จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 843 ขอโทษจวินเสี่ยวเทียน
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 843 ขอโทษจวินเสี่ยวเทียน
“เสี่ยวเทียนลุกขึ้นมา เป็นอย่างไรบ้าง บาดเจ็บหรือไม่?” โม่หลานประคองจวินเสี่ยวเทียนขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เจ็บ ไม่เป็นไร” จวินเสี่ยวเทียนตอบอย่างรู้เหตุรู้ผล
โม่หลานตรวจสอบโดยละเอียดรอบหนึ่ง แน่ใจว่าจวินเสี่ยวเทียนไม่เป็นไร ถึงได้โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง
หากเจ้าหมอนี่เกิดอะไรขึ้น หยุนถิงกลับมาจะไม่ฉีกทึ้งตัวเองหรอกหรือ
“เจ้าเลี้ยงเด็กอย่างไรของเจ้า เดินไม่ดูทางเลยหรือ?” สาวใช้กล่าวด้วยความหงุดหงิดโมโหอีกครั้ง
ทันทีที่โม่หลานได้ยินคำพูดนี้ ก็โมโหขึ้นมาทันที ลุกขึ้นแล้วก็หันกลับมา และตบไปที่สาวใช้คนนั้นหนึ่งฉาก
“ปากของเจ้ากินอุจจาระมาหรือ พ่นอุจจาระออกมาเต็มปาก เด็กไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย เจ้าร้องบ้าอะไร ทำให้เสี่ยวเทียนของข้าตกใจ ข้าไม่จบไม่สิ้นกับเจ้าแน่!
คนตัวใหญ่ขนาดนี้ตะโกนใส่เด็กคนหนึ่ง เจ้าเอาหน้ามาจากไหน ก็แค่เสื้อผ้าชุดหนึ่งเท่านั้น เท่าไหร่ข้าชดใช้ให้เจ้า!” โม่หลานกล่าวด้วยความโกรธ
“เพียะ!” เสียงตบดังมาพร้อมกับเสียงกรีดร้องของสาวใช้ ดึงดูดความสนใจของคนรอบข้างขึ้นมาทันที
สาวใช้รู้สึกถึงความปวดแสบปวดร้อนจู่โจมมาที่แก้ม กุมหน้าเอาไว้โดยสัญชาตญาณ “เจ้าถึงกับกล้าตบข้า รนหาที่ตาย!” ขณะที่พูด ก็กระโจนเข้ามาทางโม่หลาน
โม่หลานมองไปทางนางอย่างดูหมิ่น ใช้เท้าเตะนางกระเด็นออกไปโดยตรง
“ทั่วทั้งสี่แคว้นยังไม่เคยมีใครกล้าพูดกับข้าว่ารนหาที่ตายมาก่อน อาศัยแค่ที่เจ้าไร้มารยาทเช่นนี้ ข้าก็สามารถตบปากเจ้าให้เละ ให้เจ้าตามหาฟันไปทั่วพื้น!” โม่หลานกล่าวอย่างดูหมิ่น
“เจ้า เจ้าทำเกินไปแล้ว ข้าเป็นถึงสาวใช้ขององค์หญิงรองแห่งแคว้นเป่ยลี่ เจ้าล่วงเกินข้า ก็เท่ากับล่วงเกินแคว้นเป่ยลี่ ความผิดนี้เจ้าสามารถแบกรับได้หรือ?” สาวใช้แยกเขี้ยวยิงฟันกล่าวด้วยความโกรธแค้น
เมื่อครู่โม่หลานเป่ยมัวแต่จดจ่ออยู่กับการสั่งสอนสาวใช้ เวลานี้นางถึงได้สังเกตเห็นตันเสวี่ยที่อยู่ด้านข้าง
บนชุดกระโปรงสีชมพูทั้งชุดของนาง มีรอยเปื้อนของถังหูลู่ ดูทุลักทุเลเล็กน้อย
“ที่แท้ก็หลีหวางเฟยนี่เอง สาวใช้ของเจ้าคนนี้ไม่รู้มารยาทจริงๆ ผู้ใหญ่คนหนึ่งถึงกับตะโกนเสียงดังกับเด็ก ถือเป็นตัวอะไร ไม่มีการศึกษาเลยสักนิด
ท่านนี้คือลูกชายของจวินหย่วนโยวกับหยุนถิง ซื่อจื่อน้อยของแคว้นต้าเยียน นางที่เป็นสาวใช้คนหนึ่งล่วงเกินคนที่มีฐานะสูงกว่าข้าสั่งสอนนางแทนซื่อจื่อน้อยนั่นคือให้เกียรตินาง
อีกอย่าง สาวใช้อย่างเจ้าหน้าใหญ่จริงๆ สาวใช้คนหนึ่งก็สามารถเป็นตัวแทนของแคว้นเป่ยลี่ เช่นนั้นคนแคว้นเป่ยลี่ของพวกเจ้าก็ช่างร้ายกาจจริงๆ
นึกถึงตอนนั้นข้านำกำลังคนโจมตีแคว้นเป่ยลี่ เป่ยหมิงฉี่ก็ไม่กล้าผลีผลามต่อข้าเช่นนี้ ยังต้องให้ต้อนรับอย่างดีเพื่อขอเจรจาสงบศึกกับข้า นางที่เป็นสาวใช้คนหนึ่งก็คู่ควรมาทำโอหังกับข้า
ถ้าอย่างไรข้าเขียนจดหมายให้เป่ยหมิงฉี่ ถามเขาว่า ประเพณีแคว้นของแคว้นเป่ยลี่สาวใช้สามารถอาศัยอำนาจทำความชั่วตามท้องถนนตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือว่าต้องการให้สองแคว้นเปิดศึกกัน พอดีข้าก็ไม่ได้ยืดเส้นยืดเส้นมานานแล้วเหมือนกัน!” โม่หลานกล่าวอย่างเหยียดหยาม
สีหน้าของเป่ยตันเสวี่ยไม่น่าดูสุดขีดทันที ความจริงนางรู้ว่าเด็กสองคนนี้เป็นลูกของหยุนถิงตั้งแต่แว๊บแรกที่เห็น
เพียงแต่เมื่อนึกถึงชีวิตหลังแต่งงาน ถึงแม้หลีอ๋องจะสุภาพมีมารยาทต่อตนเอง แต่ก็มักจะปั้นหน้าบึ้งตึง และเขาก็มักจะนั่งอยู่ในห้องหนังสือมองดูภาพวาดของหยุนถิงอย่างเหม่อลอย
ดังนั้นเป่ยตันเสวี่ยถึงได้รู้สึกอิจฉา เมื่อครู่นางจงใจจะเงียบนั่นแหละ ต้องการจะให้สาวใช้สั่งสอนเด็กเวรสองคนนี้ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าโม่หลานจะไม่เกรงใจเช่นนี้ กล่าวคำพูดเช่นนี้ในที่สาธารณะ
โม่หลานเป็นคนที่พูดและกระทำสิ่งต่างๆอย่างรวดเร็วมาโดยตลอด เอะอะก็ลงไม้ลงมือ แล้วก็รับผิดชอบค่ายทหารของแคว้นต้าเยียน ตอนนั้นนางนำกำลังคนไปโจมตีแคว้นเป่ยลี่ เป่ยตันเสวี่ยรู้เรื่องนี้ดี
หากเป็นเพราะสาวใช้ของตนเอง ก่อให้เกิดข้อพิพาทระหว่างสองแคว้นอีกครั้ง เช่นนั้นเป่ยตันเสวี่ยก็คือคนบาปของแคว้นเป่ยลี่แล้ว
สันติภาพของสองแคว้นที่เสด็จพี่แลกมาอย่างยากเย็น ตอนนี้น่าจะยังอยู่ในช่วงสร้างรากฐานของแคว้นเป่ยลี่ขึ้นมาใหม่ จะก่อให้เกิดสงครามขึ้นมาในเวลานี้ไม่ได้เด็ดขาด
“น้องสะใภ้สี่กล่าวหนักไปแล้ว สาวใช้ของข้าก็แค่พลั้งปากไปชั่วขณะเท่านั้น ขอน้องสะใภ้สี่โปรดอย่าถือสาหาความกับนางเลย!” น้ำเสียงของเป่ยตันเสวี่ยอ่อนลงมาเล็กน้อย
“น้องสะใภ้สี่ ใครเป็นน้องสะใภ้สี่ของเจ้ากัน?” โม่หลานกล่าวอย่างเย็นชา
เป่ยตันเสวี่ยเต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วน “หลีอ๋องกับเฉินอ๋องเป็นพี่น้องแท้ๆ เฉินอ๋องเป็นลูกคนที่สี่ เจ้าย่อมเป็นน้องสะใภ้สี่ของข้าอยู่แล้ว ท้ายที่สุดมันก็แค่ถังหูลู่ไม้เดียวเท่านั้น เรื่องในวันนี้เป็นความผิดของสาวใช้ข้า ลี่จู ยังไม่มาขอโทษอีก”
สาวใช้ที่อยู่บนพื้นเข้ามาด้วยความตื่นตระหนก รีบเข้ามาขอโทษโม่หลานทันที
คำพูดของโม่หลานเมื่อครู่นี้ทำให้นางตกใจจริงๆ นางรู้จักวิธีการของฮ่องเต้เป่ยหมิงฉี่ดี เขาไม่มีทางยอมเปิดศึกกับแคว้นต้าเยียนเพื่อนางที่เป็นสาวใช้คนหนึ่งอย่างแน่นอน
“ขอโทษ!” ลี่จูขอโทษทันที
“ไม่ใช่กับข้า แต่เป็นเสี่ยวเทียน” โม่หลานแก้ไขให้ถูกต้อง
ลี่จูมองไปทางจวินเสี่ยวเทียนอย่างไม่เต็มใจ สุดท้ายก็ขอโทษเขา “ขอโทษ”
จวินเสี่ยวเทียนมองดูนางครู่หนึ่ง “ไม่เป็นไร”
ขณะที่จวินเสี่ยวเหยียนเดินเข้ามา ยื่นมือไปจับมือของลี่จู “พี่ชายบอกว่า ไม่เป็นไร”
ลี่จูสะบัดมือเล็กนั่นออกไปโดยสัญชาตญาณ เพราะการกระทำรุนแรงเกินไป เกือบจะทำให้จวินเสี่ยวเหยียนล้มลงไปกับพื้น
โม่หลานมือไวตาเร็ว คว้าตัวนางเอาไว้ “เสี่ยวเหยียน!”
ทีนี้ลี่จูตกใจแทบแย่แล้ว ลูกเตะของโม่หลานเมื่อครู่นี้ก็ทำให้นางเจ็บไปทั้งตัวแล้ว หากเตะมาอีกหนึ่งที นางจะไม่ถึงแก่ชีวิตหรอกหรือ
ลี่จูคุกเข่าลงไปโดยไม่แม้แต่จะคิดเลยด้วยซ้ำ “เฉินหวางเฟยไว้ชีวิตด้วย นี่ไม่ใช่ความผิดของข้านะ นางเป็นคนจับมือของข้าเอาไว้เอง ข้าก็แค่ตอบสนองไปตามสัญชาตญาณเท่านั้น”
“พี่โม่หลาน ข้าไม่เป็นไร!” จวินเสี่ยวเหยียนเอ่ยปาก
“ตกลง” โม่หลานลุกขึ้นมองไปทางลี่จู “เจ้าควรจะรู้สึกโชคดีที่เสี่ยวเหยียนไม่เป็นอะไร มิเช่นนั้นวันนี้ข้าก็จะตัดมือข้างนั้นของเจ้าซะ!”
“เจ้าค่ะ ต่อไปข้าไม่กล้าอีกแล้ว” ลี่จูกล่าวด้วยความตื่นตระหนก
สีหน้าของเป่ยตันเสวี่ยก็ไม่น่าดูอย่างมากเช่นกัน ว่ากันว่าตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของ โม่หลานคนนี้ถึงกับไม่ไว้หน้าตนเองเช่นนี้
“หลีหวางเฟย โปรดเรียกข้าว่าแม่ทัพโม่หรือไม่ก็คุณหนูโม่ ข้าไม่ต้องการจะเป็นพี่สะใภ้น้องสะใภ้กับเจ้า ความเคลื่อนไหวเมื่อครู่นี้เจ้าจะมองไม่เห็นเชียวหรือ
ข้าสั่งสอนสาวใช้ของเจ้า เจ้าถึงจะเอ่ยปาก วันนี้หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ก็คงจะถูกสาวใช้ที่อาศัยบารมีนายเที่ยวรังแกชาวบ้านไปทั่วของเจ้าคนนี้รังแกใช่ไหม
ถึงแม้เจ้าจะเป็นหวางเฟยของโม่ฉือหาน ข้าก็ไม่เห็นอยู่ในสายตา เป่ยหมิงฉี่ยังพ่ายแพ้ให้กับข้า ดังนั้นอยู่ในแคว้นต้าเยียนของเราทางที่ดีควรจะอยู่ในระเบียบวินัย มิเช่นนั้นข้าจะไม่ไว้หน้าเด็ดขาด!” โม่หลานกล่าวอย่างเย็นชา
“พี่โม่หลาน เยี่ยมมาก!” จวินเสี่ยวเทียนอดที่จะชูนิ้วโป้งขึ้นมาไม่ได้
“เจอกับคนไม่มีตาเช่นนี้ ไม่มีอารมณ์กินขนมอบแล้ว เราไปที่หอใต้หล้าโดยตรงเถอะ!” โม่หลานจูงมือเด็กน้อยคนละข้างหันหลังก็จากไป
เป่ยตันเสวี่ยมองดูแผ่นหลังที่โอหังของนาง โกรธจนใบหน้าดำมืดไปหมด โม่หลานโอหังอวดดีเช่นนี้ ช่างน่าชิงชังอย่างยิ่งจริงๆ
ชำเลืองไปทางชาวบ้านที่ล้อมอยู่บริเวณโดยรอบ เป่ยตันเสวี่ยไม่ได้พูดอะไรเลย เพียงแค่เบ้าตาแดงก่ำ จากไปด้วยน้อยใจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
ภายในรถม้า
สาวใช้เอ่ยปากทันที “หวางเฟยขอโทษด้วย เป็นความผิดของบ่าวเอง บ่าวทำให้ท่านขายหน้า”
“เหตุการณ์ในวันนี้เจ้าบุ่มบ่ามไปจริงๆ ต่อไปอย่าทำอะไรโง่ๆเช่นนี้อีก โม่หลานโอหังมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แถมยังเป็นแม่ทัพอีกด้วย ในอนาคตไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีโอกาสจัดการนาง” ดวงตาคู่สวยของเป่ยตันเสวี่ยมีความโหดเหี้ยมเล็กน้อยแว๊บผ่านไป
“เช่นนั้นท่านจะปล่อยนางกลับไปเช่นนี้หรือ?” สาวใช้ไม่เข้าใจ
ปกติองค์หญิงเป็นคนที่มีแค้นต้องชำระตลอด วันนี้ทำไมถึงปล่อยนางไปง่ายๆเช่นนี้
“วันนี้ข้าแสร้งทำเป็นจากไปด้วยความน้อยใจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็เพื่อยืนยันความผิดที่โม่หลานข่มเหงรังแกข้า บรรดาชาวบ้านล้วนเห็นทุกอย่างในสายตา
ผู้หญิงเป็นแม่ทัพ เดิมทีนี่ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว นานๆไป บรรดาชาวบ้านย่อมไม่พอใจนางเป็นธรรมดา ถึงเวลานั้นเราค่อยหาโอกาส โค่นนางให้ล้มโดยตรง!” เป่ยตันเสวี่ยกล่าวด้วยความโกรธแค้น
“หวางเฟยปราดเปรื่องยิ่งนัก!”