จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 754 เจ้ากินอิ่มแล้ว ก็ตาข้าบ้างละนะ
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 754 เจ้ากินอิ่มแล้ว ก็ตาข้าบ้างละนะ
พอโม่หลานกลับมา เห็นคนเต็มลานบ้าน และยังข้าวของสีแดงกระจายเต็มทุกที่ โม่หลานอึ้งเป็นไก่ตาแตกไปเลย
“นี่บ้านข้าทำอะไรน่ะ ทำไมพวกเจ้ามากันหมดเลยล่ะ?”
เมื่อวานพอนางออกมาจากจวนเฉินอ๋อง ก็ไปค่ายทหารเลย และเพราะเมื่อคืนฝึกซ้อมดึกไปหน่อย เลยนอนค้างที่ค่ายทหาร พอเช้าวันต่อมาถึงกลับมา เลยยังไม่รู้เรื่องสมรสพระราชทานของฮ่องเต้
“ฝ่าบาทพระราชทานสมรสให้กับเจ้าและเฉินอ๋อง อีกสิบวันให้หลังจะเป็นพิธีแต่งงาน พวกข้ามาช่วยเจ้าจัดการงานแต่งไง” หยุนถิงอธิบาย
“ชาติหนึ่งเจ้าแต่งงานครั้งนี้ครั้งเดียว พวกข้าต้องมาช่วยอยู่แล้วสิ” ซูชิงโยวเสริม
“โม่หลาน เรื่องพวกนี้ท่านพ่อกับท่านพี่เจ้าทำไม่ได้ พวกเราที่เป็นแม่คนแล้วละเอียดอ่อนและคิดรอบคอบมากกว่า” ฉินจิ้งอี๋เสริม
ใบหน้าโม่หลานแดงก่ำทันที “โม่ฉือชิงนี่ ไหนบอกว่าจะแต่งพร้อมหลีอ๋องหลังปีใหม่ไง ทำไมเลื่อนขึ้นมาแล้วล่ะ?”
นิสัยนางเป็นคนโผงผางตรงไปตรงมาอยู่แล้ว แต่พอมาเจอเรื่องการแต่งงานก็รู้สึกกระดากอายเหมือนกัน
“ไม่ใช่ความคิดของโม่ฉือชิงจริงๆ ท่านพ่อเจ้าให้ชินเทียนเจียนดูฤกษ์งามยามดีที่เร็วที่สุดมา!” หยุนหลีที่เดินออกมาแย่งตอบ
โม่หลานใบ้กินฉับพลัน “นี่พ่อแท้ๆงั้นรึ นี่อยากให้ข้าแต่งออกไปแค่ไหนกัน พ่อข้าล่ะ ข้าจะไปหาเขา”
“คุณหนูใหญ่ นายท่านอยู่ที่ศาลบรรพชนขอรับ” พ่อบ้านเดินเข้ามาบอก
โม่หลานรีบพุ่งไปศาลบรรพชนที่ด้านหลังทันที เดิมอยากไปถกเถียงกับพ่อตนเองสักยก สุดท้ายเห็นพ่อนั่งอยู่บนพื้นของศาลบรรพชน กอดป้ายวิญญาณท่านแม่ร้องไห้โฮ
“ฮูหยิน โม่หลานจะแต่งงานกับเฉินอ๋องแล้ว เจ้าคงเป็นสุขแล้วกระมัง ข้ายังคิดว่านังหนูนี่จะอยู่โดดเดี่ยวไปทั้งชาติแล้ว นิสัยอย่างนางน่ะ มีคนมาชอบได้มันไม่ง่ายเลยจริงๆนะ
ฮูหยิน ข้าสมความปรารถนาแล้ว ถึงเฉินอ๋องจะอ่อนปวกเปียกไม่รู้วรยุทธ์ แต่หาเงินเก่งมาก โม่หลานของเราน่ะไม่อดตายแน่
อันที่จริงเมื่อก่อนข้าก็ไม่พอใจเฉินอ๋อง เปิดหอว่านชุน(เป็นซ่องโสเภณี) วันๆเอาแต่วนเวียนอยู่ในสถานที่เริงรมย์ แต่หลายปีมานี้กลับเปลี่ยนนิสัยไปจริงๆ มั่นคงมาก
ประเด็นคือรักมั่นปักใจกับลูกสาวเรานัก ชอบนางมาหลายปีแล้ว มีแต่โม่หลานที่ไม่มีสมองนั่นถึงดูไม่ออก ข้าน่ะซาบซึ้งใจจะตายแล้ว
เพียงแค่โม่หลานของเราออกเรือน ข้าก็ไม่กังวลแล้ว ฉีเฟิงองอาจสง่างาม สืบทอดข้อดีของข้าไป ต่อให้หาดาษดื่นไปยังไงก็คงไม่แย่หรอก เจ้าต้องปกปักรักษาลูกสาวเรานะ
อย่าให้แต่งงานไปแล้ว พอโกรธทีก็เตะต่อยกับเฉินอ๋องนะ เกิดทำเขาบาดเจ็บตายไป ก็เป็นม่ายสิ เรื่องนี้ไว้ข้าจะกำชับนางสักหน่อย”
ฟังคำพูดของพ่อตนเองแล้ว โม่หลานอยากอัดเขาจนสลบเสียจริง นี่พ่อแท้ๆของตนรึ มีใครเขาพูดถึงลูกสาวแบบนี้กันบ้าง แต่พอดูท่าทางร้องไห้น้ำตาไหลพรากของเขาแล้ว โม่หลานเปลี่ยนใจ หมุนตัวจากไป
โม่หลานไปเรือนหน้า พูดคุยกับพวกหยุนถิงแทน แน่นอนว่าถามเรื่องการครองคู่ของสามีภรรยาหลังแต่งงาน
พริบตาเดียว สิบวันผ่านไปแล้ว มาถึงวันแต่งงานของโม่หลานกับเฉินอ๋อง
แต่เช้ามา โม่ฉือชิงในชุดเจ้าบ่าว ดูหล่อเหลานัก ขี่ม้าตัวใหญ่ นำขบวนแต่งงานมา มุ่งตรงไปยังจวนแม่ทัพอย่างครึกครื้นยิ่งใหญ่นัก
เกี้ยวเจ้าสาวมาหยุดลงตรงหน้าจวนแม่ทัพ ตีฆ้องร้องป่าว เสียงประทัดดังสนั่น สะท้านดังก้องแก้วหูนัก
โม่ฉีเฟิงแบกโม่หลานออกมา วินาทีที่ยื่นนางให้กับท่านพ่อ ยังไม่ลืมกำชับว่า “น้องพ่า หากวันหน้าเฉินอ๋องกล้าทำให้เจ้าโกรธ ยั้งมือไว้บ้างนะ!”
โม่หลานที่อยู่ใต้ผ้าคลุมหน้าสีแดงยิ้มเย็นบอก “พี่ใหญ่ ท่านไม่พูดไม่มีใครหาว่าท่านเป็นใบ้หรอกนะ”
“ได้ พี่ใหญ่ไม่พูด!”
แม่ทัพเฒ่าโม่จูงมือบุตรสาว และส่งนางออกเรือน “นังหนู ไปอยู่จวนเฉินอ๋องดีๆนะ อย่าไปรังแกใครเขาไปทั่วล่ะ”
“ท่านพ่อ ทำไมท่านเหมือนกับพี่ใหญ่เล่า!”
“พ่อไม่พูดแล้ว เจ้าอยู่ดีๆนะ!” แม่ทัพเฒ่าโม่ก็ไม่พูดมากอีก ยังไงก็ต้องไว้หน้าลูกสาวไว้บ้าง
โม่หลานมีแม่สื่อประคองขึ้นเกี้ยว โม่ฉือชิงคารวะแม่ทัพเฒ่าโม่ ขี่ม้าจากไป ขบวนแต่งงานก็ตามหลังเขาไป
วินาทีนี้โม่ฉือชิงดีใจจนยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว
ดียิ่งนัก ในที่สุดเขาก็ได้แต่งงานกับโม่หลาน ในที่สุดเขาก็ได้อยู่ด้วยกับโม่หลานแล้ว อยู่ด้วยกันตลอดไป
คู่แต่งงานใหม่กลับมายังจวนเฉินอ๋อง ฮ่องเต้เป็นประธานในพิธีให้พวกเขาด้วยตัวเอง นี่เป็นเกียรติอันสูงสุด
พิธีแต่งงานมากขั้นตอนดำเนินไปจนเสร็จ สุดท้ายโม่ฉือชิงและโม่หลานถูกส่งเข้าห้องหอ
แขกเหรื่อดูพิธีการเสร็จ ก็พุ่งไปยังร้านเนื้อย่างสิบกว่าร้านของหยุนซูทันที และหอใต้หล้า บนท้องถนนของทั้งเมืองหลวงเต็มไปด้วยบรรยากาศครึกครื้นยินดี สนุกสนานยิ่งนัก
หยุนซูปล่อยสิบกว่าร้านให้ว่าง จัดงานเลี้ยงให้องค์ชายสี่
หอใต้หล้าเป็นกิจการของจวินหย่วนโยว ครั้งนี้หยุนถิงไม่ได้พูด จวินหย่วนโยวเสนอออกมาเอง ถึงจะไม่ค่อยชอบหน้าโม่ฉือชิง แต่เขามีพรสวรรค์ในด้านการจัดการยิ่งนัก ช่วยถิงเอ๋อร์หาเงินได้ไม่น้อยเลย ถือซะว่าตอบแทนเขาแล้วกัน
ในห้องหอ
โม่หลานตื่นเต้นหนักมาก แต่งงานกับเขาครั้งแรก ต้องหวาดหวั่นอยู่แล้ว
“โม่หลาน จนถึงตอนนี้ข้ายังรู้สึกเหมือนฝันไปเลย ในที่สุดข้าก็ได้แต่งงานกับเจ้าแล้ว” โม่ฉือชิงพูดอย่างตื่นเต้น เปิดผ้าคลุมหน้าโม่หลานออก
โม่หลานที่ปกติเอาแต่แต่งกายเป็นชาย ตอนนี้นางงดงามเลิศล้ำ ชุดเจ้าสาวงดงาม ใบหน้าแดงเรื่อราวกับดอกไม้ที่ตูมเตรียมเบ่งบาน ทำเอาโม่ฉือชิงหายใจกระชั้น รู้สึกปวดรัดที่ท้องน้อยนัก
“โม่หลาน วันนี้เจ้างามนัก!” โม่ฉือชิงทนไม่ไหวชมเชยออกมา
หน้าโม่หลานยิ่งแดงขึ้นหลายส่วน รู้สึกร้อนผ่าวยิ่งนัก “อย่ามา อย่าพูดเรื่องเหลวไหลนี่ ข้าหิวแล้ว วุ่นวายตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ ข้ายังไม่ได้กินอะไรเลย”
พอเห็นใบหน้านางเริ่มไม่พอใจ ปากเบ้น้อยๆ โม่ฉือชิงรู้สึกว่านางน่ารักนัก “หวางเฟยพูดถูกแล้ว ข้าจะให้คนนำอาหารมาเดี๋ยวนี้!”
จากนั้นโม่ฉือชิงก็กวักมือเรียกทหารเฝ้าประตู ให้พวกเขาส่งอาหารเลิศรสมาเต็มโต๊ะ
โม่หลานเองก็ไม่เกรงใจ เดินเข้ามาหยิบตะเกียบเริ่มกินทันที เพียงแต่เครื่องประดับหัวนั่นหนักนัก รบกวนการกินข้าวของนาง โม่ฉือชิงเดินเข้ามาช่วยนางแกะเครื่องประดับ และถอดเสื้อนอกออก แบบนี้โม่หลานสะดวกขึ้นมากเลย
โม่ฉือชิงนั่งตรงข้ามคอยช่วยคีบอาหารให้โม่หลาน หวางเฟยของตนนี่ดูยังไง ก็งดงามนัก
โม่หลานก็ไม่เกรงใจเขา จนอาหารบนโต๊ะหมดเกลี้ยง ถึงได้เรอออกมา “ในที่สุดก็อิ่มแล้ว”
“หวางเฟยพอใจกับอาหารหรือไม่?” โม่ฉือชิงถาม
“พอใจ อย่าพูดไป พ่อครัวจวนเจ้านี่ทำอาหารไม่เลวเลย”
“ต่อไปเจ้าอยากกินอะไร บอกพวกเขาได้เลย ในเมื่อเจ้ากินอิ่มแล้ว ก็ตาข้าแล้วนะ!” โม่ฉือชิงพูดพลางเดินเข้าไปอุ้มโม่หลานขึ้นมา
โม่หลานตกใจ อัดโม่ฉือชิงอย่างลืมตัว
“อ๊าก โม่หลานเจ้าทำอะไรน่ะ?” โม่ฉือชิงปล่อยนางโดยพลัน มือกุมหน้าร้องโอย
โม่หลานถึงรู้ตัวว่าทำเกินไป “ขอโทษ ข้าชินน่ะ ข้าไม่ได้ตั้งใจนะ!”
“แต่งงานวันแรกก็อัดข้า ยังว่าไม่ได้ตั้งใจ เจ้าต้องชดเชยให้ข้านะ!” โม่ฉือชิงแสร้งโกรธ
“ชดเชยอย่างไร?”
“ก็ต้องชดเชยบนเตียงสิ” ครั้งนี้โม่ฉือชิงกอดโม่หลานหมับทันที ไม่ให้โอกาสนางผลักตนออก ก้มหน้าลงจุมพิตริมฝีปากนางทันที