จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 839 กล้าแย่งชิงผู้ชายของข้า หาเรื่องตาย
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 839 กล้าแย่งชิงผู้ชายของข้า หาเรื่องตาย
“นั่นสิ ไม่คิดว่าคุณหนูใหญ่จะจิตใจอสรพิษขนาดนี้ ไม่เพียงวางยาพิษพวกเรา ยังไม่ยอมรับอีก ช่างหน้าไม่อายเสียจริง”
“เกาะเทียนหลงรังแกกันเกินไป คุณหนูใหญ่กล้าสงสัยฐานะของศิษย์พี่จิ่วฟ่างหลายต่อหลายครั้ง นางให้คนวางยาพิษพวกเรา ฮูหยินเจ้าทะเลกลับให้นางแค่สำนึกผิดเท่านั้นเอง นี่เห็นชีวิตพวกเราเป็นของเล่นรึ”
“หากมิใช่เพราะยาของศิษย์พี่จิ่วฟ่าง จนถึงตอนนี้พวกเราก็คงยังไม่รู้ว่า คุณหนูใหญ่จะชั่วร้ายเพียงนี้ ฮูหยินเจ้าทะเลยังลำเอียงขนาดนี้ คนนอกอย่างพวกเราเทียบกับลูกแท้ๆไม่ได้หรอก”
“แล้วพวกเราจะจบง่ายๆอย่างนี้รึ?”
“ไม่จบแล้วจะทำอย่างไรได้ ฮูหยินเจ้าทะเลเป็นแม่แท้ๆของคุณหนูใหญ่ ขนาดอยู่ต่อหน้าคนมากขนาดนั้นนางยังลำเอียง ไม่สนใจความเป็นความตายของพวกเราเลย แล้วยังจะพึ่งพาใครได้?”
ศิษย์ทุกคนพากันโอดครวญ ล้วนเคียดแค้นวี่รั่วยีทั้งหมด และยิ่งผิดหวังในตัวฮูหยินเจ้าทะเลยิ่งนัก
จิ่วฟ่างเหล่มองทุกคน “แน่นอนว่าจบเช่นนี้ไม่ได้ ข้าเหลือคนไว้ที่เกาะเทียนหลง พวกเขาย่อมล้างแค้นแทนทุกคนเอง เรื่องเร่งด่วนในตอนนี้คือให้ทุกคนจากไปอย่างปลอดภัย ข้าไม่สนใจทุกสิ่งได้ แต่ไม่อาจไม่สนใจความเป็นความตายของพวกเจ้าได้”
คำพูดนี้ทำทุกคนซึ้งใจนัก
“ศิษย์พี่จิ่วฟ่าง ขอบคุณท่านมาก ย่อมอดกลั้นอดทนเพื่อศิษย์น้องขนาดนี้ พวกเราทำให้ท่านลำบากแล้ว” ศิษย์คนหนึ่งบอกอย่างซาบซึ้ง
“งั้นพวกเรากลับเรือนอวี๋ไปขอความช่วยเหลือ ข้าไม่เชื่อหรอกว่า เกาะเทียนหลงจะกล้าฆ่าพวกเราหมด”
“ทุกคนอย่าไปหาเรื่องตายดีกว่า คนไปมากแค่ไหนก็โดนลอบทำร้ายอยู่ดี ดูท่าเรื่องวันนี้ฮูหยินเจ้าทะเลคงไม่ให้คนอื่นรู้หรอก”
รอจนทุกคนขึ้นฝั่งหมดแล้ว ก็กลับบ้านใครบ้านมันเถอะ มาจากไหนก็กลับไปที่นั่น เรือนอวี๋น่ะไม่มีเหลืออีกแล้ว!” จิ่วฟ่างพูดเสียงเนิบช้า
ทุกคนตกตะลึง ต่างไม่เข้าใจ
“เกิดอะไรขึ้น เหตุใดเรือนอวี๋จึงไม่เหลือแล้ว ศิษย์พี่จิ่วฟ่าง ท่านบอกพวกเราอย่างละเอียดที”
จิ่วฟ่างเลยเล่าเรื่องที่ผู้อาวุโสอวี๋ใช้คนมาปรุงพิษกู่ออกมาทั้งหมด และเรื่องความลับของคุกใต้ดินด้วย
ทุกคนตกใจยิ่งนัก ย่อมไม่เชื่อกันอยู่แล้ว แต่พอเห็นพิษที่ข้อมือทุกคนก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
“ข้ามียาถอนพิษอยู่ หลังจากทุกคนกินลงไปก็จะสามารถขับพิษร้ายในกายออกมาได้ จะไปที่ใดพวกเจ้าก็ตัดสินใจกันเองแล้วกัน!” จิ่วฟ่างแค่นเสียงเย็น พลางควักขวดยาที่พกติดตัวออกมา
นั่นเป็นยาถอนพิษที่หยุนถิงให้เขามาก่อนหน้านี้ คนพวกนี้ล้วนเป็นศิษย์ร่วมสำนักของเขาทั้งนั้น
ทุกคนมองยาขวดนั้น ไม่คิดเลยสักนิด หยิบมากินเลยทันที
การที่จิ่วฟ่างไม่ได้วุ่นวายต่อไป หยุนถิงเป็นคนให้เขาทำอย่างนี้เอง ผ่านเหตุการณ์วุ่นวายครั้งนี้ไปวี่รั่วยีสูญเสียใจทุกคนไปอย่างสิ้นเชิง ก็เป็นการให้หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวเคลื่อนไหวอย่างสะดวกด้วย
ส่วนเขาเพียงอยากลับไปอยู่ข้างกายจิ่นฉิงโดยเร็วที่สุด สำหรับเกาะเทียนหลง ยกให้หยุนถิงก็พอแล้ว
และที่เกาะเทียนหลง หยุนถิงแกล้งทำทีจากไปพร้อมกับพวกจิ่วฟ่าง จากนั้นก็อาศัยตอนทุกคนไม่สนใจลอบแอบออกไป หาที่ที่ไม่มีคนแล้วเปลี่ยนเป็นชุดสาวใช้ เดินไปเรือนวี่หนานเสวียนอย่างเปิดเผย
พอนางเข้าไป ก็ได้ยินเสียงโยนข้าวของโครมคราม
“จบกัน หมดสิ้นกันแล้ว คนทั่วทั้งเกาะเทียนหลงต่างรู้เรื่องแย่ๆของข้าหมดแล้ว ต่อไปข้าจะมีหน้าอยู่ได้อย่างไร!”
พ่อบ้านที่ยืนเฝ้าอยู่ด้านนอก พอได้ยินเสียงโครมครามของข้าวของในห้อง เขาทั้งกังวลและทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
และได้เห็นหยุนถิงที่กลับมาจากด้านนอกพอดี ก็รีบพุ่งเข้ามาหาราวกับเจอพระมาโปรด
“หยุนเอ๋อร์ เจ้ากลับมานี่ดียิ่งนัก รีบไปทำของอร่อยมาให้คุณชายน้อยคลายโมโหเร็ว”
“นี่เป็นไก่ป่าที่ข้ารอเสียหลายวันกว่าจะจับได้ที่หลังเขา ย่างมาเสร็จแล้ว” หยุนถิงแกว่งก้อนไก่ในมือไปมา
พ่อบ้านขมวดคิ้ว “งั้นเจ้ารีบไปเถอะ”
“ได้!” หยุนถิงรีบเดินเข้าไปทันที พ่อบ้านถอยออกไปอย่างคล่องแคล่ว
กระโถนนี่ให้หยุนเอ๋อร์เป็นแล้วกัน หวังว่านางจะไม่โทษตนเอง อันที่จริงเขาเองก็หมดหนทาง
หยุนถิงเดินเข้าไป มองดูวี่หนานเสวียนขว้างปาข้าวของ ไม่ได้ห้ามปราม แต่กลับยืนดูอยู่ข้างๆ
พอเห็นนางเข้ามา วี่หนานเสวียนยิ่งเดือดดาลหนัก “เจ้ามัวแต่ยืนดูอยู่อย่างนั้น ไม่รู้จักเข้ามาห้ามข้าเลยรึ”
“ไม่ใช่ของบ้านข้าเสียหน่อย ท่านเขวี้ยงได้เลยตามสบาย!” หยุนถิงตอบ
วี่หนานเสวียนสีหน้าเย็นชาลง “นังหนูน่าตายนี่ พูดจาดีๆมิเป็นรึ?”
“ข้าพูดความจริงนะ ข้าทำไก่ขอทานมา ท่านลองชิมดูสิ กินอิ่มจะได้มีแรงเขวี้ยงของต่อ” หยุนถิงบอก
วี่หนานเสวียนมองดูก้อนโคลนดำเมี่ยมนั่นด้วยสีหน้ารังเกียจ และไม่ได้ขยับอะไร
หยุนถิงโยนก้อนนั้นลงพื้นทันที กลิ่นหอมของไก่ย่างลอยมา ความโกรธของวี่หนานเสวียนถึงค่อยคลายลงไป รีบเดินเข้ามากินอย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด
พอกินเข้าไป ก็รู้สึกเอร็ดอร่อยยิ่งนัก พริบตาเดียวเขาก็กินไปกว่าครึ่งตัว
“ไม่รู้ว่าพี่หญิงใหญ่ได้กินอะไรที่หลังเขาหรือไม่ วันนี้นางก่อเรื่องเช่นนี้ขึ้น ท่านแม่ต้องไม่ยอมอภัยให้นางง่ายๆแน่” วี่หนานเสวียนถอนหายใจบอก
“ให้ข้าไปส่งข้าวให้คุณหนูใหญ่ดีหรือไม่ แบบนี้จะได้ทำแทนท่านไปด้วย” หยุนถิงเสนอ
“ได้ เจ้าเอาป้ายคำสั่งของข้าไป ทำของอร่อยไปเยอะหน่อยนะ” วี่หนานเสวียนรีบยื่นป้ายคำสั่งมาให้ทันที
“ได้เลย” หยุนถิงรับมา จากนั้นก็ไปห้องครัวทำอาหารหลายอย่าง พลางหิ้วตะกร้ามุ่งตรงไปหลังเขาทันที
หูตาของเซียวหลันรีบรายงานทุกอย่างต่อนางทันที “ให้นางไปเถอะ ส่งข้าวเท่านั้นเอง ถึงยีเอ๋อร์จะมีความผิด แต่ก็ไม่ถึงกับต้องอดข้าว”
พอเหล่าองครักษ์เห็นเป็นป้ายคำสั่งของคุณชายน้อย และเห็นฮูหยินเจ้าทะเลไม่ได้ยับยั้ง เลยให้นางเข้าไป
สายตาหยุนถิงฉายแววสมใจ นางเองก็สามารถขโมยป้ายของวี่หนานเสวียนได้ หรือว่าจะลอบออกมาก็ได้ เพียงแต่มีหรือจะสะใจเท่ามาสั่งสอนวี่รั่วยีอย่างเปิดเผย
ถ้ำหลังเขา
วี่รั่วยีมองด้วยสีหน้ารังเกียจ ถ้ำนี้ไม่มีอะไรสักอย่าง ทั้งอับทั้งชื้น บนพื้นก็มีแต่หญ้าเล็กน้อย ต่อให้นางร้องอย่างไร โกรธแค่ไหน ก็ไม่มีใครสนใจนางเลย มันยิ่งทำให้นางเคียดแค้นมากขึ้น
จะต้องหาวิธีติดต่อท่านแม่ให้ได้ ไม่ คือเซียวหลัน มีความลับนี้อยู่ในมือ ก็ไม่ต้องกลัวว่านางจะไม่ปล่อยตนออกไปแน่
หยุนถิงยกกล่องข้าวเดินเข้ามา “คารวะคุณหนูใหญ่ ข้าน้อยเป็นสาวใช้เรือนคุณชายเล็ก นี่เป็นอาหารที่คุณชายเล็กกำชับข้าน้อยเตรียมมาให้คุณหนูใหญ่ ขอเชิญคุณหนูใหญ่ทานเถิด”
นางพูดไปพลางยกอาหารออกมา
เหน็ดเหนื่อยมาทั้งเช้าแล้ว วี่รั่วยีเริ่มหิวแล้วจริงๆ พอได้ยินว่าหนานเสวียนส่งมา ถึงได้เดินออกมากิน
“เจ้าเป็นคนของเรือนหนานเสวียน เหตุใดข้าไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อนเลย?” วี่รั่วยีมองมาที่หยุนถิงอย่างสงสัย
“เรียนคุณหนูใหญ่ ข้าน้อยรับผิดชอบอาหารการกินของคุณชายเล็ก เลยอยู่แต่ในห้องครัวมาตลอด ไม่ค่อยได้ออกมา” หยุนถิงแสร้งตอบอย่างนอบน้อม พอเห็นนางกินอาหารพวกนั้น ก็ยิ้มมุมปาก
“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้เอง เจ้าส่งข่าวบอกหนานเสวียนนะ ให้เขาหาหนทางให้ข้าเจอกับท่านแม่”
น้ำเสียงเย่อหยิ่ง จองหองสั่งการ ไม่เห็นหยุนถิงในสายตาเลยสักนิด
“น่ากลัวว่าจะไม่ได้!” หยุนถิงปฏิเสธ
“เจ้าว่ากระไรนะ?” วี่รั่วยีถลึงตาใส่อย่างเดือดดาล ซัดฝ่ามือใส่ทันที
เพียงแต่มือนั้นยังไม่ทันโดนแก้มหยุนถิง ก็โดนหยุนถิงคว้าหมับข้อมือนางไว้ได้ และจับหักอย่างแรง
“พลั่ก!” เสียงกระดูกแตก
“อ๊า!” วี่รั่วยีร้องหวีดด้วยความเจ็บปวด แต่วินาทีต่อมานางก็ต้องตะลึง เพราะนางร้องแล้ว แต่กลับไม่มีเสียงออกมาเลย
“กล้าแย่งชิงผู้ชายของข้า ยังคิดวางแผนให้ร้ายเขา วี่รั่วยี พวกเราควรจะคิดบัญชีกันหน่อยนะ!” หยุนถิงยิ้มเย็นบอก