จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 800 เจ้าคงไม่คิดจะปฏิเสธข้ากระมัง
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 800 เจ้าคงไม่คิดจะปฏิเสธข้ากระมัง
“แต่พ่อบ้านอายุปาเข้าไปห้าสิบแล้ว เป็นพ่อข้าได้แล้วนะ ถึงข้าจะไม่เคยคิดว่าต่อไปจะแต่งงานกับคนเช่นใด แต่เขาก็อายุมากเกินไป!” สาวใช้คร่ำครวญอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ
“อายุมากน่ะรักใคร่เอ็นดูคนเป็น หากพ่อบ้านสนใจข้า ข้าคงจุดธูปขอบคุณแล้ว เจ้าคิดดูเองแล้วกัน!” สาวใช้ที่อายุมากกว่าพูดจบ ก็หมุนตัวจากไป
สาวใช้ยิ่งร้องไห้น้ำตาไหลพราก ดูน่าสงสารมาก
สายตาหยุนถิงกลอกไปมา พลันเกิดความคิดขึ้น เดินก้าวเข้ามา “แม่นาง เจ้าไม่อยากติดตามพ่อบ้าน แต่ก็กลัวว่าหากไม่รับปากแล้วเขาจะหาเรื่องเจ้า ข้ามีหนทางช่วยเจ้าพอดีเลย!”
พอคำพูดนี้ออกมา สาวใช้คนนั้นอึ้ง มองมาอย่างหวาดหวั่น “เจ้าเป็นใคร?”
“ข้าเป็นศิษย์พึ่งเข้าใหม่ของผู้อาวุโสอวี๋ ปีนี้โชคดีมีโอกาสตามอาจารย์มาร่วมงานวันเกิดของฮูหยินเจ้าทะเล ดังนั้นเจ้าเลยไม่รู้จักข้า
แต่เมื่อครู่ข้าได้ยินเจ้าพูดกับคนนั้นพอดีว่า ไม่อยากติดตามพ่อบ้าน พ่อบ้านอายุมากขนาดนั้น หากเจ้ารับปาก ต้องโดนคนอื่นดูถูกแน่
แต่หากปฏิเสธ พ่อบ้านต้องแก้แค้น กลั่นแกล้งเจ้าแน่ น้องสาวข้าก็อายุพอๆกับเจ้า ตอนแรกโดนคนขายไปเป็นเมียน้อยให้กับคนขายเนื้อ
ข้าเห็นเจ้าอายุพอๆกับน้องสาวข้า ตอนนั้นข้าไร้ความสามารถไม่อาจปกป้องน้องสาวไว้ได้ ทำให้นางโดนพาตัวไป จนสุดท้ายโดนคนขายเนื้อตีจนตาย ดังนั้นข้าไม่อยากให้หญิงสาววัยแรกแย้มอย่างเจ้าต้องเป็นเหมือนนาง!”
หยุนถิงแต่งเรื่องขึ้น และยังจงใจบีบน้ำตาออกมาอีก
ท่าทางเจ็บแค้นแต่ทำอะไรไม่ได้นั้น ทำเอาจวินหย่วนโยวที่มองอยู่ด้านข้างแอบยกนิ้วโป้งให้นางในใจ
เขาไม่รู้เลยว่าซื่อจื่อเฟยของตนนั้นจะมีฝีมือแสดงละครเก่งเพียงนี้
เพราะหยุนถิงรู้ดียิ่งกว่าใครว่า หากอยากได้ความเชื่อใจจากใคร ใช้ความรู้สึกเหมือนกันนั้นดีที่สุด
นั่นไง สายตาของสาวใช้ตัวน้อยที่มองหยุนถิงเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจยิ่งนัก “ท่านจะช่วยข้าได้จริงรึ?”
“แน่นอน” หยุนถิงเข้าไปกระซิบข้างหูนางเสียหลายคำ
สาวใช้ตัวน้อยมองเขาอย่างตะลึง “จะได้ผลรึ?”
“วางใจเถอะ เจ้าเชื่อข้านะ พบกันคืนนี้!” หยุนถิงควักยาขวดหนึ่งออกมาให้นาง แล้วถึงจากไป
พอเดินออกมาไกลมากแล้ว จวินหย่วนโยวเอ่ยขึ้นว่า “เจ้าจะไปพบพ่อบ้านคนนั้นคืนนี้จริงรึ?”
“แน่นอนสิ ข้ารับปากสาวน้อยแล้ว จะทนดูนางกระโดดลงกองไฟก็ไม่ได้กระมัง” หยุนถิงแสร้งเย้าเขา
“เจ้าเลยจะกระโดดลงกองไฟเอง ข้าสู้ชายแก่ยังไม่ได้รึ?” จวินหย่วนโยวสีหน้าเย็นชาลงทันที
หยุนถิงพลันได้กลิ่นความหึงทันที “แน่นอนว่าไม่ใช่ ศิษย์พี่จิ่วฟ่างของข้าหล่อเหลาเย็นชาที่สุด เป็นผู้เยี่ยมยอด ใครที่ไหนเลยจะมีสิทธิ์มาเทียบเคียงท่านได้!”
จวินหย่วนโยวพอใจมาก “ค่อยยังชั่ว ว่ามาสิ คืนนี้จะให้ข้าทำอะไร?”
จวินหย่วนโยวที่เฉลียวฉลาด ก็แค่จงใจเย้ยหยอกหยุนถิงเท่านั้น เขาเชื่อมั่นว่าถิงเอ๋อร์ไม่สนใจชายแก่คนหนี่งดอก
“ดูต้นทาง!”
“ได้!”
ทั้งสองเดินวนรอบเรือนตะวันตกไปหนึ่งรอบ จนคุ้นชินกับสถานที่ จากนั้นก็กลับไปพักผ่อน
พอเวลาอาหารเย็น พวกหยุนถิงไปกินอาหารที่ห้องอาหารของเรือนตะวันตก ฉินเจี่ยเห็นนางเข้ามาคนเดียว ก็เดินเข้าไปทันที
“ศิษย์น้องเล็ก ปีนี้เจ้ามาร่วมงานวันเกิดของฮูหยินเจ้าทะเลครั้งแรก หากมีอะไรไม่เข้าใจก็ถามข้าได้นะ” ฉินเจี่ยเตือนอย่างหวังดี
“ขอบคุณศิษย์พี่ฉินเจี่ย!” หยุนถิงซาบซึ้ง
“ไม่ต้องเกรงใจ พวกเราเป็นศิษย์สำนักเดียวกัน ข้างข้ายังมีที่ว่าง เจ้ามานั่งนี่สิ!” ศิษย์พี่ฉินเจี่ยเอ่ยปาก
หยุนถิงเองก็ไม่เกรงใจ เดินมานั่งลง พลางหยิบตะเกียบคีบอาหารกินเลย
จวินหย่วนโยวเดินเข้ามาจากด้านนอก และได้เห็นฉินเจี่ยคีบอาหารให้หยุนถิง สีหน้าเย็นชาลงทันที แต่ไม่ได้พูดอะไร
เพราะยังไงตอนนี้เขาคือจิ่วฟ่าง หากออกหน้าห้ามปราม ต้องทำให้คนอื่นสงสัยแน่ เพราะปกติจิ่วฟ่างไม่แยแสผู้ใดทั้งสิ้น
ฉินเจี่ยเห็นจิ่วฟ่างไม่มีปฏิกิริยาอะไร ก็ยิ่งสงสัย “จิ่วฟ่าง ศิษย์น้องถิงหยุนบอกว่าลูกชิ้นเนื้อนี่อร่อยมาก เจ้าจะลองดูหน่อยหรือไม่?”
“ข้าไม่กินเนื้อ!” จิ่วฟ่างแค่นเสียงเย็น เดินมานั่งตรงข้ามหยุนถิง
ข้าวหนึ่งมื้อ ฉินเจี่ยพยายามเลียบเคียงถามหลายครั้ง โดนจวินหย่วนโยวหลบหลีกไปได้โดยง่าย
ยังต้องขอบคุณจิ่วฟ่างที่บอกเล่าชีวิตความเป็นอยู่ความเคยชินให้กับจวินหย่วนโยวจนหมด
สุดท้ายฉินเจี่ยยกกุ้งถาดหนึ่งวางไว้ตรงหน้าจวินหย่วนโยว “จิ่วฟ่าง เจ้าจะเอาแต่ปฏิเสธข้าไม่ได้กระมัง?”
จิ่วฟ่างที่เป็นจวินหย่วนโยวแปลงโฉมมาเหล่มองกุ้งถาดนั้นด้วยสายตาเย็นชาแทบเย็นเยือก และซัดกุ้งถาดนั้นใส่ตัวฉินเจี่ยเสียเลย
“เจ้าจงใจหาเรื่องข้า ก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจเจ้านะ!” จิ่วฟ่างทิ้งไว้หนึ่งคำ ลุกขึ้นจากไปทันที
ฉินเจี่ยโดนอาหารหนึ่งจานราดตัว เขาไม่โกรธเลยสักนิด กลับวางใจลงอีกต่างหาก
ตั้งแต่ลงเรือมา เขารู้สึกตงิดๆว่าจิ่วฟ่างแปลกๆ แต่แปลกตรงไหนนั้นก็พูดไม่ออก ตอนนี้เห็นเขาเป็นเช่นนี้ ฉินเจี่ยเลยสบายใจละ
นั่นไง ยังนิสัยกวนประสาทเหมือนเดิม
หยุนถิงเห็นท่าทางฉินเจี่ย ก็แอบยิ้มขัน แต่สีหน้ากลับทำทีเห็นใจ “ศิษย์พี่ ท่านไม่เป็นไรกระมัง?”
“ไม่เป็นไร พวกเจ้ากินกันต่อเถอะ ไม่ต้องสนใจข้า ข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสักหน่อย!” ฉินเจี่ยพูดจบก็ลุกเดินไปเลย
หยุนถิงรู้สึกอยากอาหารขึ้นมาทันที สมเป็นท่านพี่ ความอารมณ์ร้ายนี่แสดงได้พอเหมาะพอเจาะเลย
พอกินข้าวเสร็จ หยุนถิงแสร้งทำทีว่าง่วงมาก หาวหวอดๆหลายครั้ง เลยกลับห้องตนเองไปนอน
กลางดึกหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวเปลี่ยนเป็นชุดคนรับใช้ ทั้งสองคนมุ่งตรงไปยังห้องพ่อบ้านเรือนหลังทันที
นี่เป็นเพราะก่อนหน้านี้ตอนที่นางตรวจตรารอบๆกับจวินหย่วนโยว ผ่านห้องคนรับใช้ เข้าไปเอาสองชุดมาใส่ในมิติไว้พอดี แบบนี้ออกไปก็สะดวกขึ้นมากเลย
ส่วนห้องของพ่อบ้าน สาวใช้ตัวน้อยคนนั้นไปที่ห้องพ่อบ้านตามเวลาที่นัดไว้กับหยุนถิง เพียงแต่พอถึงหน้าประตู นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินเข้าไป
พ่อบ้านพอเห็นคนที่เข้ามา ก็รู้สึกแปลกใจ จากนั้นสีหน้ายินดีปรีดานัก “ปิงปิง ในที่สุดเจ้าก็คิดตกแล้ว ถูกแล้ว ขอเพียงเจ้ายอมติดตามข้า ข้ารับรองว่าจะรักใคร่เอ็นดูเจ้านะ!”
พ่อบ้านพูดพลางโผเข้าหาปิงปิง
ปิงปิงหลบไปอีกข้างอย่างตกใจ “พ่อบ้านหลี่รักใคร่ข้า ถือเป็นบุญของข้า ข้าคิดตกแล้ว ข้าช่วยถอดเสื้อให้ท่านนะ!”
พ่อบ้านดีใจยิ้มไม่หุบเลย “ไม่เลว คล่องแคล่วดี ต่อไปเจ้าก็เป็นสาวใช้อันดับหนึ่งของเรือนตะวันตกนี้ เป็นรองแค่เพียงข้าเท่านั้น ติดตามข้าเจ้าได้กินอยู่สุขสบายแน่”
ปิงปิงยื่นมือเข้ามาช่วยเขาถอดเสื้อคลุมด้านนอกอย่างสั่นเทา พ่อบ้านยิ่งพอใจมากขึ้น เขาชอบที่ปิงปิงยังบริสุทธิ์อยู่ คืนนี้ได้สนุกล่ะ”
ปิงปิงอาศัยเขาไม่ทันสังเกต รีบหยิบขวดยาที่หยุนถิงให้นางออกมาแกว่งไปมาหน้าพ่อบ้าน
พ่อบ้านกำลังจะพูดอะไร พลันได้กลิ่นหอมอ่อนๆในอากาศ และสลบลงไปเลย
ปิงปิงตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูกเลย
ประตูห้องโดนคนผลักเปิดเข้ามาจากด้านนอก หยุนถิงเดินเข้ามา “อย่ากลัวไปเลย มีข้าอยู่!”
“พ่อบ้านสลบไปแล้ว ข้าจะทำอย่างไรดี ข้าควรจะทำอย่างไรดี?” ปิงปิงตกใจแทบตาย รีบเดินเข้ามาหานางทันที
“ตอนนี้เจ้ากลับไปห้องของตนเองเสีย ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น นอนหลับสักตื่น พรุ่งนี้เช้าก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ที่นี่ยกให้ข้านะ!” หยุนถิงปลอบ
“ได้!” สาวใช้หมุนตัวออกไปทันที
จวินหย่วนโยวปิดประตูทันที หยุนถิงควักยาออกมาสองเม็ดยัดใส่ปากพ่อบ้าน จากนั้นก็ลงเข็มปลุกเขาตื่น
“ว่ามาสิ บอกทุกเรื่องที่เจ้ารู้เกี่ยวกับเกาะเทียนหลงมาทั้งหมด!” หยุนถิงพูดเสียงเย็น