จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 772 ส่งเขาไปที่ห้องข้า
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 772 ส่งเขาไปที่ห้องข้า
จวินหย่วนโยวขมวดคิ้วเล็กน้อย “เจ้าเมืองเข้าใจผิดแล้ว ข้าเพียงแค่ดื่มเหล้าไม่เก่ง แก้วเดียวก็เมาแล้ว กลัวจะทำเสียเรื่อง”
พอหวงฉือได้ยิน หายโกรธในชั่วขณะนั้นเลย ทว่าหัวเราะเสียงดังออกมา “คุณชายถ่อมตัวไปแล้ว พวกท่านเดินทางมากันลำบาก ดื่มเสร็จแล้วกลับไปนอนหลับสบายพอดี ช่วงกลางคืนจะมีเรื่องอะไรได้เล่า จวนเจ้าเมืองของข้าคุ้มครองแน่นหนา จะไม่เกิดเรื่องใดๆ เด็ดขาด คุณชายวางใจให้ดีก็พอแล้ว”
“พูดเช่นนี้ ข้าก็ไม่เกรงใจแล้ว” จวินหย่วนโยวพูดอยู่ ยกเหล้าแก้วนั้นขึ้นแล้วดื่มไป
พอหยุนถิงและคนอื่นเห็น ก็ยกแก้วเหล้าดื่มจนหมดเช่นกัน
หวงฉือเห็นทุกคนดื่มเหล้าแก้วนั้นไปกันหมด รอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งเพิ่มมากขึ้น คืนนี้เขาคงได้สนุกเพลิดเพลินแล้ว
หยุนถิงเห็นท่าทางของเจ้าเมืองอยู่ในสายตาทั้งหมด เป็นอย่างที่นางเดาไว้ตามคาด เจ้าเมืองคนนี้ไม่ปกติ หนำซ้ำเขายังจ้องมองจวินหย่วนโยวมาโดยตลอด นี่ทำให้ในใจหยุนถิงไม่สบายใจมาก
แต่ว่านางไม่ได้แสดงออกมา กลับอยากดูเสียหน่อยว่าเจ้าเมืองคนนี้มีแผนการอะไรซ่อนอยู่บ้างกันแน่
“ทุกคนตามสบายกันเถิด ไม่ต้องระมัดระวังตัวแต่อย่างใด มีอะไรไม่คุ้นชินก็บอกได้ทั้งนั้น!” หวงฉือพูดอย่างสุภาพ
ถ้าไม่ใช่มองออกว่าเจตนาของเขาไม่บริสุทธิ์ เพียงแค่หน้าตาดูมีเมตตาใบนั้น ยังจะทำให้คนคิดว่าเขาเป็นดังเช่นหน้าตาจริงๆ
“เจ้าเมืองถ่อมตัวไปแล้ว เช่นนี้ก็ดีมากแล้ว” จวินหย่วนโยวตอบ
หยุนถิงก็ไม่เกรงใจเช่นกัน อาหารในจวนเจ้าเมืองนี้ยอดเยี่ยมเสียจริง โดยเฉพาะแกงปลิงทะเลนี้ กุ้งผัดนี้ ยังมีอาหารทะเลอย่างอื่น รสชาติดียิ่งกว่าของพวกเขาแคว้นต้าเยียนเสียอีก
ฉะนั้นทุกคนกินขึ้นมาอย่างตะกละตะกลาม โดยเฉพาะหยุนถิง กั้งและแมงกะพรุนตรงหน้าก็กินจนเกือบเกลี้ยงแล้ว
จวินหย่วนโยวยกสองจานนั้นตรงหน้าตนเองไปไว้ด้านหน้าหยุนถิงทันที
“เจ้าคนนี้กินจุนัก ข้ากินมากปานนี้ไม่ไหว ตกเป็นของเจ้าแล้ว”
“ขอบคุณคุณชายขอรับ!” หยุนถิงพูดจาสอดคล้องกัน กินขึ้นมาอย่างไม่เกรงใจสักนิด
หวงฉือมองเห็นเหตุการณ์ฉากนี้ ส่งเสียงหัวเราะเบาๆ “คุณชายเห็นอกเห็นใจลูกน้องเช่นนี้ หาได้ยากจริงเชียว เป็นข้าสะเพร่าเอง เข้ามาทียกอาหารมาให้สหายผู้นี้อีกชุดหนึ่ง!”
“ขอรับ!” เด็กหนุ่มรับใช้ด้านข้างรีบไปจัดการ ไม่นานนักก็ยกอาหารทะเลเจ็ดแปดจานเข้ามาแล้ว
“ขอบพระคุณเจ้าเมืองมากขอรับ เจ้าเมืองช่างดีเสียจริง” หยุนถิงกินอย่างเอร็ดอร่อย พูดเสร็จก็ไม่เกรงใจแม้แต่น้อย
“สหายเกรงใจแล้ว ในเมื่อชอบเช่นนั้นก็กินมากๆ หน่อย”
เจ้าเมืองพูดคุยกับจวินหย่วนโยวไม่เท่าไร แก้มของจวินหย่วนโยวก็แดงขึ้นกะทันหัน มึนศีรษะพอสมควร “เจ้าเมือง ข้า——” ยังพูดไม่ทันจบ ก็หมดสติลงไป
พอหยุนถิงเห็น ทำหน้าเป็นห่วง “คุณชาย คุณชายท่านเป็นอะไรขอรับ?”
นางอยากจะเดินเข้าไปดูอาการ แต่เพิ่งลุกขึ้นยืน เวียนศีรษะอย่างหนัก ดวงตาพร่ามัวหมดสติไปแล้ว
“คุณชาย คุณชายขอรับ!” หลิงเฟิงกับหลงเอ้อท่าทางระวัง อยากจะไปหยิบกระบี่แต่ก็สลบไปเช่นกัน
มุมปากหวงฉือเผยความพึงพอใจออกมา รีบส่งสายตาให้ลูกน้องทันที ลูกน้องหลายคนนั้นตรวจดูหยุนถิงและคนอื่นๆ มั่นใจว่าพวกเขาหมดสติลงไปกันจริงๆ ถึงวางใจแล้ว
“ส่งคุณชายผู้นี้ไปที่ห้องข้า คนอื่นๆ พาตัวไปที่คุกใต้ดิน ข้าจะค่อยๆ เพลิดเพลิน วันหนึ่งคนหนึ่งถึงจะสนุก!” หวงฉือหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ขอรับ!” ลูกน้องหลายคนรีบเข้ามาโดยเร็ว นำคนไปทั้งหมด
ในคุกใต้ดิน
ลูกน้องนำหยุนถิงและคนอื่นโยนเข้าในคุกใต้ดิน ปิดประตูคุกเสร็จก็ออกไป
ได้ยินฝีเท้าของพวกเขาเดินห่างไป หยุนถิงถึงลืมตาขึ้นมา หลิงเฟิงและหลงเอ้อที่อยู่ด้านข้างตื่นขึ้นมาตามแล้ว
ความจริงเดิมทีพวกเขาไม่ได้หมดสติ เพียงแค่ใช้แผนซ้อนแผนเท่านั้น หยุนถิงเดาได้ว่างานเลี้ยงมีปัญหา ฉะนั้นจึงให้ทุกคนกินยาเอาไว้ก่อนล่วงหน้า
หยุนถิงสังเกตดูคุกใต้ดินนั้นแวบหนึ่ง ตกใจจริงแล้ว เพราะในคุกใต้ดินไม่ใช่มีเพียงพวกเขา ยังขังคนไว้มากมาย หนำซ้ำคนเหล่านั้นล้วนเป็นผู้ชายเหมือนกันหมด ยังมีแต่คนที่อายุน้อยและรูปร่างกำยำ
เพียงแต่ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด ผมเผ้ายุ่งเหยิง มองใบหน้าไม่ชัด มีบางคนอ่อนแอสุดจะทน นอนอยู่บนพื้นลักษณะปางตาย พอมองก็รู้ว่าเคยโดนทรมาน
“นายท่าน เหตุใดถึงมีผู้ชายมากปานนี้ขอรับ?” หลงเอ้อก็ตกใจเช่นกัน
“มิน่าก่อนหน้านี้คนที่พวกเราเห็นอยู่ข้างนอก ล้วนเป็นผู้หญิงทั้งสิ้น หรือว่าผู้ชายในเมืองนี้ล้วนถูกจับมาไว้ที่นี่แล้ว เจ้าเมืองคนนี้จับผู้ชายมากขนาดนี้มาทำอะไร?” หลิงเฟิงไม่เข้าใจ
“ความชอบของชายรักชาย บางทีต้องการผู้ชายมาร่วมรัก” หยุนถิงตอบกลับมานิ่งๆ ในละครทั่วไปไม่ใช่แสดงกันอย่างนี้หรือ
หลงเอ้อตื่นตกใจอย่างยิ่ง “คาดไม่ถึงเจ้าเมืองมีความชอบอันนี้ นี่ช่างน่าสยองขวัญเกินไปแล้ว พวกเราต้องรีบออกไปจากที่นี่ คุณชายยังถูกเขาพาไปที่ห้องอีกเล่า”
ยังไม่รอหยุนถิงเอ่ยปาก ชายคนหนึ่งที่อยู่ห้องขังด้านข้างเอ่ยปากอย่างอ่อนแรง “มาที่นี่แล้ว พวกเจ้าอย่าคิดออกไปเลย เจ้าเมืองก็คือคนสารเลว ได้เพียงรอความตาย”
หยุนถิงมองทางเขา “พี่ชาย นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ เหตุใดเจ้าเมืองต้องจับพวกท่านมาด้วย?”
“เดิมทีเขาไม่ใช่เจ้าเมือง แต่ว่าเป็นโจรกลุ่มหนึ่ง พอฆ่าเจ้าเมืองของพวกเราแล้ว ยังปล้นทั้งเมืองอีก ให้พวกเราฟังคำสั่งเขา
พวกเราย่อมไม่ยินยอมอยู่แล้ว ทุกคนก็เคยต่อต้านด้วยกัน แต่เขามีลูกน้องเยอะมาก ล้วนเป็นพวกที่โหดเหี้ยมอำมหิต สังหารผู้บริสุทธิ์ ฆ่าชาวบ้านลงไม่น้อย
ชาวบ้านของที่นี่ล้วนเป็นคนไม่มีอาวุธใดๆ จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ที่ไหนเล่า จากต่อต้านในตอนแรกจนต่อมาหวาดกลัว ประนีประนอม กระทั่งเชื่อฟัง
หลายคนอยากจะหนีไป กลับถูกเขาเผาเรือแล้ว ทะเลอันกว้างใหญ่ เดิมทีไม่ที่ให้หนีได้ สุดท้ายทุกคนได้เพียงยอมรับชะตากรรม
หวงฉือคนนั้นเป็นคนสารเลว เขามีความชอบชายรักชายและทารุณคน จับผู้ชายทุกคนในเมืองมาหมด คนแก่ก็เฆี่ยนตีทำให้ทรมาน ส่วนคนหนุ่มก็โดนเขา——
โดยรวมเขาก็เป็นสัตว์เดรัจฉาน ในบรรดาพวกเรามีหลายคนไม่อาจทนเหยียดหยามเช่นนี้ได้ เลือกฆ่าตัวตายไป
แต่หวงฉือกลับนำคนในครอบครัวของคนที่ฆ่าตัวตายมาทรมานจนตาย เด็กสาวขายไปให้ซ่องโสเภณี ส่วนหญิงโตให้เหล่าลูกน้องของเขาข่มขืนย่ำยี ทรมานพอแล้วยังตัดหัวแขวนไว้หน้าประตูเมืองเพื่อข่มขู่
ทำเช่นนี้ ทุกคนอยากตายก็ไม่กล้าตาย ตัวเองตายแล้วไม่ลำบาก แต่คนในครอบครัวเล่า ไม่อาจไม่สนใจความเป็นความตายของพวกเขาได้” คนผู้นั้นพูดอย่างอ่อนแรง
ทุกคนสาปแช่งอย่างโกรธแค้น กลับไม่มีทางทำอะไรได้
โดยเฉพาะเด็กหนุ่มสองคนที่ด้านข้าง ดูขึ้นมาลักษณะอายุสิบต้นๆ สายตาเซื่องซึม ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยรอยเลือด นอนอยู่บนพื้นท่าทางปางตาย มองจนหยุนถิงเห็นใจมากนัก
นางเดินเข้าไป ล้วงขวดยาอันหนึ่งออกมาแล้วเทยาสองเม็ดให้เด็กหนุ่มสองคนนั้น “นี่คือยาที่แก้ปวดและห้ามเลือด กินเสียเถิด จะได้ไม่เจ็บเพียงนั้นแล้ว”
เด็กหนุ่มสองคนนั้นมองหยุนถิงแวบหนึ่ง และมองยาเม็ดนั้นแล้ว ลังเลอยู่บ้าง
“ยาของเจ้านายข้าแพงและหายากนักเชียว พวกเจ้าสองคนยังกล้าสงสัย นายท่านพวกเราเอาไว้ขายเถิดขอรับ!” หลงเอ้ออยากยื่นมือเข้ามา
เด็กหนุ่มคนหนึ่งในนั้นรีบหยิบยาเม็ดหนึ่งยัดเข้าปาก “ไม่ว่าอย่างไรก็ตายทั้งนั้น ข้าไม่กลัว”
เด็กหนุ่มอีกคนหนึ่งพอเห็นเข้า ก็หยิบขึ้นมากินแล้ว
“หวงฉือคนนี้สมควรตายเสียจริง ถ้าให้โอกาสพวกเจ้าเกิดใหม่อีกหน ให้พวกเจ้ามีชีวิตรอดออกไป พวกเจ้ากล้าเสี่ยงสักตั้งหรือไม่?” หยุนถิงพึมพำอย่างเย็นชา
ทุกคนฟังจนตื่นตกใจ ล้วนมองเข้าไปอย่างไม่อยากเชื่อ “เจ้า เจ้าพูดอะไร?”
“ข้าบอกว่า ข้าสามารถช่วยพวกเจ้าออกไปจากที่นี่ได้ แต่ว่าต้องการให้พวกเจ้าร่วมมือด้วยกัน!” หยุนถิงเอ่ยปากอย่างจริงจัง
“เรื่องนี้จริงหรือ?” คนที่เพิ่งพูดเมื่อครู่นั้นถามขึ้น
“เจ้าโง่หรือไร คำพูดนี้ก็เชื่อ ถ้าพวกเขามีฝีมืออันนี้จะโดนจับเข้ามาได้เช่นไรเล่า?” อีกคนหนึ่งโต้แย้ง
ชั่วขณะนั้นคนอื่นๆ รู้สึกว่ามีเหตุผล ต่างมองทางหยุนถิงและสองสามคนนั้นอย่างสงสัย