จอมนางข้ามพิภพ - บทที่329 จะแย่งซื่อจื่อพี่เขยของข้าไป
จอมนางข้ามพิภพ บทที่329 จะแย่งซื่อจื่อพี่เขยของข้าไป
หลันรั่วตกตะลึงยิ่งนัก นี่ยังเป็นฝ่าบาทแห่งต้าเยียนผู้ที่มีท่าทีอ่อนโยน บอกอะไรก็ตอบตกลงทุกอย่างอยู่หรือ
ฝ่าบาทในขณะนี้ สีหน้ามืดครึ้ม ดวงตาเฉียบคมราวกับมีด ไม่โกรธก็ดูทรงพลังน่ากลัวอยู่แล้ว เพียงแค่ออร่ารอบกายก็กดดันหลันรั่วมากแล้ว
วินาทีนี้ องค์หญิงหลันรั่วก็หวาดกลัวเช่นกัน และร้องไห้ออกมา
ฝ่าบาทขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้พูดปลอบใจใดๆ เพียงแค่มองดูหลันรั่วอย่างเย็นชา
“ฝ่าบาทหลันรั่วรู้ผิดแล้ว เป็นเพราะหลันรั่วพูดไม่รู้จักกาลเทศะ โปรดฝ่าบาทอย่าได้จริงจังเลย” หลันรั่วยอมจำนนอย่างรวดเร็วและร้องขอความเมตตา
“เจ้ารู้ก็ดีแล้ว แม้ว่าเจ้าจะเป็นองค์หญิงของแว่นแคว้นหนึ่งก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่คำอะไรก็พูดออกปากไปมั่วได้ ระวังจะปลาหมอตายเพราะปาก ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ก็ถอยออกมาเถอะ!” ฝ่าบาททำเสียงเชอะ
“เพคะ” องค์หญิงหลันรั่วรีบจากไป
เมื่อเห็นว่าหลันรั่วจากไปแล้ว ซูกงกงจึงกล่าวว่า “ฝ่าบาท คิดไม่ถึงว่าท่านจะปกป้องคุณหนูหยุนถึงเช่นนี้”
ฝ่าบาทหันหัวจิกตาใส่เขา: “พูดจาเหลวไหล ข้าปกป้องหยุนถิงที่ไหนกัน ข้าแค่ทนเห็นอีนังหนูที่ไม่รู้อะไรพูดจาโอหังบอกว่าจะโจมตีต้าเยียนไม่ได้ ข้าก็ไม่สามารถทนได้อยู่แล้ว”
“ฝ่าบาทพูดถูก ฝ่าบาททรงมีปรีชาญาณ!” ซูกงกงรีบพูดประจบสอพลอทันที
“แต่เอาจริงแล้ว หยุนถิงก็โหดร้ายดีนัก หลันรั่วพึ่งเข้าไปพักอาศัยที่จวนซื่อจื่อก็ถูกนางสั่งสอน!” ฝ่าบาทพูดอุทาน
“ฝ่าบาท ด้วยความเข้าใจที่บ่าวมีต่อคุณหนูหยุนแล้ว นางไม่ใช่คนที่ข่มอารมณ์ไว้ไม่ได้ คงเป็นเพราะองค์หญิงหลันรั่วทนรอไปหาเรื่องคุณหนูหยุน” ซูกงกงตอบทันที
“หลันรั่วผู้นี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยุนถิง!”
ทางนี่ องค์หญิงหลันรั่วออกจากวังด้วยความคับแค้นใจอย่างมาก เมื่อนึกคิดว่าหลังกลับไปที่จวนซื่อจื่อก็ต้องเห็นหยุนถิงอนุภรรยาคนนั้นโอ้อวดกำลัง ก็รู้สึกโกรธมาก นางตรงไปที่พักเปลี่ยนม้าไปหาคนของตัวเอง
ทันทีที่องครักษ์ที่ติดตามมาได้ยินว่าองค์หญิงหลันรั่วถูกอนุภรรยาของจวินหย่วนโยวรังแก และยังถูกจักรพรรดิแห่งแคว้นต้าเยียนสั่งสอน ทุกคนก็เต็มไปด้วยความแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม และต้องการคืนความยุติธรรมให้กับองค์หญิง
แต่ก็ถูกหลิวมามาห้ามเอาไว้ นางเป็นแม่นมขององค์หญิงหลันรั่ว และยังเป็นข้าราชการหญิงที่ได้รับการแต่งตั้งจากจักรพรรดิแห่งแคว้นเทียนจิ่ว มีหน้าที่รับผิดชอบความปลอดภัยขององค์หญิงหลันรั่วในการออกเดินทางยังต้าเยียน
“องค์หญิงของข้า ทำไมท่านถึงกระสับกระส่ายเช่นนี้ ต่อให้ท่านจะชอบจวินซื่อจื่อ และต้องการจัดการกับอนุภรรยาคนนั้น แต่ก็ต้องรู้เขารู้ตัวเอง และห้ามทำโดยสะเพร่าเด็ดขาด
แม้ว่าตอนนั้นบ่าวจะไม่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่ท่านไปฟ้องร้องต่อจักรพรรดิแห่งต้าเยียน ฝ่าบาทก็ยังลงโทษท่านด้วย เห็นได้ชัดเจนว่ามันเป็นความผิดของท่าน บ่าวรู้ว่าองค์หญิงไม่ชอบฟังคำพูดเหล่านี้ แต่คำพูดที่หวังดีมักไม่น่าฟัง
สั่งสอนคนอื่นไม่จำเป็นลงมือด้วยตนเอง พวกข้าสามารถแอบลงมือลับหลังได้ ก็จะกำจัดอนุภรรยาคนนั้นได้โดยไม่มีใครรู้ และไม่ทำให้จวินซื่อจื่อพาลโกรธท่านด้วย ไม่ดีกว่าหรือ“หลิวมามาพูดปลอบใจ
แม้ว่าหลันรั่วจะรู้สึกน้อยใจในตอนแรก แต่ฟังจนจบก็ดีใจยิ่งนัก: “มามา เจ้ามีวิธีใช่หรือไม่ เจ้าฉลาดมากเลย?”
“องค์หญิง สิ่งเหล่านี้พวกข้าต้องค่อยๆปรึกษากันให้ดีก่อน บ่าวได้ให้คนไปสืบถามดูแล้ว อนุภรรยาของจวินซื่อจื่อคือบุตรีภรรยาหลวงของหยุนเฉิงเซี่ยง ไม่มีความสามารถใดๆ เป็นคนโง่เขลาและไร้ประโยชน์ และหลังหย่าร้างกับหลีอ๋องไม่นานก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ความปราดเปรื่องฝีมือยอดเยี่ยม ไม่มีอะไรที่ไม่เป็น
ไม่นานมานี้ จี๋ผินของฝ่าบาทได้เปิดโปงต่อหน้าทุกคนว่าหยุนถิงเป็นตัวปลอม แต่สุดท้ายกลับถูกตบหน้าและใส่ร้าย ด้วยเหตุนี้จึงเห็นได้ชัดเจนว่าหยุนถิงผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดาอะไรแน่นอน ดังนั้นพวกข้าต้องวางแผนอย่างรอบคอบ และแทงเข้าในจุดสำคัญ! “ หลิวมามาพูดปลอบใจ
“อืม ข้าฟังที่มามาพูด”
“ถ้าอย่างนั้นท่านกลับไปจับตาดูอนุภรรยาที่จวนซื่อจื่อดีๆ หากนางมีอะไรน่าสงสัยก็รีบมาแจ้งให้ข้าทันที และจำไว้ว่าอย่าเกิดความขัดแย้งกับนางอีก” หลิวมามากำชับสั่งเสีย
“อืม” องค์หญิงหลันรั่วเข้ามาอย่างโกรธเคือง และกลับไปที่จวนซื่อจื่ออย่างมีความสุข
องครักษ์ที่เฝ้าจวนซื่อจื่อเห็นนางกลับมา ในใจก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมความหน้าด้านขององค์หญิงหลันรั่ว หน้าด้านมากจริงๆเลย ถูกฮูหยินทำถึงเช่นนี้ ยังกล้ากลับมาอีก
แน่นอนว่า พวกเขาก็ไม่ได้ขวางนางเอาไว้
ในลาน หยุนเสี่ยวลิ่วและเสี่ยวอันจื่อที่กำลังฝึกซ้อมอยู่เห็นหลันรั่วกลับมา สีหน้าของพวกเขาสองคนก็มืดครึ้มลงในทันที
“เสี่ยวอันจื่อ ปกติพี่ใหญ่ของข้าปฏิบัติต่อเจ้าอย่างไร?” หยุนเสี่ยวลิ่วถาม
“คุณหนูใหญ่ดีต่อข้ามาก นางคือผู้มีพระคุณของข้า ไม่ว่าจะให้ข้าทำอะไรข้าก็ยอม” สีหน้าของเสี่ยวอันจื่อตึงเครียด
“เอาล่ะ ตอนนี้มีโอกาสแล้ว องค์หญิงหลันรั่วคนนั้นอยากและแย่งซื่อจื่อพี่เขยของข้าไป พวกข้าไปสั่งสอนนางเถอะ!” หยุนเสี่ยวลิ่วเสนอแนะ
แน่นอนว่าเสี่ยวอันจื่อเองก็ได้ยินเรื่องที่คนในจวนซื่อจื่อพูดเกี่ยวกับหลันรั่ว และพยักหน้าโดยไม่คิด: “อืม!”
ดังนั้นไอ้ตัวแสบน้อยทั้งสองจึงคิดแผนการ ตอนกลางคืนหยุนเสี่ยวลิ่วก็ไม่ได้กลับไป โดยบอกว่าจะอยู่ที่จวนซื่อจื่อ หยุนถิงก็ไม่ได้คิดอะไรมากจึงตอบตกลงไป
ในช่วงกลางดึก หยุนเสี่ยวลิ่วแอบวิ่งไปหาเสี่ยวอันจื่อ จากนั้นทั้งสองก็ตรงไปที่ห้องของหลันรั่ว
ตั้งแต่กลับมาจากที่พักเปลี่ยนม้าหลวง หลันรั่วก็อารมณ์ดีมาก ดังนั้นจึงนอนหลับสบายในตอนกลางคืน แต่ยามสะลึมสะลือก็ได้ยินเสียงร้องห่มร้องไห้เหมือนผีสาง หมาป่า นางก็ตื่นขึ้นในทันที
ทันทีที่ลืมตา ก็เห็นเด็กผีน้อยคนหนึ่งที่ตัวเตียง ผมกระเซิง มองใบหน้าไม่ชัด แลบลิ้นที่แดงสดออกมาจากมุมปาก และเล็บอันยาวคู่นั้นกำลังจะบีบคอนาง
“อ๊าก! ผี มีผี ช่วยด้วย พี่ซื่อจื่อช่วยข้าด้วย ช่วยด้วย!” หลันรั่วร้องตะโกน นางที่ตกใจมากจนเกินไป ก็ไม่สามารถสนใจอะไรได้อีก โบกมือไปมามั่วแล้ววิ่งไปที่ประตู
หยุนเสี่ยวลิ่วเห็นเช่นนี้ ก็ยิงหินก้อนเล็กไปที่หัวเข่าของหลันรั่ว
รวดเร็ว โหดร้าย แม่นยำ และไร้ความปรานี
“อ๊าก!” หลันรั่วล้มลงกับพื้น หัวกระแทกกับขอบประตูพอดี เจ็บยิ่งนัก แต่นางไม่อาจสนใจได้ ร้องขอความช่วยเหลืออย่างสุดชีวิต
นอกลาน ก็มีเด็กผีอีกคนปรากฏตัวขึ้น ใบหน้าซีดราวกับติดอยู่ในโถแป้ง เลือดออกเจ็ดทวาร น่ากลัวยิ่งนัก
“ท่านแม่ ข้าคิดถึงท่านมากเลย อย่าทิ้งข้าไป ข้าคิดถึงท่านมาก ข้าจะมาหาท่าน——” เสียงอันน่ากลัวของเสี่ยวอันจื่อ ชวนให้คนขนลุก
“ไปให้พ้น ข้าไม่ใช่แม่ของเจ้า เจ้าจำคนผิดแล้ว อย่ามาหาข้า ไปให้พ้น!” หลันรั่วร้องตะโกน ตกใจกลัวจนหน้าซีด
“ท่านแม่ ท่านไม่เอาข้าแล้วหรือ เสี่ยวเป่าเด็กดีมาก เสี่ยวเป่าจะร้องเพลงให้ท่านฟัง ตุ๊กตาดินเผาสองตัว กำลังเล่น——” เสี่ยวอันจื่อร้องขึ้น
หลันรั่วกลัวจนร้องไห้ และร้องโหยหวน นางอยากจะหนี แต่ผีน้อยทั้งสองก็เข้าใกล้เข้ามาหานางขึ้นเรื่อยๆ รูปลักษณ์ที่กระหายเลือดและน่ากลัวเช่นนั้น ทำเอานางกลับแทบตาย สุดท้ายหลันรั่วก็กลัวจนเป็นลมไป
หยุนเสี่ยวลิ่วเข้ามา และเตะนางด้วยความโกรธ: “กล้าแย่งสามีของพี่ใหญ่ข้า ก็ไม่ดูสภาพตัวเองก่อน มีความกล้าแค่นี้ก็กล้ามาแย่งคนกับพี่ใหญ่ข้า รนหาที่ตายชัดๆ!”
“พวกข้ารีบไปเร็วเข้า หากทำให้คนกลัวตกใจจนตายก็แย่แล้ว”เสี่ยวอันจื่อดึงหยุนเสี่ยวลิ่วและจากไป
ไอ้ตัวแสบสองคนได้ใจยิ่งนัก ยังนึกว่าไม่มีใครรู้เรื่องที่พวกเขาทำไป แต่คิดไม่ถึงว่ากลับถูกองครักษ์เงามังกรที่อยู่ในที่ลับนั้นเห็นเข้าทั้งหมด องครักษ์เงามังกรเองก็อดไม่ได้ที่จะยกนิ้วให้กับไอ้ตัวแสบสองคนนี้ ผีน้อยสองตัวยกนิ้วให้
สะใจยิ่งนัก สมกับเป็นน้องของฮูหยินจริงๆเลย แผนการเลวร้ายเช่นนี้ก็คิดออกมาได้ ช่างเป็นคนที่ตลกยิ่งนัก