จอมนางข้ามพิภพ - บทที่698 ต่อให้ตาย ข้าก็ไม่ยอมรับเขา
จอมนางข้ามพิภพ บทที่698 ต่อให้ตาย ข้าก็ไม่ยอมรับเขา
ท่านจิ่งรองตกใจเป็นอย่างมาก “ซื่อจื่อเฟย หรือว่า?”
“ถูกต้อง ข้าเอง ข้าก็แค่เรียกงูสองสามตัวมาทักทายจิ่งฮูหยินสักหน่อย ใครจะไปรู้ว่านางจะขี้กลัวเช่นนั้น จึงตกใจจนเป็นลมไปเลย” หยุนถิงอธิบาย
หากพวเขารู้ว่าจิ่งไป๋มีความสามารถในการเรียกงู และบวกกับที่จิ่งฮุยประสบอุบัติเหตุ จิ่งไป๋เป็นคนเดียวที่มีสิทธิในการสืบทอดตระกูลจิ่ง เช่นนี้ท่านจิ่งรองกับท่านจิ่งสามคงไม่ปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน
“พ่อบ้านไปยกฮูหยินของเจ้าออกมา ข้ามีวิธีปลุกนางให้ตื่น ท่านจิ่งรองกับท่านจิ่งสามก็อยู่พอดี เรื่องของจิ่งไป๋วันนี้ต้องจัดการให้เสร็จ!” หยุนถิงทำเสียงเชอะอย่างเย็นชา
พ่อบ้านหันมองท่านจิ่งรองโดยไม่รู้ตัว เห็นเขาพยักหน้าและเดินไปยกคนทันที
“จิ่งไป๋เจ้ายังมีชีวิตอยู่ดีมากเลย พ่อเจ้าเพิ่งเสียชีวิต เจ้าจะไปจุดธูปให้เขาหน่อยหรือไม่?” ท่านจิ่งรองถามอย่างหยั่งความคิดเห็น
“เขาไม่ใช่พ่อข้า!” จิ่งไป๋ปฏิเสธอย่างเย็นชา
ตอนนั้นเป็นเพราะเขาดื่มสุราเมาแล้วไปมีอะไรกับแม่เขา แต่ภายหลังกลับไม่ยอมรับ รู้ทั้งรู้ว่าจิ่งฮูหยินทุกข์ทรมานพวกเขาสองแม่ลูก เขาเองก็ไปหาเขาโดยเฉพาะ แต่เขากลับให้ตัวเองกับแม่อดทนเอาไว้
และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ หลังจากที่จิ่งไป๋ถูกหยุนถิงช่วยเอาไว้ ต่อมาสอบถามแล้วจึงได้รู้ว่าหลังจากที่เขากับแม่จากไป ผู้นำหาก็ไม่แม้แต่จะตามหา นับประสาอะไรกับการล้างแค้นให้แม่
พวกเขาเป็นคนเป็นเป็นทั้งสองคน ไม่ใช่หมาแมว เขากลับใจร้ายและไร้ความปรานีเช่นนั้น
“จิ่งไป๋ แม้หลายปีมานี้พี่ใหญ่จะไม่ได้สนใจพวกเขาสองแม่ลูกเลย แต่นั่นไม่ใช่เพราะมีพี่สะใภ้ใหญ่อยู่ไม่ใช่หรือ จะยังไงเจ้าก็เป็นลูกชายของพี่ใหญ่ ร่างกายมีสายเลือดของเขา ไปจุดธูปสักหน่อยเถอะ” ท่านจิ่งสามพูดอย่างไม่ค่อยพอใจ
สีหน้าของจิ่งไป๋กลับแค้นและโกรธมาก โยนถ้วยชาบนโต๊ะลงพื้น หยิบเศษถ้วยชาขึ้นมาแล้วกรีดแขนตัวเอง
“ถ้าอย่างนั้น ข้าก็คืนเลือดบนตัวนี้ให้เขา ต่อให้ตาย ข้าก็ไม่ยอมรับเขา!”
ท่านจิ่งสามตกตะลึง “จิ่งไป๋เจ้าทำอะไร พ่อบ้านรีบไปเชิญหมอ!”
“ข้านั่นแหละหมอ!” หยุนถิงหยิบยาจินชวงออกมาจากกระเป๋า ทายาและพันแผลให้เขา
“เลือกเกิดไม่ได้ แต่ก็จะทำร้ายตัวเองเพื่อคนที่เจ้าเกลียดไม่ได้ หากเจ้าตาย เจ้าจะล้างแค้นให้แม่เจ้าอย่างไร!” หยุนถิงกล่าว
จิ่งไป๋ขมวดคิ้ว “ซื่อจื่อเฟย ข้าผิดไปแล้ว”
“ท่านรอง ท่านสาม ฮูหยินยกมาแล้ว” พ่อบ้านพูด
“ซื่อจื่อเฟย?”
ทุกคนเห็นจิ่งฮูหยินต่างก็ตกใจกลัวกันหมด เหมือนสตรีที่หรูหราและสดใสในปกติสักที่ไหนกัน นางในขณะนี้หน้าบวมเหมือนกับหัวหมู ริมฝีปากบางดำและม่วง แค่ดูก็รู้ว่าถูกพิษร้ายแรง
หยุนถิงเดินไปด้วยสายตาเย็นชา และเอาเข็มเงินบนเส้นผมออกมา และเจาะจุดฝังเข็มหลายจุดบนตัวของจิ่งฮูหยิน
ว่าแล้ว จิ่งฮูหยินตื่นมาเลย ลืมตามองเห็นคนตรงหน้า นางตกตะลึง
“ซื่อจื่อเฟย?”
“รู้จักข้าก็จัดการได้ง่ายหน่อยแล้ว เจ้าส่งคนไปจับจิ่งไป๋มา อยากจะฆ่าปิดปาก หรืออยากให้เขาสืบทอดทรัพย์สินของตระกูลจิ่งแทนลูกชายที่ไร้ประโยชน์นั้นของเจ้า?” หยุนถิงถามอย่างไร้ความปรานี
จิ่งฮูหยินตกตะลึง นางรู้ว่าจวินซื่อจื่อกับซื่อจื่อเฟยไม่ใช่คนธรรมดา และยิ่งไม่ใช่คนที่ตัวเองจะล่วงเกินได้ ดังนั้นรู้ว่าหลายปีมานี้จิ่งไป๋อยู่ในจวนซื่อจื่อ แต่ไม่ให้คนไปจับเขา
หากไม่ใช่เป็นเพราะลูกชายของนางเกิดอุบัติเหตุ นางต้องการคงการมั่นคงในการแย่งชิงภายในของตระกูลจิ่ง ก็คงไม่รับจิ่งไป๋ไอ้ลูกนางแพศยานี้กลับไปอย่างแน่นอน
นางแค่อยากเอาจิ่งไป๋มาข้อบอกปัด ให้เขาเป็นหุ่นเชิดของตัวเอง กลายเป็นหุ่นเชิดที่หน่วงเหนี่ยวท่านจิ่งรองกับท่านจิ่งสามเอาไว้เท่านั้น
เมื่อนึกถึงก่อนหน้านี้ที่เขาเรียกงู จิ่งฮูหยินก็รู้สึกโกรธมาก แต่นางไม่ได้พูดออกมา หากให้จิ่งไป๋กับท่านสามรู้ว่าจิ่งไป๋มีความสามารถนี้ ต้องเข้าข้างเขาอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นตัวเองก็จะจัดการจิ่งไป๋ได้ยากแล้ว
“พี่สะใภ้ใหญ่ เจ้าคิดอยากจะให้จิ่งไป๋สืบทอดตระกูลจิ่ง เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ข้าไม่เห็นด้วย!” ท่านจิ่งรองคัดค้านทันที
“พี่สะใภ้ใหญ่ เมื่อกี้จิ่งไป๋ยังบอกว่าตอนนั้นเจ้าเป็นคนส่งคนไปลอบสังหารพวกเขาสองแม่ลูกแถมยังฆ่าแม่นางทิ้ง จริงหรือไม่?” ท่านจิ่งสามถาม
จิ่งฮูหยินมองพวกเขาอย่างเย็นชา “คำพูดไร้สาระของเด็กคนหนึ่ง พวกเจ้าก็เชื่อหรือ ฆ่าพวกเขาสองแม่ลูกข้ายังกลับเปื้อนมือเลย!”
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าให้จิ่งไป๋กลับมาเป็นเพราะคิดจะฆ่าปิดปากหรือ? เมื่อครู่ข้าพึ่งไปดูสถานการณ์ของจิ่งฮุยมา ต่อให้ตื่นมาก็เป็นคนไร้ประโยชน์ ต่อไปก็ไม่อาจฝึกวรยุทธได้ และยิ่งไม่สะดวกในการเดิน” น้ำเสียงเย็นชาของหยุนถิง ราวกับการตัดสินประหารชีวิต
จิ่งฮูหยินยังไงก็ไม่เชื่อ “ท่านพูดไร้สาระ เป็นไปไม่ได้ ฮุยเอ๋อร์ของข้าจะไม่เป็นไรอย่างแน่นอน!”
“ทักษะทางการแพทย์ของซื่อจื่อเฟย ทั่วทั้งสี่แคว้นไม่มีใครเทียบได้ ในเมื่อนางพูดเช่นนี้แล้ว เช่นนั้นก็หมายความว่าจิ่งฮุยกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ พี่สะใภ้ใหญ่ตอนนี้เจ้าก็ยังจะไม่มอบป้ายอาญาสิทธิ์ผู้นำออกมาหรือ?” ท่านจิ่งรองแตกคอกันในทันที
“พี่สะใภ้ใหญ่ ผู้หญิงคนหนึ่งก็ยังมากังวลเรื่องของตระกูลจิ่งเลย ดูแลจิ่งฮุยให้ดีก่อนเถอะ” ท่านจิ่งสามพูดเห็นดู
สีหน้าของจิ่งฮูหยินมืดครึ้ม นางจ้องมองหยุนถิงและคนอื่นๆด้วยความโกรธ โกรธจนตัวสั่น
“ข้าไม่เชื่อ ต่อให้เชิญหมอชื่อดังทั่วใต้หล้านี้ ข้าก็จะรักษาฮุยเอ๋อร์ให้หายดี!”
“พี่สะใภ้ใหญ่ เจ้าจะรักษานั่นเป็นเรื่องของเจ้า แต่ตระกูลจิ่งรอไม่ได้ ครอบครัวไม่อาจอยู่อย่างไรคนตัดสินได้ เจ้าไม่ยอมมอบป้ายอาญาสิทธิ์ผู้นำออกเช่นนี้อยากให้ตระกูลจิ่งพังลงในมือเจ้าหรือ?” ท่านจิ่งรองถาม
จิ่งฮูหยินโกรธจะแย่อยู่แล้ว หันมองจิ่งไป๋โดยไม่รู้ตัว
“นับจากนี้ไปข้าจิ่งไป๋จะตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับตระกูลจิ่ง!” สีหน้าของจิ่งไป๋ตึงเครียด
“เจ้าอย่าแม้แต่จะคิด เจ้าเป็นลูกชายของผู้นำ ทั้งชีวิตนี้ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้!” จิ่งฮูหยินโต้กลับ
เดิมทีนางต้องการให้จิ่งไป๋เป็นหุ่นเชิดของตัวเอง และใช้ฐานะลูกชายของเขานี้ควบคุมตระกูลจิ่ง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ได้แล้ว
หยุนถิงเย้ยหยัน “ผู้นำตระกูลจิ่งนอกจากเพาะพันธุ์แล้ว เคยทำหน้าที่ของพ่อคนหนึ่งหรือไม่ รู้ทั้งรู้ว่าลูกชายกับแม่ของเขาถูกเจ้ารังแกและเหยียดหยาม แต่ก็ไม่เคยสนใจ แถมยังปล่อยให้เจ้าทำตามใจชอบ
รู้ทั้งรู้ว่าเจ้าวางแผนคิดร้ายพวกเขา แต่ก็ไม่เคยออกมือช่วย คนแบบนี้ไม่คู่ควรที่จะเป็นพ่อ จิ่งไป๋เป็นน้องชายของข้า จากนี้ไปเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลจิ่งอีกต่อไป ทั้งชีวิตก็ไม่มีวันสืบทอดตำแหน่งของผู้นำตระกูลจิ่งอีก
ดังนั้นโปรดจิ่งฮูหยิน ท่านจิ่งรองกับท่านจิ่งสามเขียนหนังสือตัดสัมพันธ์ ต่อไปไม่รบกวนซึ่งกันและกัน ต่างคนต่างอยู่! ”
“เป็นไปไม่ได้!” จิ่งฮูหยินปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด
หยุนถิงไม่โกรธเลย “หากจิ่งฮูหยินไม่เห็นด้วย ข้าให้คนกำจัดตระกูลจิ่งทิ้งก็พอ หากไม่มีตระกูลจิ่งแล้ว หนังสือตัดสัมพันธ์นี้ก็ไม่จำเป็นต้องเขียนแล้ว!”
น้ำเสียงหยิ่งยโสและเย่อหยิ่งมาก ไม่เห็นคนพวกนี้อยู่ในสายตาเลย
หากเป็นคนอื่นพูดแบบนี้ ก็คงไม่มีใครเชื่อ แต่มันกลับออกมาจากปากของหยุนถิง ท่านจิ่งรองกับท่านจิ่งสามต่างก็ตกใจกลัวกันหมด
ไม่ต้องพูดถึงว่าจวินซื่อจื่อนั้นองอาจห้าวหาญเพียงใด เพียงแค่อำนาจและเส้นสายของซื่อจื่อเฟยในหลายนี้ก็สามารถทำให้คนหวาดกลัวแล้ว กับข่าวลือของหยุนถิงนั้นคนของตระกูลจิ่งได้ยินมาไม่ใช่น้อยเลย
วิธีการของนางนั้นโหดเหี้ยม และกระหายเลือด เพียงคำพูดหนึ่งก็สามารถทำให้แว่นแคว้นหนึ่งเกิดความโกลาหลได้ แถมนางยังเป็นองค์หญิงที่ฮ่องเต้แคว้นต้าเยียนแต่งตั้งขึ้นมาด้วยตนเอง ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าเหตุผลที่จักรพรรดิแห่งแคว้นเทียนจิ่วสามารถขึ้นครองบัลลังก์ได้อย่างราบรื่น ก็เพียงเพราะซื่อจื่อเฟยพูดคำไม่กี่คำเท่านั้น
“ซื่อจื่อเฟยโปรดระงับโทสะ ทุกอย่างพูดกันได้ง่าย พี่สะใภ้ใหญ่เป็นผู้หญิงที่ไม่รู้เรื่อง เรื่องนี้ข้ามาตัดสินใจเอง หนังสือตัดสัมพันธ์นี้ข้ามาเขียนเอง!” ท่านจิ่งรองพูดอย่างรวดเร็ว และให้พ่อบ้านเอาพู่กันและกระดาษมาให้ทันที
พ่อบ้านตกใจกลัวแทบตาย รีบเอามา