จอมนางข้ามพิภพ - บทที่863 ซื่อจื่อเฟยขอประจบสอพลอพึ่งด้วยคน
จอมนางข้ามพิภพ บทที่863 ซื่อจื่อเฟยขอประจบสอพลอพึ่งด้วยคน
เย้นสี่ดีใจเป็นอย่างมาก คุกเข่าลงบนพื้น “ขอบพระทัยเหนียงเหนียง บ่าวจะซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อเหนียงเหนียง”
ฮองเฮาเป็นคนบอกให้นางทำเช่นนี้เอง เมื่อครู่จูเอ๋อร์ถูกทรมานจนตัวเต็มไปด้วยคราบเลือด เย้นสี่ตกใจกลัวแทบตาย แน่นอนว่าก็ไม่กล้าไม่ซื่อสัตย์
ฮองเฮาพอใจเป็นอย่างมาก “ตราบใดที่เจ้าภักดีต่อข้า ข้าจะไม่ให้ปฏิบัติต่อเจ้าอย่างขาดความยุติธรรมแน่นอน”
“เพคะ!”
“เหนียงเหนียง สาวรับใช้ของจวนเฉินอ๋องขอเข้าพบ!” องครักษ์คนหนึ่งพาสาวรับใช้คนหนึ่งเข้ามา และทำความเคารพให้อย่างเคารพ
“ถวายบังคมฮองเฮาเหนียงเหนียง เฉินอ๋องให้บ่าวนำผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมาให้ท่าน ของเหล่านี้สตรีมีครรภ์ก็สามารถใช้ได้” สาวรับใช้รีบยื่นกล่องในมือมา
ผู้หญิงคนไหนไม่รักงาม ฮองเฮาก็เช่นกัน ตอนนี้นางตั้งครรภ์ ชาด แป้งน้ำล้วนไม่สามารถใช้ได้ แน่นอนว่าก็ต้องจำเป็นอยู่แล้ว
“เฉินอ๋องมีใจแล้ว เจ้าส่งไปที่ห้องบรรทมให้ข้าเถอะ” ฮองเฮากล่าว
“เพคะ!”
สาวรับใช้ตามฮองเฮาไปที่ห้องบรรทม ฮองเฮาพึ่งเข้าห้องก็คลื่นไส้ทันที “เย้นสี่เจ้าไปเอาลูกพลัมที่ห้องพระเครื่องต้นให้ข้า เอาที่สดใหม่ที่สุด คนอื่นข้าไม่ไว้ใจ!”
“เพคะ!” เย้นสี่ไปทำทันที
ในห้องเหลือเพียงฮองเฮากับสาวรับใช้ สาวรับใช้ไม่ได้ขี้ขลาดขี้กลัวเหมือนเมื่อครู่อีกต่อไป นำกล่องในมือวางไว้บนโต๊ะข้างๆ
“เหนียงเหนียง เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” หยุนถิงฟื้นเสียงตัวเองแล้วถาม
“จูเอ๋อร์วางยาพิษให้ข้า ใช้ลูกของข้ามาขู่ข้า ให้ข้าวางยาพิษคิดร้ายเจ้า ดังนั้นข้าจึงเลือกขนมทรงเมฆที่เจ้าไม่กิน ตอนนี้นางถูกข้าจับไปลงโทษในคุกใต้ดินแล้ว ทว่าไม่ว่าจะบีบบังคับอย่างไรก็ไม่ยอมพูดผู้บงการอยู่เบื้องหลังออกมา” ฮองเฮาเล่าเรื่องทั้งหมดออกมา
หยุนถิงขมวดคิ้ว “เหนียงเหนียง เอามือให้ข้าเร็ว ข้าจับชีพจรให้ท่านดู!”
ฮองเฮาเหยียดแขนออกทันที หยุนถิงจับชีพจรให้นาง สีหน้าก็ค่อยๆจริงจังขึ้น
“เป็นอย่างไรบ้าง ลูกของข้ายังมีโอกาสรอดหรือไม่?” ฮองเฮาอกสั่นขวัญแขวน
“แม้ว่าพิษนี้จะค่อนข้างรับมือยาก แต่พิษแพร่กระจายได้ช้าๆ โชคดีที่ถูกพิษไปได้ไม่นาน สามารถถอนพิษได้ ไว้ใจเถอะ มีข้าอยู่ไม่ให้ท่านกับลูกเป็นอะไรไปอย่างแน่นอน!” หยุนถิงตอบ
ฮองเฮาตื่นเต้นขอบตาแดง และเอื้อมมือไปจับมือหยุนถิงโดยไม่รู้ตัว “หยุนถิง ขอบคุณเจ้า ขอบคุณเจ้า เจ้าเป็นผู้มีพระคุณของข้ากับลูก”
“เหนียงเหนียงเกรงใจเกินไปแล้ว” หยุนถิงเอายาถอนพิษมาให้ฮองเฮากินลงไป และทำการฝังเข็มให้นาง
ประมาณครึ่งชั่วยาม หยุนถิงจึงค่อยเก็บเข็มเงิน “อีกสามวันข้าจะมาทำการฝังเข็มให้ท่าน และอีกสามครั้งก็จะสามารถถอนพิษได้หมดแล้ว
เหตุผลที่หลายปีท่านก็ไม่ตั้งครรภ์ ก็เป็นเพราะมดลูกเย็น ข้าจะเอาถุงยาแช่เท้าไว้ให้ท่าน ในแต่ละครั้งอย่าใช้เวลานานเกินไป มีผลดีต่อการขับเรื่องมดลูกเย็น”
“ขอบคุณมากหยุนถิง ข้าฟังเจ้าหมดเลย” ฮองเฮารู้สึกซาบซึ้งยิ่งนัก
หยุนถิงวางถุงยาและยาถอนพิษไว้ อธิบายการใช้ทีละอย่าง ฮองเฮาก็จดไว้อย่างละเอียดและตั้งใจ
หลังจากทำสิ่งนี้เสร็จ หยุนถิงก็พูดว่า “ข้าอยากพบสาวรับใช้ที่วางยาพิษให้ท่าน”
“ได้ ข้าพาเจ้าไป” ฮองเฮาพาหยุนถิงไปที่คุกใต้ดินด้วยตนเอง
ในขณะนี้ ทั่วทั้งร่างกายของจูเอ๋อร์ไม่มีที่ไหนดีเลย เลือดเนื้อเละไปหมด น่าสังเวชยิ่งนัก เสื้อผ้าเต็มไปด้วยเลือด คนทั้งคนเหมือนกำลังจะตาย
ทันทีที่ผู้เฝ้าพิทักษ์เห็นฮองเฮาเหนียงเหนียงเสด็จมา ก็ทำความเคารพทันที “ถวายบังคมเหนียงเหนียง!”
“นางสารภาพหรือยัง?” ฮองเฮาถามอย่างเย็นชา
“ทูลเหนียงเหนียง นางดื้อรั้นยิ่งนัก ไม่ยอมสารภาพเลยพ่ะย่ะค่ะ!” ผู้เฝ้าพิทักษ์ตอบ
หยุนถิงเห็นจูเอ๋อร์บาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ ก็ยังไม่ยอมสารภาพก็รู้ว่านางเป็นคนที่รับมือได้ยาก จึงหยิบยาสารภาพความจริงออกมาเม็ดหนึ่ง เดินไปแล้วยัดเข้าปากนางโดยตรง
ผู้เฝ้าพิทักษ์ไม่กล้าพูดอะไรไปมาก สาวรับใช้นี้ฮองเฮาเป็นคนพามาเอง คาดว่าคงต้องมีความสามารถอยู่บ้าง
จูเอ๋อร์ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะต่อต้าน ถูกบังคับให้กลืนลงไป หยุนถิงจึงถามว่า “ใครเป็นคนบ่งการให้เจ้าวางยาพิษให้ฮองเฮา เจ้าเป็นใคร ทำไมต้องปลอมตัวเป็นสาวรับใช้ของฮองเฮา? ”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ฮองเฮาก็ตกตะลึง “เจ้าหมายความว่า จูเอ๋อร์ถูกคนอื่นปลอมตัว แล้วจูเอ๋อร์ที่แท้จริงอยู่ที่ใด?”
นางว่าจูเอ๋อร์ติดตามตัวเองมาเป็นเวลาหลายปี จู่ๆก็ทรยศแล้ว แถมยังให้ตัวเองวางยาพิษคิดร้ายหยุนถิง ที่แท้หล่อนเป็นตัวปลอมนี่เอง
“เช่นนั้นก็ต้องถามนางแล้ว บอกมา” สายตาอันเย็นชาของหยุนถิงมองมา
“ข้าชื่อจี๋หยู้ เป็นคนของเขตทะเลนิรนาม ฮูหยินเจ้าทะเลเป็นคนบอกให้ข้ามาเอง นางบอกว่าจวินซื่อจื่อปกป้องท่านไว้ดีเกิน ลงมือกับท่านโดยตรงนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ดังนั้นจึงให้ข้าแสร้งปลอมตัวเป็นสาวรับใช้ของฮองเฮา วางยาพิษให้ฮองเฮา จากนั้นก็ใช้ฮองเฮามาต่อกลกับท่าน จะยังไงนางก็เป็นฮองเฮา เจ้าไม่กล้าขัดขืน
ส่วนสาวรับใช้ของฮองเฮานั้น ถูกข้าฆ่าไปนานแล้ว ไม่ฆ่านางทิ้ง ข้าจะปลอมตัวเป็นนางได้อย่างไร ศพของนางอยู่ในบ่อน้ำแห้งในหลังลาน” จี๋หยู้ตอบ
ฮองเฮาโกรธจนหน้าซีด จูเอ๋อร์อยู่กับนางมาหลายปี อาจกล่าวได้ว่าร่วมทุกข์ร่วมสุขกับนางมา แต่หล่อนกับฆ่าจูเอ๋อร์ทิ้ง
“เจ้าสมควรตาย!” ฮองเฮาคำรามด้วยความโกรธ หยิบเหล็กร้อนแดงข้างๆแล้วทับใส่บนตัวของจี๋หยู้อย่างแรง
“อ๊ากก!” เสียงกรีดร้องอย่างน่าสังเวช แสบแก้วหูยิ่งนัก เจ็บจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป
“ข้าถือจูเอ๋อร์เป็นน้องสาวแท้ๆ นางร่วมทุกข์ร่วมสุขมากับข้า แต่เจ้ากลับฆ่านางทิ้ง น่าเคียดแค้นยิ่งนัก!” ฮองเฮากัดฟันด้วยความแค้น
“เหนียงเหนียงไว้ชีวิตนางไว้ด้วย” หยุนถิงเตือน
ฮองเฮาจึงค่อยหยุดมือ “เจ้าถามต่อเถอะ”
“พวกเจ้ายังมีคนอื่นหรือไม่ มีแผนลอบสังหารอะไรหรือไม่ หรือฮูหยินเจ้าทะเลมีแผนจะจัดการกับจวนซื่อจื่ออย่างไร?” หยุนถิงถามอย่างเย็นชา
“ฮูหยินส่งนักยอดฝีมือของเขตทะเลนิรนามมา มีเพียงไม่กี่สิบคน ล้วนดักซุ่มอยู่รอบๆจวนซื่อจื่อ หากข้ายาวางพิษไม่สำเร็จ พวกเขาก็จะลอบสังหารโดยตรง
หากไม่สำเร็จสักอย่าง แผนสุดท้ายก็คือลักพาตัวลูกทั้งสองของท่าน และเอาพวกเขามาข่มขู่ท่าน เพราะจะยังไงก็เป็นสายเลือดแท้ๆของท่าน! ” จี๋หยู้ตอบตามความจริง
แต่เดิมหยุนถิงที่ไม่แยแส ทันใดนั้นสีหน้าก็เคร่งขรึมและเย็นชาลงทันที ดวงตาแสนสวยเคร่งขรึม
ลูกคือต่อมโมโหของนาง และยิ่งเป็นขีดจำกัดของนาง หากเป็นเพียงการลอบสังหารทั่วไป ก็ไม่อยู่ในตานางอยู่แล้ว แต่หากพวกเขาคิดอุบายกับลูกๆ เช่นนั้นก็จะปล่อยให้เซียวหลันมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้
ว่ากันว่าเลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้ ตัดรากไม่ถอนโคน ยามฤดูใบไม้ผลิพัดมามันก็จะงอกใหม่อีกครั้ง
“เหนียงเหนียง นางก็เหลือไว้ให้ท่านแล้ว ข้ากลับไปก่อนแล้ว” หยุนถิงกล่าวโดยตรง
“ได้” ฮองเฮารู้ดีว่านางใส่ใจกับลูกทั้งสองมากเพียงใด จึงรู้ทัน
หยุนถิงออกจากวัง ก็หยิบลูกศรธนูขนาดเล็กหนึ่งอันออกมาจากแขนเสื้อ และยิงไปยังบนฟ้า จากนั้นก็นั่งรถม้าแล้วกลับไปที่จวนซื่อจื่อ
เมืองหลวงแห่งต้าเยียน เมื่อเห็นลูกศรธนูขนาดเล็กกองกำลังทั้งหมดก็ตรงไปที่จวนซื่อจื่อทันที
กองทัพขนหงส์ องครักษ์เงามังกร องครักษ์ลับ กองทัพเลือดเหล็ก——-วรยุทธและกองกำลังทั้งหมดที่หยุนถิงสะสมไว้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ล้วนมาหมดเลย
ลานขนาดใหญ่เต็มไปด้วยผู้คน องครักษ์เงามังกรที่หมอบอยู่บนกำแพงก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเมื่อเห็นฉากนี้
“โอ้พระเจ้า ในเวลาเพียงไม่กี่ปี กองกำลังที่ซื่อจื่อเฟยสะสมไว้ก็จะเยอะกว่าซื่อจื่อแล้ว เก่งยิ่งนัก!” รั่วจิ่งนับถือยิ่งนัก
ซูหลินกลอกตาใส่เขา “ทั้งหมดพวกนี้ล้วนเป็นวรยุทธและกองกำลัง กลุ่มธุรกิจเหล่านั้นยังไม่มาเลย”
รั่วจิ่งตกตะลึงทันที “ซื่อจื่อเฟย ขอประจบสอพลอพึ่งด้วยคน!”
ทันทีที่พูดจบ รั่วจิ่งก็รู้สึกสายตาที่เย็นชาหนึ่งกำลังจ้องมองหลังหัวของตัวเอง ก็รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงขึ้นทันที ไม่ต้องหันหัวกลับไปก็รู้ว่าเป็นซื่อจื่อ
“ซื่อจื่อ ข้าแค่นับถือซื่อจื่อเฟย พูดไปงั้นๆ เป็นเพราะปากนี้ของข้าที่พูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไป” รั่วจิ่งยอมรับผิดทันที และยังยื่นมือไปตบปากตัวเอง
จวินหย่วนโยวจึงค่อยถอนสายตาออก และหันมองหยุนถิง