จอมนางข้ามพิภพ - บทที่322 ข้าขอโทษเจ้า
จอมนางข้ามพิภพ บทที่322 ข้าขอโทษเจ้า
“ต้องลำบากคุณหนูหยุนกลับไปกับพวกข้าด้วยแล้ว อาการของน้องสาวข้าน่าเป็นห่วง รอช้าไม่ได้!” มู่เซียวเซียวกล่าว
“อืม ข้ากับซื่อจื่อกลับไปเก็บข้าวของก่อน” หยุนถิงกล่าว
“ขอบคุณมาก”
หยุนถิงจูงมือของจวินหย่วนโยวและตรงไปที่ห้อง ทันทีที่เข้าไปหยุนถิงก็ตรงไปที่ด้านในห้อง จากนั้นก็นำหญ้าเถาวัลย์ใส่เข้าไปในมิติ และคัดลอกหลายต้น
“ซื่อจื่อ คืนนี้ข้ากลับไปกับพวกเขา ท่านพักผ่อนคืนหนึ่งแล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยกลับไป?” หยุนถิงเสนอ
“เจ้ากลับไปกับพวกเขาเพียงคนเดียว ข้าจะไว้ใจได้อย่างไร ร่างกายของข้าดีขึ้นกว่าเดิมมากแล้ว ออกเดินทางในตอนกลางคืนไม่มีปัญหาอะไรเลย” จวินหย่วนโยวพูดอย่างเป็นทุกข์ใจ
“เช่นนั้นก็ต้องลำบากซื่อจื่อแล้ว”
“เจ้าโง่ ห้ามเกรงใจเช่นนี้กับข้าอีก” จวินหย่วนโยวดึงหยุนถิงเข้ามาในอ้อมแขน ก้มหัวลงและจูบบนหน้าผากนาง
“อืม”
ทั้งสองเก็บของเสร็จก็ออกเดินทางไป
มู่เซียวเซียวและผู้อาวุโสสองกำลังรออยู่นอกลาน ทุกคนเพิ่งขึ้นไปในรถม้า ก็เห็นมู่เทียนบาวิ่งมาอย่างโกรธเคือง
“ท่านพ่อ ท่านมาได้อย่างไร?” มู่เซียวเซียวตกตะลึงเป็นอย่างมาก
“ท่านเจ้าหอ!” ผู้อาวุโสสองก็ดูตกตะลึงเช่นกัน
มู่เทียนบาเดินไปตบมู่เซียวเซียวอย่างแรง: “หากข้าไม่มา ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าเอาสมบัติล้ำค่าของหอเทพเซียนไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งสี่แคว้นมีเพียงต้นนี้เพียงต้นเดียว เจ้าจะเอาให้หยุนถิงได้อย่างไร!”
มู่เซียวเซียวมองดูพ่อของตัวเองด้วยความตกใจและไม่อยากจะเชื่อ นางเชื่อฟังเป็นเด็ดดีตั้งแต่เด็ก ท่านพ่อไม่เคยตีนางเลย นี่เป็นครั้งแรก
“ท่านพ่อ หญ้าเถาวัลย์ล้ำค่าจริงๆ แต่ความเป็นความตายของน้องสาว หรือว่าท่านจะมองดูน้องสาวตายไปจริงๆหรือ?”
“ใช่ท่านเจ้าหอ ว่านว่านรอช้าไม่ได้อีกแล้ว หญ้าเถาวัลย์ไม่มีแล้วพวกข้าสามารถไปหาได้อีก แต่หากคนไม่มีแล้ว——” ผู้อาวุโสสองพูดเกลี้ยกล่อมตาม
“หุบปาก หญ้าเถาวัลย์ต้นนั้นเป็นสิ่งที่แม่ของเซียวเซียวแลกมาด้วยชีวิต ใครก็ห้ามแตะ หญ้าเถาวัลย์อยู่ที่ไหน เอาให้ข้าเดี๋ยวนี้?” เสียงของมู่เทียนบาโหดเหี้ยมและเด็ดขาด โดยไม่ต้องมีข้อสงสัย
ดวงตาแสนสวยของหยุนถิงมีร่องรอยของความเย็นวาบผ่านไป นางคิดไม่ถึงว่ามู่เทียนบาจะโหดเหี้ยมถึงเช่นนี้ เพื่อสมุนไพรต้นหนึ่งไม่สนแม้แต่ความเป็นความตายของลูกสาวตัวเอง
“หญ้าเถาวัลย์อยู่ที่นี่” หยุนถิงทำเสียงเชอะและยื่นกล่องให้
มู่เทียนบาจ้องมองอย่างระแวดระวัง แย่งมาและรีบเปิดดูทันที แน่ใจว่าด้านในนี้เป็นหญ้าเถาวัลย์จริงถึงค่อยรู้สึกโล่งใจลง
“เรื่องของลูกสาวข้า ก็ไม่รบกวนคุณหนูหยุนหนักใจแล้ว มู่เซียวเซียวขโมยสมบัติสุดล้ำค่าของหอเทพเซียน มาโดยไม่ได้รับอนุญาต กลับไปและกักขังตัวเองเป็นเวลาหนึ่งปี และห้ามออกจากห้องโดยไม่ได้รับคำสั่งของข้า ผู้อาวุโสสองรู้เท่าทันแต่กลับให้นางทำตามใจ ยกเลิกตำแหน่งของผู้อาวุโส แล้วค่อยสังเกตดู หากมีครั้งต่อไป ข้าจะไม่ยกโทษให้โดยเด็ดขาด พวกเจ้าสองคนระวังตัวดีๆล่ะ” มู่เทียนบาทิ้งประโยคที่เย็นชานี้ไว้ หันหลังกลับและจากไปพร้อมกับหญ้าเถาวัลย์
“ท่านพ่อ ท่านพ่อ ได้โปรดช่วยน้องสาวด้วย——” มู่เซียวเซียวร้องไห้และล้มลงกับพื้น
แต่มู่เทียนบาเหมือนไม่ได้ยิน เดินไปอย่างไม่แม้แต่จะหยุดลงเลย
ผู้อาวุโสสองก็ยิ่งเสียใจยิ่งนัก: “หรูเยี่ยน ข้าขอโทษเจ้า ข้าไร้ประโยชน์ ข้าช่วยว่านว่านไม่ได้!”
หยุนถิงเห็นพวกเขาเช่นนี้ ก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจเล็กน้อย: “ซื่อจื่อ คำขอนี้ของข้าเกินไปหรือไม่?”
“ไม่เกินไป หากต้องการได้รับผลประโยชน์ ก็ต้องนำสิ่งที่มีคุณค่าเท่ากันออกมาแลกเปลี่ยน นี่เป็นทางเลือกของมู่เทียนบา ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้า” จวินหย่วนโยวพูดปลอบโยน
หยุนถิงรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง: “อืม ข้าเข้าใจแล้ว”
“เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว กลับไปพักผ่อนเถอะ” จวินหย่วนโยวจับมือของหยุนถิง เดินไปที่ห้องและถือโอกาสปิดประตูห้อง
นอกลาน มู่เซียวเซียวและผู้อาวุโสสองดูหน้าเศร้า ทุบตีพื้นด้วยความปวดใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ใครจะคิดว่าท่านเจ้าหอจะใจร้ายเช่นนี้ จะไม่สนใจความเป็นความตายของมู่ว่านว่านเพียงเพราะสมุนไพรเพียงต้นเดียว
หยุนถิงก็ตกลงที่จะช่วยแล้ว แต่มู่ว่านว่านกลับถูกความดื้อรั้นของท่านเจ้าหอทำร้าย ซึ่งทำให้ผู้อาวุโสสองผิดหวังยิ่งนัก
“ผู้อาวุโสสอง พวกข้ากลับไปดูน้องสาวกันเถอะ บางทีอาจได้พบหน้านางเป็นครั้งสุดท้าย” มู่เซียวเซียวทนต่อความเจ็บปวดและลุกขึ้นยืน
“ไปกันเถอะ!”
ทั้งสองช่วยกันพยุงกันและจากไป
หยุนถิงในห้องยังไม่ได้พักผ่อน: “ซื่อจื่อ แม้ว่ามู่เทียนบาจะเอาหญ้าเถาวัลย์ไปแล้ว แต่ข้าก็ยังต้องกลับไปในคืนนี้ เขาใจร้ายยเช่นนี้เป็นเรื่องดีสำหรับข้า”
“อืม ตามที่เจ้าพูด” จวินหย่วนโยวและหยุนถิงพาองครักษ์เงามังกรนั่งรถม้าจากไปในค่ำคืน
เขาตั้งใจเหลือองครักษ์ไว้สองคน เพื่อให้พวกเขาพาผู้ผ่านการทดสอบกลับไปในวันพรุ่งนี้
ที่พักเปลี่ยนม้าหลวง
เมื่อมู่เซียวเซียวและผู้อาวุโสสองกลับมา ก็เป็นเวลาหลังเที่ยงคืนแล้ว
สีหน้าของมู่ว่านว่านที่อยู่บนเตียงนั้นซีดมาก ดวงตาปิดเล็กน้อย ราวกับว่าหลับไป หากไม่ใช่เป็นเพราะยังมีลมหายใจแผ่วๆเล็กน้อย คงคิดว่านางตายไปแล้ว
“น้องสาวข้าขอโทษ พี่ไร้ประโยชน์เอง พี่ไร้ความสามารถไม่สามารถช่วยเจ้าได้” มู่เซียวเซียวร้องไห้
จากนั้นมู่ว่านว่านก็ลืมตาขึ้น มองดูมู่ว่านว่านที่ขอบตาแดง ก็รู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก: “พี่เจ้าอย่าโทษตัวเองเลย ก่อนหน้านี้ข้าหาเรื่องหยุนถิงมาครั้งแล้วครั้งเล่า นางไม่ยอมช่วยข้าก็เป็นเรื่องปกติ”
“เป็นหยุนถิงที่ไหนกัน เป็นเพราะท่านเจ้าหอต่างหาก คุณหนูหยุนตอบตกลงว่าจะช่วยแล้ว และกำลังจะมากับพวกข้า แต่ท่านเจ้าหอดื้อรั้นที่จะเอาหญ้าเถาวัลย์คืน โธ่เอ๊ย หลายปีมานี้ข้าดูผิดเขาแล้วจริงๆ” ผู้อาวุโสสองพูดอุทาน
มู่ว่านว่านตกตะลึงยิ่งนัก: “ผู้อาวุโสสอง เจ้า เจ้าหมายความว่า ท่านพ่อไม่ยอมช่วยข้า?”
“ว่านว่าน ท่านพ่อบอกว่าหญ้าเถาวัลย์เป็นของที่ท่านแม่แลกมาด้วยชีวิต ดังนั้นเจ้าอย่าโทษเขาเลย เขาเองก็คงมีความลำบากใจเช่นกัน” แม้ว่ามู่เซียวเซียวจะลำบากใจ แต่ก็ยังพูดออกมา
“ว่านว่าน ข้าขอโทษ เป็นเพราะข้าไร้ความสามารถ เป็นเพราะข้าช่วยเจ้าไม่ได้” ผู้อาวุโสสองรู้สึกโทษตัวเองและรู้สึกผิดอย่างมาก
ผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสสี่ได้ยินเสียง ก็รีบเข้ามาไปทันที และได้ยินคำเหล่านี้พอดี
“เหตุใดท่านเจ้าหอถึงได้ใจร้ายใจดำเช่นนี้ หญ้าเถาวัลย์ถูกแลกมาด้วยชีวิตของหรูเยี่ยนก็จริง แต่นางก็ตายไปหลายปีแล้ว ท่านเจ้าหอจะทอดทิ้งว่านว่านเพียงเพราะสมุนไพรต้นหนึ่งได้อย่างไร ข้าจะไปหาเขาเดี๋ยวนี้” ผู้อาวุโสสามพูดจบ หันหลังและอยากไป
“นังหนูเจ้าอย่าคิดมาก บางทีท่านเจ้าหออาจมีความลำบากใจของเขาก็ได้” ผู้อาวุโสสี่พูดปลอบโยน
“พี่สาว ผู้อาวุโสทั้งหลายพวกเจ้าออกไปเถอะ ข้าอยากอยู่คนเดียว” มู่ว่านว่านพูดอย่างอ่อนแอ
ทุกคนเห็นใบหน้าที่ซีด และดวงตาที่ว่างเปล่าของนาง ก็รู้สึกปวดใจและเห็นอกเห็นใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงจากไป
“น้องสาว ข้าจะไปขอท่านพ่อเดี๋ยวนี้เลย!” มู่เซียวเซียวเดินออกไป และคนอื่นๆ ก็ออกไปตาม
ทันใดนั้นห้องขนาดใหญ่ก็เงียบลง เหลือเพียงมู่ว่านว่านคนเดียว
นางเงยหน้าขึ้นมองดูหลังคา ดวงตาแสนสวยนั้นเต็มไปด้วยความสิ้นหวังและการเสียดสี
จนถึงวินาทีนี้ นางก็ยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ท่านพ่อที่โปรดปรานตัวเอง และรักตัวเองมาโดยตลอดนั้น ต่อให้ยอมเสียสละตัวเอง ก็จะปกป้องหญ้าเถาวัลย์นี้ให้ดี
ในใจของเขา ลูกสาวของเขาคนนี้ยังเทียบสมุนไพรต้นหนึ่งไม่ได้
ในใจของมู่ว่านว่านเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและสิ้นหวัง คนกำลังจะตาย วินาทีนี้นางรู้สึกปวดใจและเสียงใจภายหลังยิ่งนัก
ที่แท้คนที่อยากให้นางตายไม่ใช่หยุนถิง แต่เป็นพ่อของตัวเอง