จอมนางข้ามพิภพ - บทที่412 ขอแค่เป็นที่เจ้าคลอด ข้าชอบหมด
จอมนางข้ามพิภพ บทที่412 ขอแค่เป็นที่เจ้าคลอด ข้าชอบหมด
หยุนถิงตัวแข็งทื่อ และนึกถึงว่าช่วงนี้ซื่อจื่อบ้าคลั้งมาก นางก็เริ่มสงสัยเช่นกัน
ในตอนแรกนางก็ระวังเป็นพิเศษ จากนั้นก็หยิบถุงยางออกมาให้ซื่อจื่อใช้ แต่ซื่อจื่อบอกมันไม่สบาย ดังนั้นทุกครั้งหยุนถิงก็นับวันอย่างดี
เป็นไปได้อย่างไร ทำไมจู่ๆก็——
หยุนถิงรีบจับชีพจรตัวเอง เพียงแต่ว่ายืนไว้ไม่ค่อยสบาย จวินหย่วนโยวจึงรีบพยุงนางกลับไปที่โต๊ะทันที และวางมือของตัวเองไว้ใต้มือของหยุนถิง เพื่อป้องกันไม่ให้นางเป็นหวัด
เมื่อเห็นสีหน้าของหยุนถิงจริงจังขึ้นทีละน้อย จวินหย่วนโยวก็กังวลขึ้นทันที และจ้องมองหยุนถิงอย่างไม่กะพริบตา
“ซื่อจื่อ ข้าอยากไปเวจ!” หยุนถิงกล่าว
“ข้าจะไปกับเจ้า!”
“อืม” หยุนถิงลุกขึ้นและจากไป จวินหย่วนโยวก็รีบตามไปทันที
แม้ว่าชีพจรจะค่อนข้างแน่ชัดหน่อยแล้ว แต่หยุนถิงก็กลัวว่าจะเกิดจากตัวเองตื่นเต้นเกินไปจึงทำให้ชีพจรเต้นเร็วเกินไป ดังนั้นนางจึงเชื่อเครื่องมือในสมัยปัจจุบันมากกว่า
เมื่อหยุนถิงมองดูที่ตรวจครรภ์ที่มีขีดสองขีดที่อยู่ในมือ ทันใดนั้นก็ลืมตอบสนองไปชั่วขณะ
นาง นางท้องจริงๆแล้ว
พูดตามตรง นางยังไม่พร้อมที่จะเป็นแม่ จึงรู้สึกสับสนวุ่นวายทำอะไรไม่ถูก
จวินหย่วนโยวที่อยู่ข้างนอกยืนหลังตรง ฟังความเคลื่อนไหวข้างใน หากหยุนถิงเกิดอะไรขึ้นกับ เขาจะเป็นคนแรกที่พุ่งเข้าไป
แต่เขารอมาเป็นเวลานาน ก็ไม่เห็นหยุนถิงออกมา จวินหย่วนโยวจึงรู้สึกกังวลเป็นอย่างยิ่ง
“ถิงเอ๋อร์ เจ้าเสร็จหรือยัง?”
จากนั้นหยุนถิงที่อยู่ข้างในจึงค่อยตั้งสติขึ้น และเดินออกมาอย่างทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้น?” จวินหย่วนโยวเหลือบมองสิ่งที่อยู่ในมือของหยุนถิง และถามด้วยความเป็นห่วง
จากนั้นหยุนถิงก็ยื่นมันมา “ท่านดูเองเถอะ”
จวินหย่วนโยวมองดูดีๆ แต่ก็ยังไม่เข้าใจ “ขีดสองขีดนี้หมายความว่าอย่างไร?”
“มีแล้ว ท้องแล้ว”
จวินหย่วนโยวตกตะลึงด้วย สีหน้าอย่างไม่น่าเชื่อ “ถิงเอ๋อร์ เจ้า เมื่อกี้เจ้าพูดอะไรนะ?”
“ข้าบอกว่า ข้าท้อง เป็นเพราะท่านนั่นแหละไม่ควบคุม บังเอิญถูกรางวัลแล้ว” หยุนถิงบ่น
จวินหย่วนโยวจึงค่อยตั้งสติได้ ดีใจยิ่งนัก กอดหยุนถิงเอาไว้ “จริงๆหรือ ข้ากำลังจะเป็นพ่อคนแล้วจริงหรือ เจ้าท้องแล้วจริงหรือ กำลังตั้งท้องลูกของพวกข้า ดีมากเลย”
“ซื่อจื่อ ท่านรีบปล่อยซื่อจื่อเฟยลง ข้าได้ยินมาว่าช่วงสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์เป็นช่วงที่สำคัญของผู้หญิง ต้องระวังให้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหา้มเขย่าและอุ้ม” หลงเอ้อข้างๆ รีบเข้ามาห้ามเอาไว้ทันที
เมื่อจวินหย่วนโยวได้ยินเช่นนี้ ก็รีบวางหยุนถิงลง ด้วยสีหน้าระมัดระวังและรู้สึกผิด “ถิงเอ๋อร์ข้าขอโทษ เมื่อครู่ข้าตื่นเต้นและมีความสุขมากเกินไป ดังนั้นจึงบันยะบันยังไปหน่อย เจ้าไว้ใจ ต่อไปข้าจะคอยระมัดระวังให้ดีอย่างแน่นอน
ตอนนี้เจ้าตั้งท้องแล้ว ก็ต้องระวังให้มากยิ่งขึ้น หลิงเฟิงรีบไปสั่งให้ในครัวทำซุปไก่ทันที จากนี้ไปอาหารของฮูหยินต้องจืดชืด และเตียงควรก็เพิ่มผ้าห่มสักสามสองผืน และนุ่มนวลหน่อย
ถิงเอ๋อร์เจ้าเพิ่งตั้งครรภ์ ไม่มีใครดูแลเจ้าอย่างใกล้ชิด อยู่ที่นี้ต่อไปก็ไม่ดี ไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้พวกข้าก็ไป ไม่ ไปตอนนี้ กลับไปที่จวนซื่อจื่อจะสบายหน่อย”
หยุนถิงมองดูท่าทางที่ตื่นเต้นของเขา เดิมทีนางที่รู้สึกทำตัวไม่ถูกอยู่นั้น ทันใดนั้นก็รู้สึกสบายใจและอบอุ่นยิ่งนัก
นางคิดไม่ถึงว่า ซื่อจื่อได้ยินข่าวนี้จะตื่นเต้นมากเยี่ยงนี้
“ซื่อจื่อท่านอย่ากระต่ายตื่นตูมเช่นนี้ ทำตัวเหมือนปกติ อีกอย่างห้ามให้เรื่องที่ข้าท้องถูกแพร่ไหลออกไป รอให้ท้องใหญ่ขึ้นแล้วค่อยบอก” หยุนถิงกำชับสั่งเสีย
“อืม เจ้าบอกอะไรก็คืออะไร ข้าล้วนฟังเจ้าหมด งั้นพยุ่งเจ้ากลับไปพักผ่อน” จวินหย่วนโยวยื่นมือมา แต่หลังจากคิดแล้วก็อุ้มหยุนถิงขึ้น
แน่นอนว่า ระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
หลิงเฟิงหันกลับมาและกำลังจะไปสั่ง หลงเอ้อก็กอดเขา “ซื่อจื่อเฟยมีแล้ว ดีมากเลย ทีนี้ซื่อจื่อมีผู้สืบทอดแล้ว พวกข้าจะมีซื่อจื่อน้อยแล้ว”
มุมปากของหลิงเฟิงกระตุก “ดีใจ ดีใจ เจ้าปล่อยข้า ข้าไม่ได้มีความสนใจกับชอบผู้ชาย”
“เชอะ ข้ายังไม่มีความสนใจต่อใจเลย ข้าก็แค่ตื่นเต้นเกินไปไม่ใช่หรือ” หลงเอ้อปล่อยเขา
หลิงเฟิงไปที่หลังครัวทันที องครักษ์เงามังกรคนอื่นๆต่างก็ดีใจยิ่งนัก
ในห้อง
จวินหย่วนโยวพยุงหยุนถิงนอนลง ช่วยนางห่มผ้านวม ไม่ได้จากไป แต่นั่งลงข้างเตียง และวางมือบนท้องของ หยุนถิงเบาๆ
ข้างในนี้มีชีวิตตัวน้อยตัวหนึ่ง เป็นลูกของเขา เป็นลูกของเขากับถิงเอ๋อร์
จวินหย่วนโยวไม่เคยคิดเลยว่า วันหนึ่งเขาก็สามารถเป็นพ่อคนได้ ในอดีตเขาโหดร้าย กระหายเลือด โหดเหี้ยมและร้ายกาจ ผู้หญิงเห็นเขาก็เหมือนเห็นผี ส่วนเขาเองก็ไม่ได้แยแสเรื่องพวกนั้นอยู่แล้ว
แต่จนกระทั่งได้พบกับหยุนถิง จวินหย่วนโยวจึงได้รู้ว่าอะไรคือความรัก เป็นความห่วงใย เป็นการใส่ใจ และเป็นการปกป้องคนคนหนึ่งโดยทุ่มเททุกอย่าง
ตอนนี้นางมีลูกของตัวเองแล้ว จวินหย่วนโยวรู้สึกประทับใจและดีใจยิ่งนัก
หยุนถิงยื่นมือไปจับมือของจวินหย่วนโยว “ซื่อจื่อ ต้องสามเดือนถึงจะเห็นได้ชัดว่าตั้งท้อง ตอนนี้มันยังเป็นเพียงลูกอ๊อดตัวน้อยตัวหนึ่งอยู่”
“ลูกอ๊อดตัวน้อยข้าก็ชอบ พอแค่เป็นเจ้าคลอด ข้าชอบหมด” จวินหย่วนโยวพูดอย่างโปรดปราน
“ฉวยโอกาสตอนที่ข้ายังแพ้ท้องไม่มาก คืนนี้พวกข้าก็กลับไปเถอะ ข้ากลัวว่าหากต่อไป ถึงตอนนั้นจะอาเจียนจนไม่สบายตัว อยากกลับไปก็กลับไม่ได้แล้ว” “หยุนถิงเสนอแนะ
“เอาตามที่เจ้าว่า”
“ถ้าอย่างนั้นซื่อจื่อก็ปล่อยราษฎรของแคว้นเป่ยลี่ไปเถอะ ท่านแค่ต้องการลงโทษเป่ยจิ่วฉิง และสั่งสอนเป่ยหมิงฉี่ แต่ไม่ได้อยากทำลายแคว้นเป่ยลี่ ดังนั้นจงถือว่าเป็นการสร้างบุญกุศลให้แก่ลูกของพวกข้าเถอะ”
จวินหย่วนโยวมองดูหยุนถิง และมองดูเด็กในท้องของนาง จากนั้นจึงค่อยกล่าวว่า “ว่าแล้วเจ้าเข้าใจข้าที่สุด เด็กคนนี้มาได้ทันเวลาจริงๆเลย แคว้นเป่ยลี่ควรขอบคุณเขา”
“ดังนั้นลูกของพวกข้าจึงมีบุญมากที่สุดแล้ว ซื่อจื่อท่านว่าเป็นเด็กชายหรือเด็กหญิง เหมือนท่านมากกว่า หรือเหมือนข้ามากกว่ากัน” หยุนถิงถาม
“ผู้ชายเท่และหล่อแบบข้า ผู้หญิงก็สวยและเก่งเหมือนเจ้า ไม่ว่าชายหญิง ข้าล้วนชอบหมด”
“ซื่อจื่อเจ้าพูดเก่งมากนะ” หยุนถิงพอใจเป็นอย่างยิ่ง
“นอนเถอะ เดี๋ยวข้าจะให้คนไปเก็บของและเตรียมตัว เจ้าพักผ่อนดีๆ อย่างอื่นไม่ต้องกังวล” จวินหย่วนโยวพูดปลอบโยน
“อืม”
หลังจากนั้นไม่นาน หยุนถิงก็ผล็อยหลับไป จวินหย่วนโยวมองดูใบหน้าที่งดงามของนาง มุมปากเต็มไปด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็ลุกขึ้นและออกไป
“แจ้งทุกคนให้เก็บข้าวของและออกเดินทางในคืนนี้ รถม้าปูที่นอนเยอะๆและทำให้มันสบายหน่อย” จวินหย่วนโยวสั่ง
“ขอรับ”
“นอกจากนี้ แจ้งทุกคนว่าไม่ต้องเผายุ้งฉางแล้ว แบ่งอาหารที่กักตุนไว้ก่อนหน้านี้ออกมา ขายในราคาสูง ควบคุมปริมาณการขาย อย่าทำให้ผู้คนสงสัย ต่อให้ไม่ทำลายแคว้นเป่ยลี่ ข้าก็จะให้เป่ยหมิงฉี่บาดเจ็บสาหัส!”
“ขอรับ!”
องครักษ์เงามังกรและองครักษ์ลับทั้งหมดยุ่งขึ้นมาในทันที มีความสุขและตื่นเต้น อาหารและน้ำดื่มที่เตรียมไว้กินตอนระหว่างทางนั้นเต็มไปทั้งรถม้า
ซูหลินได้ยินว่าคุณหนูใหญ่ตั้งครรภ์แล้วก็ดีใจยิ่งนัก ไปจับตามองดูพ่อครัวทำอาหารที่หลัวครัวด้วยตนเองเลย
ในตอนกลางคืนหลังทุกคนทานอาหารเย็นเสร็จ กลางคืนยามจื่อก็ออกประตูไป ขึ้นรถม้าและออกจากเมืองทันที
โม่เหลิ่งเหยียนที่อยู่ในโรงเตี๊ยวหรูเยว่ได้ยินลูกน้อยมารายงานว่าจวินหย่วนโยวกับหยุนถิงและคนอื่นๆออกจากเมืองในตอนกลางคืน ก็ขมวดคิ้วด้วยความงุนงง
หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมพวกเขาถึงเร่งรีบที่จะจากไปเยี่ยงนี้?