จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 845 ข้าคิดถึงท่าน
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 845 ข้าคิดถึงท่าน
“ขอร้องท่านอย่าฆ่าข้าเลย ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่——” ลี่จูกำลังจะร้องขอความเมตตา ก็ถูกองครักษ์นายหนึ่งทำให้หมดสติไปโดยตรง
“หนวกหูจริงๆ ก่อนหน้านี้ทำไมไม่ระวัง” องครักษ์คนนั้นพาคนไปโดยตรง
บ่าวรับใช้คนหนึ่งถือกล่องอาหารเข้ามาสองกล่อง “พ่อบ้าน อาหารที่ท่านให้เราเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว”
สีหน้าพ่อบ้านที่เดิมทีโมโหและโกรธแค้น เปลี่ยนเป็นมีเมตตาในทันที “รีบเอามาให้ข้า ซื่อจื่อน้อยกับจวิ้นจู่น้อยชอบอาหารพวกนี้ที่สุด ข้าต้องรีบส่งไปให้พวกเขา”
ขณะที่พูดพ่อบ้านก็รับมา มุ่งหน้าไปยังรถม้าที่เตรียมเอาไว้นานแล้ว ให้คนไปที่จวนตระกูลฟู่ทันที
ช่วงเวลาหลายเดือนที่จวินหย่วนโยวกับหยุนถิงไม่อยู่ พ่อบ้านจะคอยส่งอาหารไปที่จวนตระกูลฟู่เป็นระยะๆ ถึงแม้จะรู้ว่าฮูหยินเฒ่าฟู่ปฏิบัติต่อเด็กสองคนเป็นอย่างอี แต่ว่าพ่อบ้านก็ยังจะไป
เขาแค่คิดถึงเด็กๆ อยากไปเยี่ยมพวกเขา แต่ก็ไม่สามารถทิ้งจวนซื่อจื่อเอาไว้เบื้องหลัง ดังนั้นจึงวิ่งไปมาระหว่างทั้งสองฝั่ง หากทำได้พ่อบ้านแทบอยากจะอาศัยอยู่ในจวนตระกูลฟู่เสียเลย
แต่ว่าวิ่งไปมาก็เต็มใจเช่นกัน ทุกครั้งที่พ่อบ้านเห็นเด็กสองคนกินอย่างตะกละตะกลาม อย่าให้พูดเลยว่ารู้สึกดีใจแค่ไหน
จวนตระกูลฟู่
จวินเสี่ยวเทียนกับจวินเสี่ยวเหยียนติดตามโม่หลานกลับมาหลังจากที่กินอิ่มและดื่มจนพอใจ เวลานี้เด็กน้อยสองคนกำลังเล่นอยู่ในลาน
จวินเสี่ยวเทียนมองดูหมอยมบาลท่านลั่วกับตาเฒ่าเหอเล่นหมากรุก ใบหน้าเล็กๆของเจ้าเด็กน้อยตึงเครียดมองดูด้วยความจริงจังอย่างยิ่ง
พอดีหมอยมบาลท่านลั่ววางเบี้ยหมากลง จวินเสี่ยวเทียนส่ายหน้า “ผิดแล้ว”
ท่านลั่วตัวแข็งทื่อ รีบหดมือกลับมาทันที “เสี่ยวเทียน เจ้าคิดว่าวางตรงไหนเหมาะสม?”
ยังไม่ทันที่จวินเสี่ยวเทียนจะตอบ ใบหน้าของตาเฒ่าเหอก็ดำมืดลงทันที “ตาเฒ่าลั่วเจ้ารักษาหน้าหน่อยได้ไหม ถึงกับขอร้องให้เด็กคนหนึ่งช่วยเจ้าโกง หน้าแก่ๆของเจ้าจะวางไว้ที่ไหน?”
“ข้าไม่ได้อาศัยหน้ากินข้าวเสียหน่อย ข้าจะรักษาหน้าทำไมกัน ขอเพียงสามารถเอาชนะเจ้าได้ ข้าไม่ถือสาที่จะขอความช่วยเหลือของเสี่ยวเทียน” ท่านลั่วไม่ได้รู้สึกละอายใจเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับรู้สึกเป็นเกียรติด้วยซ้ำ
ใบหน้าของตาเฒ่าเหอเต็มไปด้วยการเหยียดหยาม “ช่างเป็นตาแก่ที่ไร้ยางอายจริงๆ เล่มโกงแล้วยังพูดได้สมเหตุสมผลเช่นนี้อีก”
“ข้าพอใจเสียอย่าง กลับเป็นเจ้า สู้เด็กคนหนึ่งไม่ได้นั่นถึงจะเป็นความขายหน้าที่แท้จริง เจ้าแพ้เสี่ยวเทียนไปตั้งกี่ครั้งแล้ว ข้ายังรู้สึกขายหน้าแทนเจ้าเลย!” ท่านลั่วกล่าวอย่างดูหมิ่น
“ไอ๊หยา เจ้ายังกล้าดูถูกข้า ดูสิว่าข้าจะสั่งสอนเจ้าอย่างไร” ขณะที่พูดตาเฒ่าเหอก็ถกแขนเสื้อขึ้นมา
“เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้าหรือ” ท่านลั่วก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน
ขณะที่พูดทั้งสองคนก็จะลงไม้ลงมือ พ่อบ้านจวนซื่อจื่อที่มาส่งอาหารเห็นภาพฉากนี้เข้าพอดี สีหน้าเต็มไปด้วยการดูถูก
“อายุของพวกท่านสองคนรวมกันเกือบจะสองร้อยอยู่แล้ว ยังทะเลาะกันอีก ไม่ใช่เด็กน้อยอายุสามขวบเสียหน่อย ถึงกับทำตัวเป็นเด็กเช่นนี้ เสี่ยวเทียนมาทางนี้เร็ว อย่าได้ถูกสองคนที่พึ่งพาไม่ได้นี่ทำให้เสียคน” พ่อบ้านกล่าว
เมื่อจวินเสี่ยวเทียนเห็นพ่อบ้าน ก็ยินดีอย่างยิ่ง รีบวิ่งเหยาะๆเข้ามา “ท่านปู่พ่อบ้าน”
“ดี ดี เสี่ยวเทียนเป็นเด็กดีที่สุดเลย” พ่อบ้านชอบใจอย่างยิ่ง
“ท่านปู่พ่อบ้าน ข้าก็เป็นเด็กดีนะ” จวินเสี่ยวเหยียนก็วิ่งเข้ามาเช่นกัน
“เด็กดี พวกเจ้าสองคนเป็นเด็กดีที่สุด รีบมาดูสิว่าปู่พ่อบ้านเอาอะไรอร่อยๆมาให้พวกเจ้า” พ่อบ้านหยิบกล่องอาหารมาให้
หยุนเฉิงเซี่ยงที่เดินออกมาจากในเรือน เห็นพ่อบ้านมาก็เดินเข้ามาเช่นกัน “พ่อบ้าน เจ้าเด็กน้อยสองคนนี้ถูกเจ้าเลี้ยงจนจู้จี้จุกจิกเรื่องอาหารแล้ว แต่ว่าอาหารของจวนซื่อจื่อก็ไม่เลวจริงๆนั่นแหละ”
“หยุนเฉิงเซี่ยงกล่าวถูกต้องแล้ว ซื่อจื่อน้อยกับจวิ้นจู่น้อยของตัวเองย่อมต้องคอยเอาอกเอาใจเป็นอย่างดีอยู่แล้ว หยุนเฉิงเซี่ยงก็กินไปไม่น้อยไม่ใช่หรือ” พ่อบ้านกล่าวเย้าแหย่
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ล้วนเป็นเพราะอาศัยบารมีของเจ้าสองคนนี้ทั้งนั้น” หยุนเฉิงเซี่ยงหัวเราะเสียงดัง
ฮูหยินเฒ่าฟู่ให้คนยกน้ำชาเข้ามา พ่อบ้านรีบนำอาหารเลิศรสที่อยู่ในกล่องอาหารออกมา เด็กน้อยสองคนล้างมือเสร็จ ก็เข้ามากิน
“เสี่ยวเทียน เสี่ยวเหยียนห้ามกินเยอะเกินไปนะ วันนี้พี่โม่หลานพาพวกเจ้ากินอาหารไปมาก อาหารในกระเพาะยังไม่ย่อย” หยุนเฉิงเซี่ยงกล่าวกำชับ หยิบขนมอบขึ้นมาหนึ่งชิ้นก็เริ่มกินขึ้นมา
“ทราบแล้ว ท่านตา”
มองดูเด็กน้อยสองคนนี้กินอย่างเอร็ดอร่อยเช่นนี้ ฮูหยินเฒ่าฟู่ทอดถอนใจ “ถิงเอ๋อร์กับจวินซื่อจื่อไปนานขนาดนี้แล้ว ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่?”
“นั่นน่ะสิ เดือนที่แล้วยังรู้จักให้อินทรีทองส่งจดหมายกลับมา นี่มันก็ผ่านไปเป็นเดือนแล้ว ยังไม่มีจดหมายมาอีก คงไม่ได้เกิดเรื่องขึ้นใช่ไหม?” หยุนเฉิงเซี่ยงทอดถอนใจ
เพิ่งพูดจบ เขาก็ตบปากของตัวเองทันที “ถุยๆๆ ดูปากเน่าๆของข้านี่สิ ปากเสียมากจริงๆ ถิงเอ๋อร์กับจวินซื่อจื่อจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน บางทีอาจจะอยู่ระหว่างทางกลับมาก็เป็นได้”
“พวกเจ้าไม่ต้องกังวลโดยใช่เหตุ ความสามารถของสองคนนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน สามารถพูดได้น่ากลัวมาก ไม่มีคู่ต่อสู้ในสี่แคว้นด้วยซ้ำ พวกเจ้าวางใจเถอะ” ท่านลั่วเอ่ยปาก
“ถึงแม้จะพูดเช่นนี้ แต่นั่นคือเขตทะเลไร้ขอบเชียวนะ ว่ากันว่ามีแต่เทพเซียนเท่านั้นถึงจะสามารถหาสถานที่เจอ ท้องทะเลอันกว้างใหญ่ อันตรายรอบด้าน มันก็พูดยากอยู่” ตาเฒ่าเหอโต้แย้ง
“ตาเฒ่านี่พูดอย่างไรของเจ้าเนี่ย จะคาดหวังให้มันดีหน่อยไม่ได้หรือ?”
“ข้าย่อมหวังให้พวกเขาอยู่ดีมีสุขอยู่แล้ว ข้าก็แค่พูดไปตามความจริงไม่ใช่หรือ”
ตาเฒ่าเหอกับท่านลั่วกำลังโต้เถียงกันอยู่ จู่ๆด้านนอกลานก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมา
“พวกท่านสองคนทะเลาะกันมาหลายสิบปีแล้ว นึกไม่ถึงว่ายังทะเลาะกันไม่พออีก!” หยุนถิงกล่าวเย้าแหย่ และเดินเข้ามา
“ทุกท่านช่างครึกครื้นกันจริงๆ!” จวินหย่วนโยวคล้อยตาม
ทุกคนที่อยู่ในลานเห็นคนที่เดินเข้ามา ต่างก็ยินดีไม่สิ้นสุด จู่ๆหยุนเฉิงเซี่ยงก็รู้สึกว่าขนมอบที่อยู่ในมือไม่อร่อยแล้ว
“ท่านแม่!”
“ท่านพ่อ!”
จวินเสี่ยวเทียนกับจวินเสี่ยวเหยียนทิ้งขนมอบที่อยู่ในมือ วิ่งเหยาะๆเข้าไป คนหนึ่งกอดพ่อ คนหนึ่งกอดแม่ โห่ร้องดีใจกันใหญ่
“ท่านแม่ ข้าคิดถึงท่านจังเลย!”
“ท่านพ่อ ข้าก็คิดถึงท่านเหมือนกัน!”
จวินหย่วนโยวอุ้มเสี่ยวเทียนขึ้นมา “พ่อก็คิดถึงพวกเจ้าเช่นกัน ไอ๊หยาเสี่ยวเทียนอ้วนขึ้นมาแล้วนี่นา ตัวหนักขึ้นไม่น้อย ดูท่าบ้านท่านย่าฟู่จะกินดี”
หยุนถิงยื่นมือไปกอดจวินเสี่ยวเหยียนเอาไว้ในอ้อมแขน “เสี่ยวเหยียนของข้าสวยขึ้นอีกแล้ว เป็นเด็กดีจริงๆ”
“ถิงเอ๋อร์ พวกเจ้ากลับมาแล้ว ดีจริงๆ ช่างดีจริงๆ” หยุนเฉิงเซี่ยงน้ำตาไหลพราก
“ตาเฒ่าหยุนเจ้าร้องไห้ทำไมเนี่ย ข้าบอกแล้วว่าพวกเขาจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน พวกเขากลับมาเจ้าน่าจะดีใจถึงจะถูก” ท่านลั่วเอ่ยปากด้วยความตื่นเต้น
“ใช่ๆๆ พวกเจ้ากลับมาช่างเป็นข่าวดีที่ยิ่งใหญ่มากจริงๆ” เบ้าตาของตาเฒ่าเหอก็แดงก่ำเช่นกัน
“กลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว เด็กสองคนนี้คอยถามข้าวันละหลายๆรอบทุกวัน” ฮูหยินเฒ่าฟู่กล่าวด้วยความปลื้มปีติ
รู้อยู่แล้วว่าความสามารถของสองคนนี้อยู่เหนือคนทั่วไป วันนี้เห็นพวกเขากลับมา ในที่สุดฮูหยินเฒ่าฟู่ก็ไม่ต้องคอยเป็นห่วงอีก
“เจ้าหนูจวิน ข้าคิดถึงเจ้าจะตายอยู่แล้ว เป็นอย่างไรบ้าง ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ครั้งนี้ทำไมถึงไปนานขนาดนี้ ได้ตรวจสอบสิ่งที่ต้องการจะตรวจสอบชัดเจนหมดแล้วหรือยัง?” ท่านลั่วกล่าวด้วยความเป็นห่วง
ยังไม่ทันที่จวินหย่วนโยวจะเอ่ยปาก จวินเสี่ยวเหยียนก็เห็นโม่เหลิ่งเหยียนที่เดินตามหลังเข้ามา ปล่อยหยุนถิงออกทันที “ท่านอา ท่านอาคิดถึงท่านจัง!”
หยุนถิงเพิ่งจะปล่อยมือ จวินเสี่ยวเหยียนก็วิ่งเหยาะๆไปทางโม่เหลิ่งเหยียน และกอดเขาเอาไว้ “ท่านอา ข้าคิดถึงท่าน”
หัวใจของโม่เหลิ่งเหยียนถูกหลอมละลายไปหมด ยื่นมือไปอุ้มจวินเสี่ยวเหยียนขึ้นมา “อาของคิดถึงเจ้าเหมือนกัน”
จวินเสี่ยวเหยียนยื่นมือเล็กๆออกมา กอดคอของโม่เหลิ่งเหยียนเอาไว้แน่น “ท่านอา ท่านอากลับมาแล้ว!”
เสียงดีใจที่ไร้เดียงสา ดังก้องไปทั่วทั้งลาน
โม่เหลิ่งเหยียนปลื้มปีติอย่างยิ่ง ไม่เสียเปล่าที่รักและทะนุถนอมนังหนูน้อยคนนี้จริงๆ
มีคนยินดีมีคนโศกเศร้า สีหน้าของจวินหย่วนโยวที่อยู่ด้านข้างเคร่งขรึมลงมาเล็กน้อย เขานึกสงสัยแล้วด้วยซ้ำว่าโม่เหลิ่งเหยียนมาแย่งลูกสาวกับตนเองใช่ไหม
แต่ไม่ได้เจอลูกสองคนมาหลายเดือน เห็นพวกเขาสบายดี จวินหย่วนโยวจึงไม่ได้ถือสาโม่เหลิ่งเหยียนอีก