จอมนางข้ามพิภพ - บทที่904 เหตุใดนางถึงให้เจ้าวางยาพิษ
จอมนางข้ามพิภพ บทที่904 เหตุใดนางถึงให้เจ้าวางยาพิษ
แน่นอนว่าหัวซินไม่กล้าพูดอะไร และวางชามน้ำแกงอีกชามลงด้วยความเคารพ “ซื่อจื่อเฟย องค์หญิงสี่ เช่นนั้นบ่าวไปยกน้ำน้ำแกงอีกชามมาจากหลังครัวเพคะ”
“อืม!” หยุนถิงพยักหน้า
หัวซินรีบถอยออกไปอย่างรวดเร็ว แต่นางพึ่งเดินไปออกได้ไม่กี่ก้าวก็ได้ยินด้านหลังมีส่งดังมา
“อ๊ากก!” สีหน้าของเป่ยจิงจิงซีดลงในทันใด ปวดท้องมาก จนนางร้องออกมา “ทำไมข้าถึงปวดขนาดนี้ อ๊าก ปวดมากเลย!”
หยุนถิงเห็นว่าสีหน้าของนางผิดปกติ และริมฝีปากบางของนางเป็นสีดำม่วง ก็รีบกดจุดที่ทำให้ขยับตัวไม่ได้ของนาง และเอายาถอนพิษเม็ดหนึ่งให้นางกิน จากนั้นก็จับชีพจรของนาง
จวินหย่วนโยวที่อยู่ข้างๆทำหน้าเคร่งขรึม และหันมองไปดูน้ำแกงนกพิราบที่เป่ยจิงจิงเพิ่งกินลงไปโดยสัญชาตญาณ “น้ำแกงมีพิษ!”
หัวซินซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตรนั้นตกใจกลัวจนทรุดตัวลงกับพื้น “จวินซื่อจื่อโปรดไว้ชีวิตด้วย บ่าวไม่ได้วางยาพิษ น้ำแกงนี้บ่าวเป็นคนต้มเองด้วยมือเลยเพคะ ต้มไปสองชั่วยาม บ่าวไม่ได้วางยาพิษจริงๆเพคะ”
ดาบยาวในมือของหลิงเฟิงจี่คอหัวซิน “หุบปาก หากรบกวนโดนซื่อจื่อเฟยของข้า ต่อให้เจ้ามีหัวสิบหัวก็ไม่พอตัด”
หัวซินตกใจกลัวจนรีบเอามือปิดปาก และไม่กล้าพูดอะไรอีก ตัวสั่นอย่างแรง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าตกใจกลัวไม่น้อยเลยทีเดียว
“หยุนถิง ข้าจะตายแล้วใช่หรือไม่” เป่ยจิงจิงเจ็บจนหน้าซีด เจ็บปวดอย่างแสนสาหัส อวัยวะภายในเหมือนถูกไฟเผา กระอักเลือดสีดำออกมา
สีหน้าของหยุนถิงเย็นชามาก “เจ้าไว้ใจ ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าตายแน่นอน” จากนั้นก็เอาเข็มเงินบนเส้นผมออกมาทันที และเจาะจุดฝังเข็มของเป่ยจิงจิง
จวินหย่วนโยวที่อยู่ข้างๆนั้นสีหน้าเย็นชายิ่งนัก และดวงตาที่ดำสนิทนั้นก็กำลังจ้องมองหัวซินด้วยความโกรธ “บอกทุกอย่างตั้งแต่ที่เจ้าเริ่มต้มน้ำแกงจนถึงตอนที่ยกมาออกมาอย่างละเอียดให้หมด ระหว่างนั้นเคยเจอกับคนอะไร หากเจ้ากลับพูดโกหก ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจที่มาในผืนแผ่นดินนี้!”
หัวซินตกใจกลัวมากจนรีบเล่าเรื่องที่นางต้มน้ำแกงนั้นออกมาให้หมดทันที พูดถึงสุดท้ายจู่ๆก็นึกขึ้นได้ว่า “ก่อนน้ำแกงนี้ใกล้สุกแล้วนั้นชิงหนิงเป็นคนช่วยข้าดู นางเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกับข้า ก่อนหน้านี้ก็มักจะมาช่วยที่ห้องพระเครื่องต้นอยู่เสมอ มีความสัมพันธ์ดีกับข้า คงไม่ใช่นาง”
“หลิงเฟิง ไปจับคน!” จวินหย่วนโยวทำเสียงเชอะ
“ขอรับ!” หลิงเฟิงไปทำทันที และบังเอิญเจอกับเป่ยหมิงฉี่ที่กำลังมาในนอกลานพอดี เป่ยหมิงฉี่เห็นท่าทางที่รีบร้อนของเขา ก็รีบถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
“มีคนวางยาพิษให้กับจวิ้นจู่น้อยกับซื่อจื่อน้อย!” หลิงเฟิงอธิบายสั้น ๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้น
เป่ยหมิงฉี่ก็โกรธมากในทันที หากลูกของจวินหย่วนโยวเกิดเรื่องอะไรขึ้นในพระราชวังของตัวเอง ไม่ต้องพูดถึงพระราชวังเลย เกรงว่าทั่วทั้งแคว้นเป่ยลี่ก็คงต้องถูกเอาไปฝังด้วย
เป่ยหมิงฉี่สั่งให้คนจับชิงหนิงทันที ตัวเองกลับเข้าไปในลานโดยตรง กำลังอยากถามจวินเสี่ยวเหยียนกับจวินเสี่ยวเทียนว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ก็เห็นเป่ยจิงจิงที่มีสีหน้าท่าทางที่เจ็บปวด
“จิงจิงเป็นอะไรไป?”
“นางดื่มชามน้ำแกงที่มีพิษนั้น!” หยุนถิงตอบ และเข็มเงินในมือก็ร่วงลงอย่างรวดเร็ว
สีหน้าของเป่ยหมิงฉี่มืดครึ้มในทันที “หยุนถิง เจ้าต้องช่วยจิงจิงนะ”
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะทุ่มเทสุดกำลังเลย”
“แล้วจวินเสี่ยวเทียนกับจวินเสี่ยวเหยียนเป็นอะไรหรือเปล่า?” เป่ยหมิงฉี่ถามโดยไม่รู้ตัว
“พวกเขาไม่เป็นไร กำลังเล่นอยู่ทางนู้น ยังไม่ทันได้ดื่ม” จวินหย่วนโยวตอบ
เป่ยหมิงฉี่แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก สองท่านนี้ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว หันมองเป่ยจิงจิงที่เจ็บปวด เป่ยหมิงฉี่ก็ยิ่งกังวลมากขึ้น รีบเรียกหมอหลวงเข้ามา โดยคิดว่าคงจะสามารถเป็นผู้ช่วยหยุนถิงได้หน่อยบ้าง
หลังจากนั้นไม่นาน องครักษ์ก็คุมตัวชิงหนิงเข้ามา “ฝ่าบาท คนนำมาแล้ว”
ในตอนที่ชิงหนิงถูกจับ ก็รู้ว่าเรื่องนี้ถูกเปิดโปงแล้ว แต่นางไม่เห็นจวินเสี่ยวเทียนกับจวินเสี่ยวเหยียน แต่กลับเห็นท่าทีที่เจ็บปวดขององค์หญิงสี่ คนทั้งคนก็ตกตะลึงยิ่งนัก
“เป็นอย่างงี้ได้อย่างไร?”
“เหตุใดเจ้าถึงวางยาพิษ บอกมาตามจริงซะ!” จวินหย่วนโยวคำรามด้วยความโกรธ
ชิงหนิงเย้ยหยันโดยไม่พูดอะไร หยิบดาบสั้นในแขนเสื้อออกมาและแทงไปที่หยุนถิงทันที
จวินหย่วนโยวโกรธมาก สะบัดแขนเสื้อตีชิงหนิงกระเด็นออกไปโดยตรงเลย
“อ๊าก!” เสียงกรีดร้องดังขึ้น ชิงหนิงบินออกไปไกลกว่าสิบเมตร และล้มลงกับพื้นอย่างแรง กระอักเลือดออกมาทันที
ร่างหนึ่งแวบผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลงเอ้อกดจุดที่ทำให้ขยับตัวไม่ได้ของนางโดยตรง อ้าปากนางและยัดยาสารภาพความจริงเม็ดหนึ่งเข้าไป “บอกมา ใครเป็นคนบ่งการเจ้า?”
ชิงหนิงขยับไม่ได้ และไม่อยากตอบ แต่ปากกลับเหมือนไม่เชื่อฟัง และโพล่งออกมา “เป็นองค์หญิงรอง นางส่งจดหมายมาให้บ่าว และให้บ่าววางยาพิษคิดร้ายซื่อจื่อเฟยกับลูกของหล่อน!”
“องค์หญิงรอง นั่นก็คือเป่ยตันเสวี่ยสินะ?” หลิงเฟิงถามด้วยความตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นนาง
“ถูกต้อง เป็นองค์หญิงรอง”
ประโยคเดียว ทำให้สีหน้าของเป่ยหมิงฉี่แย่ลงมาก มือในแขนเสื้อก็อดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น
เดิมทีเป่ยจิงจิงที่กำลังเจ็บปวดอยู่ ก็ตกตะลึงทันที “พี่รอง เป็นนางได้อย่างไร ผิดพลาดอะไรหรือเปล่า?”
“นี่คือยาสารภาพความจริงของซื่อจื่อเฟย ไม่มีวันผิดพลาด!” หลงเอ้อตอบ
จวินหย่วนโยวพูดอย่างเย็นชา “จดหมายลับอยู่ที่ไหน เหตุใดนางถึงให้เจ้าวางยาพิษ?”
“จดหมายลับถูกบ่าวเผาทิ้งแล้ว กลัวว่าจะถูกผู้อื่นพบเข้า องค์หญิงรองเกลียดซื่อจื่อเฟย เกลียดจนอยากให้นางตายทั้งเป็น เหตุผลองค์หญิงรองไม่ได้พูด บ่าวเองก็ไม่ทราบเหมือนกันเพคะ!” ชิงหนิงตอบ
ออร่าแห่งความอาฆาตรอบกายของจวินหย่วนโยวขยายกว้าง สาวรับใช้นี้ไม่รู้เหตุผล แต่เขากลับรู้ ในฐานะผู้ชาย จวินหย่วนโยวรู้สึกถึงความไม่ยอมตายใจที่หลีอ๋องมีต่อหยุนถิงมานานแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าจะทำให้เป่ยตันเสวี่ยอิจฉามากขนาดนี้
วันนี้หากไม่ใช่เป่ยจิงจิงดื่มน้ำแกงนั้นไปอย่างสะเพร่า จวินหย่วนโยวจินตนาการถึงผลที่ตามมานั้นไม่ออก
เสี่ยวเทียนกับเสี่ยวเหยียนเป็นลูกของเขา และเขาก็จะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายพวกเขา
“เรื่องนี้ข้าผิดต่อพวกเจ้าเอง ข้าจะออกคำสั่งปลดตำแหน่งองค์หญิงของเป่ยตันเสวี่ยเดี๋ยวนี้ ลบนางออกจากลำดับศักดิ์ของวงศ์ตระกูล และตัดขัดความสัมพันธ์กับนาง ความเป็นความตายของนางไม่เกี่ยวข้องกับข้า หวังว่าพวกเจ้าอย่าได้เอาความโกรธมาพาลใส่ราษฎรของแคว้นเป่ยลี่เลย! ” น้ำเสียงของเป่ยหมิงฉี่มีความร้องขอเล็กน้อย
แม้ว่าเป่ยตันเสวี่ยจะเป็นเสด็จน้องของตัวเอง เป่ยหมิงฉี่ก็ทำไม่ลง แต่เขารู้ถึงความรักที่จวินหย่วนโยวกับหยุนถิงมีต่อลูกทั้งสอง ตั้งแต่ที่นางทำการตัดสินใจนี้ก็ควรรู้ถึงผลที่ตามมาแล้ว
น้องรองที่งี่เง่านี้ จะทำให้ทั่วทั้งแคว้นเป่ยลี่เดือดร้อนไปด้วยหรือไง ราษฎรทั่วทั้งแคว้นเทียบกับเสด็จน้องคนหนึ่งนั้น สิ่งใดสำคัญกว่านั้นเป่ยหมิงฉี่ก็รู้ดีอยู่แล้ว
สีหน้าของหยุนถิงก็ไม่ค่อยดีนัก “ในเมื่อท่านพูดเช่นนี้แล้ว งั้นข้ากับซื่อจื่อก็ไม่มีวันทำร้ายผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง”
“ขอบคุณ!” เป่ยหมิงฉี่กลับไปที่ห้องโถงใหญ่ทันที และร่างพระราชกฤษฎีกาประกาศให้ทั่วทั้งสี่แคว้นโดยตรง
“ใครก็ตามที่กล้าวางแผนคิดร้ายลูกของข้า ข้าจะไม่มีวันปล่อยมันไป หลิงเฟิงพานางไปยังสถานที่ที่ครึกครื้นที่สุดในเมืองหลวงของแคว้นเป่ยลี่ ห้าม้าแยกศพ เก็บหัวไว้แล้วส่งไปให้เป่ยตันเสวี่ย บัญชีนี้ข้าจะคิดกับนางอย่างแน่นอน!” จวินหย่วนโยวตะคอกด้วยความโกรธ
“ขอรับ!” หลิงเฟิงให้คนนำตัวชิงหนิงไปทันที
“ไม่ อย่าห้าม้าแยกศพเลย ขอพวกท่านอย่าได้ทรมานข้า ฆ่าข้าทิ้งโดยตรงเลย ขอพวกท่าน——-” ชิงหนิงร้องอย่างน่าเวทนาและถูกพาตัวไป
หัวซินบนพื้นตกใจกลัวจนพูดอะไรไม่ออก ตัวสั่นไปทั้งตัว “ขอ ขอซื่อจื่อเฟยกับจวินซื่อจื่อไว้ชีวิตด้วย!”
“แม้ว่าเจ้าจะไม่รู้เรื่องนี้ แต่น้ำแกงพิษนี้เจ้าเป็นคนยกมาเอง อีกชามนั้นเจ้ากินเอง หรือจะให้ข้าป้อนให้เจ้า!” จวินหย่วนโยวกล่าวอย่างไร้ความปรานี