จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 748 ท่านอา ท่านว่าทำไมข้าทำไม่ได้ล่ะ
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 748 ท่านอา ท่านว่าทำไมข้าทำไม่ได้ล่ะ
“ท่านพี่ ข้ามีความคิด พวกเราจัดการแข่งขันทำอาหารขนมหวานเลยดีกว่า สิ้นปีของปีก่อนๆก็แค่กินดื่มกันไม่สนุกเลย ปีนี้ทำให้มันพิเศษหน่อยดีกว่า!” หยุนถิงเสนอ
“ได้ เจ้าอยากจัดอย่างไร ก็จัดอย่างนั้น!” จวินหย่วนโยวเห็นด้วย
“งั้นข้าต้องคิดให้ดีๆหน่อยละ” สายตาหยุนถิงมีประกายสดใสวาบผ่าน
ในเมื่อต้องให้สมเหตุสมผล และให้องค์หญิงห้าเข้าร่วมด้วย ต้องหาสาเหตุให้ดี
หยุนถิงอยู่เป็นเพื่อนลูกๆทำของหวานเสร็จ เด็กสองคนกินไปไม่น้อย เล่นจนเหนื่อย เยว่เอ๋อร์และซูหลินพาพวกเขาเข้านอน หยุนถิงเลยเข้าวัง
เหมยเฟยได้ยินว่าหยุนถิงมา ดีใจยิ่งนัก ออกมาต้อนรับด้วยตัวเองเลยทีเดียว
“ถวายบังคมเหมยเฟยเหนียงเหนียง!” หยุนถิงคารวะ
“ระหว่างเราไม่ต้องมีพิธีรีตองดอก เจ้าสามารถมาเยี่ยข้าได้ ข้าดีใจนัก เชิญด้านในเถอะ!” เหมยเฟยบอก
“ขอบพระทัยเหนียงเหนียง!” หยุนถิงเดินตามเข้าไป
สาวใช้ข้างกายรีบยกน้ำชาชั้นเลิศเข้ามาทันที และยืนรอรับใช้อยู่ข้างๆอย่างนอบน้อม
“นี่เป็นชาบรรณาการที่ฝ่าบาทพึ่งพระราชทานให้ข้าเมื่อครู่ รสชาติไม่เลวเลย หากเจ้าชอบ อีกครู่ตอนจะกลับไป ข้าจะให้คนจัดเตรียมให้เจ้าเอาไปด้วยนะ” เหมยเฟยบอกอย่างใจดี
หยุนถิงจิบชาไปหนึ่งคำ “ไม่เลวจริงๆด้วย!”
“เช่นนั้นข้าน้อยไปเชงชาให้ซื่อจื่อเฟยนะเจ้าคะ” สาวใช้ออกไปทันที
ตอนแรกนางเป็นคนไปขอร้องซื่อจื่อเฟยมารักษาเหมยเฟยเอง หากมิใช่ซื่อจื่อเฟยื่นมือเข้าช่วย เหมยเฟยคงตายไปนานแล้ว บัดนี้ซื่อจื่อเฟยมา สาวใช้ย่อมตื่นเต้นและซาบซึ้งอยู่แล้ว
“พวกเจ้าออกไปก่อนเถอะ ข้ามีเรื่องจะพูดกับซื่อจื่อเฟย!” เหมยเฟยบอก
สาวใช้ในห้องล้วนออกไปกันหมด เหมยเฟยถึงถามขึ้น “พูดมาเถิด มีอะไรรึ?”
หยุนถิงยิ้มบาง “อะไรก็ปิดเหมยเฟยไม่ได้จริงๆ ครั้งนี้ข้ามีเรื่องจริงๆ อยากยืมชื่อเหมยเฟยจัดการแข่งขันของหวานสักงานหนึ่ง
ไม่ใช่แค่มากินและดื่ม เป็นการแข่งขันน่ะ ประกาศออกไปก่อนล่วงหน้า ชายหญิงล้วนเข้าร่วมได้ทั้งนั้น ทำอาหารเลิศรสต่อหน้าทุกคน จากนั้นเลือกสิบอันดับแรกออกมา ให้รางวัลตามลำดับ เงินรางวัลข้าออกเอง ขอเพียงเข้าร่วมก็มีรางวัลให้”
เหมยเฟยมองมาอย่างสงสัย “เจ้าดูไม่เหมือนคนชอบเรื่องครึกครื้น ทำไมใจกว้างขนาดนี้?”
“องค์หญิงห้ากลับมาก็ก่อเรื่องอีก หลายวันก่อนนางใช้ให้สาวใช้ไปปรักปรำใส่ร้ายหยุนซู ฝ่าบาทออกหน้าปกป้อง แต่ข้าจะไม่ปล่อยนางเอาไว้!” หยุนถิงไม่ได้ปิดบัง และบอกตามความจริงออกมา
“หากองค์หญิงห้าไม่เข้าร่วมเล่า?” เหมยเฟยถาม
“มิเป็นไร ขอเพียงชายหญิงในเมืองหลวงเข้าร่วมก็พอ คิดซะว่ามาร่วมสนุกกัน” หยุนถิงตอบ
“เช่นนั้น อีกครู่ข้าจะไปบอกฝ่าบาทเรื่องนี้” เหมยเฟยไม่ได้คิดมาก รับปากในทันที
“เหนียงเหนียงไม่กลัวฝ่าบาทกล่าวโทษท่านรึ?”
เหมยเฟยยิ้มบางๆ “เจ้าเป็นคนช่วยชีวิตลูกของข้า กลัวอะไร อีกอย่างองค์หญิงห้าหาเรื่องตายเอง เกี่ยวอันใดกับข้า เจ้าลงมือเองไม่มีทางเกี่ยวโยงมาถึงข้าแน่”
“ฮะฮะ เหนียงเหนียงตรงไปตรงมาดีจริง” หยุนถิงพูดรายละเอียดของการแข่งขันกับเหมยเฟยอีก ถึงได้จากไป
เธอพึ่งก้าวเท้าออกไป เหมยเฟยก็ไปหาฮ่องเต้ทันที
เดิมฮ่องเต้ยังคิดว่าปีนี้เป็นงานเลี้ยงสิ้นปีอีกไม่มีอะไรแปลกใจ เหมยเฟยพลันเสนอเช่นนี้ ฮ่องเต้ย่อมสนับสนุนอยู่แล้ว เห็นด้วยในทันที
จากนั้นก็จัดการแข่งขันอาหารเลิศรสสิ้นปีงานหนึ่งในนามของเหมยเฟย แปะประกาศราชวงศ์ ชายหญิงในเมืองหลวงทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ ไม่สนฐานะชาติกำเนิด ผู้ใดมาขอเข้าร่วมมีรางวัลให้คนละหนึ่งตำลึง ผู้เข้ารอบได้สิบตำลึง สิบอันดับแรกยิ่งรางวัลหนาแน่น ที่หนึ่งคือหนึ่งหมื่นตำลึง
รางวัลมากมายเพียงนี้แพร่กระจายข่าวไปทั่วเมืองหลวงของต้าเยียนอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านล้วนพูดคุยกัน เรื่องพูดคุยหลังอาหารก็ล้วนคุยกันแต่เรื่องนี้
คนจำนวนมากเริ่มเตรียมตัวกันขึ้นมา พวกที่ทำอาหารเป็นพากันเร่งรีบฝึกฝน หวังว่าจะทำได้ดียิ่งขึ้น คนที่ทำไม่เป็นก็เริ่มเรียนขึ้นมา เอาแค่เงินรางวัลนี้ยังไงก็ต้องไปเข้าร่วม
สาวใช้อีกคนหนึ่งขององค์หญิงห้าพอได้ยินเรื่องนี้เข้า รีบไปรายงานองค์หญิงห้าทันที
“องค์หญิง นี่เป็นการแข่งขันทำอาหารที่เหมยเฟยเหนียงเหนียงจัดทำขึ้น รางวัลมากมายนัก พวกเราไปรายงานตัวด้วยดีไหม ฝีมือการทำอาหารของท่านเก่งมาก ไม่แน่ว่าอาจจะได้ที่หนึ่งก็ได้ ข้าน้อยได้ยินมาว่าองค์หญิงเจ็ดและองค์หญิงคนอื่น แม้กระทั่งไท่จื่อยังไปรายงานตัวขอเข้าร่วมเลย คิดว่าไปร่วมสนุกละกัน” สาวใช้รายงาน
องค์หญิงห้าขมวดคิ้ว “เหมยเฟยไม่เคยชอบเรื่องเช่นนี้ เหตุใดนางเป็นคนจัดงานเล่า?”
หรือว่านางจะมีแผนการอะไร?
องค์หญิงห้าไม่เข้าใจ แต่รางวัลมากขนาดนี้ แน่นอนว่าต่อให้สูงส่งเป็นองค์หญิง แต่สินสมรสที่ติดตัวไปก็โดนยึดไว้ที่จวนอ๋องเก้าหมด นางนำติดตัวมาด้วยไม่มาก ยิ่งไปกว่านั้นพึ่งเกิดเรื่องหยุนซูไป ถึงเสด็จพี่จะออกหน้าปกป้องนาง แต่นางก็โดนกักบริเวณ นับแต่โบราณมามิเคยมีผู้ใดไม่ชอบเงิน ดังนั้นองค์หญิงห้าเลยให้สาวใช้ไปรายงานตัวเสีย
อีกด้านหนึ่ง พอหยุนหลีได้ข่าว ก็รีบไปรายงานตัวด้วยตัวเองทันที จากนั้นกลับบ้านไปฝึกฝน
เพียงแต่นางชอบอาวุธแต่เด็กจนชินแล้ว ไม่ถนัดที่สุดคือการทำอาหาร
ตอนนี้ควันในห้องครัวของจวนตระกูลหยุนพวยพุ่งโขมง เหล่าคนรับใช้ไอค่อกแค่กไปตามๆกัน
พอหยุนเฉิงเซี่ยงรู้เรื่อง ก็รีบเร่งมา “เจ้าสี่ เจ้าอยากวางเพลิงเผาห้องครัวรึ?”
หยุนหลีเดินออกมา ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้ามอมแมมแถมยังมีแป้งติดอยู่ สภาพดูไม่ได้เลย “ท่านพ่อ ข้าแค่อยากทำของหวาน ทำไมมันยากเพียงนี้?”
“เจ้าน่ะนะ ไม่ใช่ข้าดูถูกเจ้านะ ต่อให้ชาติหน้าเจ้าก็ทำออกมาไม่ได้ดอก!” หยุนเฉิงเซี่ยงบอกอย่างไม่ไว้หน้าเลย
หยุนหลีสีหน้าบูดบึ้ง “ท่านเป็นพ่อแท้ๆของข้าจริงรึ ทำไมดูถูกข้าเช่นนี้ ข้ายังอยากฝึกฝนทำอาหารให้ติดหนึ่งในสิบน่ะ?”
หยุนเฉิงเซี่ยงโกรธนางจนยิ้ม “เพราะเป็นพ่อเจ้าไงถึงพูดเช่นนี้ เจ้าชอบชอบอาวุธ จึงไม่เหมาะจะทำอาหาร มีความตั้งใจน่ะดี แต่ต้องยอมรับความจริงด้วย อย่าทำสิ่งที่ตนไม่ถนัด รางวัลมากมายที่พี่หญิงใหญ่เจ้าจัดทำมิใช่เพื่อให้เจ้าไปหรอกนะ”
“ท่านพ่อ ท่านบอกว่างานนี้พี่หญิงใหญ่จัดขึ้น ไม่ใช่เหมยเฟยรึ?” หยุนหลีไม่เข้าใจ
“แค่ยืมชื่อเหมยเฟยเท่านั้นเอง พี่หญิงใหญ่เจ้าทำเช่นนี้เพื่อตกปลา เจ้าอย่าเข้าไปยุ่งเลยดีกว่า!” หยุนเฉิงเซี่ยงถอนหายใจบอก
“ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง ท่านไม่รีบบอกล่ะ แต่เรือล่มในหนองทองจะไปไหน ข้าต้องสนับสนุนเสียหน่อยสิ” หยุนหลียังไม่ตัดใจ
เสวี่ยเชียนโฉวเข้ามาจากด้านนอกพอดี พอเจอหยุนเฉิงเซี่ยงก็คารวะทันที “คารวะหยุนเฉิงเซี่ยง!”
“เจ้ามาได้เวลาเลย มาดูนังหนูนี่ไว้หน่อย อย่าให้นางเผาจวนตระกูลหยุนนี่ล่ะ!” หยุนเฉิงเซี่ยงทิ้งไว้หนึ่งคำ และเดินออกไปเลย
“ขอรับ!”
“ท่านอา ท่านมาก็ดีแล้ว เข้ามาช่วยเร็ว!” หยุนหลีบอกอย่างยินดี
มองดูรอยเปื้อนบนใบหน้าน้อยๆของนาง เสวี่ยเชียนโฉวยิ้มอ่อน ควักผ้าออกมาช่วยเช็ดฝุ่นบนหน้านาง “ได้ ข้าช่วยเจ้า”
จากนั้นเหล่าคนรับใช้ก็เห็น เสวี่ยเชียนโฉวในชุดขาวตามคุณหนูสี่ชองพวกนางเข้าไปในห้องครัว เหล่าคนรับใช้พากันตกตะลึงยิ่งนัก แต่ไม่มีใครกล้าก้าวขึ้นหน้า กลัวตนจะโดนหางเลขคุณหนูสี่ไปด้วย
“ท่านอา ท่านว่าทำไมข้าทำไม่ได้ล่ะ?” หยุนหลีถอนหายใจยาว
“ทำของหวานเขาเคร่งกันเรื่องขั้นตอน ต้องตีไข่ใส่ในแป้งแล้วคนให้เข้ากันก่อน จากนั้นนวดแป้ง และต้องมีน้ำมัน—-“ เสวี่ยเชียนโฉวพูดขั้นตอน
ทำเอาหยุนหลีตกตะลึงไปเลย “สวรรค์ ท่านอา ท่านทำของหวานเป็นด้วยรึ น่าอัศจรรย์ใจนัก รีบมาสอนข้าเร็ว!”
เสวี่ยเชียนโฉวสีหน้ากระอักกระอ่วน ควักสมุดที่พกติดตัวออกมา “อันที่จริงข้าเองก็ไม่เป็น แต่คิดว่าเจ้าอาจจะสนใจ ข้าเลยหาพ่อครัวของหวานมาสอนน่ะ และจดขั้นตอนมาหมดแล้ว”