จอมนางข้ามพิภพ - บทที่734 ทั้งชีวิตนี้ชอบเพียงเจ้าผู้เดียว
จอมนางข้ามพิภพ บทที่734 ทั้งชีวิตนี้ชอบเพียงเจ้าผู้เดียว
โม่หลานเบิกตากว้างในทันใด สมองว่างเปล่าจนลืมตอบสนอง
แม่ทัพเฒ่าโม่ที่อยู่ข้างๆเห็นเช่นนี้ ก็ตกตะลึงจากนั้นก็แอบหัวเราะ สองปีที่ผ่านมานี้ เขารู้อยู่แก่ใจว่า เฉินอ๋องชอบลูกสาวของตัวเอง โม่หลานเป็นคนที่มีนิสัยเรื่อยเฉื่อย ไม่รู้อะไรเลย ทีนี้เขาผู้เป็นพ่อนี้ก็ไม่ต้องมาหนักใจอะไรแล้ว
แม่ทัพเฒ่าโม่หยิบไหแล้วแอบจากไป เวลาแบบนี้เก็บไว้ให้หนุ่มสาวเช่นพวกเขาจะดีกว่า
โม่ฉือชิงที่อยู่บนพื้นก็สร่างเมาทันที มองดูโม่หลานที่อยู่ตรงหน้าอย่างตกตะลึง สัมผัสถึงความนุ่มนวลของริมฝีปาก เขาก็จูบไปอย่าไม่รู้ตัวอีกครั้ง ความรู้สึกนี้ไม่เลวแฮะ
จากนั้นโม่หลานจึงค่อยตั้งสติได้ จ้องมองโม่ฉือชิงด้วยความโกรธ “ไอ้สารเลว ไปให้พ้น!” ขณะที่พูดก็ผลักเขาออกไปอย่างแรง
โม่ฉือชิงถูกผลักลงกับพื้นอย่างกะทันหัน ร้องด้วยความเจ็บปวด “โอ๊ย เจ็บมาก”
โม่หลานโกรธมาก “ไอ้สารเลว ท่านกล้าเอาเปรียบข้าหรือ ยังมีหน้ามาบอกว่าเจ็บ เอาหน้าบางเถอะ”
โม่ฉือชิงทนต่อความเจ็บปวดและลุกขึ้นจากพื้น “เมื่อครู่ข้ามิได้ตั้งใจ เพราะพ่อเจ้าแหละจะให้ข้าดื่มเยอะขนาดนี้”
“ท่านเป็นคนเอาสุรามาหาพ่อข้าเองมิใช่หรือ ยังมีหน้ามาโทษพ่อข้าอีก” โม่หลานโต้กลับ
โม่ฉือชิงเห็นนางโกรธ ฉวยโอกาสในความเมา เดินไปไม่กี่ก้าวและกอดโม่หลานไว้
“โม่หลาน ข้าชอบเจ้า ทั้งชีวิตนี้ชอบเพียงเจ้า ทำไมเจ้าถึงไม่ชอบข้า ข้าไม่ดีตรงไหน ข้าจริงใจกับเจ้านะ” โม่ฉือชิงบอกความในใจออกมา
โม่หลานมองดูโม่ฉือชิงที่อยู่ตรงหน้าอย่างอึ้ง นี่เป็นครั้งแรกที่เขากอดตัวเองอย่างไม่กลัวตาย ทั้งสองคนอยู่ใกล้มากเช่นนี้ ใกล้จนสัมผัสถึงลมหายใจของกันและกันได้
โม่หลานดมกลิ่นสุราบนตัวเขา แก้มก็แดงยิ่งขึ้น “โม่ฉือชิงท่านดื่มมากเกินไปแล้ว”
“ไม่ได้ดื่มมาก ข้าไม่ได้ดื่มมากสักนิดเลย ข้ารู้ว่ตัวเองกำลังพูดอะไร โม่หลานเจ้าให้โอกาสแก่ข้าครั้งหนึ่งไม่ได้หรือ แม้ข้าจะไม่เป็นวรยุทธ แต่เก่งในด้านการทำธุรกิจ ต่อให้เจ้าไม่ทำอะไรเลย ข้าเลี้ยงเจ้าทั้งชีวิตก็เพียงพอแล้ว” โม่ฉือชิงอธิบาย
“ท่านเลี้ยงข้า?”
“ข้าแค่ไม่อยากให้เจ้าต้องเหนื่อยขนาดนั้น ยังไงเจ้าก็เป็นสตรี ข้าไม่อยากเห็นเจ้าเหนื่อยขนาดนั้น” โม่ฉือชิงตอบ
“ท่านปล่อยข้าก่อน” โม่หลานดิ้นรน
“ไม่ปล่อย!”
วินาทีต่อมา โม่หลานก็กำลังจะตีให้เขาสลบ แม่ทัพเฒ่าโม่ก็รีบมาห้ามเอาไว้ทันที
“หยุด จะยังไงเขาก็เป็นเฉินอ๋อง ดีไม่ดีก็จะตีเขาให้สลบจะได้อย่างไร ครั้งก่อนตอนอยู่ในวังก็ช่างแล้ว หากให้ฝ่าบาทรู้ว่าเจ้าตีคนสลบในจวนแม่ทัพ ก็จะสร้างปัญหาให้กับข้าไม่ใช่หรือ” แม่ทัพเฒ่าโม่รีบเดินมา และดึงโม่ฉือชิงมา
“แม่ทัพเฒ่าโม่พูดถูกยิ่งนัก” โม่ฉือชิงกล่าว
“ถูกต้อง เมื่อครู่ยังดื่มไม่เต็มที่เลย พวกข้าไปดื่มในห้องกัน” แม่ทัพเฒ่าโม่โม่ฉือชิงไป
หากปล่อบให้ลูกสาวกับเฉินอ๋องอยู่ต่อไปอีก แม่ทัพเฒ่าโม่เป็นห่วงชีวิตของเฉินอ๋อง
โม่หลานหมดคำพูด จ้องมองสองคนนี้ด้วยความโกรธ หันหลังและหลับไปในลานของตัวเอง
ในหัวมีจูบในเมื่อครู่นั้นของโม่ฉือชิงแวบผ่านไป โม่หลานรู้สึกเพียงแก้มร้อนราวกับถูกไฟไหม้ นางเดินไปที่โอ่งน้ำในลานของตัวเอง ใช้มือตักน้ำเย็นขึ้นมาและตบหน้าเบาๆ
จากนั้นโม่หลานจึงค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อย แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธและยิ่งหงุดหงิด นางไม่กลับห้องแต่กลับตรงไปที่จวนซื่อจื่อ
หยุนถิงเป็นคนที่มีวิธีเยอะ ต้องช่วยตัวเองได้อย่างแน่นอน
เมื่อหยุนถิงได้ยินว่าโม่ฉือชิงฉวยโอกาสยามเมาเอาเปรียบโม่หลาน และจูบด้วยกัน ก็หัวเราะออกมาทันที
โม่หลานทำหน้าเขินอาย “เจ้ายังหัวเราะอีก รีบช่วยข้าคิดหาวิธีหน่อยสิ ข้าควรทำอย่างไรดี?”
“มีอะไรน่าคิด ความรักระหว่างชายกับหญิง โม่ฉือชิงชอบเจ้า ไม่กี่ปีมานี้ก็คิดหาทุกวิถีทางมาปรากฏอยู่ตรงหน้าเจ้า บอกความในใจกับเจ้า ก็มีเพียงเจ้าเท่านั้นแหละที่มีนิสัยเรื่อยเฉื่อย ไม่เอาไปใส่ใจ พวกข้านะเห็นอย่างชัดเจนเลยนะ” หยุนถิงตอบ
“แต่ข้าไม่ชอบเขาเลย เขาทำเช่นนี้ทำให้ข้าลำบากใจยิ่งนัก” โม่หลานโต้กลับ
“เจ้าไม่ชอบเขาจริงหรือ หรืออาจกล่าวได้ว่าแม้แต่นิดก็ไม่มีหรือ?” หยุนถิงถาม
“ก็แน่นอนอยู่แล้ว ข้าจะชอบเขาได้อย่างไร ไร้ประโยชน์ทำอะไรก็ไม่เป็น มีเพียงปากเท่านั้นแหละที่พูดกะล่อนไม่หยุด ข้าไม่ชอบเขาอยู่แล้ว” ตอนโม่หลานพูดเช่นนี้ ก็หลบสายตา เห็นได้ชัดว่าไม่ได้พูดจากใจจริง
หยุนถิงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ทุกคนย่อมมีข้อดีของตัวเอง แม้ว่าโม่ฉือชิงจะไม่มีวรยุทธ แต่สมองเขาดีฉลาด แก่ในด้านการทำค้าขาย ฝ่าบาททรงมอบธุรกิจของราชวงศ์ให้เขา ก็เห็นได้ชัดว่าให้ความสำคัญกับเขาเป็นอย่างมาก”
“เกี่ยวอะไรกับข้า เมื่อก่อนข้าเคยบอกแล้วว่าตัวเองจะหาคนที่เป็นวรยุทธ แถมยังเก่งมากๆด้วย ห้ามสู้ข้าไม่ได้ เช่นนั้นถูกวันก็จะสามารถประลองกันได้” โม่หลานอธิบาย
“ชิ เช่นนั้นไม่เรียกว่าชีวิตเลย ทั้งสองคนประจันหน้ากันด้วยดาบทุกวัน เจ้าไม่กลัวจะทำให้พ่อเจ้าตกใจกลัวจนตายหรือ เขามีลูกสาวเพียงเจ้าคนเดียว
คนสองคนที่อยู่ด้วยกันจริงๆ มักจะเติมเต็มกันและกัน คนหนึ่งแข็งแรงและคนหนึ่งอ่อนแอ คนหนึ่งร่าเริงและกระตือรือร้น อีกคนเงียบและสุขุม คนสองคนที่เติมเต็มกันเช่นนี้ถึงจะอยู่กันได้นาน “หยุนถิงวิเคราะห์
“ใช่หรือ งั้นเจ้ากับจวินซื่อจื่อก็เป็นเช่นนี้หรือ?”
“แน่นอน สามีของข้าสุขุมและเย็นชา ส่วนข้าโอ้อวดและหยิ่งยโส ก็ต้องเติมเต็มกันมากอยู่แล้ว” หยุนถิงตอบ
“พูดอย่างกับว่าเจ้ามีเกียรติยศมากเลย”
“แน่นอน ข้าได้แต่งงานกับท่านพี่ ต้องเป็นเพราะความดีความชอบของตระกูลหยุนอย่างแน่นอน ข้าสามารถบอกเจ้าได้เลย สี่แคว้นจะไม่มีคนที่ปฏิบัติต่อข้าอย่างดีเท่าท่านพี่นี่อีก” หยุนถิงกล่าวอย่างได้ใจ
นอกประตู จวินหย่วนโยวที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมขนม ก็บังเอิญได้ยินการสนทนาระหว่างหยุนถิงกับโม่หลานพอดี มุมปากโค้งขึ้น พึงพอใจยิ่งนัก
“ท่านพี่ ท่านมาแล้วหรือ!” หยุนถิงเห็นจวินหย่วนโยว ก็ยิ้ม
“พ่อครัวทำขนมที่เจ้าชอบกินมา รีบกินตอนร้อนจะอร่อย ข้าจึงยกมาให้เจ้า” จวินหย่วนโยวพูดพร้อมวางจานไว้ตรงหน้าหยุนถิง
“ขอบคุณท่านพี่”
“กับข้ายังจะเกรงใจอะไรกัน”
เมื่อเห็นทั้งสองเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย โม่หลานแบะปากเอื้อมมือไปหยิบขนม “ขนมแสนอร่อยอะไร ถึงกับต้องใหจวินซื่อจื่อยกมาเอง ข้าชิมดู”
แต่มือของนางยังไม่ทันได้แตะโดนจาน ก็ถูกจวินหย่วนโยวใช้แขนเสื้อสะบัดออก “อยากกินไปเอาในครัวเอง นี่คือที่ข้าให้ถิงเอ๋อร์”
“ไม่ใช่มั้ง จวินหย่วนโยวท่านขี้เหนียวเกินไปแล้ว ก็แค่ขนมชิ้นเดียวเองไม่ใช่หรือ” โม่หลานโกรธ
“ก็แค่ขนมชิ้นเดียว ก็เป็นสิ่งที่ให้ที่รักของข้ากิน ดังนั้นไม่มีส่วนของเจ้า” จวินหย่วนโยวจงใจยั่วยุนาง
หยุนถิงก็ไม่ได้ห้ามเอาไว้ หยิบขนมชิ้นหนึ่งแล้วกิน “อืม รสชายดีมาก ของที่ท่านพี่ของข้ายกมาย่อมอร่อยยิ่งนัก”
“กินซะ กินให้ท้องแตกเลย!” โม่หลานทิ้งประโยคนี้ไว้แล้วจากไปอย่างโกรธ
เมื่อหยุนถิงเห็นนางเดินจากไปไกล ก็วางขนมลง “หวังว่านางจะเข้าใจน้ำใจของพวกข้า”
“ด้วยสมองนั้นของนางหรือ คงยากมาก!” จวินหย่วนโยวแบะปาก
“ฮ่าฮ่า ท่านพี่เจ้าจะดูแคลนโม่หลานแบบนี้ได้อย่างไร นางเป็นแม่ทัพใหญ่นะ” หยุนถิงโต้กลับ
“สำหรับการต่อสู้ โม่หลานเป็นผู้ที่มีความสามารถที่หาได้ยากจริง แต่ระหว่างเรื่องชายหญิงนั้น ก็เหมือนกับกระดาษเปล่า ดังนั้นจึงต้องใช้วิธีที่พิเศษหน่อย หากนางไม่ได้รู้สึกอะไรกับโม่ฉือชิงจริง เพียงแค่ที่โม่ฉือชิงจูบนาง ก็คงถูกโม่หลานเอามีดฆ่าตายนานแล้ว!” จวินหย่วนโยวกว่างอย่างเฉยชา