จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 726 ทำไมเจ้าไม่เอาข้า
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 726 ทำไมเจ้าไม่เอาข้า
“ใช่ ตามข้ามา แต่เจ้าไปได้คนเดียว” องค์หญิงใหญ่พูดเสร็จ ก็เดินเข้าไปในห้อง
“ซื่อจื่อเฟย” หลงเอ้อหันมามองอย่างระแวดระวัง
หยุนถิงพูดกับเขาว่า “วางใจ พวกเจ้ารออยู่ที่นี่ ความสามารถของข้าใช้ว่าพวกเจ้าจะไม่รู้”
พวกหลงซานค่อยวางใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ได้ งั้นหากเกิดอะไรขึ้นให้ท่านรีบร้องขอความช่วยเหลือ พวกเราจะบุกเข้าไป”
“อืม” หยุนถิงเดินมาองค์หญิงใหญ่เข้าไปในห้อง
ภายในห้องตกแต่งอย่างหรูหรา ทรัพย์สมบัติล้ำค่ามากมาย ดูก็รู้ว่ามีมูลค่ามหาศาล
องค์หญิงใหญ่เดินไปตรงหน้าชั้นวางหนังสือ ยื่นมือลูบกล่องอันหนึ่งที่วางไว้บนนั้น หมุนเบาๆ ประตูด้านหลังชั้นวางหนังสือก็เปิดออก
“เข้ามาเถอะ” องค์หญิงใหญ่ยกเท้าก้าวเดินเข้าไป
หยุนถิงเดินตาม ข้างในเป็นห้องลับ ไม่ใหญ่ ขนาดประมาณห้องหนึ่งห้องเท่านั้น
ภายในห้องลับไม่มีอะไร มีแค่ป้ายวิญญาณหนึ่งอัน บนป้ายวิญญาณนั้นแม้แต่ชื่อก็ไม่มี
กระถางธูปวางด้านหน้า ในนั้นมีขี้เถ้าและหัวธูปจำนวนมาก แสดงว่ามีคนมาจุดธูปอยู่บ่อยๆ
“องค์หญิงใหญ่ นี่คือ?” หยุนถิงไม่เข้าใจ
องค์หญิงใหญ่ที่เป็นคนกระทำอะไรตามใจ ปล่อยตัวตามสบาย เสพสุขสนุกสนาน ก็มีคนที่บูชาด้วย ทำให้นางแปลกใจยิ่งนัก
“คนที่บูชาคนนี้ เป็นเพื่อนที่ดีของข้า และก็เป็นเพียงคนเดียวที่ข้านับถือ แน่นอนว่าเจ้าก็รู้จัก เพราะนางคือแม่ของเจ้า” องค์หญิงใหญ่พูดตอบ
หยุนถิงตกตะลึงอย่างมาก มองดูป้ายวิญญาณที่ไม่มีชื่อนั้น แล้วก็พูดขึ้นว่า “เจ้ารู้จักแม่ของข้า?”
“รู้จักสิ ข้ากับแม่ของเจ้าในตอนนั้น เรียกได้ว่าหากไม่ได้ต่อสู้กันคงไม่ได้รู้จักกัน ตอนที่ข้าอายุยังน้อย มีนิสัยอวดดีโอหังยิ่งกว่าตอนนี้ อาศัยความโปรดปรานของอดีตจักรพรรดิ ไม่เคารพยำเกรงกฎหมาย ใช้อำนาจรังแกคน”
มีครั้งหนึ่ง ข้าหลงชอบผู้ชายคนหนึ่ง ชิงตัวเขากลับจวนจากกลางถนน ชายคนนั้นไม่ยอมจำนน ตอนนั้นข้าโกรธโมโหอย่างมาก อยากที่จะใช้ดาบฟันเขาให้ตาย
แม่ของเจ้ามาห้ามข้าไว้ ช่วยผู้ชายคนนั้นไป แน่นอนว่าข้ากับแม่ของเจ้าจึงกลายเป็นศัตรูกัน ข้าเกลียดที่นางยุ่งเรื่องของคนอื่น คิดอยากที่จะสั่งสอนนางอยู่หลายครั้ง แต่นางก็เอาตัวรอดไปได้ทุกครั้ง
ต่อมาข้าไปจุดธูปบนวัดชิงหยุน แล้วทุกคนแอบลอบทำร้าย ตอนนั้นคนชั่วพวกนั้นเห็นข้ารูปงาม จึงคิดอยากเหยียบหยามศักดิ์ศรีข้า ข้าไม่ยินยอม
แม่ของเจ้าปรากฏตัวตอนเวลาคับขัน ช่วยเหลือข้าไว้ และก็ฆ่าพวกคนชั่วพวกนั้นทั้งหมด ไม่เหลือไว้สักคน ช่วยชีวิตกับความบริสุทธิ์ของข้าไว้ได้
ข้าคอยกลั่นแกล้งแม่ของเจ้ามาตลอด ทั้งที่แม่ของเจ้าจะไม่สนใจก็ได้ ปล่อยให้คนพวกนั้นสั่งสอนข้า แต่นางกลับลงมือช่วยเหลือ ข้าตื้นตันในน้ำใจของนางมาก ดังนั้นค่ากับนางจึงปรับความเข้าใจ ให้อภัยกับเรื่องที่ผ่านมา
ต่อมาข้ากับแม่ของเจ้ากลายเป็นเพื่อนสนิทกัน พูดคุยกันทุกเรื่อง ภายหลังข้าหลงชอบผู้ชายคนหนึ่ง เพื่อที่จะตามจีบผู้ชายคนนั้น ข้าเดินทางไปยังตอนเหนือ
แต่สุดท้าย ในใจเขาไม่มีข้า ต่อมาข้าปล่อยวางแล้ว รอเมื่อข้ากลับมาอีกครั้ง กลับได้ยินว่าแม่ของเจ้าคลอดยากจนเสียชีวิตไปแล้ว
ตอนนั้นข้านิ่งอึ้งไปเลย รีบไปยังจวนตระกูลหยุน เห็นหยุนเฉิงเซี่ยงกำลังอุ้มเจ้าที่เพิ่งคลอด นั่งร้องห่มร้องไห้อยู่บนพื้น ยังมีแม่ของเจ้าที่หมดลมหายใจอยู่บนเตียง ข้าโศกเศร้าเสียใจอย่างมาก
นับจากนั้น ข้าไม่เคยเดินทางไปไหนอีกเลย หากตอนนั้นข้าไม่ได้เดินทางไปยังตอนเหนือ บางทีอาจจะไม่เกิดเรื่องกับแม่ของเจ้าก็ได้
หลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน มีคนเอากล่องอันหนึ่งมาให้มา ยังมีจดหมายหนึ่งฉบับ เป็นจดหมายที่แม่ของเจ้าเขียนให้ข้าก่อนตาย นางรู้ว่าตนเองมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว จึงฝากของไว้กับข้า
องค์หญิงใหญ่พูดพร้อมกับกดตำแหน่งหนึ่งบนโต๊ะ แล้วกล่องสีดำอันหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมา
กล่องนั้นได้สูญเสียความแวววาวไปแล้ว กระทั่งสีก็ลอกแล้วบางส่วน เต็มไปด้วยฝุ่น ดูก็รู้ว่าอายุค่อนข้างมากแล้ว
“นี่เป็นเสียงของที่แม่ของเจ้าทิ้งไว้ให้เจ้า ในจดหมายบอกเพียงว่ารอเจ้าเติบโตแต่งงาน มีลูกแล้ว ค่อยเอากล่องนี้ให้กับเจ้า
เจ้าช่วยชีวิตของข้าไว้ ยังพูดเตือนว่าภายในจวนของข้ามีไส้ศึก ตอนนี้ข้าได้สืบรู้แล้วว่าอาเหรินคือไส้ศึก เขาเป็นคนวางยาพิษข้า คิดอยากที่จะควบคุมยึดครองอำนาจในจวนของข้า
ดังนั้นข้าจึงฆ่าเขาแล้ว นี่ถือเป็นสิ่งของที่ข้าขอบคุณเจ้า กล่องนี้ข้าไม่เคยเปิดดู ข้างในคืออะไรข้าก็ไม่รู้ ตอนนี้ยกให้เจ้า ถือว่าข้าก็ได้ทำตามที่เพื่อนขอไว้แล้ว” องค์หญิงใหญ่พูดขึ้นมา
หยุนถิงรีบรับมา มองดูกล่องสีดำใบนั้น จู่ๆ ก็รู้สึกหนักใจขึ้นมา
นี่คือสิ่งที่แม่ของนางทิ้งไว้ให้นาง และเป็นเพียงสิ่งเดียว
เมื่อมองเห็นสัญลักษณ์บนกล่องนั้นแล้ว หยุนถิงก็ตกตะลึง
เขตทะเลนิรนาม หรือว่าแม่เป็นคนของเขตทะเลนิรนาม สัญลักษณ์นี้นางจำได้ว่าซวนอ๋องเคยพูดถึง ซึ่งก็คือสัญลักษณ์ของเขตทะเลนิรนาม
“แม่ข้าฝากข้อความอะไรไว้ไหม?” หยุนถิงถามขึ้นมา
“ไม่มี”
หยุนถิงค่อนข้างผิดหวัง เมื่อเปิดกล่องดู ข้างในมีเพียงกำไรข้อมือสีดำอันหนึ่ง บนนั้นสลักไปด้วยลวดลายแปลกประหลาด ดูค่อนข้างมีอายุยาวนานมากแล้ว ข้างล่างยังมีผ้าหนังวัวชิ้นหนึ่ง บนนั้นไม่มีอักษรอะไรเลย ดูธรรมดาอย่างมาก
องค์หญิงใหญ่ก็เดินมาดู พร้อมพูดขึ้นว่า “แม่ของเจ้าทิ้งไว้ให้เจ้าเพียงกำไลหนึ่งอันแค่นี้หรือ แบบนี้ขี้งกเกินไปหรือเปล่า ข้ายังคิดว่าเป็นสิ่งของล้ำค่าขนาดไหนเชียว”
หยุนถิงกลับให้ความสำคัญอย่างมาก พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ว่าจะเป็นอะไร ขอเพียงเป็นสิ่งที่แม่ของข้าทิ้งไว้ให้ ก็คือสิ่งที่ดีที่สุด”
“พูดแบบนี้ก็ถูก ตอนนี้กล่องนี้ก็ยกให้เจ้าแล้ว ข้าไม่ติดค้างอะไรเจ้าแล้ว” องค์หญิงใหญ่พูดขึ้นมา
“ขอบคุณองค์หญิงใหญ่”
“ไม่ต้องเกรงใจ แต่มีครั้งหนึ่งข้ากับแม่ของเจ้าคุยกันถูกคอ ได้ยินนางพูดอย่างสะลึมสะลือว่า หานเชียน ทำไมเจ้าไม่เอาข้า ดังนั้นข้าจึงสงสัยว่า คนที่ชื่อหานเชียนใช่พ่อของเจ้าหรือเปล่า?” องค์หญิงใหญ่พูดขึ้นมา
หยุนถิงหันไปมองอย่างตกตะลึง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ารู้ได้อย่างไร?”
“ข้าไม่ได้ตาบอด แม่ของเจ้างดงามขนาดนั้น ผู้หญิงที่งามล่มเมืองไม่มีทางหลงชอบหยุนเฉิงเซี่ยง หยุนเฉิงเซี่ยงเพียงแค่กำลังทดแทนบุญคุณ แต่เรื่องนี้มีเพียงข้าที่รู้ เจ้าวางใจได้”
หลายปีมานี้ องค์หญิงใหญ่ฟุ่มเฟือยอย่างไร้เหตุผล กลับสามารถเก็บความลับเรื่องแม่ของนางไว้ได้เป็นอย่างดี เก็บความลับเรื่องชาติกำเนิดของนาง เพียงแค่เท่านี้ ก็ทำให้หยุนถิงมององค์หญิงใหญ่อย่างนับถือ
ในเมื่อนางเป็นคนที่แม่ไว้ใจ งั้นก็แสดงว่าเชื่อถือได้จริงๆ
หยุนถิงถวายความเคารพองค์หญิงใหญ่ อย่างเป็นทางการ พร้อมพูดขึ้นว่า “ขอบคุณองค์หญิงใหญ่”
“เอาละ เจ้ากลับไปเถอะ หากยังอยู่ต่อไป องครักษ์เงามังกรที่อยู่หน้าประตู คงจะคิดว่าข้าหวังทำร้ายเจ้าแล้ว กล่องนี้มอบให้เจ้าแล้ว ข้าก็ควรทำสิ่งที่ข้าควรทำแล้ว” องค์หญิงใหญ่พูดขึ้นมา
การที่นางเฝ้าอยู่ในเมืองหลวงแคว้นต้าเยียนมานานหลายปี ก็เพราะกล่องนี้ คนที่แอบไล่ล่าตามฆ่าแม่ของหยุนถิงพวกนั้น เคยมาที่จวนองค์หญิงใหญ่หลายครั้ง องค์หญิงใหญ่ทำได้เพียงแกล้งไม่รู้เรื่อง
พวกเขาตามหาสิ่งของที่อยากได้ไม่เจอ บวกกับองค์หญิงใหญ่สุรุ่ยสุร่ายอย่างไร้เหตุผล คนพวกนั้นจึงไม่สงสัย
หยุนถิงไม่ได้ถามอะไรมาก เก็บกล่องนั่นไว้แล้วก็จากไป
จวนซื่อจื่อ
หยุนถิงมองดูกำไรสีดำกับผ้าหนังแกะ ด้วยคิ้วคิ้วขมวดแน่น
แม่ถึงขั้นฝากสิ่งของสองอย่างนี้ไว้กับองค์หญิงใหญ่ก่อนตาย จะต้องล้ำค่าอย่างมากแน่ เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเพียงสิ่งของธรรมดาเท่านั้น
นางรีบสั่งให้เยว่เอ๋อร์ตักน้ำมา แล้ววางสิ่งของทั้งสองอย่างลงไปในน้ำ กำไรข้อมือกับผ้าหนังแกะไม่มี ปฏิกิริยาอะไร จากนั้นหยุนถิงก็นำไปผิงบนไฟ แช่ในน้ำเหล้า ใช้น้ำส้มสายชูพ่น นำไปตากแดด…..
ไม่ว่าวิธีไหนก็ล้วนลองใช้หมดแล้ว ก็ยังคงไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
สายตาหยุนถิงมืดมัวลง แล้วก็กัดนิ้วของตนเอง กำไรสีดำกะพริบแสงเล็กน้อย จากนั้นก็หายไป แล้วก็ไม่มีอะไรผิดปกติอีก