จอมนางข้ามพิภพ - บทที่855 ทั้งชีวิตนี้นอกจากเขาจะไม่ย่อมแต่งกับชายอื่น
จอมนางข้ามพิภพ บทที่855 ทั้งชีวิตนี้นอกจากเขาจะไม่ย่อมแต่งกับชายอื่น
หยุนถิงหันมองหยุนห้า “พี่ห้า เจ้าชอบนางจากใจจริงหรือ?”
“น้องสาวเจ้าพูดอะไรของเจ้า ข้าก็ต้องชอบนางจริงอยู่แล้ว เพื่อนาง ข้ายอมสละทุกอย่างแม้กระทั่งชีวิตของข้า!” สีหน้าของหยุนห้าตึงเครียดเล็กน้อย
“รู้ความตั้งใจของเจ้า ข้าถึงจะทำอะไรได้สะดวกหน่อย ตอนนี้สถานการณ์ของตระกูลเก๋อเป็นอย่างไรบ้าง?” หยุนถิงถาม
“เรียนซื่อจื่อเฟย ตระกูลเก๋อเป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ ตอนนี้เจ้าบ้านคือเก๋อเฟิง เขามีลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายสองคน
ว่ากันว่าลูกสาวนอกสมรสคนนี้ เป็นลูกที่เก๋อเฟิงออกไปทัศนาจร และได้รักแรกพบกับหญิงเก็บชาคนหนึ่ง ไม่นานทั้งสองก็มีลูกแล้ว
ต่อมาหญิงเก็บชากลับตระกูลเก๋อกับเขา แน่นอนว่าฮูหยินของเจ้าบ้านก็รับนางไม่ได้ ทรมานและทารุณนางด้วยทุกวิถีทาง
จนหญิงเก็บชาคนนั้นเสียชีวิตภายในเวลาไม่กี่ปีหลังจากให้กำเนิดลูกสาว และลูกสาวของนางก็สูญเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ชีวิตในตระกูลเก๋อก็สามารถจินตนาการออกได้” หลงเอ้อตอบกลับทันที
“ในเมื่อเช่นนี้ พวกข้าก็ไปพบลูกสาวนอกสมรสที่พี่ห้าชอบสักหน่อย” หยุนถิงกล่าว
“น้องสาว ไปกันเถอะ” หยุนห้าเร่ง
“ถิงเอ๋อร์ ข้าไปกับเจ้า” จวินหย่วนโยวเดินมา
“อืม!”
จากนั้นทุกคนก็ขึ้นรถม้าและตรงไปยังตระกูลเก๋อที่อยู่นอกเมือง
ตระกูลเก๋อซึ่งเป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่นั้น ถูกสร้างไว้บนไหล่เขาทางตอนใต้ของเมือง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับราชสำนัก ไม่ทำธุรกิจ แต่กลับได้ชื่อเสียงเพราะวิชากกลไก ว่ากันว่ากลไกหลายแห่งของสี่แแคว้นนั้นล้วนทำมาจากฝีมือของตระกูลเก๋อ
รถม้าหยุดลงที่เชิงเขา จวินหย่วนโยวจับมือหยุนถิง ทั้งสองเดินนำหน้าสุด
“ถิงเอ๋อร์ ระวังรื่น” จวินหย่วนโยวกล่าวด้วยความเป็นห่วง
“อืม”
หยุนห้าเดินตามหลัง เพราะเขาไม่เป็นวรยุทธ และชอบนักปัญญาชนและการเขียนมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นกำลังของหยุนห้าจึงไม่ค่อยดีนัก เดินไปไม่นานก็เริ่มหอบ
“พี่ห้า พวกข้าพักหน่อยหรือไม่?” หยุนถิงเสนอแนะ
“ไม่ได้ หงหลิงคงกำลังถูกทรมานอยู่แน่เลย ไม่รู้ว่าพวกเขาทรมานหงหลิงอย่างไร ข้าจะพักผ่อนไม่ได้ พวกข้ารีบไปกันเถอะ” หยุนห้ากังวลเป็นอย่างยิ่ง
หยุนถิงเห็นเขากังวลขนาดนี้ ก็เร่งความเร็วทันที
ขณะนี้ ณ ห้องโถงของตระกูลเก๋อ
เก๋อฉีคุณหนูใหญ่ของตระกูลเก๋อกำลังเฆี่ยนหงหลิง “อีนังแพศยาที่ไม่เอาไหน ความประพฤติเหมือนแม่เจ้าชัดๆเลย ทนความโดดเดี่ยวไม่ได้จนกล้าไปยั่วยวนชายนอก ขายหน้าตระกูลเก๋อของพวกข้ายิ่งนัก!”
หงหลิงเจ็บจนหน้าซีด เมื่อแส้เฆี่ยนลงบนตัวเสื้อผ้าก็เปื้อนเลือด เจ็บจนนางขมวดคิ้ว
“คุณหนูใหญ่ ข้าไม่ได้ลักลอบเป็นชู้กับชายนอก ข้ากับเขาต่างก็รักกัน” หงหลิงโต้กลับ
“เชอะ รักกันซึ่งกันและกัน ในใต้หล้านี้ไม่มีเรื่องรักกันซึ่งกันและกันอะไรแบบนี้ ลูกสาวนอกสมรสเช่นเจ้าก็คู่ควรมาบอกว่ารักกันซึ่งกันและกันด้วยหรือ
รีบบอกว่าผู้ชายต่ำช้าคนนั้นเป็นใคร มิฉะนั้นข้าจะให้เจ้าตายทั้งเป็น ขายหน้าตระกูลเก๋อของพวกข้า เจ้าไม่คู่ควรที่จะเป็นลูกสาวของตระกูลเก๋อ” เก๋อฉีพูดและเฆี่ยนนางอีกครั้ง
เจ็บจนหงหลิงล้มลงกับพื้น มุมปากมีเลือดไหลออกมา เห็นได้ชัดว่าเก๋อฉีใช้แรงมาเพียงใด
“เขาไม่ใช่ผู้ชายต่ำช้า เขาเป็นคนที่ข้ารัก ข้าไม่มีวันบอกเจ้า” หงหลิงคัดค้าน
“เจ้าหาเรื่องใส่ตัวเองนะ ในเมื่อเจ้าไม่บอก งั้นวันนี้ข้าก็จะเฆี่ยนเจ้าให้ตายไปเลย” แส้ในมือของเก๋อฉีฟาดมาอีกครั้ง
เก๋อจี้หลินคุณชายใหญ่ของตระกูลเก๋อเห็นฉากนี้ ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “น้องสาว รอให้ท่านพ่อกลับมาแล้วเอานางให้ท่านพ่อจัดการเองดีกว่า”
“ท่านพ่อกลับมาก็ไม่เข้าข้างนาง ครั้งนี้นางไม่เอาไหนเอง ตั้งแต่สมัยโบราณเรื่องการแต่งงานก็ล้วนเป็นไปตามคำสั่งของพ่อแม่และการชักนำของแม่สื่อ ในเมื่อเจ้าอยากแต่งเช่นนี้ งั้นข้าก็ให้เจ้าแต่งกับเหล่าเหลยคนขับรถม้าของตระกูลเก๋อ” ดวงตาแสนสวยของเก๋อฉีมีกลอุบายแวบผ่านไป
“ไม่ ไม่เอา คุณหนูใหญ่ได้โปรดอย่าให้ข้าแต่งให้กับเหล่าเหลย ต่อให้ตายข้าก็จะไม่แต่งกับเขา!” หงหลิงสาบาน
ปกติเหล่าเหลยคนขับรถม้าเป็นคนชอบดื่มสุรา หลังดื่มเสร็จก็ชอบตีคน ภรรยาของเขาตายไปสามคนแล้ว ก่อนหน้านี้หงหลิงมักได้ยินเสียงผู้หญิงร้องห่มร้องไห้ในลานด้านข้างทุกคืน ตอนนี้คิดดูแล้วก็รู้สึกนึกกลัวในภายหลัง หากแต่งให้เขาคงต้องตายทั้งเป็นแน่เลย
“เชอะ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร กล้าปฏิเสธการประทานงานแต่งของข้า เด็กๆ รีบไปแจ้งให้เหล่าเหลย ให้เขาเตรียมแต่งงาน คืนนี้ก็เข้าหอกับหงหลิง!” เก๋อฉีพูดอย่างได้ใจ
นางจะดูหล่อนตายทั้งเป็น ใครให้แม่ของหล่อนแย่งพ่อนางไป หลายปีมานี้เก๋อฉีจึงได้ทรมานนางด้วยวิธีต่างๆ
“ชีวิตนี้ข้ารักเขาเพียงผู้เดียว ทั้งชีวิตนี้นอกจากเขาจะไม่ย่อมแต่งกับชายอื่น ในเมื่อเจ้าให้ข้าแต่งกับคนอื่น งั้นข้าก็ยอมตายดีกว่า” หงหลิงพูดจบ ก็ใช้แรงทั้งหมดลุกขึ้นแล้วชนไปที่เสาที่อยู่ข้างๆ
หยุนห้าที่เดินเข้ามาเห็นฉากนี้ คนทั้งคนก็ตัวแข็งทื่อ “หงหลิงอย่า!” จากนั้นก็รีบวิ่งไป
เข็มเงินในมือของหยุนถิงถูกยิงออกไปทันทีที่หยุนห้าตะโกนออกมา
หัวของหงหลิงอีกนิดก็จะชนเสาแล้ว แต่ทันใดนั้นคนทั้งคนก็หยุดลง ไม่สามารถขยับได้ เพราะความเคยชินคนทั้งคนก็ล้มลงกับพื้น
“หงหลิง!” หยุนห้ารีบวิ่งไป อุ้มหงหลิงที่อยู่บนพื้นขึ้นมา
“หงหลิง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ข้าขอโทษ เป็นเพราะข้าเจ้าถึงได้เป็นเช่นนี้ ข้ามาสายเกินไป ทำไมเจ้าถึงโง่เช่นนี้ หากเจ้าเป็นอะไรไปข้าจะทำอย่างไร” หยุนห้ากล่าวโทษตัวเอง
เมื่อเห็นตัวนางเต็มไปด้วยเลือด เลือดที่แดงสดไหลซึมและเปื้อนเสื้อผ้าหมด หยุนห้ารู้สึกเป็นทุกข์มาก
“ข้าไม่เป็นไร เจ้าไม่ต้องกังวล เจ้ามาได้อย่างไร เจ้ารีบไป พวกเขาไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ รีบไป!” หงหลิงพูด เอื้อมมือไปผลักหยุนห้า แต่นางได้รับบาดเจ็บสาหัสเกินไป จึงไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่นิดเลย
“ไม่ ข้าไม่ไป ข้าไม่มีวันทิ้งเจ้าไว้!” หยุนห้ากล่าวอย่างเคร่งขรึม
เก๋อฉีจ้องมองหยุนห้าที่อุ้มหงหลิงไว้อย่างโกรธเคือง “เจ้าหรือผู้ชายต่ำช้าที่ลักลอบเป็นชู้กับนาง?”
“น้องสาว อย่าได้เสียมารยาท เขาเป็นคนตระกูลหยุน” เก๋อจี้หลินพูดโดยหันมองไปดูคนที่เดินเข้ามาจากนอกลาน “จวินซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟยมาตระกูลเก๋อของกระหม่อมมีเรื่องใดหรือ?”
หยุนถิงมองมา สวมชุดแดง ร่างสูงและเอวบาง ใบหน้าไม่ถือว่างานยิ่งนัก แต่จุดสีแดงบนมุมตาซ้ายของนาง กลับทำให้นางดูยโสและโหดเหี้ยมมากขึ้น
ส่วนชายคนนี้สวมชุดคลุมน้ำเงิน หน้าตาหล่อเหลา สงบนิ่งและเก็บตัว ดูแล้วเป็นคนที่กล้าหาญมาก
“หากข้าไม่มี ก็คงไม่รู้ว่าพี่ห้าของข้าถูกคนของตระกูลเก๋อว่าเป็นผู้ชายต่ำช้า!” หยุนถิงตะคอกอย่างเย็นชา
น้ำเสียงนั้นเข้มงวด โกรธ
สีหน้าของเก๋อจี้หลินแข็งทื่อ และรีบอธิบาย “ซื่อจื่อเฟย นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด น้องของกระหม่อมไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้หงหลิงไม่ได้เปิดเผยตัวตนของคุณชายชัดเจน จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิด”
“หากคุณหนูเก๋อถูกผู้อื่นด่าว่าผู้หญิงต่ำช้า เจ้าฟังแล้วจะโกรธหรือไม่?” หยุนถิงถามกลับ
เก๋อจี้หลินไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร แต่เมื่อเก๋อฉีได้ยินก็โกรธทันที “ต่อให้เจ้าเป็นซื่อจื่อเฟยแล้วจะทำไม จะอย่างไรก็ด่าคนอื่นไปมั่วไม่ได้! ”
“ผู้ใดไม่รุกรานข้า ข้าก็ไม่รุกรานผู้นั้น เมื่อครู่เจ้าด่าพี่ห้าข้า ดังนั้นข้าด่าแทนเขา” หยุนถิงทำเสียงเชอะ