จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 784 ท่านไม่ต้องคิดมาเอาชนะใจข้า
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 784 ท่านไม่ต้องคิดมาเอาชนะใจข้า
ทางนี้ เสวี่ยเชียนโฉวรีบพาหยุนหลี ยังมีคนอื่นมาที่ชายฝั่งของเขตทะเลนิรนาม มองทะเลที่กว้างขวางไร้ขอบเขตผืนนั้น หยุนหลีดูดีใจมาก
“ท่านอา พี่หญิงพวกเขาออกเดินทางจากที่นี่ พวกเราก็ออกเดินทางกันเถิด ข้าอยากเจอกับพี่หญิงเร็วๆ หน่อย!”
“เขตทะเลนิรนาม ไม่แน่นอน ถึงแม้พวกเรามีแผนที่ที่พี่หญิงของเจ้าวาด แต่ในทะเลนี้มีอันตรายมากมาย เจ้าต้องพิจารณาให้ดี” เสวี่ยเชียนโฉวเอ่ยปาก
“กลัวอะไรเล่า ด้านบนนั้นพี่หญิงข้าวาดออกจะชัดเจน หนำซ้ำมีท่านอาอยู่ทั้งคน ข้าจะกลัวอะไรเล่า!” หยุนหลีตอบกลับ
“ในเมื่อเจ้าไว้ใจข้าเพียงนี้ เช่นนั้นข้าก็เดินสู่ความยากลำบากนี้ด้วยกันกับเจ้า!” เสวี่ยเชียนโฉวพร้อมเสี่ยงภัยแล้ว แต่สีหน้าดูแย่มากอย่างชัดเจน
“ท่านอาท่านคงไม่ได้ป่วยกระมัง เหตุใดสีหน้าดูแย่ปานนี้?” หยุนหลีถามอย่างห่วงใย
“ไม่เป็นไร ก็แค่พักผ่อนไม่พอ!”
ลูกน้องคนหนึ่งด้านหลังเพิ่งอยากบอกว่าเจ้าอุทยานของพวกเขากลัวน้ำ ก็ถูกเสวี่ยเชียนโฉวส่งสายตาเย็นเฉียบห้ามไว้ เขาจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก
บริเวณไม่ไกลนัก มีหลายสิบคนเดินเข้ามา ก็คือคนของเป่ยหมิงฉี่ เขตทะเลที่นี่อยู่ห่างจากแคว้นเป่ยลี่ไม่ไกล ดังนั้นเป่ยหมิงฉี่ได้รับจดหมายของหยุนถิงจึงรีบส่งคนเข้ามา
ผู้ที่นำมาก็คืออ๋องเก้า เขาไม่ได้ขี้ขลาดเช่นเมื่อก่อนแล้ว เขาในเวลานี้อารมณ์ฮึกเหิม และกระหยิ้มยิ่มย่องยิ่งนัก ราวกับมีเรื่องดีใหญ่โตอะไร
หยุนหลีดูไม่เข้าใจมาก “อ๋องเก้า ท่านทำท่าทางกระตือรือร้นเยี่ยงนี้ หรือว่าเก็บทองได้แล้ว?”
“แม่ตัวดีพูดอะไรเหลวไหลกันเล่า ข้ากลับมาคึกคักดังเดิมแล้ว เสด็จพี่เลยส่งข้าไปช่วยพวกเจ้าที่เขตทะเลนิรนาม ข้ายังสั่งคนนำทางเรือแล้ว ไปด้วยกันกับพวกเจ้าพอดี” อ๋องเก้าทำหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง
ตั้งแต่คราวก่อนหลังเปิดโปงองค์หญิงห้าต่อหน้าผู้คน หยุนถิงก็ช่วยรักษาให้อ๋องเก้า ถึงพบว่าเขาไร้สมรรถภาพเพราะโดนพิษเข้า และพิษนี้เป็นอย่างเดียวกับที่นางศึกษามาก่อนหน้านี้พอดี
หยุนหลีดูไม่เข้าใจมากนัก แต่ว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งรับปากอ๋องเก้าแล้ว จึงให้ยาถอนพิษแก่เขาไปโดยตรง จากนั้นอ๋องเก้ากินไปจึงพบว่าตนเองฟื้นตัวกลับมาดังเดิมแล้วจริงๆ พอใจแทบทนไม่ไหว เจอใครก็โอ้อวดไปทั่ว
“กลับมาคึกคักดังเดิมหมายความว่าอะไร?” หยุนหลีถามอย่างไม่เข้าใจ
อ๋องเก้าเพิ่งอยากจะพูด ก็ถูกเสวี่ยเชียนโฉวส่งสายตาเย็นเฉียบอันดุร้ายมาหยุดยั้งอย่างรวดเร็ว “ถ้าอ๋องเก้าพูดจาเหลวไหล ข้าจะไม่ถือสาทำให้ท่านกลายเป็นคนใบ้ตลอดทางเช่นกัน!”
เจ้าเวรสมควรตายคนนี้ คาดไม่ถึงอยากสอนหยุนหลีเสียผู้เสียคน ช่างน่ารังเกียจ
อ๋องเก้าตกใจจนตัวสั่น ถูกเสวี่ยเชียนโฉวข่มขู่ต่อหน้าคนมากขนาดนี้ เขารู้สึกว่าตนเองรักษาศักดิ์ศรีไว้ไม่ได้แล้ว
“เจ้าอุทยานเสวี่ย ท่านคิดว่าข้าตกใจกลัวนักหรือ?”
“ท่านสามารถลองดูได้!” เสวี่ยเชียนโฉวยื่นมือออกมา
อ๋องเก้ารีบหลบไปด้านหลังของเหล่าทหารอย่างหวาดกลัว “ข้าแค่ล้อเล่นเท่านั้น ทุกคนล้วนเป็นคนกันเอง เหตุใดต้องทำเช่นนี้เล่า พวกเรารีบไปเถิด หยุนถิงยังรออยู่”
“ไป!” เสวี่ยเชียนโฉวรีบพาหยุนหลีและคนอื่นขึ้นเรือไปเช่นกัน
เรือใหญ่แล่นไปทางทะเลลึก ทุกคนล้วนหาสถานที่พักผ่อนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งออกทะเลมาคราวนี้ก็ไม่รู้ต้องใช้เวลามากเพียงใด
หยุนหลีนั่งติดกับเสวี่ยเชียนโฉว ยังอดถามไปไม่ได้ “ท่านอา ที่เขาบอกว่ากลับมาคึกคักดังเดิมหมายความว่าอะไร หรือว่าหลุดพ้นจากองค์หญิงห้าแล้ว จึงประกาศให้รู้?”
เสวี่ยเชียนโฉวพยักหน้าเบาๆ “จะว่าเช่นนั้นก็ได้”
อ๋องเก้าที่อยู่ด้านข้างเคียดแค้นมาก เสวี่ยเชียนโฉวคนนี้ยังหลอกลวงเป็นจริงๆ ในเมื่อเขาสนใจหยุนหลีเพียงนี้ เช่นนั้นตนเองสามารถแกล้งเขาได้พอดี
“หยุนหลี เจ้าเป็นคุณหนูสี่ของตระกูลหยุน ข้าเป็นอ๋องเก้าของแคว้นเป่ยลี่ ไม่สู้พวกเรามาแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กันเป็นเช่นไร อย่างนี้ความสัมพันธ์ของแคว้นเป่ยลี่กับแคว้นต้าเยียนคงยิ่งเหนียวแน่นขึ้นแล้ว!” อ๋องเก้าจงใจพูดแนะนำ
กลิ่นอายรอบตัวของเสวี่ยเชียนโฉวเย็นเยือกลงมาในชั่วพริบตา อ๋องเก้าสารเลวคนนี้ยังอยากแย่งชิงกับตนเอง เขาเพิ่งอยากเอ่ยปาก ก็ได้ยินหยุนหลีพูดว่า
“ของมือสองเยี่ยงท่านนี้ ข้าไม่สนใจหรอก ของที่องค์หญิงห้าเคยใช้ ข้าไม่รู้สึกพิศวาส พี่หญิงข้าไม่ให้ข้าเข้าวัง ยิ่งจะไม่ยอมให้ข้าแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ นางเคยบอกข้าว่า ให้ข้าตามหาคนที่ตนเองชอบและชอบตนเองสักคนหนึ่ง ฉะนั้นท่านไม่ต้องพยายามเอาชนะใจข้า ไม่เช่นนั้นข้าจะให้พี่หญิงทำลายท่านเสีย!” หยุนหลีพูดอย่างเหยียดหยาม
อ๋องเก้าคนนี้เป็นคนเสเพลหลายใจชื่อดังในสี่แคว้น ว่ากันว่าหลังจากเขาแต่งงานกับองค์หญิงห้า ยังเอ้อระเหยอยู่ที่ซ่องโสเภณีทั้งวัน ผู้ชายแบบนี้หยุนหลีย่อมไม่สนใจ
เสวี่ยเชียนโฉวซึ่งเดิมทีกังวลใจ ได้ยินคำพูดนี้ตรงมุมปากยกสูงขึ้น
ดูแล้ว เดิมทีไม่ต้องให้ตนเองเป็นกังวล
“แม่ตัวดีนี่เจ้าพูดจาเยี่ยงนี้ได้หรือ ข้าไม่สนใจองค์หญิงห้า ไม่เคยใช้ชีวิตสามีภรรยากันนาง!” อ๋องเก้ารีบร้อนอธิบาย
“เช่นนั้นเป็นท่านใช้ไม่ได้เอง!”
คำพูดประโยคนี้ ทำให้อ๋องเก้าสีหน้าดูแย่ถึงที่สุด ถูกหักหน้าย่อมไม่มีหน้าอยู่ต่อไป หมุนตัวเดินเข้าท้องเรือไป
เสวี่ยเชียนโฉวยื่นกล่องหนึ่งเข้ามา “ดูเสียหน่อย”
“ท่านอา นี่คืออะไร?” หยุนหลีถาม
“เมื่อครู่เจ้าแสดงได้ไม่เลว เป็นรางวัลของเจ้า!” เสวี่ยเชียนโฉวตอบ
พอหยุนหลีเปิดออกดู “ลูกกวาด ยังเป็นลูกกวาดที่ข้าชอบกินที่สุดด้วย เป็นท่านอาเข้าใจข้าที่สุด” พูดอยู่ ก็หยิบเม็ดหนึ่งขึ้นมากิน
เห็นนางแค่ลูกกวาดเม็ดหนึ่งก็กินอย่างอิ่มอกอิ่มใจ ใบหน้าเสวี่ยเชียนโฉวเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ตามคาด เด็กสาวของเขาก็ใสซื่อเพียงนี้
“ไม่รู้ว่าพี่หญิงพวกเขามีอันตรายหรือไม่ จะเป็นเช่นไรกันบ้างแล้ว ท่านอาพวกเราจะต้องเร่งความเร็วเพิ่มขึ้น” หยุนหลีกินพลางพูดไปด้วย
“วางใจเถิด ความสามารถพี่หญิงของเจ้ากับจวินหย่วนโยวไม่มีผู้ใดในสี่แคว้นเทียบได้ ไม่ต้องกังวล” เสวี่ยเชียนโฉวพูดปลอบใจ
“จะว่าไปก็ถูก”
ทางนี้ หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวตามผู้อาวุโสท่านนั้นกลับเรือนของเขาไป ด้านในมีศิษย์อยู่มากมาย
“ทุกคนวางงานในมือลงก่อน เข้ามาเจอเหล่าศิษย์น้องที่มาใหม่เสียหน่อย!” ผู้อาวุโสอวี๋เอ่ยปาก
ในเรือน ศิษย์หลายสิบคนรีบเข้ามา ทักทายกับพวกเขา มีเพียงคนเดียวที่หยิ่งยโสแทบไม่ไหว เพียงแค่ชายตามองหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวอย่างเรียบนิ่ง ไม่ได้สนใจ
หยุนถิงมองทางคนผู้นั้น สวมชุดสีขาว หน้าตางดงาม บนใบหน้ามีความหยิ่งยโสระดับหนึ่ง เวลานี้กำลังมองทางพวกเขาอย่างเหยียดหยาม
“นี่คือจื่อโฝว ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า ต่อไปพวกเจ้าสองคนก็ติดตามเขา ฟังคำสั่งเขา!” ผู้อาวุโสอวี๋กล่าว
“ขอรับ ต่อไปศิษย์พี่ได้โปรดแนะนำมากๆ หน่อย!” หยุนถิงเอ่ยปาก
จวินหย่วนโยวก็เรียกตามเช่นกัน “ศิษย์พี่!”
“อาจารย์ให้พวกเจ้าติดตามข้า ก็ติดตามข้าเถิด แต่ว่าต้องปฏิบัติตามกฎของในเรือนนี้ ถ้าทำผิดแล้วข้าจะไม่ปรานีแน่!” โอจื่อโฝวพูดพึมพำอย่างเย็นชา
“ขอรับ!”
ผู้อาวุโสอวี๋หมุนตัวไปที่ห้องปรุงยาของตนเองแล้ว คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายไปทำงานต่อ
“พวกเจ้าสองคนตามข้าไปภูเขาด้านหลัง!” โอจื่อโฝวพูดจบแล้วเดินไป
หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวรีบตามไปทันที ไปภูเขาด้านหลังแล้วถึงพบว่า ที่นั่นเป็นที่ดินรกร้างผืนหนึ่ง พุ่มไม้ขึ้นคลุมเต็มไปหมด
“มองเห็นที่ดินรกร้างผืนนี้แล้วกระมัง ถางมันให้เป็นผืนดินราบ จากนั้นเอามาปลูกสมุนไพร!” โอจื่อโฝวพูดจากอย่างลำพอง
“ศิษย์พี่ พวกเราตามอาจารย์มาเรียนทักษะทางการแพทย์ เหตุใดให้พวกเราถางที่ดินรกร้างเล่า?” หยุนถิงพูดอย่างไม่พอใจ
“เรียนทักษะทางการแพทย์ อย่างพวกเจ้าก็คู่ควรหรือ ทุกคนที่มาเรือนอวี๋ล้วนเริ่มจากถางพื้นที่รกร้างทั้งสิ้น ยินยอมทำก็ทำ ไม่ยินยอมก็ไสหัวไป!” โอจื่อโฝวพูดอย่างรำคาญ
มือในแขนเสื้อของจวินหย่วนโยวกุมเป็นหมัดแน่นแล้ว สีหน้ายิ่งเย็นเฉียบมาก ก้าวสองสามก้าวก็เดินมาถึงด้านหน้าโอจื่อโฝว
ดวงตาดุร้ายคู่นั้น ถลึงใส่โอจื่อโฝวอย่างโหดร้ายดุจดังคมมีด
แม้แต่โอจื่อโฝวที่หยิงยโส ถูกสายตาโหดร้ายนั้นของจวินหย่วนโยวทำเอาตกใจจนตัวสั่น แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาเป็นศิษย์พี่ใหญ่ในเรือนอวี๋ จะถูกศิษย์ที่รับมาใหม่คนหนึ่งทำตกใจได้อย่างไร
“จ้องอะไรกัน หากจ้องอยู่อีกข้าทำให้ตาของเจ้าบอดแน่!” โอจื่อโฝวพูดอย่างเคียดแค้น