จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 758 อ๋องเก้า เจ้าช่างหน้าไม่อายเสียจริง
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 758 อ๋องเก้า เจ้าช่างหน้าไม่อายเสียจริง
พออ๋องเก้าพูดอย่างนี้ สะท้านสะเทือนไปทั้งถนน ทุกคนพากันอึ้งกิมกี่
สวรรค์ พวกเขาได้ยินอะไรเข้าล่ะเนี่ย องค์หญิงห้ากล้าคบชู้กับองครักษ์ ตั้งท้องลูกขององครักษ์ นี่เป็นความลับของราชวงศ์เลยนะ
เหล่าชาวบ้านแตกฮือกันทันที พากันคุยซุบซิบไม่หยุด
“ไม่น่านะ องค์หญิงห้าเป็นหญิงอัจฉริยะแห่งต้าเยียนนะ อ่อนโยนสง่างาม มีความสามารถมากล้น จะทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?” ชาวบ้านคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ข้าเองก็ไม่อยากเชื่อ องค์หญิงห้าดูยังไงก็ไม่เหมือนคนที่คบชู้ได้เลยนี่นา”
“พวกเจ้าสองคนหูหนวกหรือไร ไม่ได้ยินอ๋องเก้าแคว้นเป่ยลี่พูดรึ เขาน่ะอ๋องเก้านะ สวามีขององค์หญิงห้า หากไม่เป็นความจริง อ๋องเก้ามีหรือจะกล้าพูดต่อหน้าธารกำนัลเยี่ยงนี้!” อีกคนย้อนขึ้น
“อ๋องเก่าะเป็นน้องชายแท้ๆของฮ่องเต้แคว้นเป่ยลี่นะ เขากล้าพูดออกมาต่อหน้าทุกคน ต้องเป็นเรื่องจริงแน่ องค์หญิงห้าหน้าไม่อายเช่นนี้ กล้าคบชู้กับองครักษ์?”
“เบาเสียงหน่อยเถอะเจ้าน่ะ นี่น่ะความลับของราชวงศ์นะ โทษประหารเก้าชั่วโคตรเลยนะ สตรีธรรมดากล้าคบชู้ก็ถูกจับไปทิ้งให้จมน้ำตายแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงองค์หญิงเลย”
“นางเป็นน้องสาวของฝ่าบาทนะ กล้าทำเรื่องเช่นนี้ออกมา พวกเราคนต้าเยียนจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!”
ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทุกคน องค์หญิงห้าสีหน้าน่าเกลียดนัก ซีดเผือดมาก
นางคิดไม่ถึงจริงๆว่า อ๋องเก้าจะรู้เรื่องนี้ และยังพูดออกมาต่อหน้าทุกคนอีก
คราวนี้เสด็จพี่รู้แล้ว เหล่าข้าราชบริพารรู้แล้ว ชาวบ้านของเมืองหลวงแคว้นต้าเยียนต่างรู้กันหมดแล้ว
นางจะอยู่ต่อไปอย่างไร จะบอกเสด็จพี่อย่างไรดี นางถือเป็นหน้าตาของแคว้นต้าเยียน และสิ่งที่เสด็จพี่ให้ความสำคัญที่สุดคือหน้าตาและชื่อเสียงของแคว้นต้าเยียน
อ๋องเก้าน่าตายนัก เหตุใดจู่ๆก็มาปรากฏตัวที่นี่ได้ และเหตุใดจึงพูดเรื่องนี้ออกมาได้
“อ๋องเก้า เจ้าบ้าไปแล้วรึ เจ้าพูดจาซี้ซั้วอะไรกัน เมื่อก่อนเจ้าลบหลู่เหยียดหยามข้าบัดนี้ยังมาใส่ร้ายป้ายสี ที่นี่คือแคว้นต้าเยียน ไม่ใช่ที่ที่เจ้าจะมากร่างได้!” องค์หญิงห้าตะคอกดัง
นางไม่เชื่อหรอกว่า อ๋องเก้าจะกล้ายอมรับต่อหน้าทุกคนว่าตนเองนกเขาไม่ขัน
สีหน้าฮ่องเต้ดำทะมึน เดือดดาลยิ่งนัก “อ๋องเก้า จะพูดอะไรต้องรับผิดชอบ หากเจ้าใส่ร้ายองค์หญิงแคว้นต้าเยียนของข้า ข้าไม่มีวันยอมให้เจ้ารอดออกไปได้แน่!”
ทระนงองอาจ เหี้ยมเกรียมตรงไปตรงมา
“เสด็จพี่ ขอเสด็จพี่ลงโทษอ๋องเก้าด้วย เขาลบหลู่น้องเช่นนี้ เท่ากับไม่เห็นท่านอยู่ในสายตาเลยนะ!” องค์หญิงห้าร่ำไห้
พอเห็นท่าทางนางน้ำตาไหลอาบแก้มอย่างน่าสงสารนั้น เหล่าชาวบ้านมากมายพากันเชิดหน้าด่าทอใส่อ๋องเก้า ต่างรู้สึกว่าเขาทำเกินไปแล้ว
หยุนถิงสีหน้าเรียบเฉย ไม่รีบไม่ร้อน เอาแต่ยืนดูเฉยๆ
อ๋องเก้าได้ยินคำต่อว่าและด่าทอของทุกคน ก็เริ่มเดือดดาล “พวกเจ้าน่ะโง่งมไม่รู้อะไร โดนองค์หญิงห้าหลอกกันหมดแล้ว
นางน่ะเสแสร้งทำน่าสงสารเก่งที่สุด เรียกร้องความเห็นใจจากคนอื่น สตรีหน้าไม่อายเช่นนี้ถือสิทธิ์อะไรเป็นองค์หญิงกัน
ฮ่องเต้ต้าเยียน ข้ากล้าพูดเช่นนี้ ก็ต้องมีหลักฐานเพียงพออยู่แล้ว ทหาร นำตัวมันเข้ามา!”
พอพูดจบ องครักษ์ชุดดำสองคนคุมตัวคนหนึ่งเข้ามา
พอเห็นคนผู้นั้น องค์หญิงห้าอึ้งตะลึงไปเลย สีหน้าลนลานยิ่งนัก
นางไม่คิดเลยว่า อ๋องเก้าจะพาองครักษ์คนนั้นมาได้จริงๆ จะทำอย่างไรดี นางจะลนลานไม่ได้ และจะให้คนอื่นจับผิดได้ไม่ได้ด้วย
พอคิดถึงตรงนี้ องค์หญิงห้าแสร้งทำนิ่ง มององครักษ์ผู้นั้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย สายตาเย็นชาประหนึ่งไม่รู้จัก
“เขาคือใคร?” เหมยเฟยถาม
“นี่คือองครักษ์ที่คบชู้กับองค์หญิงห้า พวกมันคิดว่าข้าไม่รู้เรื่องเลวระยำของพวกมัน เอาแต่ทำเรื่องต่ำช้าอยู่ที่เรือนหลัง กลับไม่รู้เลยว่า คืนแรกที่พวกมันคบชู้กันข้าก็รู้แล้ว
เสด็จพี่ของข้าเป็นฮ่องเต้แคว้นเป่ยลี่ มีหูตาอยู่ทั่วแคว้นเป่ยลี่ จวนของข้าเองก็มีเช่นกัน
ข้าไม่ชอบยุ่งกับราชสำนัก เสด็จพี่รู้ดีมาตลอด ดังนั้นหากบอกว่าหูตาเหล่านั้นเป็นการจับตาดู สู้บอกว่าเป็นการแอบคุ้มครองข้าดีกว่า
สุดท้ายเสด็จพี่กลับบอกข้าว่า ข้าโดนสวมเขา แถมยังเป็นหวางเฟยที่มาแต่งงานเจริญสัมพันธไมตรี ข้าจะไม่เดือดดาลได้อย่างไรกัน
เสด็จพี่บอกแล้วว่า การแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างแคว้นเป่ยลี่และแคว้นต้าเยียนเป็นการเชื่อมสัมพันธ์และมิตรภาพระหว่างสองแคว้น จะทำลายไม่ได้ ต่อให้เป็นข้าก็ไม่ได้
ดังนั้นข้าเลยลบหลู่ ทุบตี ยกย่องเมียรองเหนือภรรยาต่อองค์หญิงห้า—ก่อนหน้านี้ไม่นานองค์หญิงห้าแท้งลูก ข้าก็เป็นคนสั่งให้ทำเอง
ข้าต้องทนดูหวางเฟยของตนเองคลอดลูกขององครักษ์ออกมารึ เป็นพวกเจ้า พวกเจ้าทนได้รึ?” อ๋องเก้าพูดอย่างหนักแน่นเน้นทีละคำ
พอพูดจบ ชาวบ้านยิ่งวิพากษ์วิจารณ์หนักขึ้น พากันเห็นด้วยกับคำพูดของอ๋องเก้า
เพราะไม่มีบุรุษคนใดทนเห็นเมียตนเองคบชู้กับบุรุษอื่นได้หรอก
องค์หญิงห้าสีหน้าซีดเผือด ริมฝีปากซีดไร้สีเลือด แต่นางจะหวาดหวั่นไม่ได้ และยิ่งลนลานไม่ได้ ไม่เช่นนั้นวันนี้ที่นี่จะเป็นที่ตายของนางเอง
“อ๋องเก้า เจ้าหาองครักษ์มาคนหนึ่งแล้วใส่ร้ายความบริสุทธิ์ของข้า ดูจะล้อเล่นกันเกินไปนัก ข้าไม่รู้จักเขาเสียหน่อย!” องค์หญิงห้าปฏิเสธทันที
“ปล่อยมัน!” อ๋องเก้าแค่นเสียงเย็น คว้าคอเสื้อองครักษ์คนนั้น “เจ้าบอกทุกคนสิว่าเจ้ารู้จักองค์หญิงห้าหรือไม่กันแน่?”
องครักษ์สีหน้าตึงเครียด หันมององค์หญิงห้าทันที และมองอ๋องเก้าต่อ “เรียนท่านอ๋อง ข้าน้อยมิรู้จักองค์หญิงห้า!”
คำพูดเดียวทำเอาอ๋องเก้างงไปเลย เขาโกรธจนซัดหมัดใส่องครักษ์คนนั้นไปหนึ่งหมัด
“สารเลว เจ้ากล้าพูดปด ตอนแรกเจ้าบอกข้าว่าเจ้าเป็นชายชู้ขององค์หญิงห้า โรมรันพันตูกับนางทุกคืน ขนาดตำแหน่งไฝแดงบนหน้าอกนางเจ้ายังบอกได้ละเอียดนัก ตอนนี้กลับมาบอกว่าไม่รู้จักองค์หญิงห้า เจ้าอยากตายรึ?” อ๋องเก้าเดือดจัด
“ท่านอ๋อง ต่อให้ท่านจะใช้ครอบครัวข้าน้อยมาข่มขู่ ข้าก็ไม่ยอมใส่ร้ายองค์หญิงห้าหรอก!” องครักษ์บอกอย่างน่าสงสาร
พอชาวบ้านได้ยิน ก็โพล่งด่ากราดอ๋องเก้าทันที “อ๋องเก้าทำไมหน้าไม่อายเช่นนี้ กล้าใส่ความองค์หญิงห้าต่อหน้าทุกคน คิดว่าแคว้นต้าเยียนเรารังแกกันได้ง่ายๆงั้นรึ?”
“นั่นสิ เสียแรงเมื่อครู่ข้ายังเห็นใจท่าน สุดท้ายท่านกลับเป็นคนเลวที่จิตใจชั่วร้ายเช่นนี้”
“ปกติตนเองรังแกลบหลู่องค์หญิงห้าก็แย่แล้ว ยังพาคนมาเป็นพยานเท็จถึงแคว้นต้าเยียนอีก ไม่กลัวขายหน้าเลยนะ”
“ขอฝ่าบาทลงโทษอ๋องเก้าด้วย เขากล้าลบหลู่องค์หญิงแคว้นต้าเยียนอย่างข้า ช่างชั่วร้ายนัก!”
ชาวบ้านพากันขอร้องแทนองค์หญิงห้า ต่างพากันเกลียดอ๋องเก้าแคว้นเป่ยลี่ผู้นี้ไปแล้ว
องค์หญิงห้าเองก็มีสีหน้าพอใจ แค่คนไร้ค่าโง่งมคนหนึ่ง คู่ควรมาต่อกรกับตนรึ สมน้ำหน้า
อ๋องเก้าเดือดจัด ไม่คิดว่าเรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้ เขาหันมองหยุนถิงทันที
“ฝ่าบาท ในเมื่อองค์หญิงห้ากับอ๋องเก้าถกเถียงกันเช่นนี้ สู้มาลองยาสารภาพความจริงที่หลายวันก่อนหม่อมฉันให้คนนำมาถวายท่านดีกว่า นั่นเป็นยาที่ทำมาเพื่อใช้สอบสวนคนร้ายโดยเฉพาะ วันนี้โอกาสดี ให้ชาวบ้านมาพิสูจน์ด้วยกันเลย ดูว่าต่อไปใครจะกล้าพูดเท็จกับฝ่าบาทอีกหรือไม่!” หยุนถิงเสนอ
“ฮะฮะ ข้อเสนอของหยุนถิงนี่ดีนัก ข้าเองก็อยากเห็นผลของยาสารภาพความจริงนี้เช่นกัน!” ฮ่องเต้เห็นด้วย
ซูกงกงรีบควักขวดยาออกมาจากในอกเสื้อทันที “ฝ่าบาท นี่คือยาสารภาพความจริง”
“ในเมื่อองค์หญิงห้ากับอ๋องเก้าต่างบอกว่าตนพูดจริง เช่นนั้นก็ให้พวกเขากินกันคนละเม็ด!” หยุนถิงบอก