จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 946 ท่านทำข้าเจ็บแล้ว
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 946 ท่านทำข้าเจ็บแล้ว
“ไม่ ฮองเฮายังไม่ตาย เพียงแต่ร่างกายอ่อนแอมาก ต้องพักฟื้นสักสองเดือนถึงจะหายดีได้ ขอฝ่าบาททรงตัดสินใจโดยเร็วด้วย!” หยุนถิงอธิบาย
“เปิดท้องผ่าคลอด ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย นี่มันผิดวิปริตชัดๆ ฮองเฮาเหนียงเหนียงน่ะเป็นแม่แห่งแผ่นดิน จะใช้วิธีเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?” หมอหลวงคนหนึ่งทนไม่ไหวบอกออกมา
“วิธีการของหมอหลวงหลิวดูปลอดภัยกว่า” เหล่าหมอหลวงพากันวิพากษ์วิจารณ์ทันที
หยุนถิงปรายตามองพวกเขาอย่างเย็นชา “อย่าเอาความคิดเก่าที่คร่ำครึไม่ยอมเปลี่ยนแปลงของพวกเจ้ามาพูดกับข้า กฎของบรรพบุรุษสำคัญกว่าชีวิตฮองเฮารึ? ในหมู่พวกเจ้า หากมีวิธีที่สามารถรักษาทั้งนางและลูกชายนางไว้ได้ ข้าจะไม่พูดอีก
หากเปลี่ยนเป็นแม่หรือลูกสาวของพวกเจ้าเจอเหตุการณ์เช่นนี้ พวกเจ้าจะยังใช้กฎของบรรพบุรุษมาเพิกเฉยชีวิตคนสองคนได้งั้นรึ? ฮองเฮาเป็นฮองเฮาแห่งแคว้นต้าเยียน ยังเป็นภรรยาของฝ่าบาท อีกทั้งยังเป็นแม่ของลูกด้วย เมื่ออยู่ต่อหน้าชีวิต ใครก็ไม่มีสิทธิ์มาตัดสินความเป็นความตายของฮองเฮาและลูกในท้องนางทั้งนั้น!”
เย็นชาเฉียบขาด เข้าตรงประเด็นเผ็ง พริบตาเดียวทำเอาหมอหลวงเหล่านั้นหุบปากสนิท
“ซื่อจื่อเฟยของข้าเพียงแค่รายงานฝ่าบาท มิได้มาขอความเห็นขยะอย่างพวกเจ้า!” จวินหย่วนโยวตะคอกอย่างเดือดดาล
คำพูดเดียว เหล่าหมอหลวงที่วิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นพากันหุบปากลงฉับพลัน ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีกแม้แต่คำเดียว
ความโหดเหี้ยมกระหายเลือดของจวินซื่อจื่อ ทั่วทั้งสี่แคว้นรู้กันดี พวกเขาไม่กล้าเป็นศัตรูกับจวินซื่อจื่อหรอก ยิ่งไปกว่านั้นซื่อจื่อเฟยจะทำเช่นนี้ หากเกิดอะไรขึ้นมาจริงๆ พวกเขาก็ไม่ต้องรับผิดชอบ
“ฝ่าบาท ขอข้าพูดสักคำ ข้าเชื่อใจฝีมือการแพทย์ของซื่อจื่อเฟย ร่างกายของฮองเฮาเหนียงเหนียงรอไม่ได้นะ” หมอยมบาลเดินออกมาพูด
เขาเคยเห็นหยุนถิงเปลี่ยนอวัยวะให้กับกู้จิ่วเยวียน บัดนี้หยุนถิงบอกว่า ผ่าท้องคลอดลูกแล้วยังรอดได้ หมอยมบาลย่อมเชื่ออยู่แล้ว
“ข้าเองก็เชื่อนาง” ตาเฒ่าเหอเสริม
ฮ่องเต้สีหน้าเคร่งเครียด ทางหนึ่งคือความเป็นความตายของฮองเฮากับลูก อีกด้านก็เป็นวิธีการที่ตกตะลึงสะท้านโลกของหยุนถิง นั่นน่ะสองชีวิตเลยนะ บัดนี้ขนาดหมอยมบาลและตาเฒ่าเหอยังพูดอย่างนี้ ฮ่องเต้ย่อมเชื่อเช่นกัน
“หยุนถิง ข้าเชื่อเจ้า เจ้าอย่าทำให้ข้าผิดหวังนะ ข้าฝากฮองเฮากับลูกไว้ในมือเจ้าละ!”
“ฝ่าบาทวางใจเถิด ข้าจะไม่ให้พวกเขาเป็นอะไรแน่ รบกวนฝ่าบาทให้พวกเขาออกไปเถอะ!” หยุนถิงบอก
“ไสหัวไปให้หมด!” ฮ่องเต้ตะคอกดังอย่างเดือดดาล
เหล่าหมอหลวงที่คุกเข่าอยู่พากันล้มลุกคลุกคลานออกไปทันที หมอหลวงหลิวรีบตามพวกหยุนถิงเข้าไปในห้องทันที
หมอตำแยกับคนรับใช้ทั้งหมดโดนไล่ออกมาหมด และรออยู่หน้าประตู
ฮองเฮาที่สลบไสลฟื้นขึ้นมา พอเห็นหยุนถิงก็เหมือนเห็นพระมาโปรด “หยุนถิง ขอร้องเจ้าช่วยลูกข้าด้วย ไม่ต้องสนใจข้า ช่วยลูกข้าให้ได้นะ”
“เหนียงเหนียงวางใจเถอะ ท่านกับลูกไม่เป็นอะไรหรอก ข้ารับประกันกับท่านเอง ท่านแค่ให้ความร่วมมือกับข้าก็พอ” หยุนถิงปลอบ
นางรีบให้หมอยมบาลและตาเฒ่าเหอทำความสะอาดเตียงให้เรียบร้อย ส่วนตนนั้นหยิบอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นออกมาจากในมิติ หลังจากฆ่าเชื้อรอบๆแล้ว หยุนถิงก็วางยาสลบให้ฮองเฮา—
เวลาค่อยๆผ่านไป จวบจนวินาทีที่เสียงเด็กร้องไห้ออกมา พวกฮ่องเต้และทุกคนที่รออยู่ด้านนอกพากันลอบถอนหายใจโล่งอก
“คลอดแล้ว ฮองเฮาคลอดแล้ว เด็กคลอดแล้ว ดียิ่งนัก ดียิ่ง!” ฮ่องเต้เขย่าไหล่จวินหย่วนโยวอย่างตื่นเต้น
เพราะว่าตื่นเต้นมากเกินไป จวินหย่วนโยวโดนเขาเขย่าจนเจ็บ “ยินดีด้วยฝ่าบาท ท่านทำกระหม่อมเจ็บแล้ว”
ฮ่องเต้ถึงพึ่งรู้สึกตัวว่าตนเสียกิริยา รีบปล่อยเขาทันที “ข้าดีใจมากไปหน่อย ตื่นเต้นเกินไปน่ะเลยลืมไป ข้าจะไปดูฮองเฮากับลูก”
“ไม่ได้ ก่อนหยุนถิงจะออกมา ฝ่าบาทจะเข้าไปไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะรบกวนถิงเอ๋อร์!” จวินหย่วนโยวรีบห้ามทันที
“เจ้าพูดถูก ข้าลืมไปเอง ข้าจะรอที่นี่!” ฮ่องเต้ดีใจจนยิ้มไม่หุบ
หมอหลวงหลิวที่รออยู่ด้านนอกตลอดพอได้ยินเสียงเด็กร้อง ก็พลันสบายใจทันที
ถึงเขาจะโดนฝ่าบาทไล่ออกมา แต่เขาก็ยังไม่วางใจ หากซื่อจื่อเฟยจะเรียกใช้เขาล่ะ เขาเลยรออยู่ด้านนอก
ประมาณครึ่งชั่วยาม หยุนถิงถึงออกมาด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า บนแก้มยังมีรอยเลือด แต่กลับไม่รู้ตัวเลย
จวินหย่วนโยวเดินเข้ามา เอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดคราบเลือดที่ข้างแก้มหยุนถิง
หยุนถิงหันหาฮ่องเต้ “ฝ่าบาทโปรดวางใจเถอะ ฮองเฮาแม่ลูกปลอดภัย ท่านเข้าไปดูลูกได้แล้ว แต่ต้องเบาเสียงนะ ในหนึ่งเดือนนี้จะเป็นช่วงอยู่ไฟของฮองเฮา ต้องดูแลให้ใกล้ชิด!”
“หยุนถิง ขอบคุณมาก ขอบคุณที่เจ้าช่วยฮองเฮาและลูกของข้าไว้ ลำบากเจ้าแล้ว!” ฮ่องเต้อารมณ์เบิกบานนัก รีบเข้าไปดูลูกทันที
ซูกงกงรีบเรียกคนรับใช้ในตำหนักมาทั้งหมด และยังเรียกพ่อครัวของห้องพระเครื่องต้นมาด้วยทั้งหมด หยุนถิงบอกรายละเอียดที่ต้องระวังในช่วงอยู่ไฟของฮองเฮากับพวกเขาอย่างละเอียด โดยเฉพาะการกินความเป็นอยู่ ทุกคนพากันตั้งใจฟังอย่างตั้งใจและทำตาม
“ท่านพี่ หลายวันนี้ข้าต้องพำนักอยู่ในวัง เพื่อช่วยฮองเฮาเปลี่ยนยา อีกหลายวันถึงจะกลับไปนะ” หยุนถิงบอก
“มิเป็นไร ข้าอยู่เป็นเพื่อนเจ้าเอง พวกลูกมีพวกซูหลินคอยอยู่เป็นเพื่อนแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง” จวินหย่วนโยวปลอบ
“ได้”
“พวกเราก็จะอยู่ด้วย” หมอยมบาลและตาเฒ่าเหออายุปูนนี้แล้ว กลับจู่ๆต้องตามหยุนถิงมาทำการผ่าตัดระดับสูงขนาดนี้ ย่อมเหนื่อยล้าไม่ไหวอยู่แล้ว
ซูกงกงีบจัดแจงที่พักให้พวกหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวทันที และยังสั่งให้คนนำน้ำร้อน และเสื้อผ้าผลัดเปลี่ยนมาให้ด้วย เพราะเนื้อตัวพวกเขาเต็มไปด้วยรอยเลือด ต้องการการอาบน้ำจริงๆ
พอได้แช่ในน้ำร้อน หยุนถิงถึงได้ผ่อนคลายลง เมื่อกี้ตื่นเต้นแทบตาย ถึงนางจะทำการผ่าตัดแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วนในยุคปัจจุบันแล้ว แต่เงื่อนไขของที่นี่มันเทียบกับยุคปัจจุบันไม่ได้เลย โชคดีที่สำเร็จ
จวินหย่วนโยวหยิบผ้ามาช่วยเช็ดรอยเลือดที่มือและแขนหยุนถิงอย่างเบามือ การกระทำนั้นอ่อนโยนนัก พอเห็นแววเหนื่อยล้าที่หว่างคิ้วของหยุนถิง ก็สงสารนางนัก
เขาพลันคิดว่า หากถิงเอ๋อร์ไม่เป็นวิชาแพทย์ ก็คงไม่ต้องลำบากเช่นนี้ จากนั้นก็ยิ้มขืนขึ้นมาทันที
หากนางไม่เป็นวิชาแพทย์ มีหรือที่เขาจะได้รู้จักนาง และจะอยู่มาถึงตอนนี้ได้อย่างไร จะมีลูกได้อย่างไร— จวินหย่วนโยวยิ้มมุมปากอย่างอ่อนแรง
อาจเพราะเหนื่อยมากเกินไป หรืออาจเพราะจวินหย่วนโยวทำอย่างอ่อนโยนมากเกินไป หยุนถิงแช่ไปแช่มาก็หลับไปเลย
พอเห็นหยุนถิงหลับตาพริ้มพิงถังน้ำ ฟังเสียงหายใจสม่ำเสมอของนาง ดวงตาทุ้มลึกของจวินหย่วนโยวค่อยๆกระจายความทุ้มลึกออกมาทีละชั้น
ผ้าในมือเขาเช็ดไปที่ไหล่หยุนถิง ทีละครั้งทีละครั้ง บางทีอาจเพราะน้ำร้อน ทำให้ผิวของหยุนถิงตอนนี้เป็นสีชมพูเรีบเนียน ประหนึ่งลูกพีชที่น่ากิน เป็นประกายกระจ่างใส หยดน้ำไหลจากคอนางไปที่ไหล่ ค่อยไหลลงไปเรื่อยๆตามผิวพรรณเรียบลื่นของนาง
จวินหย่วนโยวรู้สึกลำคอแห้งผาก ท้องน้อยเริ่มบีบรัด สายตาเขาค่อยๆเลื่อนลงตามหยดน้ำนั้นไปหยุดที่หน้าอกหยุนถิง
กลีบดอกไม้สีแดงบนผิวน้ำส่งผลให้ผิวนางราวกับไข่ไก่ที่ถูกกะเทาะเปลือกออก ขาวเนียนเรียบลื่น ทำเอาจวินหย่วนโยวทนไม่ไหวอีกต่อไป และก้มหน้าจูบลงไป