จอมนางข้ามพิภพ - บทที่288 หากเจ้าไม่พูด ก็ตายตอนนี้
จอมนางข้ามพิภพ บทที่288 หากเจ้าไม่พูด ก็ตายตอนนี้
“ไปให้พ้น อย่ามาแตะข้า!” ชางหยุนสี่ตะโกนด้วยความโกรธ อยากสู้กลับแต่กลับพบว่าไม่มีเรี่ยวแรงใดๆเลย ขยับก็ขยับไม่ได้
ชายหน้าเป็นแผลจะจูบชางหยุนสี่อย่างหยาบคาย ชางหยุนสี่จะแรงทั้งหมดหันหน้าออกไป สาปแช่ง แต่กลับถูกชายหน้าเป็นแผลตบอย่างแรง
เจ็บจนชางหยุนสี่เวียนไปหมด แต่หากถูกไอ้สารเลวสองตัวนี้แปดเปื้อน นางยอมตายดีกว่า
ชางหยุนสี่ไม่สามารถขยับตัวได้ และไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ รู้สึกคับข้องใจยิ่งนัก วินาทีนี้นางกลัวมากจริงๆ
ชางหยุนสี่ที่สับสนวุ่นวายเอื้อมมือไปจับปิ่นปักผม ดึงลงมา และแทงไปบนตัวของชายหน้าเป็นแผลอย่างแรง
“อ๊ากกก!” ทันใดนั้นลำคอของชายหน้าเป็นแผลก็เจ็บมาก และปล่อยชางหยุนสี่ทิ้งโดยสัญชาตญาณ และยื่นมือไปปิดคอ
“บ้าเอ๊ย กล้าลอบโจมตีข้า รนหาที่ตายชัดๆ!” ชายหน้าเป็นแผลตะโกนด้วยความโกรธ และตบนางอย่างแรงอีกครั้ง
“พี่ใหญ่ เป็นไงบ้าง ผู้หญิงสารเลวนี้กล้าทำร้ายพี่ใหญ่ ฆ่านางทิ้งโดยตรงเลยดีหรือไม่?” ชายหมูอ้วนถาม
มุมปากของชางหยุนสี่มีเลือดไหลออกมา รู้สึกกลัวมาก ที่รกร้างว่างเปล่าเช่นนี้ หากถูกฆ่าจริง แม้แต่ศพก็หาไม่เจอแน่นอน
“ใครส่งเจ้ามากันแน่ เขาให้เงินเจ้าเท่าไหร่ ข้าให้เจ้าเป็นสิบเท่า ขอเพียงเจ้าปล่อยข้าไป” ชางหยุนสี่รีบพูดอย่างรวดเร็ว
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หมูอ้วนที่อยู่ข้างๆ ก็รู้สึกหวั่นไหว: “พี่ใหญ่ หรือว่าพวก——”
“เจ้าโง่หรือ หากปล่อยนางไป สารภาพพวกข้าสองคนออกมา คงต้องถูกสับเป็นชิ้นๆแน่เลย คนด้านบนบอกแล้วว่า ห้ามไว้ชีวิต หากพวกข้าเสียงใจภายหลัง ด้วยความสามารถของพวกข้าแล้ว ต่อให้หลบหนีไปอีกสามแคว้นก็จะถูกตามไล่ฆ่าแน่นอน” ชายหน้าเป็นแผลพูดอย่างหมดความอดทน
“เอาที่พี่ใหญ่ว่า”
“ต่อให้ตาย ก็ให้ข้าได้ตายอย่างรู้อย่างชัดเจนหน่อยเถอะ หยุนถิงเป็นคนให้พวกเจ้ามาฆ่าข้าใช่หรือไม่?” ชางหยุนสี่ถาม
“หยุนถิง เป็นไปได้อย่างไร คุณหนูหยุนไม่ได้เลวทรามเยี่ยงนี้ องค์ชายองค์หญิงนางยังตีตรงถนนเลย ยังต้องการพวกข้าสองคนด้วยหรือ” ชายหมูอ้วนพูดอย่างเหยียดหยาม
ชางหยุนสี่ตกตะลึง ไม่ใช่หยุนถิง คนที่เกลียดนางที่สุดในแคว้นต้าเยียนยังจะมีใครอีก?
มีกริชเพิ่มอยู่ในมือของชายหน้าเป็นแผล และแทงมายังชางหยุนสี่: “จะโทษก็โทษเจ้าล่วงเกินคนที่ไม่ควรล่วงเกิน ไปตายซะ!” เมื่อเห็นว่ากริชนั้นแทงลงมา ชางหยุนสี่ตกใจจนหน้าซีด และหลับตาลงโดยสัญชาตญาณ
“แคร๊ก!” เสียงหนึ่งดังขึ้น จากนั้นก็เป็นเสียงคนล้มลงกับพื้น
ชายหน้าเป็นแผลยังไม่ทันได้ตอบสนอง ก็ตายไปแล้ว
ชายหมูอ้วนกลัวแทบตาย และรีบมาดู: “พี่ใหญ่ เจ้าเป็นอะไรไป?”
เมื่อชางหยุนสี่ได้ยินเสียงนี้ ก็ลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็เห็นร่างหนึ่งลงมาจากบนฟ้า ร่อนลงตรงหน้านาง
“หยุนถิง?” ชางหยุนสี่ตกตะลึงอย่างมาก
“คุณหนูหยุน?” หน้าของชายหมูอ้วนซีดลงในทันที
หยุนถิงมองอย่างเหยียดหยาม ถือกริชไว้ในมือ: “ถูกต้อง ข้าเอง กลางดึกยังได้ดูละครฉากหนึ่ง บอกมาสิว่า ใครเป็นคนสั่งให้เจ้าดักฆ่าชางหยุนสี่”
ชายหมูอ้วนตกใจจนคุกเข่าลงกับพื้น: “คุณหนูหยุนโปรดไว้ชีวิตด้วย ข้าเองก็แค่รับเงินผู้อื่นมาแล้วตามที่เขาสั่งเท่านั้น สายงานนี้ของพวกข้ามีกฎของสายงานนี้ ถ้าข้าทรยศผู้บังคับบัญชา คนที่ตายก็คือข้า”
“หากเจ้าไม่พูด ก็ตายตอนนี้!” หยุนถิงทำเสียงเชอะ กริชในมือไปจี้คอของชายหมูอ้วน
กริชเย็นเฉียบกรีดผ่านผิวหนังในทันที มีของเหลวข้นไหลออกมา ทำเอาชายหมูอ้วนกลัวจนรีบตอบในทันที: “คุณหนูหยุน จริงๆแล้วข้าก็ไม่รู้จักสตรีผู้นั้น นางสวมหมวกไม้ไผ่ไว้ นางให้พวกข้าดูเพียงภาพวาด และยังบอกว่าให้พาออกไปในเมืองหลวง ไปไกลหน่อยค่อยฆ่า”
“ใช่แล้ว ง่ามระหว่างหัวแม่มือและนิ้วชี้ของมือซ้ายนั้นมีไฝสีแดงที่มีรูปร่างเหมือนผีเสื้อ ตอนนั้นข้าก็เพียงแค่เหลือบมอง ไม่ได้ดูดีๆ คุณหนูหยุนได้โปรดปล่อยข้าไปด้วย”
“ข้าเกลียดการใช้วิธีการที่ต่ำทรามแบบนี้จัดการผู้หญิงที่สุด วันนี้ให้ข้ามาเจอพอดี รนหาที่ตายชัดๆ!” หยุนถิงทำเสียงเชอะ และเชือดคอชายหมูอ้วนโดยตรง
เลือดสีแดงสด กระเซ็นใส่หน้าของชางหยุนสี่ ทำเอานางกรีดร้องด้วยความตกใจ
“องค์หญิงสี่ ท่านว่าหากข้าก็ฆ่าท่านทิ้ง คิดว่าในค่ำคืนที่มืดมิดและมีลมแรงเช่นนี้คงไม่มีใครรู้ จากนั้นกฌปล่อยเลือดของท่านให้หมดแล้วแช่ไว้ในยาพิษ แล้วทำเป็นเหรินจื้อ—–” เสียงอันเยือกเย็นของหยุนถิงประกอบกับเสียงลมดังก้อง
“หยุนถิง หากเจ้ากล้าฆ่าข้า ข้า—–” ชางหยุนสี่พูดและเป็นลมในทันที
หยุนถิงกลอกตาด้วยความดูถูก: “ความกล้าแค่นี้ ยังกล้าอวดดีอีก”
“ฮูหยิน นางจะทำอย่างไร?” หลงเอ้อที่ยืนมองอยู่ด้านข้างถามขึ้น
“เอากลับไป แม้ว่าชางหยุนสี่จะอาศัยว่า ตนเองได้รับการโปรดปราน จึงวางท่าทีหยิ่งยโสโอหัง และค่อยหาเรื่องข้าหลายครั้ง อยากคิดร้ายต่อข้า แต่ก็ถูกข้าสั่งสอนไปแล้ว โทษไม่ถึงตาย” หยุนถิงตอบ
“ขอรับ” หลงเอ้อรีบพยุงนางขึ้นมา
คืนนี้หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวและคงอู๋ไต้ซือดื่มสุราไปมากมาย คงอู๋ไต้ซือที่เมาบอกว่าในป่าของหลังภูเขามีสมุนไพรลำค่ำมากมาย บังเอิญมีดอกจื่อเยี่ยพอดี
หยุนถิงรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง ดอกจื่อเยี่ยสามารถถอนพิษในร่างกายของซื่อจื่อได้ ดังนั้นเมื่อหยุนถิงเห็นซื่อจื่อหลับไปแล้ว หยุนถิงจึงรีบเรียกหลงเอ้อออกมาในทันที
ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังจริงๆด้วย เด็ดมาแล้ว คราวนี้ยาที่ใช้ถอนพิษให้ซื่อจื่อก็เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งอย่าง
…………….
ในเมืองหลวง
ค่ำคืนนี้องครักษ์ของแคว้นชางเยว่ล้วนออกปฏิบัติการกันหมด ชางเยว่หมิงนำผู้คนไปค้นหาทั่วเมืองหลวงด้วยตัวเอง ก็ไม่พบชางหยุนสี่ ทำเอาชางเยว่หมิงกังวลเป็นอย่างยิ่ง
ชางหยุนสี่เป็นองค์หญิงที่ฝ่าบาทโปรดปรานที่สุด หากนางเป็นอะไรไป เสด็จพ่อคงสับเขาเป็นชิ้นๆแน่นอน
ชางเยว่หมิงรีบไปที่พระราชวังทันที อธิบายเรื่องนี้กับฝ่าบาท จากนั้นฝ่าบาทก็สั่งให้โม่ฉีเฟิงไปหาด้วยกัน
ครักษ์หลวงทั้งเมืองหลวงออกตามหา โรงเตี๊ยม ร้านสุรา โรงน้ำชา แม้กระทั่งโรงปฏิบัติงานขนาดเล็กทั้งหมด และทุกหลังคาเรือนก็ค้นหาหมดแล้ว
องค์หญิงของแว่นแคว้นหนึ่งหายตัวไป ยังได้หรือ
ชางหลันเย่ได้ยินข่าวก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย นึกถึงถุงเงินที่ชางหยุนสี่ให้ตัวเอง ก็รีบเรียกองครักษ์มาทันที: “ตอนนี้องค์หญิงสี่อยู่ที่ใด?”
“นายท่าน องค์หญิงสี่ถูกคนมอมยาและถูกลักพาตัวออกเมืองไป ตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไรไม่ทราบ ข้าน้อยคิดว่าองค์หญิงสี่ก็ปฏิบัติต่อนายท่านไม่ดีนัก จึงไม่ได้สนใจเรื่องนี้ “องครักษ์ลับรายงาน
“รีบส่งคนไปตามหาทันที หาวิธีแจ้งให้ชางเยว่หมิงทราบ ยังไงหยุนสี่ก็เป็นน้องสาวสี่ของข้า ข้าจะไม่ปล่อยให้นางเกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างแน่นอน” ชางหลันเย่สั่ง
“ขอรับ” องครักษ์ลับรีบไปเรียกคน
ชางหลันเย่ถูถุงเงินในมือของเขาไปมา นัยน์ตาดำทืบ
เช้าวันรุ่งขึ้น ชางหยุนสี่ปวดเมื่อยไปทั่วร่างกาย ลืมตาขึ้นมองไปรอบๆ นางนอนอยู่บนกองหญ้า รอบๆมีวางของไว้มากมาย นางตกตะลึงมาก
นางไม่ตาย หยุนถิงก็ไม่ได้ฆ่านาง
ชางหยุนสี่ลองขยับดู นางสามารถขยับได้แล้ว ดีใจยิ่งนัก และรีบลุกขึ้นจากพื้นแล้วเดินออกไปที่ประตู แต่ในนอกลานนางก็เห็นหยุนถิง จวินหย่วนโยว และหลวงจีนคนหนึ่งกำลังรับประทานอาหารกันบนโต๊ะหิน
ชางหยุนสี่ตกตะลึงมาก: “หยุนถิง เจ้าเป็นคนช่วยข้าไว้?”