จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 900 วันนี้ข้าจะตีเจ้าให้ตาย
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 900 วันนี้ข้าจะตีเจ้าให้ตาย
ฮูหยินรองคิดว่าตนทำได้เรียบร้อยไร้ช่องโหว่แล้ว แต่ไม่คิดว่าทั้งหมดนี้จะถูกเหิงจิ่วเห็นทั้งหมด พอเห็นฮูหยินรองกลับไป เหิงจิ่วก็รีบไปรายงานรั่วเฟิงซีทันที
พอรั่วเฟิงซีได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา
อันที่จริงนางเดาได้แต่แรกแล้วว่า พอฮูหยินรองได้ยินว่าตนได้รับพระราชทาน ต้องลงมือแน่ ดังนั้นรั่วเฟิงซีเลยจงใจเอาชุดเจ้าสาวกับของพระราชทานไว้ในห้องหนังสือ และให้องครักษ์ออกไป ก็เพื่อให้ฮูหยินรองได้โอกาสลงมือ
“นางริษยามากเกินไปจริงๆ หากไม่แตะต้องของพระราชทาน ก็แตะต้องชุดแต่งงาน นางหาเรื่องตายเองโทษข้าไม่ได้” รั่วเฟิงซีแค่นเสียงเย็น
เช้าวันต่อมา รั่วเฟิงซีหยิบชุดเจ้าสาวที่ขาดวิ่นไปร้องไห้โฮกับรั่วเฉิงเซี่ยง
พอรั่วเฉิงเซี่ยงเห็นดังนั้นก็โกรธจัดยิ่งนัก “นี่เป็นชุดเจ้าสาวที่ฝ่าบาทพระราชทานเอง ใครมันบังอาจกล้าทำลายชุดแต่งงานของฮองเฮากัน นี่มันทำเกินไปแล้ว!”
“ขอท่านพ่อให้ความเป็นธรรมแก่ลูกด้วย” รั่วเฟิงซีบอกอย่างน่าสงสาร
นางไม่ได้บอกออกมาตรงๆว่าเป็นฝีมือฮูหยินรอง รั่วเฉิงเซี่ยงเป็นใหญ่ราชสำนักมาหลายปี แค่เห็นวิธีการชั่วร้ายเช่นนี้ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเป็นฮูหยินรองแน่
“เฟิงซี เรื่องนี้จะให้คนนอกรู้ไม่ได้เด็ดขาด พ่อจะต้องให้ความยุติธรรมกับเจ้าแน่ หากฝ่าบาทรู้เข้าว่าชุดแต่งงานเสียหาย นี่มันโทษประหารเลยนะ!” รั่วเฉิงเซี่ยงกำชับ
“เจ้าค่ะ ลูกเข้าใจ!”
รั่วเฉิงเซี่ยงพุ่งไปเรือนฮูหยินรองอย่างเดือดดาลทะลุฟ้า เหิงจิ่วที่เฝ้าหน้าประตูพอเห็นนายท่านมาอย่างโกรธขึ้ง ก็ตกใจถอยไปอีกด้านทันที
“นายท่าน ท่านมาแล้ว”
รั่วเฉิงเซี่ยงไม่สนใจ ถีบประตูกระเด็นเข้าไปทันที “นางโค่ว เจ้าเป็นคนทำลายชุดเจ้าสาวของเฟิงซี!”
ไม่ใช่คำถาม แต่แน่ใจ เดือดดาลทะลุฟ้านัก
ในห้อง พอนางโค่วเห็นนายท่านจู่ๆก็เข้ามา ก็ตกใจนัก นางดึงผ้าห่มคลุมกายทันที
ไม่รู้ทำไม ตั้งแต่เมื่อคืนกลางดึกนางก็รู้สึกเจ็บปวดราวกับโดนมดนับพันนับหมื่นตัวกัดกินทั่วร่าง นางยกมือขึ้นเกา ก็เกาจนเลือดออก เช้านี้ผิวนางพลันเริ่มเน่าเปื่อย มีน้ำหนองไหลออกมา มีกลิ่นเหม็นโชยออกมา ทำให้ฮูหยินรองตกใจยิ่งนัก รีบให้หลิวมามาไปเชิญท่านหมอมาทันที
แต่ท่านหมอยังไม่มา คนที่มากลับเป็นนายท่าน
สิ่งที่นายท่านรักที่สุดคือเรือนร่างยั่วยวนอรชรของนาง หากให้เขารู้ว่าร่างกายตนเน่าเปื่อยมีน้ำหนองไหลนอง ต้องหย่าร้างทอดทิ้งนางแน่
“นายท่าน ไม่ใช่ข้านะ เมื่อคืนข้านอนอยู่ในห้องตัวเองตลอด ไม่ได้ออกไปเลย” ฮูหยินรองรีบอธิบายทันที
“เจ้าไม่ได้ออกไป เจ้าคิดว่าข้าเป็นเด็กสามขวบรึ ทั่วทั้งตระกูลรั่วมีเพียงเจ้าที่เกลียดเฟิงซีที่สุด หลายปีมานี้เจ้ารังแกนางต่างๆนานา คิดว่าข้าตาบอดงั้นรึ
เมื่อก่อนเจ้าทำเช่นนั้น ข้าสามารถไม่ถือสาได้ แต่บัดนี้นี่คือชุดเจ้าสาว ที่ฝ่าบาทพระราชทาน เป็นชุดแต่งงานของเฟิงซี และเป็นสิ่งที่แสดงฐานะฮองเฮาของนางด้วย
ที่เจ้าทำลายไม่เพียงแค่ชุดแต่งงานชุดหนึ่ง ยิ่งเป็นเกียรติยศของจวนตระกูลรั่ว ร้อยปีมานี้นี่เป็นฮองเฮาคนแรกของตระกูลรั่ว สตรีโง่งมเช่นเจ้าหากทำให้เฟิงซีเป็นฮองเฮาไม่ได้ ข้าจะทำให้เจ้าอยู่ก็อยู่ไม่ได้ ตายก็ตายไม่ได้!”
รั่วเฉิงเซี่ยงพูดจาสวยหรูชัดเจน ถลึงตาใส่ฮูหยินรองบนเตียงอย่างเดือดดาล
ทำเอาฮูหยินรองตกใจสีหน้าซีดเผือด แต่นางจะลนลานไม่ได้ และยิ่งยอมรับไม่ได้ ไม่อย่างนั้นนายท่านต้องทำมันจริงๆแน่
ฮูหยินรองกำลังจะแก้ตัว ก็เห็นเหิงจิ่วพุ่งเข้ามา คุกเข่าลงต่อหน้ารั่วเฉิงเซี่ยงทันที
“นายท่าน เมื่อคืนฮูหยินรองไปห้องหนังสือคุณหนูใหญ่ ข้าน้อยเป็นพยานได้!” เหิงจิ่วพูดออกมาทันที
ฮูหยินรองถลึงตาใส่เขาอย่างเคียดแค้น “เหิงจิ่ว เจ้าคนไม่สำนึกบุญคุณ ข้าดีกับเจ้ามาตลอด ทำไมเจ้าต้องให้ร้ายข้าด้วย?”
“ฮูหยินรอง ท่านดีกับข้าไม่น้อยจริงๆ แต่ข้าไม่อาจปิดบังนายท่านได้ ถึงข้าจะเป็นแค่คนรับใช้ แต่ก็รู้ว่าไม่อาจทำเรื่องผิดต่อตระกูลรั่วได้ มิเช่นนั้นก็ถือว่าผิดต่อความเชื่อใจของนายท่าน” เหิงจิ่วย้อน
รั่วเฉิงเซี่ยงถึงก้มหน้ามองเหิงจิ่ว “เจ้ายังรู้หน้าที่ เมื่อคืนมันเรื่องอะไรกันแน่?”
“เรียนนายท่าน ข้าน้อยทำหน้าที่เฝ้าเรือนฮูหยินรอง กลางดึกเมื่อคืนข้าน้อยไปห้องปลดทุกข์ พบว่าฮูหยินรองกับหลิวมามาออกจากเรือนไป
ข้าน้อยเดิมคิดจะตามไปดูว่าฮูหยินรองต้องการความช่วยเหลืออะไรหรือไม่ สุดท้ายกลับเห็นฮูหยินรองกับหลิวมามาห้องหนังสือของคุณหนูใหญ่
ตอนนั้นข้าน้อยอยู่ไกลเกินไป หลิวมามาเฝ้าอยู่ด้านนอก ดังนั้นข้าน้อยเลยมองเห็นไม่ชัดว่าฮูหยินรองทำอะไร ผ่านไปครู่หนึ่ง ฮูหยินรองกับหลิวมามาก็ออกมาจากห้องหนังสือ
ข้าไม่กล้าเข้าใกล้ เลยตามกลับไป เมื่อครู่หากไม่ได้ฟังนายท่านพูด ข้าก็ไม่รู้ว่าเมื่อคืนฮูหยินรองไปตัดทำลายชุดเจ้าสาวของคุณหนูใหญ่หรอก” เหิงจิ่วอธิบายอย่างจงรักภักดี
พอได้ยินคำนี้ รั่วเฉิงเซี่ยงเดือดจัดทันที ถลึงตามองฮูหยินรองด้วยสายตาเหี้ยมเกรียมเคียดแค้น “คนรับใช้เห็นหมดแล้ว เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีกรึ?”
ฮูหยินรองด่ากราดเหิงจิ่วในใจ รู้อย่างนี้นางไม่น่าจะเก็บเจ้าสารเลวนี่ไว้เลย
“นายท่าน เหิงจิ่วต้องเจ็บแค้นที่ก่อนหน้านี้ข้าทุบตีเขาแน่ เลยแสร้งใส่ความข้า เรื่องนี้ คนรับใช้ทั่วทั้งเรือนรู้ดี ขอนายท่านสืบให้กระจ่างด้วย!” ฮูหยินรองแสร้งทำทีน่าสงสาร
“นายท่าน เหิงจิ่วยินดีใช้ชีวิตนี้สาบาน หากเมื่อครู่มีคำใดมดเท็จไป ขอให้ไม่ได้ตายดี!” เหิงจิ่วพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
รั่วเฉิงเซี่ยงเหล่มองเขา สีหน้าเข้มงวด เด็ดขาดแน่วแน่ ไม่เหมือนกำลังโกหก
ใครก็ได้ นำตัวหลิวมามามาหาข้า!” รั่วเฉิงเซี่ยงตะคอกดังอย่างเดือดดาล
องครักษ์นอกประตูเห็นหลิวมามาที่ไปตามท่านหมอกลับมาพอดี เลยคุมตัวนางเข้ามาพอดี
หลิวมามาสีหน้าตะลึง “นายท่าน เกิดอะไรขึ้นรึ?”
“เมื่อคืนเจ้ากล้าเสี้ยมฮูหยินไปตัดทำลายชุดเจ้าสาวของเฟิงซี ใครก็ได้หักสองขาของหลิวมามาซะ จับลูกชายโง่ของนางทุบตีจนตายโยนทิ้งหลุมศพอนาถาซะ!” รั่วเฉิงเซี่ยงตะคอกดังอย่างเดือดดาล
หลิวมามาตกใจตัวสั่น คุกเข่าลงพื้นขอร้องทันที “นายท่านไว้ชีวิตด้วย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับข้าน้อย ฮูหยินรองตัดทำลายเอง นางแค้นที่คุณหนูใหญ่ได้เป็นฮองเฮา แต่คุณหนูรอง
กลับต้องไปสำนักบำเรอ เลยสั่งให้ข้าน้อยตามไปห้องหนังสือกลางดึกด้วย ขอนายท่านละเว้นข้าน้อยกับลูกชายด้วย!”
ฮูหยินรองสีหน้าซีดเผือดราวปลาตายทันที นางรู้ดีว่าวันนี้ตนหมดหวังแล้ว จบสิ้นกันแล้ว
“นางโค่ว!” รั่วเฉิงเซี่ยงตะลึงอย่างเดือดจัด
ฮูหยินรองเองก็ไม่สนใจความเจ็บปวดบนร่างกายแล้ว ท่าทางราวหมดสิ้นทุกสิ่งอย่างแล้ว “ใช่ ข้าทำเอง จื่ออวิ้นของข้าโดนตัดลิ้นถูกส่งตัวไปสำนักบำเรอ แต่รั่วเฟิงซีกลับได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮา ถือดีอะไร
เป็นลูกสาวของตระกูลรั่วเหมือนกัน จื่ออวิ้นของข้ามีสิ่งใดเทียบนางไม่ติดกัน ทำไมนางสามารถเชิดคออยู่ที่สูงได้ แต่ลูกสาวข้ากลับต้องกลายเป็นข้ารับใช้ชั้นต่ำ ข้าแค้นใจนัก ดังนั้นข้าถึงได้ไปตัดทำลายชุดเจ้าสาวกลางดึก ข้าไม่มีวันยอมให้รั่วเฟิงซีขึ้นมาเหยียบหัวลูกสาวข้าเด็ดขาด!”
รั่วเฉิงเซี่ยงโกรธจนตัวสั่นเทา บรรยากาศรอบตัวเย็นถึงติดลบ พุ่งร่างเข้าไปอย่างรวดเร็วราวลูกธนู ตบหน้าซ้ายขวาใส่นางโค่วสองทีซ้อน
“สตรีโง่เขลาเช่นเจ้า ทำลายเกียรติยศและฐานะที่ตระกูลรั่วได้มาโดยไม่ง่าย วันนี้ข้าจะตีเจ้าให้ตาย ใครก็ได้ เอาแส้งูของข้ามา!” รั่วเฉิงเซี่ยงตะคอกดังด้วยความโกรธ
“อ๊า!” ฮูหยินรองร้องเสียงหลง ความเจ็บปวดที่แก้มซ้ายขวาผุดขึ้นมาทันที พริบตาเดียวรอยฝ่ามือที่มีเต็มสิบนิ้วก็ประทับอยู่ที่แก้มสองข้าง
เหิงจิ่วแอบออกไปช่วงชุลมุน คราวนี้เอาแส้ของนายท่านเข้ามาให้ “นายท่าน!”
รั่วเฉิงเซี่ยงรับแส้มาฟาดแส้ใส่ฮูหยินรองอย่างเต็มแรง