จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 779 เพราะนางฆ่าท่านแม่ข้าแล้ว
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 779 เพราะนางฆ่าท่านแม่ข้าแล้ว
พอจวินหย่วนโยวได้ยินคำพูดนี้ โจมตีเข้าไปอีกทีหนึ่งตามคาด คราวนี้ฮวาเชียนจั่นไม่ได้จงใจโดนต่อย แต่ว่าหลบออกไปด้านข้างอย่างว่องไวดุจสายฟ้าแลบ
เขายื่นมือเช็ดเลือดที่มุมปากทิ้ง บนหน้าไม่ได้ขอความเมตตาและเยาะเย้ยถากถางอย่างเมื่อสักครู่อีก ทว่าเคร่งขรึมที่สุด
“หมัดเมื่อสักครู่นั้น ถือเป็นการชดใช้ที่ลานแสดงงิ้วเมื่อคราวก่อน ต่อไปนี้พวกเรามาเจรจาเรื่องของเกาะเทียนหลงเสียหน่อยเถิด!” ฮวาเชียนจั่นพึมพำอย่างเย็นชา
จวินหย่วนโยวขมวดคิ้วเล็กน้อย เขามองออกว่าเมื่อสักครู่ฮวาเชียนจั่นจงใจเก็บซ่อนความสามารถ ถ้าลงมือขึ้นมาจริง กลัวว่าฝีมือคงพอกันกับตนเอง
เห็นทุกคนเพียงแค่มองเขาอย่างเย็นชา ไม่ได้ตอบรับ ฮวาเชียนจั่นจึงพูดต่อไปว่า “พวกเจ้าคงไม่ได้คิดจริงๆ ว่าวี่อู๋เสียสามารถพาพวกเจ้าไปเกาะเทียนหลงได้กระมัง หรือว่าเขาไม่ได้บอกพวกเจ้า เขาก็คือหลานชายของเจ้าทะเล พวกเจ้าคิดว่าเขาจะช่วยพวกเจ้าจัดการคนในครอบครัวของตนเองหรือ?”
พอพูดออกมา ทุกคนต่างมองทางวี่อู๋เสีย
“ที่เขาพูดมาเป็นความจริง?” จวินหย่วนโยวถามด้วยเสียงเย็นชา
“ถ้าเจ้าไม่พูดความจริง ข้าจะไม่ถือสาให้เจ้ากินยาพูดความจริงสักเม็ด คนที่ลอบฆ่าพวกเจ้าเมื่อครู่ ยังมีชีวิตรอดอยู่สองคน ก็คือกินยาพูดความจริงนี้แล้วสารภาพมาหมดเปลือกเชียว!” หยุนถิงพูดอยู่แล้วเขย่าขวดยาในมือไปมา
วี่อู๋เสียตกใจจนตัวสั่น “อย่า ข้าพูดแล้วยังไม่พออีกหรือ เจ้าทะเลเป็นอาของข้าจริงๆ แต่ข้าโตมาจนปานนี้ยังไม่เคยเห็นเขามาก่อน ตอนนี้ข้าเองก็เอาชีวิตไม่รอด มีกะจิตกะใจที่ไหนไปสนใจอย่างอื่นเล่า”
“ฉะนั้นตอนนี้พวกเจ้ารู้แล้วกระมัง คำพูดของเขาเชื่อไม่ได้!” ฮวาเชียนจั่นเอ่ยปาก
“คำพูดของเขาเชื่อไม่ได้ คำพูดของเจ้าเชื่อได้หรือ เหตุใดเจ้าต้องพาพวกเราไปที่เกาะเทียนหลง?” หยุนถิงสอบถามด้วยเสียงเย็นเยือก
“หาสถานที่ปลอดภัยคุยกันดีกว่า!” ฮวาเชียนจั่นแนะนำ
หยุนถิงมองจวินหย่วนโยวแวบหนึ่ง สีหน้าจวินหย่วนโยวเย็นเฉียบอึมครึม ยังพยักหน้าให้แล้ว
ตอนนี้วี่อู๋เสียไม่น่าเชื่อ ลองฟังฮวาเชียนจั่นคนนี้กลับไม่เสียหาย
“หลงยีพวกเจ้าดูเขาไว้!” จวินหย่วนโยวสั่งไว้ประโยคหนึ่ง เดินตามฮวาเชียนจั่นไปกับหยุนถิงแล้ว
เดินมาถึงอีกด้านของเรือนที่ไฟไหม้ ฮวาเชียนจั่นถึงเอ่ยปากบอก “เพราะฮูหยินเจ้าทะเลฆ่าท่านแม่ของข้าแล้ว ด้วยความสามารถของข้าฆ่านางไม่ได้ ฉะนั้นข้าต้องการความช่วยเหลือของพวกเจ้า!”
“เหตุใดนางถึงฆ่าแม่เจ้าแล้ว?” หยุนถิงถาม
“เพราะท่านแม่ข้าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของเขตทะเลนิรนาม ยิ่งเติบโตมาด้วยกันกับเจ้าทะเลตั้งแต่เด็ก สามารถพูดได้ว่าเป็นคู่ที่รู้ใจกันมาตั้งแต่เด็ก
ฮูหยินเจ้าทะเลในตอนนี้ชอบเจ้าทะเล ยิ่งอิจฉาความสัมพันธ์ของท่านแม่ข้ากับเจ้าทะเล ฉะนั้นถึงวางแผนทำร้ายท่านแม่ข้า
นางไม่เพียงฆ่าท่านแม่ข้า ยังให้คนกล่าหาว่าข้าเป็นตัวซวย นำหายนะมาสู่พ่อแม่ จงใจให้ท่านพ่อข้าส่งข้าไป
ตั้งแต่เด็กข้าไม่ได้รับความชื่นชอบจากคนในตระกูลและญาติผู้ใหญ่ในครอบครัว ส่วนทุกอย่างของตระกูลฮวา ตอนนี้ถูกแม่เลี้ยงข้ากับน้องรองยึดครองไป
ส่วนท่านพ่อเลอะเทอะคนนี้ของข้าตอนนี้ป่วยจนเกินจะเยียวยา แต่พวกเขากลับไม่ให้ข้ากลับไปเยี่ยม ก่อนหน้านี้ไม่นานข้าแอบกลับไปหนหนึ่ง พบว่าเขาไม่ได้ป่วยแต่ว่าโดนพิษเข้า
ถึงแม้เขาไม่กรุณาต่อข้า แต่ยังถือว่าเป็นพ่อข้า ยิ่งไปกว่านั้นทุกอย่างในตระกูลเดิมทีก็เป็นของข้า ฉะนั้นข้าต้องการให้พวกเจ้าช่วยข้าแย่งทุกอย่างที่เป็นของข้ากลับมา!” ฮวาเชียนจั่นพูดอย่างเคียดแค้น
“ข้าจะรู้ได้เช่นไรว่าที่เจ้าพูดมาเป็นเรื่องจริงหรือโกหก เจ้าอยากได้อำนาจปกครองตระกูลกลับไป เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเราด้วย?” จวินหย่วนโยวพูดอย่างเฉยชา
“ที่ข้าพูดมาย่อมเป็นเรื่องจริงอยู่แล้ว พวกเจ้าไม่ใช่อยากไปเขตทะเลนิรนามเหมือนกันหรือ ในร่างกายของจวินซื่อจื่อมีหนอนกู่ผีเสื้อโลหิต
ส่วนท่านแม่ของซื่อจื่อเฟยก็โดนหนอนกู่ผีเสื้อโลหิตถึงตายไป เท่าที่ข้ารู้หนอนกู่ผีเสื้อโลหิตนี้เป็นหนอนกู่ลับของฮูหยินเจ้าทะเล
ทั่วทั้งเขตทะเลนิรนามมีเพียงนางที่ควบคุมหนอนกู่นี้ได้ ในเมื่อเป้าหมายเหมือนกัน ย่อมสามารถร่วมมือกันได้
หนำซ้ำพวกเจ้าไม่คุ้นเคยกับเขตทะเลนิรนาม มีคนที่เกิดและเติบโตในพื้นที่เยี่ยงข้า ย่อมจะลดความวุ่นวายลงไม่น้อย!” ฮวาเชียนจั่นพูดต่อไป
ถึงแม้จวินหย่วนโยวจะสงสัยเขาว่าพูดความจริงหรือไม่ แต่ที่เขาพูดมาไม่ผิด เขตทะเลนิรนามสำหรับพวกเขานั้นก็คือตำแหน่งที่อยู่ มีคนคุ้นเคยย่อมสะดวกกว่าจริงๆ
“ได้ ข้ารับปากร่วมมือกับเจ้า เจ้าต้องรับรองความปลอดภัยของพวกเราที่เกาะเทียนหลง!” จวินหย่วนโยวเอ่ยปาก
“ตกลง!”
คืนนั้น จวินหย่วนโยวกับหยุนถิงและคนอื่นกลับไปพักผ่อนในเรือนก่อนหน้านี้ ฮวาเชียนจั่นกับอี้ชิวตามไปแล้ว วี่อู๋เสียถูกกดจุดเอาไว้ เงียบสงบทั้งคืน
เช้าตรู่วันต่อมา ทุกคนตื่นมาแล้วเห็นทั่วทั้งเกาะกลายเป็นซากปรักหักพัง แม้แต่ผืนดินก็ไหม้เกรียมด้วย
หยุนถิงมองเกาะที่กว้างขวางอยู่ “ท่านพี่ ในเมื่อเกาะนี้กลายเป็นซากปรักหักพังแล้ว ข้าคิดว่าสามารถเปลี่ยนที่นี่เป็นเกาะเสบียงของพวกเราได้”
“ความคิดนี้ดีเชียว”
ทั้งสองคนกลับห้องไปศึกษาดูสักรอบ จากนั้นเขียนจดหมายให้อินทรีทองส่งกลับไป จากนั้นคนกลุ่มนี้จึงขึ้นเรือไป
หลงยีนำอาหารเช้าออกมาจากท้องเรือ แบ่งให้ทุกคน พอมาถึงวี่อู๋เสียตรงนั้น หลงยีอ้อมผ่านไปโดยตรง
“นี่ เจ้ามีสิทธิ์อะไรไม่ให้ข้ากินข้าว?” วี่อู๋เสียพูดอย่างหงุดหงิด
“เจ้าไม่คู่ควร!”
คำพูดนี้ ทำให้วี่อู๋เสียยิ่งกลัดกลุ้มกว่าเดิม “น่ารังเกียจ เหตุใดข้าถึงไม่คู่ควร? ฮวาเชียนจั่นเจ้าหมอนั่นเจ้าเล่ห์ปลิ้นปล้อนที่สุด พวกเจ้าระวังโดนเขาหลอกแล้วยังต้องช่วยทำประโยชน์ให้เขาอีกก็แล้วกัน!”
“ปากดีปานนี้ ยิ่งไม่ต้องกินแล้ว!” หลงเอ้อหยิบผ้าก้อนหนึ่งมายัดในปากเขา อุดปากเขาไว้
ฮวาเชียนจั่นมองของที่พวกเขากิน “จากที่นี่กว่าจะไปถึงเขตทะเลนิรนามยังเป็นระยะทางสิบกว่าวันได้ ข้าออกหนึ่งหมื่นตำลึง ดูแลอาหารการกินของพวกข้าสองคน เป็นเช่นไรเล่า?”
“หนึ่งหมื่นตำลึงกระจอกๆ ยังอยากกินข้าวสิบกว่าวัน ตำรับลับโดยเฉพาะผู้เดียวของซื่อจื่อเฟยของพวกข้า มีเงินก็หาไม่ได้!” หลงเอ้อพูดอย่างเหยียดหยาม
“เช่นนั้นก็หนึ่งแสนตำลึง!”
“ตกลง!” หลงเอ้อรีบรับเงินในมือฮวาเชียนจั่นเข้ามาทันใด แล้วยื่นบะหมี่ถ้วยร้อนชุดหนึ่งเข้ามา
ฮวาเชียนจั่นรับเข้ามา ให้อี้ชิวชุดหนึ่ง เห็นทุกคนเปิดออกแล้วเทน้ำเข้าไปส่วนหนึ่ง พวกเขาก็ทำตามเช่นกัน
ไม่นานนัก ก็มองเห็นของชิ้นนั้นมีควันลอยขึ้นกะทันหัน ยังร้อนขึ้นเอง นี่ทำให้ฮวาเชียนจั่นประหลาดใจอย่างไม่ต้องสงสัย
ทุกครั้งที่ออกทะเลต้องเดินทางเดือนสองเดือน สิ่งที่กินย่อมหนีไม่พ้นหมั่นโถว อาหารทะเลเอาไว้ข้ามคืนไม่ได้ ตกปลามาก็ไม่มีทางทำให้สุก สามารถกินของร้อนสักถ้วยอย่างนี้ไม่ง่ายเสียจริง
ถ้าทำให้อาหารนี้เป็นที่นิยมทั้งเขตทะเลนิรนาม ต้องทำกำไรได้มหาศาลเป็นแน่
ฮวาเชียนจั่นรีบไปหาหยุนถิงเพื่อบอกความคิดนี้ สำหรับเรื่องการค้าที่ทำเงิน หยุนถิงไม่เคยปฏิเสธอยู่แล้ว สองคนนี้ก็เจรจาการค้าเกี่ยวกับอาหารด้วยกันแล้ว
ทางนี้ แคว้นชางเยว่
ชางหลันเย่ได้รับข่าวที่หยุนถิงส่งเข้ามา มือที่ถือจดหมายฉบับนั้นไว้สั่นเทาอยู่
นางไปที่เขตทะเลนิรนามแล้ว และยังเจอโจรสลัดแล้วด้วย ถึงแม้เป็นเพียงรอบนอกของเขตทะเล แต่ขอเพียงเป็นสิ่งที่หยุนถิงทำไม่มีสิ่งที่ทำไม่ได้โดยเด็ดขาด
คาดไม่ถึงนางอยากจะพัฒนาแนวชายฝั่งทะเล ดูแลการค้าทางทะเล ในจดหมายยังส่งรูปการสร้างเรือรบมาแล้ว ดูพิมพ์เขียวนั้นอยู่ ชางหลันเย่ฮึกเหิมยิ่งนัก
ตอนนี้ทั้งสี่แคว้นสงบสุข ภายในระยะสั้นๆ จะไม่มีความวุ่นวายใดๆ แต่ว่าเขตทะเลนิรนามก็ไม่อาจรู้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านี้พวกเขาส่งคนมาลอบฆ่าหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวด้วย
“เจว๋เฟิง เจ้าไปหาช่างสร้างเรือที่ดีที่สุดมา สร้างออกมาตามบนภาพวาดอันนี้ อีกอย่างส่งหน่วยกล้าตายที่ก่อนหน้านี้พวกเราฝึกฝนไว้ไปที่เขตทะเลนิรนาม ไปสนับสนุนหยุนถิงกับจวินหย่วนโยว” ชางหลันเย่สั่งการ
“พ่ะย่ะค่ะ!” เจว๋เฟิงรับพิมพ์เขียวนั้นเข้ามาแล้วมองแวบหนึ่ง ทั้งตื่นตกใจทั้งแปลกใจ
แต่ว่าความสามารถของซื่อจื่อเฟยเขารู้ดีมาก มีเพียงสิ่งที่เจ้าคิดไม่ถึง แต่ไหนแต่ไรไม่มีสิ่งที่นางทำไม่ได้
เจว๋เฟิงเพิ่งเดินออกไป ต่อมาชางหยุนสี่ก็เดินเข้ามา ไม่พูดพร่ำทำเพลงคุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึก “เสด็จพี่ โปรดพระราชทานงานสมรสให้หม่อมฉันด้วยเพคะ!”