จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 788 นางตั้งครรภ์แล้ว
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 788 นางตั้งครรภ์แล้ว
หยุนถิงหัวเราะเยาะ “ศิษย์พี่ช่างเป็นคนเลวบิดเบือนความจริงนักเชียว ข้ากับพี่ชายเข้ามากินข้าว พวกท่านก็ล้อมพวกข้าไว้อยากต่อยพวกข้า”
“อาจารย์ ช่วยด้วยขอรับ!” ศิษย์หลายคนร้องที่โอดโอยอยู่พอเห็นเข้า จึงรีบขอความช่วยเหลือ
ผู้อาวุโสอวี๋มองอาการของพวกเขาแวบหนึ่ง แล้วมองทางหยุนถิงอย่างตกใจ “เจ้าฝังเข็มพวกเขาแล้ว?”
“ปิดบังอาจารย์ไม่ได้เสียจริง ข้าก็แค่ลงโทษพวกเขาเบาๆ เมื่อครู่เป็นพวกเขาที่ลงมือก่อน บอกว่าอยากหั่นข้ากับพี่ชายเป็นชิ้นๆ แล้วโยนไปเป็นปุ๋ยในสวนสมุนไพร!” หยุนถิงจงใจพูดอย่างไม่ได้รับความธรรม
“สารเลว จื่อโฝวเจ้าทำเป็นหูทวนลมต่อคำพูดของข้าจริงหรือ ไสหัวไปทบทวนความผิดของตนเอง ไม่มีคำสั่งของข้าห้ามออกมา!” ผู้อาวุโสอวี๋ตวาดใส่
เจ้าเด็กสารเลวนี่ ท้าทายบารมีของตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า ดูแล้วปกติตนเองคงดีต่อเขาเกินไป
โอจื่อโฝวอับอายจนโกรธเคือง “อาจารย์ เดิมทีข้าไม่ได้พูดเยี่ยงนั้นขอรับ เป็นเขาใส่ร้ายข้า เป็นพวกเขาที่สั่งสอนสองคนนี้ เกี่ยวอะไรกับข้าด้วย ข้าเพียงแค่ออกหน้าช่วยผู้ที่ถูกรังแก”
“เจ้ายังมีหน้ามาพูดอีก ถ้าไม่ใช่เจ้าสั่ง พวกเขาจะรังแกศิษย์ที่เพิ่งเข้ามาใหม่สองคนได้หรือ แต่ละคนไสหัวไปถอนหญ้าที่ภูเขาด้านหลังหนึ่งเดือน ถ้าผู้ใดกล้าละเมิด ไล่ออกจากเรือนอวี๋ทันที!” ผู้อาวุโสอวี๋พูดอย่างเดือดดาล
ศิษย์ทุกคนร้องโหยหวนอย่างทุกข์ระทม กลับไม่กล้าขัดขืน รีบไสหัวออกไปแล้ว
“ขอบพระคุณอาจารย์ที่ให้ความเป็นธรรมขอรับ” หยุนถิงกล่าวอย่างเคารพยิ่งนัก
“พวกเจ้าสองคนตามข้าไปเถิด!” ผู้อาวุโสอวี๋หมุนตัวแล้วเดินไป
หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวมองหน้ากันและกัน รีบตามไปทันใด เวลานี้ต้วนอู่ถึงแอบโล่งอกไปทีหนึ่ง หมุนตัวแล้วออกไป
ผู้อาวุโสอวี๋พาพวกเขาไปที่ห้องปรุงยา “พวกเจ้ายังทำอะไรเป็นอีกบ้าง?”
“อาจารย์ ข้าฝังเข็มเป็น รู้จักสมุนไพร และยังปรุงยาได้ขอรับ ทว่าแค่ได้เพียงผิวเผินขอรับ!” หยุนถิงตอบอย่างขันอาสา
“ข้าเพียงแค่รู้จักสมุนไพร ไม่สู้น้องชายขอรับ!” จวินหย่วนโยวจงใจพูดอย่างไร้ความสามารถ
ความจริง เขาได้เพียงพวกนี้จริงๆ ไม่มีทางเทียบกับหยุนถิงได้
“อ่อ เจ้ายังปรุงยาเป็นด้วย ที่นี่มีสมุนไพรอยู่ เจ้าปรุงยาที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งออกมาที!” ผู้อาวุโสอวี๋พูดสั่งการ
“ขอรับ!” หยุนถิงรีบไปเลือกสมุนไพรบนชั้นด้านข้าง จากนั้นใส่เข้าไปในเตาปรุงยาแล้ว
ผู้อาวุโสอวี๋เห็นที่นางถือมาคือยาคืนชีพชั้นสาม ในแววตาลึกดูดีใจ ถึงแม้นี่ไม่ใช่ยาล้ำค่าอะไร แต่สำหรับศิษย์ที่เข้าสำนักมาใหม่คนหนึ่งก็ยอดเยี่ยมมากแล้ว
“ในเมื่อเจ้าปรุงยาเป็น ต่อไปก็อยู่ที่ห้องปรุงยานี้เรียนรู้ปรุงยาตามข้าเถิด!” ผู้อาวุโสอวี๋เอ่ยปาก
“ขอบพระคุณขอรับอาจารย์ ศิษย์จะต้องตั้งใจเรียนแน่นอน”
ในวันนี้ หยุนถิงแสดงออกอย่างหลักแหลมมากโข ทำให้ผู้อาวุโสอวี๋ดูพอใจมาก ศิษย์ใหม่คนนี้มองอย่างไรก็รู้ภาษามากกว่าโอจื่อโฝวเจ้าคนไม่สนใจอะไรนั้น
……………………………..
แคว้นต้าเยียน พระราชวัง
โม่เหลิ่งเหยียนถวายจดหมายที่หยุนถิงส่งมาให้ฮ่องเต้ “ฝ่าบาท หยุนถิงบอกว่าการค้าอาหารในเขตทะเลเจรจาเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ ทางนั้นมีสองเกาะถูกพวกเขายึดไว้แล้ว พวกเราสามารถส่งทหารเข้าไปได้พ่ะย่ะค่ะ มีประโยชน์อย่างมากต่อการเคลื่อนพลสู่เขตทะเลนิรนามในภายภาคหน้า!”
ความจริงเรื่องพวกนี้หยุนถิงและคนอื่นสามารถแอบดำเนินการได้เอง แต่ถ้าได้รับการสนับสนุนจากฮ่องเต้ มีฮ่องเต้เป็นเกาะป้องกันอย่างนี้อยู่ ดำเนินการขึ้นมาก็สะดวกกว่าเยอะมาก
ฮ่องเต้ฮึกเหิมอย่างยิ่ง รีบให้ซูกงกงส่งจดหมายเข้ามาทันที อ่านลายมือของหยุนถิงบนนั้น ฮ่องเต้ปลื้มใจไม่หยุด
“ดี ช่างดีเสียจริง ไม่เสียแรงเป็นหยุนถิง นางไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ เรื่องนี้มอบให้เจ้าไปจัดการ!” ฮ่องเต้ตรัสอยากสุขใจ
“พ่ะย่ะค่ะ!” มุมปากของโม่เหลิ่งเหยียนวาดรอยยิ้มขึ้น
ในที่สุดเขาสามารถไปที่เขตทะเลนิรนามอย่างสง่าผ่าเผยแล้ว ดีเสียจริง
“ฝ่าบาท หลีอ๋องกับพระชายาหลีขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ!” ด้านนอกท้องพระโรง ขันทีผู้หนึ่งตะโกนบอก
“ให้พวกเขาเข้ามา!” ฮ่องเต้เอ่ยปาก
โม่ฉือหานพาเป่ยตันเสวี่ยเดินเข้ามา ทำความเคารพฮ่องเต้อย่างนอบน้อม “กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ!”
“ถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ!” เป่ยตันเสวี่ยกล่าว
“ลุกขึ้นกันเถิด พวกเจ้าสองคนมาหาข้ามีธุระอันใด?” ฮ่องเต้บนบัลลังก์ทรงถาม
“กราบทูลเสด็จพี่ ตันเสวี่ยนางตั้งครรภ์แล้วพ่ะย่ะค่ะ หมอหลวงบอกว่าตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว!” โม่ฉือหานพูดอย่างได้ใจ ตอนที่พูดจายังจงใจมองทางโม่เหลิ่งเหยียนที่อยู่ด้านข้างด้วย
สีหน้าโม่เหลิ่งเหยียนเฉยชาเช่นเดิม ไม่ได้สนใจเขาสักนิด
“เป็นเช่นนี้ก็ดี นี่เป็นข่าวดีเสียจริง พระชายาหลีต้องดูแลครรภ์ดีๆ นี่คือลูกคนแรกของหลีอ๋องเชียว จะเกิดอุบัติเหตุใดๆ ไม่ได้เด็ดขาด!” ฮ่องเต้ทรงกำชับ
“เพคะ ฝ่าบาท!” เป่ยตันเสวี่ยพยักหน้า
“ซูกงกง รีบนำโสมม่วงพันปีต้นนั้นของข้ามาที ยังมียาบำรุงครรภ์หายากพวกนั้นด้วยล้วนส่งไปที่จวนหลีอ๋องให้หมด!” ฮ่องเต้ตรัสอย่างดีพระทัย
“พ่ะย่ะค่ะ!” ซูกงกงรีบไปจัดการ
“ขอบพระทัยเสด็จพี่พ่ะย่ะค่ะ!” โม่ฉือหานกล่าวอย่างซาบซึ้งใจ
“ขอบใจอะไรเล่า พระชายาของเจ้าตั้งครรภ์ ข้าดีใจแทนเจ้าจริงๆ เจ้าต้องใส่ใจดูแลพระชายาให้มาก!” ฮ่องเต้ทรงดีพระทัยจริง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ก่อนหน้านี้โม่ฉือหานก่อเรื่องวุ่นวายมากขนาดนั้น เพิ่งมีลูกคนแรก ฮ่องเต้ปลื้มพระทัยมากนัก
โม่ฉือหานมองทางโม่เหลิ่งเหยียนอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง “ซวนอ๋อง ถ้าข้าจำไม่ผิด ท่านยังอายุมากกว่าข้าตั้งสามปี ตอนนี้ข้ามีลูกชายคนแรกแล้ว ท่านต้องรีบเข้านะ!”
โม่เหลิ่งแหยียนชายตามองเขาอย่างเหยียดหยาม “พระชายาหลีเพิ่งตั้งครรภ์สองเดือน เจ้ารู้ได้เช่นไรว่าเป็นลูกชายคนแรก ถ้าเกิดเป็นลูกสาวเล่า จะว่าไป จากตั้งครรภ์จนถึงคลอดออกมายังมีเวลาอีกตั้งหลายเดือน สามารถคลอดออกมาอย่างปลอดภัยหรือไม่ยังไม่แน่ หลีอ๋องค่อนข้างดีใจเร็วเกินไปแล้ว!”
แต่ละคำความหมายลึกซึ้ง พูดได้ว่าไม่ปรานีแม้แต่น้อย
“โม่เหลิ่งเหยียนเจ้า——” โม่ฉือหานโกรธจนสีหน้าเขียวปัด พูดสาปแช่ง เพียงแค่ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกโม่เหลิ่งเหยียนขัดจังหวะ
“ฝ่าบาท กระหม่อมยังมีธุระต่อทูลลาก่อนพ่ะค่ะย่ะ!” โม่เหลิ่งเหยียนพูดทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่ง ยังไม่รอฮ่องเต้ทรงอนุญาต ก็หมุนตัวเดินไปแล้ว
ทำเอาโม่ฉือหานโมโหจนระเบิดอารมณ์ “เสด็จพี่ พระองค์ทรงดูซวนอ๋องช่างไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตาเกินไปแล้ว คาดไม่ถึงสาปแช่งพระชายาของกระหม่อมแล้ว?”
สีหน้าของเป่ยตันเสวี่ยก็ดูไม่ดีเหมือนกัน เดิมทีอยากนำข่าวดีนี้มากราบทูลฝ่าบาท เพื่อเอาใจ กลับถูกซวนอ๋องพูดจาเช่นนี้ใส่
“พอแล้ว เหลิ่งเหยียนนิสัยอย่างไรไม่ใช่ว่าเจ้าไม่รู้ ตอนนี้เขายังตัวคนเดียวอยู่ เจ้าอย่าได้ถือสาหาความกับเขาเลย!” ฮ่องเต้ทอดถอนใจแล้ว
การแต่งงานของโม่เหลิ่งเหยียน พระองค์ทรงปวดหัวจริงๆ เขาเป็นเทพสงครามของแคว้นต้าเยียน ยิ่งเป็นมือขวาของฮ่องเต้ และก็นิสัยใจร้อนและโหดเหี้ยม ฮ่องเต้ลองเชิงอยากจะพระราชทานงานสมรสให้หลายครั้ง ล้วนถูกเขาปฏิเสธอย่างเปิดเผย
ฮ่องเต้ทรงทราบว่า โม่เหลิ่งเหยียนชอบหยุนถิง แต่หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวแต่งงานแล้วและรักใคร่กันมาก ลิขิตมาให้มิอาจมีอะไรได้ ได้เพียงปล่อยไปตามธรรมชาติแล้ว
โม่เหลิ่งเหยียนที่ออกมาจากพระราชวัง รีบไปนับจำนวนคนที่ค่ายทหาร จากนั้นพาผู้ติดตามของตนเองและคนอื่นๆ มุ่งตรงไปยังเขตทะเลนิรนาม
รอตอนที่พวกเขาเร่งเข้าไป ก็ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว
ฝั่งทะเล โม่เหลิ่งเหยียนและคนอื่นเพราะมีจำนวนมากเกินไป จึงแบ่งเป็นสองกลุ่ม นั่งเรือใหญ่สองลำมุ่งตรงไปเขตทะเล
เด็กรับใช้ชายคนหนึ่งยกถาดเดินเข้ามา “นายท่านขอรับ ของพวกนี้ล้วนเป็นหอยสังข์ ปลาดาว เปลือกหอยชั้นดีทั้งนั้น ยังมีที่ทำเป็นสร้อยข้อมือสร้อยคอแล้ว นายท่านอยากซื้อให้คนรักหรือภรรยาของตนเองหรือไม่?”
“ไม่ต้องการ!”
“นายท่านดูเสียหน่อยเถิด แม้ว่าตอนนี้ไม่มี ต่อไปไม่แน่อาจสามารถเจอคนที่ชอบได้ พรหมลิขิตเรื่องอย่างนี้พอมาแล้วจะฝืนก็ฝืนไม่ไหว!” เด็กรับใช้ชายพูดต่อไป
ดวงตาอันหนาวเย็นของโม่เหลิ่งเหยียนกวาดมองทางเขา “ไสหัวไป!”
เสียงอันเย็นเยือก ทำให้คนหนังศีรษะชา ผู้ติดตามสองคนด้านข้างรีบวิ่งเข้ามาโดยเร็ว “หากรบกวนเจ้านายของข้าอีก จักทิ้งเจ้าลงทะเลให้ปลากินเสีย!”