคนหนุ่มหญิงสาว มีชายมีหญิง หากจวินหย่วนโยวลงมือ ต้องทำร้ายผู้บริสุทธิ์แน่
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังอุ้มจวินเสี่ยวเทียนอยู่ กลัวลูกจะโดนเบียด ได้แต่คอยคุ้มครอง
จวินหย่วนโยวร้อนใจนัก คอยคุ้มครองลูกชายไปพลาง คอยเสาะหาหยุนถิงไปพลาง เขาจะตะโกนเสียงดังก็ไม่ได้ เกิดโดนอีกฝ่ายได้ยินเข้า จะทำให้ถิงเอ๋อร์โดนลอบฆ่าได้
“คุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่!” ซูหลินตะโกนเสียงดัง
“คุณหนู!” เยว่เอ๋อร์เองก็พยายามดิ้นรน แต่คนรอบข้างมากเกินไป พวกนางผ่านไปไม่ได้เลย องครักษ์เงามังกรที่รับหน้าคุ้มครองในที่ลับรีบเหาะกลางอากาศตามหาซื่อจื่อเฟยอย่างเร่งด่วน
ตอนนี้เป็นกลางคืน ด้านบนเป็นพลุดอกใหญ่แผ่กระจาย รอบข้างก็มีแต่ชาวบ้านที่ไร้อาวุธเต็มไปหมด พากันประดังประเดเข้ามา มองจากบนลงล่าง มีแต่หัวคนดำทะมึนไปหมด อยากจะหาคน เท่ากับงมเข็มในมหาสมุทรชัดๆ
หากคนข้างกายเป็นนักฆ่าหรือไส้ศึก พวกเขาต้องไม่ยั้งมือ ตรงเข้าฆ่าฟันแน่
แต่นี่เป็นชาวบ้านทั้งหมด และพอเห็นชาวบ้านธรรมดาไร้อาวุธ องครักษ์เงามังกรก็ไม่กล้าเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์
ส่วนหยุนถิงที่อยู่ท่ามกลางผู้คนจู่ๆกลับโดนคนชนเข้า เธอคุ้มครองเสี่ยวเหยียนในบัดดล เกือบจะล้มลงพื้น
เพียงแต่คนมากเกินไป หากล้มลงไปจริงๆ ต้องโดนคนเหยียบแน่
ทันใดนั้นมีมือหนึ่งยื่นเข้ามาคว้าแขนหยุนถิงได้ทัน และปกป้องนางกับลูกไว้ในอ้อมแขน
หยุนถิงตกใจ หันไปมองด้านหลังทันที
สายตาสองคู่ประสบกัน หยุนถิงตะลึงไปเลย
โม่เหลิ่งเหยียน เป็นเขา เขามาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไรกัน?
โม่เหลิ่งเหยียนในตอนนี้ใส่ชุดสีดำ ชุดคลุมสีดำดูเย็นชายิ่งนัก ใบหน้ายังคงเย็นชาดุจน้ำแข็ง เพียงแต่ตอนนี้เขากลับไว้หนวด ดูสุขุมนุ่มลึกนัก ดวงตาดำขลับประหนึ่งหมึกนั้นจ้องมองหยุนถิงเขม็ง ตาแดงเรื่อเล็กน้อย มีประกายน้ำตาคลออยู่ในนั้น แต่กลับไม่ได้ไหลลงมา
โม่เหลิ่งเหยียนเหมือนกำแพงใหญ่กั้นขวางชาวบ้านที่กรูกันเข้ามาเหล่านั้น ปกป้องเธอไว้ ไม่ให้คนอื่นแตะต้องเธอได้เลยสักนิด
สองปีแล้ว ในที่สุดเขาก็ได้เจอหยุนถิงแล้ว นางยังมีชีวิตอยู่ ดียิ่งนัก
เขาไม่เชื่อเลยว่าหยุนถิงจะตายแล้ว ในตัวนางมีเรื่องมหัศจรรย์มากมายเกิดขึ้น บางทีครั้งนี้ก็อาจจะเกิดปาฏิหาริย์ก็ได้
ดังนั้นโม่เหลิ่งเหยียนทิ้งฐานะ ทิ้งตำแหน่ง ทิ้งทุกอย่าง เพียงเพื่อให้ตามหาหยุนถิงเจอ
พอได้รับจดหมายจากหมิงจิ่วซาง โม่เหลิ่งเหยียนตื่นเต้นจนร้องไห้เลย
ใช่ ออกรบสู้ศึก ได้รับบาดเจ็บหนักแค่ไหน ต่อให้ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย โม่เหลิ่งเหยียนก็ไม่เคยร้องไห้มาก่อน แต่พอรู้ว่าหยุนถิงยังมีชีวิตอยู่ เขาร้องไห้ทั้งคืน
สองปีแล้ว ความหวังของเขาแต่ละครั้งค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นผิดหวัง หาไปทุกที่สุดท้ายก็ผิดหวังทั้งสิ้น กระทั่งเหลิ่งเหยียนยังสงสัยเลยว่าหยุนถิงเกิดเรื่องขึ้นจริงๆแล้วใช่หรือไม่
แต่เขาไม่เชื่อ ให้ตายก็ไม่เชื่อ ขอเพียงเขายังเดินได้ ขอเพียงเขายังมีลมหายใจ ก็จะตามหาต่อไป
ตอนนี้หยุนถิงมายืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
ใบหน้างดงามของนางยังคงเหมือนเมื่อสองปีก่อน คิ้วตาที่คุ้นเคย สายตาเย็นชา ประหนึ่งสลักอยู่ในสมองโม่เหลิ่งเหยียนเลยทีเดียว
มาเจอหยุนถิงอีกครั้ง โม่เหลิ่งเหยียนรู้สึกเหมือนลมหายใจหยุดชะงักลง
ทั้งๆที่มีคำพูดมากมายอยากจะพูดกับหยุนถิง แต่วินาทีกลับค้างอยู่ในลำคอ โม่เหลิ่งเหยียนพูดไม่ออกเลยสักคำ
การกลับมาพบกันอีกครั้งหลังห่างกันไปนาน โม่เหลิ่งเหยียนคิดมานับครั้งไม่ถ้วน คิดจนไม่กล้าที่จะคิดอีก เขาเดินทางไปทั่วทั้งสี่แคว้น ไปถึงกลางทะเล ต่อมายังคงไม่มีข่าวของหยุนถิงดังเดิม เขากลัวจริงๆว่าหยุนถิงจะเกิดเรื่องขึ้น
ตอนนี้ ตรงหน้านี้ เห็นนางยังมีชีวิตอยู่ ดูสุขสบายดี ดียิ่งนัก
“หยุนถิง ในที่สุดข้าก็หาเจ้าเจอแล้ว!”