จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 828 ได้รู้ว่าถิงหยุนเป็นหญิงปลอมตัวเป็นชาย
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 828 ได้รู้ว่าถิงหยุนเป็นหญิงปลอมตัวเป็นชาย
หลังจากวี่รั่วยีออกไป ก็พุ่งตรงไปที่ห้องจิ่วฟ่างทันที แต่กลับโดนศิษย์คนอื่นบอกว่า ศิษย์พี่จิ่วฟ่างออกไปแล้ว
วี่รั่วยีคิดๆดูแล้วก็ไม่ว่าอะไร เลยรออยู่ในห้องจิ่วฟ่าง มองดูการตกแต่งเรียบง่ายในห้อง ล้วนเป็นการจัดแต่งห้องรับแขกที่เหมือนกันหมดของเกาะเทียนหลง ไม่มีอะไรพิเศษ
“หรงเอ๋อร์ เจ้าไปนำดอกกล้วยไม้กระถางนั้นที่ข้าเลี้ยงมาสิ!” วี่รั่วยีบอก
“คุณหนูใหญ่ นั่นน่ะเป็นกระถางที่ท่านเลี้ยงเองกับมือนะเจ้าคะ?” หรงเอ๋อร์ถามอย่างไม่เข้าใจ
“เพราะข้าเลี้ยงเองกับมือไงล่ะ เลยยิ่งมีความหมาย ไปเถอะ”
“เจ้าค่ะ!” หรงเอ๋อร์รีบไปทันที ไม่นานนางก็ยกดอกกล้วยไม้กระถางนั้นเข้ามา
วี่รั่วยีวางดอกกล้วยไม้กระถางนั้นวางไว้ข้างหน้าต่างห้อง แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามา มีกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้ลอยในอากาศ ชวนให้ผ่อนคลาย
หวังว่าเขาเห็นแล้วจะชอบ
แต่วี่รั่วยีรออยู่นานจนฟ้ามืด ก็ไม่เห็นจิ่วฟ่างกลับมาเลย พูดให้ถูกคือจวินหย่วนโยว
เขาไปที่ไหนกันแน่ หรือว่าจากไปแล้ว?
วี่รั่วยีนั่งไม่ติดแล้ว ลุกขึ้นออกไปเลย และมุ่งตรงไปยังท่าเรือที่รับผิดชอบดูแลเรือริมฝั่งเกาะเทียนหลง และถามพ่อบ้านจนรู้ว่า วันนี้ไม่มีเรือลำไหนจากไปเลย ถึงได้วางใจ
บางทีเขาคงแค่มีธุระ เพียงแต่ทำไมเขาถึงมาที่เกาะเทียนหลงล่ะ อยากจะทำอะไรกันแน่
อีกด้านหนึ่ง จวินหย่วนโยวและหยุนถิงที่มาถึงเมืองสือแล้วพลันฮัดเช้ยออกมาเลย
“ท่านพี่ ท่านไม่สบายรึ?” หยุนถิงถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร พวกเราขึ้นฝั่งกันก่อนเถอะ” จวินหย่วนโยวยื่นมือเข้ามา กุมมือหยุนถิงลงจากเรือ เดินขึ้นฝั่งไป
“จวินหย่วนโยว หยุนถิง พวกเจ้ามากันแล้ว!” หมิงจิ่วซางบอก
คืนนี้เขารับผิดชอบนำคนเฝ้ายาม ดังนั้นเลยรู้ในวินาทีแรกที่จวินหย่วนโยวและหยุนถิงขึ้นฝั่งเลย
“จัดการเกาะนี้ไปถึงไหนแล้ว?” หยุนถิงถาม
“ซื่อจื่อเฟย เจ้าวางใจเถอะ มีเหลิ่งเหยียนอยู่ ต้องจัดการอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่แล้ว ตอนนี้พากำลังพลมาหมดแล้ว รอแค่คำสั่งเจ้าเท่านั้น!
จะว่าไป เจ้านี่ก็เก่งจริงนะ สร้างบ้านไว้มากมาเพียงนี้บนเกาะ และยังเตรียมอาวุธอุปกรณ์ อาหารไว้พร้อมสรรพ ข้ากับซวนอ๋องแค่พาคนมาได้ก็พอแล้ว” หมิงจิ่วซางยกนิ้วโป้งหันไปทางหยุนถิง
“ระยะนี้ลำบากพวกเจ้าแล้วนะ” หยุนถิงบอก
“ไม่ลำบาก ไม่ลำบากเลย ข้าไม่เคยเห็นสมบัติพวกนั้นของเจ้ามาก่อนเลยในชาตินี้ ข้าดียินดีทำงานให้เจ้า” หมิงจิ่วซางชมเชย
“เข้าไปพูดข้างในเถอะ ที่นี่หนาว!” จวินหย่วนโยวพลันพูดขึ้น
หมิงจิ่วซางถึงสังเกตว่าจวินหย่วนโยวลากคนหนึ่งมาด้วย “นางเป็นใครกัน นี่ข้าตื่นเต้นจนลืมไปเลย?”
“นางเป็นคนที่ทำร้ายท่านแม่ข้า ยกให้เจ้าแล้ว หาคนเฝ้าดูนางไว้ ทรมานให้หนักเลย” หยุนถิงบอกอย่างเคียดแค้น
โม่เหลิ่งเหยียนที่เดินเข้ามาได้ยินคำนี้เข้าพอดี ก้าวเท้าเร็วขึ้น เขาเหล่มองเซียวหรูซื่อที่โดนทรมานจนสลบไสลไม่ได้สติ
“สืบละเอียดแล้วรึ?”
หยุนถิงพยักหน้า “อืม!”
“เข้าไปกันเถอะ หมิงจิ่วซางเจ้าพาคนไปเลย ให้คนจับตาดูนางไว้ให้ดี!” โม่เหลิ่งเหยียนสั่งเสียงเย็นชาอย่างทรงอำนาจนัก
“ได้เลย นางกล้าทำร้ายท่านแม่เจ้า ก็เท่ากับทำร้ายท่านแม่ข้า ข้าจะรับรองนางอย่างดีแน่นอน!” หมิงจิ่วซางรับปากอย่างไว หิ้วตัวเซียวหรูซื่อออกไปเลย
หยุนถิงมุมปากกระตุก รู้ดีว่าหมิงจิ่วซางเป็นพวกปากไว เลยขี้เกี้ยจถือสาเขา ลมทะเลกลางดึกพัดมามันหนาวจริงๆ
ดังนั้นหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวเดินตามโม่เหลิ่งเหยียนเข้าในห้อง พลันอบอุ่นขึ้นมาก
จวินหย่วนโยวหันมองเห็นบนเก้าอี้มีที่รองนั่งขนปุย ก็หยิบมาคลุมขาให้หยุนถิง
หยุนถิงอบอุ่นในใจนัก ท่านพี่รักตนที่สุดจริงด้วย
โม่เหลิ่งเหยียนเทน้ำชาร้อนให้พวกเขา ทั้งหมดนั่งลง
“พี่หญิงใหญ่ พี่เขยซื่อจื่อ ข้าได้ยินว่าพวกท่านมาแล้ว” หยุนหลีรีบมาอย่างยินดี พอเห็นหยุนถิงก็โผเข้ากอดนางไว้ทันที
เพราะแรงมากเกินไป เลยเกือบทำหยุนถิงล้ม จวินหย่วนโยวที่อยู่ข้างๆรับพวกนางไว้ได้ทัน
“เจ้าอยากทำพี่หญิงใหญ่เจ้าล้มตายรึ!” สีหน้าจวินหย่วนโยวเย็นชาลงฉับพลัน
หยุนหลีรีบลุกขึ้นมาอย่างกระดากอาย “ข้าคิดถึงพี่หญิงใหญ่มากไปหน่อยไง ไม่เจอพี่หญิงใหญ่มาหลายเดือนแล้วนะ พี่เขยซื่อจื่อท่านพูดอย่างนี้ได้อย่างไรกัน”
“เจ้าคิดเช่นนี้จริงรึ?” น้ำเสียงจวินหย่วนโยวมีแววกล่าวโทษ
“หยุนหลีน่ะกระโดกกระเดกไปหน่อยจริงๆ ขอจวินซื่อจื่ออย่าได้ถือสาเลย!” เสวี่ยเชียนโฉวพูดขึ้นทันที
“เอาล่ะ ก็แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง ข้าเห็นหยุนหลีก็ดีใจ ครอบครัวเดียวกันจะถือสาอะไรกันมากมาย หายากนักที่ทุกคนจะมารวมตัวกันบนเกาะร้างนี่ เอางี้พวกเรามาจัดหม้อไฟมื้อดึกดีกว่า หลายวันนี้ข้ากินของบนเกาะเทียนหลงไปจนเอียนแล้ว” หยุนถิงบอก
“ได้!” โม่เหลิ่งเหยียนรีบให้คนไปเตรียมการทันที
ก่อนหน้านี้หยุนถิงก็ตระเตรียมอาหารการกินและเสื้อผ้าไว้บนเกาะนี้พร้อมสรรพแล้ว แบบนี้ก็สะดวกมาก
ไม่นานหม้อแบ่งสองช่องหม้อหนึ่งยกเข้ามาพอดี ยังมีผักอีกมากมายหลายอย่าง หยุนถิงจะลงมือ จวินหย่วนโยวก็คว้าตะเกียบขึ้นพอดี
“ถิงเอ๋อร์ เจ้าเหนื่อยมานานแล้ว รอกินก็พอแล้ว”
“ขอบคุณท่านพี่มาก!” หยุนถิงหัวเราะบอก
“พี่หญิงใหญ่เล่าให้ข้าฟังเร็ว เกิดเรื่องอะไรกับพวกท่านบ้างที่เกาะเทียนหลง?” หยุนหลีถามด้วยสีหน้าสงสัย
หยุนถิงกำลังจะเล่า ทันใดนั้นก็ปรากฏสองร่างที่หน้าประตู โอจื่อโฝวสีหน้ากระอักกระอ่วน อยากเข้าแต่ก็ไม่กล้าเข้ามา
จิ่วฟ่างอุ้มจิ่นฉิงอยู่ ตอนนี้อยู่บนเกาะนี้ ไม่ว่าเขาจะไปไหนก็อุ้มจิ่นฉิงไปด้วยตลอด กลัวว่าพอตนวางมือลงแล้วนางจะหายตัวไปอีก
“ข้า พวกข้ามาหาถิงหยุน ในเมื่อเขาไม่อยู่ เช่นนั้นพวกข้าไม่รบกวนดีกว่า—“ โอจื่อโฝวพูดอย่างกระอักกระอ่วน หมุนตัวจะเดินออกไป
“ข้าคือถิงหยุน!” หยุนถิงพลันเอ่ยขึ้น
โอจื่อโฝวหันหัวกลับมาอย่างไว จิ่วฟ่างเองก็มีสีหน้างุนงงเช่นกัน
“เจ้า เจ้าเป็นสตรี เป็นไปได้อย่างไรกัน เหตุใดข้าไม่สังเกตเห็นเลย?” โอจื่อโฝวบอกอย่างตะลึง
“ดังนั้น ก่อนหน้านี้เจ้าแปลงโฉมมา งั้นฝีมือการแปลงโฉมของเจ้าเยี่ยมยอดมากจริงๆ” จิ่วฟ่างดูมีหัวคิดกว่าหน่อย
“ใช่ ข้าเป็นสตรี และแต่งงานแล้ว มีสามีแล้ว ก่อนหน้านี้ที่แปลงโฉมไปสำนักหมอเทวดา เพราะอยากสืบหาตัวฆาตกรที่ฆ่าท่านแม่ข้า ตอนนี้ข้าจับตัวฆาตกรได้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไป!” หยุนถิงบอกอย่างเปิดเผย
“ผู้อาวุโสอวี๋รึ?” จิ่วฟ่างถามโพล่งออกมา
“ไม่ใช่ คือเซียวหรูซื่อ ฮูหยินเจ้าทะเลแห่งเขตทะเลนิรนาม!” หยุนถิงตอบ
“เป็นฮูหยินเจ้าทะเลได้อย่างไรกัน?” โอจื่อโฝวโง่ไปเลย ไม่สนใจเก็บกิริยาหรือความกระอักกระอ่วนแล้ว เขาเดินตรงแหน่วเข้ามาอย่างสงสัย
หยุนถิงเล่าเรื่องทั้งหมดที่ว่าเซียวหรูซื่อวางแผนทำร้ายท่านแม่ตนอย่างไรออกมาหมด ทำเอาทุกคนเดือดดาลทะลุฟ้า เคียดแค้นยิ่งนัก
ใครเองก็ไม่คิด เซียวหรูซื่อจะทำเรื่องเลวร้ายมากมายเพียงนี้ โดยเฉพาะโอจื่อโฝว ตัวเขาเบิกตากว้างอ้าปากค้างไปเลย
“เซียวหรูซื่อน่าตายนี่ กล้าทำร้ายท่านแม่ของพี่หญิงใหญ่ขนาดนี้เลย ตอนนี้ข้าจะไปฆ่านางเลย!” หยุนหลีพูดอย่างเดือดดาล
“อย่าวู่วาม พี่หญิงใหญ่เจ้าน่ะจัดการแล้ว” เสวี่ยเชียนโฉวปลอบ
“พี่หญิงใหญ่ ท่านจับเซียวหรูซื่อมาได้แล้วจริงรึ?”
“อืม ทุกสิ่งที่ตอนนั้นนางทำกับท่านแม่ข้า ข้าจะคืนให้นางเป็นหมื่นเท่าเลย หมิงจิ่วซางนำนางไปขังแล้ว เจ้าช่วยข้าสั่งสอนนางได้ เอาแค่ไม่ให้ตายก็พอ!” หยุนถิงตอบ