จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 725 ต่อไปข้าจะคอยปกป้องเจ้า
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 725 ต่อไปข้าจะคอยปกป้องเจ้า
หยุนถิงซาบซึ้งใจอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าพ่ออายุมากขนาดนี้แล้ว ยังสามารถพูดจาแบบนี้ออกมาได้
“พ่อ ตอนนี้บอกข้าได้หรือยัง” หยุนถิงถาม
“ได้ พ่อบอกเจ้าทุกอย่าง ข้าไม่ใช่พ่อแท้ๆของเจ้า ข้าก็ไม่รู้ว่าพ่อของเจ้าเป็นใคร ตอนนั้นข้าออกไปเจรจาสันติภาพกับแคว้นต่างๆ แล้วถูกคนรอบทำร้ายบาดเจ็บสาหัส โชคดีที่แม่ของเจ้าผ่านมาแล้วช่วยข้าไว้
แม่ของเจ้ารูปงามล่มเมือง อ่อนโยนมีน้ำใจ ความจริงข้าตกหลุมรักแม่ของเจ้าตั้งแต่แรกพบ และตอนนั้นข้าก็รูปงาม สง่าผ่าเผย” ตอนที่หยุนเฉิงเซี่ยงพูดประโยคนี้ ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
“เสียดาย แม่ของข้าไม่ได้ล่ะท่าน” หยุนถิงพูดแทรกขึ้นมา
สีหน้าหยุนเฉิงเซี่ยงเปลี่ยนไปทันที เป่าเคราจ้องมอง พร้อมพูดขึ้นว่า “ยัยหนูดื้อ เจ้าพูดจาอย่างไรกัน”
“หากแม่ของข้ามีใจให้กับเจ้า งั้นข้าก็เป็นลูกของท่านแล้วสิ”
“พูดความจริงอะไรไปเรื่อย แม่ของเจ้าไม่มีใจให้กับข้าจริงๆ และตอนนั้นเหมือนนางจะมีเรื่องด่วน ข้ายังไม่ทันได้พูดขอบคุณก็จากไปแล้ว”
ต่อมาข้าก็หวังอยากที่จะได้เจอนางอีกครั้ง หลังจากเสร็จงานแล้วยังได้สั่งคนไปสืบข่าวของนาง แต่ก็หาไม่เจอ ไม่เคยมีใครเคยเห็นนาง
รอเมื่อข้าได้เจอกันอีกครั้ง นางก็ตั้งครรภ์แล้ว ตอนนั้นนางถูกตามฆ่า ข้างกายมียายขุยคอยคชติดตาม ทั้งสองคนบาดเจ็บสาหัส ข้าจึงรับแม่ของเจ้ามาอยู่ในจวน
ตอนนั้นข้ายังเป็นเพียงแค่ซ่างซู คนในราชสำนักมากมาย ล้วนกลั่นแกล้งข้า ใส่ร้ายข้า แม่ของเจ้ายังช่วยข้าเสนอแนวทางคลี่คลายปัญหามากมาย
ข้าทั้งตื้นตันและนับถือแม่ของเจ้า และก็หลงรักอย่างมาก ดังนั้นข้าจึงสาบานว่าจะรักลูกของนางเหมือนลูกแท้ๆของข้า จะรักและทะนุถนอมให้ดีที่สุด
ต่อมามีคนแปลกหน้ามาปรากฏภายในเมืองหลวง สื่อหาข่าวแม่ของเจ้า เพื่อความปลอดภัยของนาง ข้าจึงจำต้องป่าวประกาศว่านางเป็นฮูหยินของข้า
ตอนนั้นข้าก็ยังไม่มีฮูหญิน มีเพียงอี๋เหนียงคนเดียว ดังนั้นทุกอย่างจึงสมเหตุสมผล และก็ไม่มีใครสงสัย
อี๋เหนียงนางหวูกับแม่ของเจ้าเข้ากันได้เป็นอย่างดี ทั้งสองคนรักใครกันเหมือนดั่งพี่น้อง อาจเป็นเพราะต่างก็กำลังตั้งครรภ์ ดังนั้นพวกนางจึงมีเรื่องคุยกัน
มีวันหนึ่ง มีคนบุกมาลอบทำร้ายจวนตระกูลหยุน แม่ของเจ้าเกือบถูกฆ่าตาย แต่นางหวูรับดาบนั้นไว้แทนแม่ของเจ้า จนส่งผลกระทบต่อลูกในครรภ์ ทำให้คลอดก่อนกำหนด เพราะบาดเจ็บสาหัส นางหวูจึงคลอดยากจนเสียชีวิต ก่อนตายได้ขอร้องให้แม่ของเจ้าดูแลลูกของนางให้ดี
นางซาบซึ้งในบุญคุณของนางหวูที่ช่วยชีวิตนางไว้ และยิ่งรู้สึกผิดต่อนาง ดังนั้นแม่ของเจ้าจึงตั้งชื่อให้ลูกว่าไห่เทียน แล้วบอกทุกคนว่าเป็นลูกของนาง
แม่ของเจ้าก็รักใคร่พี่ชายใหญ่ของเจ้าอย่างมากจริงๆ รักเหมือนลูกแท้ๆ ส่วนพี่ชายใหญ่เจ้าก็ชอบนางมาก ดังนั้นจนถึงตอนนี้ข้าก็ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง
ต่อมามีครั้งหนึ่งแม่ของเจ้าออกไปข้างนอก เห็นมีผู้หญิงถูกบ้านสามีทำร้ายร่างกาย เพียงเพราะไม่สามารถคลอดลูกชาย ดังนั้นแม่ของเจ้าจึงตัดสินใจที่จะฝึกฝนกองกำลังหญิงขึ้นมา
นางเป็นคนแน่วแน่เด็ดเดี่ยว ไม่นานก็สามารถรวมตัวผู้หญิงที่มีความทุกข์ในเมืองหลวงทั้งหมด ฝึกฝนด้วยตนเอง ซึ่งก็คือกองทัพขนหงส์ในเวลาต่อมา
ถึงแม้จะเป็นผู้หญิง แต่ก็ไม่ด้อยไปกว่าผู้ชาย และตอนนั้นภายในแคว้นต้าเยียน เกิดปัญหาภายใน ได้ช่วยฮ่องเต้รักษาความสงบของเมืองหลวงไว้
ทุกคนนับถือกองทัพขนหงส์อย่างมาก เป็นแบบอย่างที่ดีของผู้หญิง ยิ่งภาคภูมิใจในตัวแม่ของเจ้า และเป็นเพราะแม่ของเจ้า ข้าได้เลื่อนตำแหน่งถึงสองขั้น ทุกคนต่างพูดว่าข้าโชคดี ได้ภรรยาที่บุญเสริมบารมี
ต่อมาเมื่ออายุครรภ์แม่ของเจ้ามากขึ้น เห็นได้ชัดว่าร่างกายอ่อนแอกว่าที่ผ่านมา ยิ่งอยู่ก็ยิ่งนอนเยอะ ตอนนั้นข้าตามหมอทั่วทั้งเมืองหลวงหมอ กระทั่งตามหมอหลวง พวกเขาต่างก็พูดว่าเป็นเพราะอายุครรภ์มากแล้ว
ข้าก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ต่อมาเมื่อแม่ของเจ้าคลอดเจ้าแล้วคลอดยาก พอดีตอนนั้นคงอู๋ไต้ซือเดินทางผ่านเมืองหลวงแคว้นต้าเยียน ผ่านตระกูลหยุนจึงมาเยี่ยม
เขาบอกกับข้าว่า ที่สุขภาพของแม่เจ้าไม่ดี ไม่ใช่เพราะตั้งครรภ์ แต่เพราะถูกพิษกู่
พิษกู่นี้ถึงโหดเหี้ยมอำมหิต ยิ่งชั่วร้ายอย่างมาก และแม่ของเจ้าก็ทุกพิษกู่มานานเป็นปีแล้ว บวกกับการคลอดลูกต้องสูญเสียกำลังอย่างมาก ผิดจึงเข้าสู่ไปในไขกระดูกและไม่สามารถรักษาให้หายได้แล้ว
ตอนนั้นข้าเกลียดตัวเองอย่างมาก แม่ของเจ้าถูกพิษกู่มานานเป็นปี ข้ากลับไม่รู้เรื่องเลย ล้วนเป็นเพราะข้าประมาท ข้าสมควรตาย ข้าทำให้พลาดช่วงเวลาที่ควรรักษาแม่ของเจ้า
ข้าเกลียดชังที่ตนเองไร้ความสามารถ ต่อมาข้าสั่งคนไปสืบทั่วทั้งสี่แคว้น ล้วนหาข่าวพิษกู่ไม่เจอ ยิ่งสืบไม่รู้ด้วยว่าพ่อของเจ้าเป็นใคร ราวกับไม่มีตัวตน
ต่อมาข้าสั่งคนไปยังต่างดินแดนอีก ก็ไม่พบเบาะแสใดๆ เป็นเพราะพ่อไม่ดี ทำให้แม่ของเจ้าต้องตายอย่างอนาถ
หยุนเฉิงเซี่ยงร้องห่มร้องไห้ เศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ในตอนนั้นมาก
หยุนถิงเห็นใจอย่างที่สุด เดินไปตบไหล่ของหยุนเฉิงเซี่ยงเบาๆ พร้อมพูดขึ้นว่า “พ่อ ท่านได้ทำอย่างดีที่สุดแล้ว ไม่จำเป็นต้องโทษตัวเอง”
“ไม่ ข้าทำได้ไม่ดี ยังไม่เพียงพอ หากไม่ใช่เพราะข้าประมาท ทำไมแม่ของเจ้าถูกพิษกู่นานเป็นปี ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย” หยุนเฉิงเซี่ยงเสียใจอย่างมาก
“หยุนเฉิงเซี่ยง ท่านอย่าว่าแต่หนึ่งปีเลย ต่อให้ทั้งชีวิตท่านก็ไม่มีทางรู้ พิษกู่ในตัวจวินซื่อจื่อ นานกว่าสิบปี ต่อให้เป็นหมอยมบาลก็ยังไม่เคยตรวจเจอ หากไม่ใช่เพราะหลังจากที่คุณหนูเสียไปแล้ว ข้าใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดมาศึกษาค้นคว้าเรื่องหนอนกู่ผีเสื้อโลหิต ข้าก็ไม่มีทางรู้” ยายขุยพูดขึ้นมา
หยุนเฉิงเซี่ยงเบิกตาโตอย่างตกตะลึง พร้อมพูดขึ้นว่า “จวินซื่อจื่อ งั้นร่างกายของเขา…..”
“วางใจ หนอนกู่ผีเสื้อโลหิตถูกข้ากำจัดแล้ว แต่ยังตามหาคนวางพิษกู่ไม่ได้” ยายขุยพูดตอบ
“ถิงเอ๋อร์ เจ้าจะต้องระวังให้ดีที่สุด อีกฝ่ายหลบซ่อนไว้อย่างดี เฉลียวฉลาดมีความสามารถอย่างแม่ของเจ้ายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ พ่อไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า” หยุนเฉิงเซี่ยงกอดหยุนถิงแล้วก็ร้องห่มร้องไห้
หยุนถิงฟังอยู่อย่างจนใจ แล้วพูดขึ้นว่า “พ่อ ท่านจะร้องไห้ทำไม ข้าก็สบายดีอยู่ไม่ใช่หรือ?”
หยุนเฉิงเซี่ยงรีบหุบปาก พร้อมพูดขึ้นว่า “พ่อเป็นห่วงเจ้า ค่อนข้างมากเกินไป เขาไม่ร้อง ไม่ร้องไห้แล้ว” พูดเสร็จ ก็ใช้ชายแขนเสื้อเช็ดหน้า
“พ่อ หลายปีมานี้ขอบคุณท่านมาก ขอบคุณที่ท่านเคยช่วยแม่ของข้าวไว้ ยิ่งขอบคุณที่หลายปีมานี้ท่านให้อภัยและคอยปกป้องข้า ต่อไปข้าก็จะปกป้องท่าน ปกป้องตระกูลหยุน ข้าจะต้องตามหาตัวคนร้ายที่ทำร้ายแม่ของข้า ช่วยแก้แค้นให้กับแม่ของข้า” หยุนถิงพูดสาบาน
หยุนเฉิงเซี่ยงมองดูสายตาที่เด็ดเดี่ยวของนาง พร้อมพูดขึ้นว่า “พ่อหวังอยากให้เจ้าสงบสุข แต่พ่อก็สนับสนุนเจ้า ตอนนั้นแม่ของเจ้าตายไปยังไม่รู้สาเหตุ พ่อของเจ้าไม่เคยปรากฏตัว ช่างน่าเห็นใจยิ่งนัก เจ้าอยากทำอะไรก็ทำได้อย่างเต็มที่ พ่อสนับสนุนเจ้า ตอนนี้พ่ออายุมากแล้ว ช่วยอย่างอื่นไม่ได้ แต่ช่วยดูแลหลานทั้งสองคนได้ ดังนั้นเจ้าวางใจได้”
“ขอบคุณพ่อมาก”
ด้านนอก เยว่เอ๋อร์พาสาวใช้คนหนึ่งมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ซื่อจื่อเฟย สาวใช้ขององค์หญิงใหญ่มาขอพบ”
หยุนถิงที่อยู่ในห้องได้ยิน ค่อยปล่อยหยุนเฉิงเซี่ยง ปาดเช็ดน้ำตาแล้วก็เดินออกมา
“ถวายความเคารพซื่อจื่อเฟย องค์หญิงใหญ่ของข้าเรียนเชิญซื่อจื่อเฟยไปพบ บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับซื่อจื่อเฟย” สาวใช้ถวายความเคารพอย่างนอบน้อม
คิดได้ถึงท่าทีอ่อนแอขององค์หญิงใหญ่ก่อนหน้านี้ หยุนถิงผงกหัว พร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ ข้าไปกับเจ้า พ่อ ซูหลินช่วยข้าดูแลเด็กๆด้วยนะ”
“วางใจเถอะ”
หลงเอ้อรีบพาหลงซานกับหลงซื่อไปด้วย ติดตามซื่อจื่อเฟยไปยังจวนองค์หญิงใหญ่
เมื่อมาเจอองค์หญิงใหญ่อีกครั้ง องค์หญิงใหญ่ไม่ได้แลดูอ่อนแอ หายใจรวยรินเหมือนอย่างที่ผ่านมาแล้ว ตอนนี้ถึงแม้สีหน้าของนางยังค่อนข้างขาวซีด ท่าทีกลับสดใสดี ชุดสีแดงห่อหุ้มร่างกายที่อวบอิ่ม นูนเว้าได้รูป แลดูมีเสน่ห์อย่างมาก
“ซื่อจื่อเฟยมาแล้ว ล้วนเป็นเพราะยาโอสถพวกนั้นของเจ้า ตอนนี้ข้าหายดีแล้ว วันนี้ที่ตามเจ้ามาเพราะมีของขวัญชิ้นใหญ่จะให้” องค์หญิงใหญ่พูดขึ้นมาตรงๆ
“ขวัญชิ้นใหญ่?”