จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 803 แผนร้ายของผู้อาวุโสอวี๋
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 803 แผนร้ายของผู้อาวุโสอวี๋
ห้องของผู้อาวุโสอวี๋
หยุนถิงผลักประตูเข้าไป คำนับด้วยความเคารพนบนอบ “คำนับอาจารย์!”
“เจ้ามาแล้วหรือ วันนี้เจ้าออกไปกับข้า!” ผู้อาวุโสอวี๋เอ่ยปาก
“อาจารย์ ท่านจะพาศิษย์ไปไหนหรือ?” หยุนถิงถาม
“ถึงแล้วเจ้าก็รู้เอง” ผู้อาวุโสอวี๋ลุกขึ้นเดินไปทางหน้าประตู
หยุนถิงรีบตามออกมาทันที ก็เห็นลูกศิษย์หลายคนยกกล่องรออยู่หน้าประตูแล้ว และกล่องใบนั้น เห็นแว๊บแรกนางก็จำได้นั่นคือกล่องที่ใช้บรรจุจิ่นฉิง
“ไปกันเถอะ!” ผู้อาวุโสอวี๋เดินไปข้างหน้า
ลูกศิษย์สองสามคนรีบยกกล่องตามไปทันที จู่ๆหยุนถิงก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอย่างมาก หากอาจารย์พบว่าในกล่องใบนั้นคือก้อนหิน ตัวเองจะไม่โชคร้ายไปด้วยหรอกหรือ! อีกอย่าง เขาให้คนยกจิ่นฉิงไป จะต้องไปพบฮูหยินเจ้าทะเลแน่นอนใช่ไหม
หยุนถิงคิดถึงตรงนี้ ก็ยื่นมือไปกุมท้องเอาไว้โดยสัญชาตญาณ “โอ้ย อาจารย์ข้าปวดท้อง เมื่อคืนน่าจะกินอะไรผิดไป ข้าจะไปห้องน้ำหน่อยได้ไหม?”
“ธุระเยอะจริงเชียว เจ้าไปเถอะ! หากท้องเสียไม่สบาย ข้ามียาโอสถ สามารถให้เจ้าได้สองสามเม็ด!” ผู้อาวุโสอวี๋กล่าวออกมาอย่างเย็นชา
“คนหนังหยาบผิวกร้านอย่างข้าจะทำใช้ยาโอสถของอาจารย์ให้สูญเปล่าได้อย่างไร ข้าไปห้องน้ำก็พอแล้ว” หยุนถิงหันหลังเดินจากไป
ผู้อาวุโสอวี๋ไม่ได้ให้ลูกศิษย์คนอื่นๆติดตามไป แต่ติดตามไปด้วยตัวเอง ทีนี้หยุนถิงก็ยิ่งมั่นใจแล้วว่า ตาแก่นี่ต้องการจะจัดการตัวเอง
นางต้องรีบหาวิธีแจ้งให้กับจวินหย่วนโยวหรือไม่ก็หลงยี หลิงเฟิงและคนอื่นๆโดยเร็ว มิเช่นนั้นตัวเองต้องตายโดยไร้ที่ฝังศพอย่างแน่นอน
หยุนถิงเดินไปทางห้องน้ำ บังเอิญเห็นปิงปิงที่ช่วยเอาไว้เมื่อคืนยกถาดเดินผ่านมาพอดี
หยุนถิงรีบเดินเข้าไปทันที ตอนที่เดินผ่านปิงปิงจงใจชนถาดของนางหล่น
เสียง “เพล้ง!” ดังขึ้น ถาดหล่นลงไปบนพื้น แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยนับไม่ถ้วน
ปิงปิงก็สะดุ้งตกใจเช่นกัน กำลังจะเอ่ยปาก หยุนถิงก็กล่าวเสียงเบาทันที “คิดหาวิธีแจ้งจิ่วฟ่างที่อยู่กับข้าเมื่อคืนนี้ บอกเขาว่าข้าตกอยู่ในอันตราย”
กล่าวประโยคนี้จบ หยุนถิงก็แหกปากตะโกนขึ้นมาทันที “ขอโทษด้วยแม่นาง ข้าไม่ได้ตั้งใจ เพราะปวดท้องเลยรีบไปเข้าห้องน้ำแต่แล้วก็ชนถูกเจ้าโดยไม่ทันได้ระวัง ขอโทษด้วย!”
ปิงปิงชะงักงัน ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อครู่นางได้ยินอย่างชัดเจนแล้ว บ่าวรับใช้คนนี้กำลังตกอยู่ในอันตราย
“แค่ขนมอบถาดหนึ่งเท่านั้น เจ้าไปยกที่โรงครัวอีกหนึ่งถาด!” ผู้อาวุโสอวี๋กล่าวออกมาอย่างไม่สบอารมณ์เล็กน้อย
“เจ้าค่ะ!” ปิงปิงกล่าวอย่างเคารพนบนอบ รีบเก็บกวาดถาดขนมอบที่แตกแล้วก็จากไป
“อาจารย์ ขอโทษด้วย เป็นเพราะข้าไม่ระวัง!”
“เอาล่ะ ไม่ต้องพูดมากไร้สาระ รีบๆไปห้องน้ำเลย!”
“ขอรับ!” หยุนถิงรีบไปห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลออกไปทันที เวลาประมาณครึ่งก้านธูปถึงได้ออกมา จากนั้นก็ติดตามผู้อาวุโสอวี๋จากไป
ปิงปิงที่เพิ่งจากไปเมื่อครู่ ยกถาดขนมอบกลับมาด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด เมื่อเห็นหยุนถิงและคนอื่นๆจากไปแล้ว ก็รีบมุ่งหน้าไปที่เรือนตะวันตกทันที
ถึงแม้นางจะเป็นสาวใช้ของเรือนตะวันตก แต่ก็ไม่เคยสังเกตว่าจิ่วฟ่างพักอยู่ห้องไหนมาก่อน อย่างไรเสียเรือนตะวันออกตะวันตก ใต้และเหนือล้วนเปลี่ยนกันอยู่ทุกปี ก็เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดคลุกคลีกับบ่าวรับใช้ในเรือน เช่นนี้กลับจะทำให้หลุดออกจากการควบคุมของฮูหยินเจ้าทะเล
ปิงปิงได้แต่เข้าไปตามหา หวังว่าจะได้พบกับเขา
แต่แล้วปิงปิงก็บังเอิญพบกับฉินเจี่ยที่สุดท้ายก็ยอมแพ้หลังจากที่รออยู่นานก็ไม่เห็นคนตรงหน้าประตูลาน
“คุณชายฉินเจี่ย เรียนถามหน่อยว่าคุณชายจิ่วฟ่างพักอยู่ห้องไหน?” ปิงปิงรีบสอบถามทันที
ฉินเจี่ยมองพิจารณานางครู่หนึ่ง “เจ้าหาจิ่วฟ่างด้วยเรื่องอันใด?”
“ผู้อาวุโสอวี๋ให้ข้านำขนมอบมาให้เขา บอกว่าเมื่อคืนเขากินน้อย แต่ข้าไม่รู้ว่าเขาพักอยู่ห้องไหน ดังนั้นขอคุณชายฉินเจี่ยโปรดบอกด้วย?” ปิงปิงตอบด้วยความเคารพนบนอบ
ฉินเจี่ยชำเลืองมองขนมอบนั่นครู่หนึ่ง “อาจารย์เป็นห่วงจิ่วฟ่างเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ว่าเจ้าหมอนั่นไม่อยู่ในห้อง ตอนเช้าข้าเห็นเขาไปที่หลังเขา น่าจะไปฝึกซ้อม!”
เมื่อปิงปิงได้ยิน ก็รีบกล่าวขอบคุณ และมุ่งหน้าไปที่หลังเขาทันที
ฉินเจี่ยมองดูแผ่นหลังของนาง นัยน์ตามีความเยาะเย้ยถากถางแว๊บผ่านไปเล็กน้อย
อาจารย์ช่างลำเอียงจริงๆ จิ่วฟ่างกินน้อยก็ส่งขนมอบไปให้เขา ทำไมไม่เห็นส่งให้ตัวเองบ้าง ดังนั้นฉินเจี่ยถึงได้จงใจกล่าวเช่นนี้
และจวินหย่วนโยวซึ่งอยู่ในห้องเวลานี้ เพราะประมือกับวี่หานเชียน และถูกฝ่ามือนั่น ร่างกายบาดเจ็บภายในสาหัส เพิ่งกินยาโอสถของหยุนถิง หนึ่งในยาโอสถช่วยในการนอนหลับ ดังนั้นเวลานี้จวินหย่วนโยวกำลังหลับสนิท ไม่รู้เลยว่าหยุนถิงตกอยู่ในอันตราย
ทางด้านนี้ หยุนถิงติดตามผู้อาวุโสอวี๋และคนอื่นๆไปที่เรือนหลัก
ความเงียบสงบงามสง่าของเรือนหลักไม่ด้อยไปกว่าเรือนตะวันตก ทุกที่แฝงไปด้วยความหรูหรา ทางเดินที่ปูด้วยหินหยกขาวคดเคี้ยวไปจนถึงด้านในลาน สองข้างทางวางเต็มไปด้วยดอกไม้และพืชพรรณหายาก หลายชนิดหยุนถิงก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อน
และตรงกลางลานคือหอห้าชั้น ซุ้มประตูชายคาโค้งงอ ภูเขาเทียมบ่อเลี้ยงปลา สัดส่วนพอดิบพอดี โอ่อ่าตระการตา เทียบได้กับตำหนักในพระราชวัง
“ตามข้าเอาไว้ ห้ามเดินไปเรื่อย ยิ่งห้ามพูดจาเรื่อยเปื่อย!” ผู้อาวุโสอวี๋กำชับ
“ขอรับ!”
พวกเขาเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา เดินผ่านลาน และเดินไปทางห้องโถงด้านข้าง สุดท้ายก็เข้าไปในห้องๆหนึ่ง
“คำนับฮูหยิน หวังให้ฮูหยินคงความอ่อนเยาว์ และคุมเขตทะเลนิรนามตลอดไป!” ผู้อาวุโสอวี๋คำนับด้วยความเคารพนบนอบ
หยุนถิงเงยหน้าขึ้นมาทันที นางสวมชุดทางการผ้าไหม ด้านบนปักดอกลำโพงสีดำ สง่างาม ลึกลับ กิริยาวาจาเหมาะสม
ผู้หญิงคนนั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้สูง โครงหน้าประณีต ระหว่างคิ้วและตาแฝงไปด้วยความฉลาดเล็กน้อย เย็นชาเล็กน้อย ผิวพรรณขาวสะอาด หางตาไม่มีรอยตีนกาเลยแม้แต่น้อย ดูออกว่าบำรุงรักษาเป็นอย่างดี ท่าทางเหมือนอยู่ในวัยสามสิบกว่าเท่านั้น
บุลลิกสูงส่ง สง่างามมีคุณธรรม ดวงตาคู่สวยกลอกหมุนไปมา เย็นชาและเลือดเย็น ทำให้คนกลัวจนใจเต้นระรัว
นี่ก็คือฮูหยินเจ้าทะเล ไม่ได้ต่างไปจากที่หยุนถิงคิดเอาไว้มากนัก
“เจ้าถึงกับกล้าจ้องมองดูข้า เด็กๆ ตบปาก!” ฮูหยินเจ้าทะเลเซียวหรูซื่อกล่าวอย่างเย็นชา
บ่าวรับใช้ที่มีอายุมากกว่าสองคนด้านข้างเดินเข้ามาทันที และกำลังจะตบหน้าหยุนถิง
“ฮูหยินไว้ชีวิตด้วย ข้าก็แค่ไม่เคยเห็นคนที่สูงส่งสง่างาม มีกิริยาท่าทางเหมาะสมเช่นฮูหยินมาก่อนเท่านั้น ก็เลยเสียกิริยาไปชั่วขณะ ขอฮูหยินโปรดยกโทษให้ด้วย!” หยุนถิงแสร้งทำท่าทางขี้ขลาด และอธิบายทันที
ผู้อาวุโสอวี๋มองมาด้วยความโกรธ “เจ้าคนไม่เอาไหน ฮูหยินเป็นคนที่เจ้าสามารถมองได้หรือ ฮูหยินโปรดอภัยด้วย นี่คือลูกศิษย์ที่ข้าเพิ่งรับมาใหม่ ยังไม่รู้กฎเกณฑ์ ขอฮูหยินโปรดเมตตา!”
ฮูหยินเจ้าทะเลเซียวหรูซื่อเลิกคิ้วมองไปทางหยุนถิง หน้าตาอัปลักษณ์ รูปร่างเตี้ยเล็ก ดูแล้วก็ไม่มีความพิเศษอะไร
“ข้าจำได้ว่า ลูกศิษย์ของเจ้าอย่างเร็วที่สุดก็ต้องเข้าสำนักสามปีถึงจะพามาที่เกาะเทียนหลง เขามีความพิเศษอะไร?”
“เรียนฮูหยิน พรสวรรค์ด้านทักษะทางการแพทย์ของเขาเก่งกาจกว่าข้าเสียอีก เป็นร่างฝึกกู่ที่ดีที่สุดในการฝึกวิชากู่ ที่พามาในครั้งนี้ก็เพื่อให้ฮูหยินดูตัว!” ผู้อาวุโสอวี๋ตอบ
หยุนถิงตกตะลึง “ร่างฝึกกู่ อาจารย์คำพูดของท่านหมายความอย่างไร?”
“ร่างฝึกกู่ย่อมต้องใช้เพื่อฝึกวิชากู่อยู่แล้ว ทักษะทางการแพทย์ของเจ้ายอดเยี่ยมเช่นนี้ แม้แต่อาจารย์ก็ยังต้องนับถือ ขอถามหน่อยว่าคนที่มีทักษะทางแพทย์ที่เช่นนี้จะมาเป็นศิษย์ในสำนักของข้าได้อย่างไร
ดังนั้นตั้งแต่นาทีที่เจ้าฝังเข็มให้กับโอจื่อโฝว ข้าก็เห็นความไม่ธรรมดาของเจ้าแล้ว ด้วยเหตุนี้ถึงได้แอบสอนเจ้าฝึกวิชากู่อย่างลับๆ
และที่เรียกว่าการฝึกวิชากู่ มันก็แค่ความสามารถผิวเผินเท่านั้น ประโยชน์ที่แท้จริงของเจ้าคือการใช้ร่างกายของเจ้าเพื่อให้ฮูหยินฝึกวิชากู่
ร่างกายของจิ่นฉิงถึงขีดจำกัดแล้ว ไม่สามารถรับการแว้งกัดของกู่โลหิตนั่นอีก และมนุษย์ตัวเป็นๆอย่างเจ้าย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด หากใช้เจ้าฝึกฝน ต้องได้ผลเป็นทวีคูณอย่างแน่นอน!”