จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 745 เจ้าเกลียดข้าถึงเพียงนี้เชียวรึ
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 745 เจ้าเกลียดข้าถึงเพียงนี้เชียวรึ
เหล่าขุนนางพอเห็นกองทัพเลือดเหล็ก ตกใจคุกเข่าอ้อนวอนไปตามๆกัน
ทั้งสี่แคว้นรู้กันดีว่า แคว้นชางเยว่มีกองทัพเลือดเหล็ก ฟังคำสั่งเพียงฮ่องเต้ในแต่ละรัชกาลเท่านั้น ปกติจะไม่ออกมาปรากฏตัวเลย เหมือนกับไม่มีอยู่จริง มีเพียงยามคับขันเท่านั้นพวกเขาถึงจะปรากฏตัวออกมาคุ้มครองความปลอดภัยของฮ่องเต้
และการปรากฏตัวของพวกเขาก็หมายความว่า ฮ่องเต้จะเริ่มประหารครั้งใหญ่แล้ว
“ฝ่าบาทไว้ชีวิตด้วย กระหม่อมโดนองค์ชายรองบังคับ เขาเอาชีวิตครอบครัวกระหม่อมมาข่มขู่ ให้กระหม่อมร่วมมือกับเขาทำร้ายไท่จื่อ ขอฝ่าบาททรงพิจารณาด้วย!” ขุนนางอายุมากคนหนึ่งพูดขึ้นทันที
เวลานี้รักษาชีวิตไว้ก่อนสำคัญที่สุด ถึงองค์ชายรองจะไม่ได้ทำอย่างนี้ แต่เขาต้องหาทางรอดให้ตนเองก่อนสิ
ขุนนางคนอื่นพอได้ยินอย่างนั้น พากันเลียนแบบ และโยนความรับผิดชอบไปให้องค์ชายรองชางเยว่หมิงทั้งหมด
ใครเลยจะคิดว่า ฮ่องเต้จะมาอยู่ที่ห้องโถงบรรพชนนี่ และมาได้ยินคำพูดพวกนี้พอดี นี่มันเป็นโทษใหญ่ที่ประหารเก้าชั่วโคตรเชียวนะ
พอชางเยว่หมิงได้ยินทุกคนพูดเช่นนี้ ก็เดือดดาลยิ่งนัก “เจ้าพวกสารเลว กล้าโยนความผิดให้ข้ารึ ตอนแรกพวกเจ้าน่ะแหละเข้าจวนมาปรึกษาเรื่องลอบฆ่าไท่จื่อกับข้าเอง เจ้าพวกนกสองหัว สารเลว”
“น้องรอง หากเจ้าไม่เห็นด้วย พวกเขาไหนเลยจะกล้า เมื่อครู่เจ้าพึ่งพูดเองว่าพวกเขาล้วนเป็นคนของเจ้า เจ้าเกลียดข้าถึงเพียงนี้เชียวรึ?” น้ำเสียงอ่อนแรงของชางหลันเย่ลอยมา
ชางเยว่หมิงรู้ว่า ต่อให้ตนอ้อนวอนขอร้องก็ไร้ประโยชน์ จึงคลานขึ้นจากพื้นอย่างเคียดแค้น ถลึงตาใส่ชางหลันเย่อย่างเดือดดาล
“ใช่ ข้าเกลียดเจ้า เกลียดจนอยากให้เจ้าตาย ถือสิทธิ์อะไร พอเจ้ากลับมาก็มาแย่งทุกอย่างที่เป็นของข้าไป ตำแหน่งไท่จื่อ ความรักของเสด็จพ่อ การสนับสนุนของเหล่าขุนนาง—
ข้าร่ำเรียนหลักการปกครองแคว้นมาแต่เล็ก ขี่ม้ายิงธนู นำทัพออกศึก ข้าเก่งกว่าเจ้าทั้งนั้น ถือสิทธิ์อะไร เสด็จพ่อลำเอียงรักแต่เจ้า
ต่อให้เจ้าได้ทุกอย่างเหล่านี้ไปแล้วอย่างไร เสด็จแม่ของเจ้าใกล้จะตายแล้ว ต่อให้เจ้าเชิญหมอมีชื่อที่ดีแค่ไหนมก็ไร้ประโยชน์ นางไม่มีทางอยู่รอดเกินปีนี้ไปได้ดอก!” ชางเยว่หมิงพูดอย่างเคียดแค้น
เส้นเลือดที่ขมับของชางหลันเย่เต้นตุบๆ พยายามฝืนร่างอ่อนแรงนั่นเดินเข้ามา คว้าคอเสื้อชางเยว่หมิงมาทันที “เหตุใดเจ้าพูดเช่นนี้ หรือว่าเจ้าวางยาพิษเสด็จแม่ของข้า?”
อันที่จริงชางหลันเย่ถอนพิษของหมิงเฟยไปนานแล้ว เพียงแต่แกล้งให้เสด็จแม่ยังคงทำท่าทางเช่นเดิม จะได้หลอกหยางเฟยและองค์ชายรอง
“ใช่ ข้าเอง ยังไงซะเสด็จพ่อก็ไม่ละเว้นข้าแน่ ต่อให้ตาย ข้าก็จะให้เจ้ามองดูเสด็จแม่ของเจ้าตายต่อหน้าเจ้า ให้เจ้าทรมานจนอยากตาย!
ชาตินี้นางเป็นห่วงเจ้าที่สุด วันๆเอาแต่กอดของใช้ตอนเด็กของเจ้า ร้องไห้ไม่หยุดไม่หย่อน ตอนนี้เจ้ากลับมายังแคว้นชางเยว่แล้ว นางกลับไม่อาจอยู่ต่อดูเจ้าแต่งงานมีลูกได้ แค่คิดก็สะใจยิ่งนัก!” ชางเยว่หมิงกัดฟันพูด
“เจ้ากล้าวางยาพิษเสด็จแม่ข้า!” ชางหลันเย่โกรธจัด ซัดหมัดไปที่หน้าของชางเยว่หมิงอย่างแรง
“อ๊าก!” ชางเยว่หมิงร้องออกมา ล้มลงไปกับพื้น มีเลือดไหลออกมาที่มุมปาก
“เจ้าสารเลว กล้าวางยาพิษหมิงเฟย มอบยาถอนพิษมา!” ฮ่องเต้เดือดจัด
ชางเยว่หมิงเช็ดเลือดที่มุมปาก “ไม่มียาถอนพิษ พิษนั่นเข้าสู่เส้นเลือดหัวใจนางแล้ว ต่อให้เป็นหมอหลวงก็ช่วยนางไม่ได้!”
ชางเยว่หมิงทุ่มเต็มที่แล้ว ในเมื่อเสด็จพ่อไม่ยอมให้อภัยตนเอง เขาก็ขอพูดสะใจละกัน
“เจ้าลูกทรพี!” ฮ่องเต้เดือดจัด แย่งกระบี่ยาวจากมือเจว๋เฟิงแทงทะลุหัวใจของชางเยว่หมิงทันที
ชางเยว่หมิงมองหน้าอกตนเองอย่างตกตะลึง เขาไม่คิดเลยว่าเสด็จพ่อจะทำเช่นนี้ เขาจะฆ่าตน!
ขุนนางคนอื่นพากันอึ้งกิมกี่ ยืนมองดูฮ่องเต้แทงกระบี่ทะลุหัวใจองค์ชายรองอย่างตะลึง เหล่าขุนนางหน้าซีดเผือดทันที ไม่กล้าหายใจแรงด้วยซ้ำ
“เสด็จพ่อ ท่าน เหตุใดท่าน—“
“เจ้าลูกทรพี ลอบฆ่าไท่จื่อ ทำร้ายพี่น้อง ทำลายดวงชะตาแคว้นชางเยว่ กระทำการลอบฆ่าในห้องโถงบรรพชน ซ้ำยังวางยาพิษหมิงเฟย ความผิดแต่ละข้อที่เจ้าทำนั้นเพียงพอให้ข้าฆ่าเจ้าพันครั้งแล้ว ข้าไม่มีลูกสารเลวเช่นเจ้า
ปลดฐานะองค์ชายขององค์ชายรองลงเป็นสามัญชน ขับชื่อเขาออกจากบันทึกราชวงศ์ตระกูลชาง พอตายไปให้โยนกระดูกและศพทิ้งหลุมศพอนาถา ห้ามมิให้เขาเข้าสุสานประจำราชวงศ์เด็ดขาด!” ฮ่องเต้ตะคอกอย่างเดือดดาลจัด
ชางเยว่หมิงสิ้นหวัง ทุกข์ทรมาน ผิดหวัง เคียดแค้น เขายังอยากพูดอะไร ฮ่องเต้ชักกระบี่ยาวออก เลือดสดไหลทะลักตามออกมา กระเด็นไปโดนชุดมังกรของฮ่องเต้พอดี
แดงสด เสียดแทงตาตะลึงยิ่งนัก
ชางเยว่หมิงล้มตึงลงพื้นไปทันที ขาดใจตายคาที่
“ฝ่าบาท ไว้ชีวิตด้วย กระหม่อมสำนึกผิดแล้ว ขอฝ่าบาทไว้ชีวิตด้วย!” เหล่าขุนนางที่คุกเข่าอยู่พากันอ้อนวอนขอร้อง
ฮ่องเต้ถลึงตาใส่พวกเขาอย่างเดือดดาล “ขุนนางสารเลวอย่างพวกเจ้า ปลดออกจากตำแหน่งเสียให้หมด ริบทรัพย์ แล้วเนรเทศไปชายแดน!” พูดจบ ฮ่องเต้กระอักเลือดคำโตออกมา สลบลงไปเลย
“เสด็จพ่อ เสด็จพ่อ!” ชางหลันเย่รีบเข้ามาพยุงฮ่องเต้ทันที
“เร็ว รีบตามหมอหลวง!” ชางหลันเย่ร้อนใจนัก ทำท่าจะแบกฮ่องเต้
“ฝ่าบาท ท่านพึ่งได้รับบาดเจ็บมา ข้าน้อยจัดการเอง!” เจว๋เฟิงรีบก้าวเข้ามา
“ไม่ต้อง ข้าไหว!” ชางหลันเย่ยืนกรานหนักแน่น ย่อตัวลง ให้คนพยุงฮ่องเต้ขึ้นหลังตนทันที
ขันทีสองคนรีบเข้ามาพยุงขนาบ หากไท่จื่อแบกไม่ไหวเมื่อใด พวกเขาก็สามารถรับฝ่าบาทไว้ได้ทัน
พอเห็นไท่จื่อแบกฮ่องเต้ขึ้นหลังทั้งๆที่บาดเจ็บสาหัว ทุกคนทั้งตื้นตันและชื่นชม โดยเฉพาะขุนนางเหล่านั้น ล้วนมีสีหน้าอับอายขายหน้ายิ่งนัก
“ฝ่าบาท คนพวกนี้จะจัดการอย่างไรดี?” เจว๋เฟิงถาม
“จัดการตามที่เสด็จพ่อตรัสละกัน” ชางหลันเย่ทิ้งท้ายไว้ หมุนตัวเดินออกไป
“ขอรับ!”
“ฝ่าบาทไว้ชีวิต ไว้ชีวิตด้วย!” ขุนนางมากมายด้านหลังพากันอ้อนวอน ตะโกนเสียงดัง แต่ฮ่องเต้ที่สลบไสลไปแล้วไม่ได้ยินเลย
วินาทีนี้พวกเขาเสียใจยิ่งนัก ทำไมถึงได้ไปสนับสนุนเจ้าขยะไร้ค่าอย่างองค์ชายรองได้นะ
ชิงเติงไต้ซืออดกลั้นความเจ็บปวดเดินออกมา มองดูไท่จื่อแบกฮ่องเต้ลงขั้นบันไดทีละขั้น แต่ละก้าวย่างลำบากนัก ใช้แรงมาก แต่ยังยืนหยัดพยายามด้วยสีหน้าภูมิใจ
ไท่จื่อไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังจริงๆ
ชางหลันเย่แบกฮ่องเต้เดินลงไป หมอหลวงที่ตามเสด็จรีบเข้ามาตรวจอาการทันที ขุนนางด้านล่างพอเห็นฮ่องเต้เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดแถมยังสลบไม่ได้สติ ก็ตกใจยิ่งนัก โชคดีที่ได้ชิงเติงไต้ซือที่ตามมาด้วยอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้
เหล่าขุนนางพากันตกตะลึงยิ่งนัก ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าองค์ชายรองจะกระทำการชั่วร้ายเช่นนี้ โดยเฉพาะในนี้ยังมีสองคนเป็นคนสนิทขององค์ชายรอง พากันตกใจตัวสั่นเทา รีบหาข้ออ้างหลบออกไปทันที
พวกเขาพึ่งออกจากห้องโถงบรรพชนไปได้ไม่ไกล ก็โดนองครักษ์ลับของชางหลันเย่ที่ซุ่มดักอยู่ในจุดที่ผู้คนน้อยฆ่าเสียทันที
หลังจากวันนี้เป็นต้นไป อำนาจในราชสำนักของหยางเฟยและชางเยว่หมิงได้โดนกำจัดสิ้นซากแล้ว
ฮ่องเต้แห่งแคว้นชางเยว่สลบไสลไปสามวัน พอฟื้นมาเห็นหมิงเฟยที่อยู่ข้างเตียง ทั้งสงสารและรู้สึกผิด
“ฝ่าบาท ท่านฟื้นแล้ว ดียิ่งนัก ไม่สบายตรงไหนหรือไม่ หมอหลวง รีบไปตามหมอหลวงมาเร็ว ฝ่าบาททรงฟื้นแล้ว!” หมิงเฟยตื่นเต้นจนน้ำตาไหลพราก ร้องเสียงดังขึ้นมาทันที
เหล่าหมอหลวงที่เฝ้าอยู่ด้านนอกตำหนักรีบเข้ามาทันที ทำการรักษาให้ฮ่องเต้
หมอหลวงสิบกว่าคนพากันมาจับชีพจร สุดท้ายพากันสีหน้าตึงเครียดไปตามๆกัน เจ้ามองข้า ข้ามองเจ้า
“หมอหลวง ร่างกายฝ่าบาทเป็นอย่างไรบ้าง รีบพูดเร็ว ไม่ว่าจะใช้ยาล้ำค่าแค่ไหน ก็ต้องรักษาให้หายนะ?” หมิงเฟยเป็นห่วงยิ่งนัก