จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 831 ท่านหน้าตาหล่อเหลานัก
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 831 ท่านหน้าตาหล่อเหลานัก
“เป็นของกินเล่นอย่างหนึ่งที่ข้าชอบกินตอนเด็ก เผ็ดนิดหน่อย นั่นเป็นสิ่งที่ข้าชอบมากที่สุด” หยุนถิงอธิบาย
จวินหย่วนโยวได้ยินคำนี้ก็มีสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย “ของกินเล่นอย่างเดียวก็เป็นสิ่งที่เจ้าชอบมากที่สุดน่ะ แล้วข้าล่ะ”
หยุนถิงยกนิ้วชี้ขึ้นมาแกล้งเย้าจวินหย่วนโยวเล่นด้วยการเชยคางนางขึ้น “คุณชายท่านนี้ ท่านหน้าตาหล่อเหลานัก ใบหน้านี้คิ้วตานี้โดนใจข้านัก มา ยิ้มให้ข้าสักหน่อยสิ”
จวินหย่วนโยวให้ความร่วมมือโดยดี ทำเอาหยุนถิงหัวเราะขันออกมา “คุณชาย ท่านยิ้มน่าดูเกินไปแล้ว ข้าจะตกหลุมรักแล้วนะ เสร็จกัน ต่อไปในใจข้าไม่เหลือที่ให้คนอื่นอีกแล้วล่ะ”
“พูดเช่นนี้ได้ งั้นหากข้าจูบเจ้าสักหน่อย ชาตินี้เจ้าก็จะรักข้าเพียงคนเดียวใช่หรือไม่” จวินหย่วนโยวหัวเราะขันออกมา ยื่นหน้าเข้าไปจูบหยุนถิงหนึ่งที
แต่ก็แค่แผ่วเบาครู่เดียว จวินหย่วนโยวก็ถอยออกมาเลย
เพราะยังไงที่นี่ก็เป็นห้องกระจก ทะลุโปร่งหมด จากด้านในเห็นด้านนอกอย่างชัดเจน แน่นอนจากด้านนอกก็สามารถมองเห็นทุกอย่างด้านในหมด
บนเกาะนี้ล้วนเป็นคนของโม่เหลิ่งเหยียนทั้งหมด ให้ลูกน้องเหล่านั้นมาเห็นตนหวานกับถิงเอ๋อร์ เขาไม่อยากเลยจริงๆ
หยุนถิงพอใจมาก “คุณชายท่านออกตัวก่อนเช่นนี้แล้ว ข้าเองก็ต้องมีของกลับไปไห้ด้วยสิ งั้นข้าร้องเพลงให้ท่านฟังแล้วกัน”
“ได้!”
จากนั้นหยุนถิงก็ร้องเพลงดาวดวงน้อยขึ้นมา เมื่อก่อนนางเคยร้องให้จวินหย่วนโยวหลายครั้งแล้ว ตอนนี้จวินหย่วนโยวเองก็ร้องเป็นแล้ว
พอฟังหยุนถิงร้อง จวินหย่วนโยวก็ร้องด้วยกันกับนางขึ้นมา
เสียงทุ้มต่ำมีจังหวะ ผสานกับเสียงอ่อนโยนไพเราะของหยุนถิง เสียงของทั้งคู่สอดประสานกันอย่างเหมาะเจาะ สะท้อนไปทั่วทั้งห้องกระจก อบอุ่นยิ่งนัก
เช้าวันต่อมา หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวพึ่งตื่น ก็เห็นจิ่วฟ่างอุ้มจิ่นฉิงรออยู่หน้าประตู
“เจ้ามาเช้าจริงๆ!” จวินหย่วนโยวแค่นเสียงเรียบ
ถิงเอ๋อร์ของเขายังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย หมอนี่ก็อุ้มคนมาหาแล้ว แต่จวินหย่วนโยวก็เข้าใจเขา จิ่วฟ่างรักจิ่นฉิงยิ่งนัก ถึงได้ร้อนใจขนาดนี้กระมัง
“ท่านพี่ จิ่วฟ่างแค่เป็นห่วงจิ่นฉิง พานางไปที่เรือนที่หลังคาสีแดงนั่น ที่นั่นมีอุปกรณ์การรักษาของข้าทั้งหมด” หยุนถิงบอก
“ได้!” จิ่วฟ่างอุ้มจิ่นฉิงไปทันที
“จวินซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟยขอถามว่าเช้านี้พวกท่านอยากทานอะไรรึ?” องครักษ์คนหนึ่งเดนิเข้ามาถาม
โม่เหลิ่งเหยียนกำชับเขาเป็นพิเศษ ให้เขารับผิดชอบอาหารการกินของจวินหย่วนโยวกับหยุนถิง
“เรียบง่ายหน่อยก็พอแล้ว บะหมี่สักชามแล้วกัน” หยุนถิงตอบ
“ได้!”
หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวรีบไปทันที เจอยายขุยด้านนอกเรือนพอดี เมื่อคืนเพราะว่าดึกมากแล้ว ดังนั้นหยุนถิงเลยให้คนไปบอกยายขุยแต่เช้าเลย
“ข้าได้ยินว่าจับตัวคนที่วางยาพิษคุณหนูตอนนั้นได้แล้ว มันอยู่ไหน ข้าจะดูให้เห็นกับตาสิว่าใครกันที่ชั่วร้ายเพียงนี้?” ยายขุยถามอย่างตื่นเต้น
“เซียวหรูซื่อ ฮูหยินเจ้าทะเลแห่งเขตทะเลนิรนาม แต่ตอนนี้นางไม่อยู่ ข้าให้ซวนอ๋องพานางออกไปเมื่อคืน ให้นางดูให้เห็นกับตาว่าอำนาจทุกอย่างที่นางมีถูกทำลายหมดแล้ว!” หยุนถิงบอกอย่างเคียดแค้น พูดเรื่องทั้งหมดออกมา
ทำเอายายขุยมีสีหน้าเคียดแค้นเดือดดาลนัก “เซียวหรูซื่อน่าตายนัก ที่แท้เป็นนางที่ทำร้ายคุณหนู เสียแรงที่ตอนนั้นคุณหนูจริงใจต่อนาง ยังเคยช่วยชีวิตนาง เจ้าคนอกตัญญูที่ชั่วร้ายสารเลวนี่”
“ท่านเฒ่าอย่าโกรธไปเลย หากทำตนเองไม่สบายก็จะไม่มีแรงทรมานนางแล้ว รบกวนท่านเฒ่าไปดูอาการจิ่นฉิงกับข้าก่อนเถอะ รอพวกซวนอ๋องกลับมาแล้ว เซียวหรูซื่อจะยกให้ท่านละ!” หยุนถิงปลอบ
“ได้ เซียวหรูซื่อสารเลวนี่ ข้าจะให้นางอยู่ก็ไม่ได้ตายก็ไม่ได้แน่” ยายขุยกัดเขี้ยวเคี้ยวฟันบอก ในเวลาเดียวกันก็ตื้นตันใจนัก
ลูกสาวของคุณหนูนี่ดีจริง สืบรู้ความจริงได้เร็วขนาดนี้ จับตัวคนที่ให้ร้ายคุณหนูได้ ไม่ว่าจะเป็นฝีมือหรือการวางแผนล้วนเหนือกว่าคุณหนูมากนัก
ถึงนางจะไม่ได้จับเซียวหรูซื่อด้วยตัวเอง แต่สามารถทรมานเซียวหรูซื่อด้วยมือตัวเองได้ ยายขุยก็ตื่นเต้นมากแล้ว ถือว่าได้แก้แค้นให้คุณหนูส่วนหนึ่งแล้ว
หลายคนพูดคุยกันและเข้าไปในเรือน ยายขุยมองดูจิ่นฉิงที่สลบ รีบเข้ามาช่วยจับชีพจรให้นางทันที
“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ร่างกายของนังหนูนี่—“ ต่อให้เป็นยายขุยที่ฝึกกู่มาหลายสิบปียังอดตกตะลึงไม่ได้
“ก่อนหน้านี้นางโดนผู้อาวุโสอวี๋ใช้ร่างกายฝึกกู่หลายปี ถึงได้เป็นแบบนี้ ข้าทำได้แค่ให้นางกินยาเสริมพลังจิตและสารอาหารเหลว ท่านเฒ่า ท่านดูสิว่าต้องการยาอะไรอีกบอกมาได้เลย” หยุนถิงอธิบาย
“ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง ร่างกายของนังหนูนี่โดนใช้เลี้ยงกู่พิษมาหลายปี เลยโดนกู่พิษดูดซึมกัดกินเลือดเนื้อและพลังชีวิตของคนไปนานแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่ลมหายใจเฮือกสุดท้ายเท่านั้น
หากอยากจะฟื้นฟูกลับมาเป็นคนธรรมดาอีกครั้ง มันเป็นไปไม่ได้หรอก ทำได้แค่บำรุงร่างกายไปช้าๆ ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือสามารถฟื้นขึ้นมาได้
แต่เพราะร่างกายโดนกู่พิษควบคุมมานานหลายปี ดังนั้นอย่างมากนางจะอยู่ได้อีกหนึ่งปี ทำได้แค่ทำเต็มที่ ปล่อยไปตามสวรรค์ลิขิตแล้วล่ะ!” ยายขุยบอกอย่างเห็นใจ
นังหนูนี่ชีวิตรันทดนัก โดนคนใช้วิธีการชั่วร้ายเช่นนี้ทรมาน
เลือดในร่างจิ่วฟ่างแข็งตัวไปเลย สมองว่างเปล่า มองดูจิ่นฉิงที่นอนสลบอย่างอึ้งๆ ทั้งปวดใจและโทษตัวเอง เขารู้สึกผิดมาก
ต้องโทษตนเองที่ไร้ประโยชน์ หากตนเจอนางเร็วกว่านี้ หากตนสังเกตเห็นความผิดปกติของอาจารย์เร็วกว่านี้ หากตน—
วินาทีนี้จิ่วฟ่างแค้นตนเองยิ่งนัก หากไม่ใช่เพราะตน จิ่นฉิงก็คงไม่ต้องเป็นแบบนี้
“จิ่วฟ่าง เจ้าอย่าโทษตนเองเลย ด้วยความชั่วร้ายและวิธีการของผู้อาวุโสอวี๋ย่อมไม่มีทางยอมปล่อยนางไปแน่ ต่อให้เขาไม่รู้จักจิ่นฉิง ก็จะส่งคนไปตามหาคนที่สามารถนำมาเลี้ยงกู่ทั่วทุกสารทิศแน่นอน” หยุนถิงปลอบ
จิ่วฟ่างปล่อยกำปั้นลงข้างกาย พลางกำมันแน่น “ผู้อาวุโสอวี๋ เขาอยู่ไหน ข้าจะฆ่าเขาด้วยมือข้าเอง”
น้ำเสียงเคียดแค้นยิ่งนัก
“ข้าฆ่าเขาไปแล้ว” หยุนถิงตอบ
นางเล่าเรื่องที่ตนฆ่าผู้อาวุโสอวี๋ออกมา รวมถึงเรื่องที่ทำลายซากศพเขากลายเป็นน้ำด้วย
ทำเอาจิ่วฟ่างคิ้วขมวดมุ่น เส้นเลือดแดงที่ข้างคอปูดโปน “ข้าแค่แค้นใจที่ไม่อาจฆ่าเขาได้ด้วยมือตนเอง!”
“ความผิดที่เขาก่อ ขนาดตายยังไม่สาสมเลย ตอนนี้ต้องรักษาจิ่นฉิงก่อน ถึงนางจะอยู่ได้อีกแค่หนึ่งปี แต่ข้าคิดว่านางต้องอยากเจอเจ้าที่สุดแน่
สามารถเจอคนที่ตนรักในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต ก็คงจะตายตาหลับแล้วล่ะ” หยุนถิงบอก
จิ่วฟ่างหันมองจิ่นฉิง เขาปวดใจนัก จากนั้นก็คุกเข่าลงต่อหน้าหยุนถิงเลย “ขอร้องเจ้าช่วยนางที ขอเพียงช่วยนางได้ ให้ข้าทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น!”
หยุนถิงซาบซึ้งกับความรักมั่นคงของเขายิ่งนัก รีบยื่นมือไปพยุงเขาลุกขึ้น “วางใจเถอะ ข้าจะช่วยอย่างสุดความสามารถ ร่วมมือกับท่านเฒ่ารักษานาง”
ยายขุยเองก็ซาบซึ้งนัก ที่เขาว่ารักแท้หายากน่ะนะ “เจ้าหนุ่มวางใจเถอะ ข้าจะช่วยนางอย่างเต็มที่แน่”
“ขอบคุณท่านเฒ่ามาก”
“เอาล่ะ เจ้ากับจวินซื่อจื่อออกไปได้แล้ว ที่นี่มีพวกข้าสองคนก็พอ” ยายขุยบอก
“แต่ข้า—“ จิ่วฟ่างไม่วางใจ
“หากเจ้าอยู่ที่นี่ มีแต่จะส่งผลกระทบต่อการรักษาของพวกนาง เจ้าเองก็อยากให้นางฟื้นขึ้นมาไวๆกระมัง” หายากนักที่จวินหย่วนโยวจะพูดปลอบออกมา
จิ่วฟ่างพยักหน้าอย่างแรง “มีอะไรก็เรียกข้านะ ข้าอยู่หน้าประตูนี่เอง”
“วางใจเถอะ”
จิ่วฟ่างตามจวินหย่วนโยวออกไป หยุนถิงที่อยู่ในห้องปิดประตูทันที จากนั้นก็เริ่มทำการรักษากับยายขุย
“อันที่จริง นังหนูนี่จะฟื้นขึ้นมาได้ไหม ข้าเองก็ไม่แน่ใจ ที่พูดไปอย่างนั้นก่อนหน้านี้ ก็แค่อยากให้เจ้าหนุ่มนั่นมีความหวังก็เท่านั้น” ยายขุยถอนหายใจบอก