จอมนางข้ามพิภพ - บทที่906 เอาลูกไม่เอาแม่
จอมนางข้ามพิภพ บทที่906 เอาลูกไม่เอาแม่
พ่อบ้านรีบเข้ามาทันที “เรียนท่านอ๋อง เมื่อกี้บ่าวถามคนรับใช้นอกประตูแล้ว โดยบอกว่าทูตส่งข่าวแห่งแคว้นเป่ยลี่มา ส่งจดหมายฉบับหนึ่งมาให้หวางเฟย และพอหวางเฟยเห็นแล้วก็ปวดท้องอย่างรุนแรงขึ้นมาทันที!”
โม่ฉือหานขมวดคิ้ว “จดหมายล่ะ?”
องครักษ์ลับคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น และยื่นจดหมายที่เป่ยตันเสวี่ยฉีกทิ้งที่หน้าประตูมาให้ “ท่านอ๋อง นี่เป็นสิ่งที่หวางเฟยฉีกทิ้งในเมื่อครู่นี้ ข้าน้อยเก็บขึ้นมาและนำมาประกอบใหม่เสร็จแล้ว”
โม่ฉือหานยื่นมือรับมา เมื่อเห็นพระราชโองการที่ถูกฉีกขาดและประกอบขึ้นมาใหม่นั้น สีหน้าของโม่ฉือหานก็เคร่งขรึมในทันที
ปลดตำแหน่งองค์หญิงรองของเป่ยตันเสวี่ยทิ้ง ลบออกจากผังตระกูลของเป่ยหมิง ปลดให้เป็นสามัญชน และตัดขัดความสัมพันธ์กับนาง ต่อไปความเป็นความตายของนางไม่เกี่ยวกับแคว้นเป่ยลี่อีกต่อไป หรือว่าเป่ยตันเสวี่ยทำเรื่องอะไรที่เกินไป มิฉะนั้นเป่ยหมิงฉี่จะใจร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร?
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ในสมองของโม่ฉือหานมีใบหน้าของหยุนถิงแวบผ่านไป
เวลานี้ จวินหย่วนโยวกับหยุนถิงไปเข้าร่วมงานแต่งของเป่ยหมิงฉี่ที่แคว้นเป่ยลี่ หรือเป็นเพราะเป่ยตันเสวี่ยทำร้ายหยุนถิง ถึงได้ทำให้เป่ยหมิงฉี่ใจร้ายถึงเช่นนี้?
นอกจากความเป็นไปได้นี้แล้ว โม่ฉือหานคิดความเป็นไปได้ที่สองออกมาไม่ได้อีก
“เจ้าสืบดูว่าในพระราชวังของแคว้นเป่ยลี่นั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น!” โม่ฉือหานสั่ง
“ขอรับ!” องครักษ์ลับไปทำทันที
“ท่านอ๋อง ซูกงกงขอพบ!” องครักษ์พาซูกงกงเข้ามา
เดิมทีโม่ฉือหานนึกว่าฝ่าบาทให้ซูกงกงสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของหวางเฟย แต่ก็ได้ยินซูกงกงพูดว่า “ท่านอ๋อง ฝ่าบาททรงให้บ่าวนำจดหมายลับนี้ให้ท่าน”
“เสด็จพี่?” โม่ฉือหานรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็รับมา
แต่หลังจากดูเนื้อหาบนจดหมายลับแล้ว ออร่ารอบกายของโม่ฉือหานก็เย็นชามากในทันที สายตาเฉียบคมและโกรธมากในทันที
“หวางเฟยให้คนไปวางยาพิษให้ลูกของหยุนถิงจริงหรือ?”
แม้ว่าปกติเป่ยตันเสวี่ยจะหยิ่งยโส และขี้เหนียวมาก แต่โม่เหลิ่งเหยียนคิดไม่ถึงว่านางจะลงมือกับเด็กสองคนได้โหดเหี้ยมเยี่ยงนี้ และเมื่อนึกถึงราชโองการของเป่ยหมิงฉี่ในเมื่อครู่นั้น ทุกอย่างก็เห็นได้ชัดเจนเลย
“นี่เป็นสายลับในพระราชวังแห่งแคว้นเป่ยลี่ของฝ่าบาทนั้นส่งกลับมา ฝ่าบาทให้บ่าวส่งมาทันที ด้วยนิสัยของจวินซื่อจื่อกับซื่อจื่อเฟยแล้ว คงไม่ยอมอย่างง่ายดายแน่ ฝ่าบาทไม่อยากเห็นจวินซื่อจื่อกับท่านอ๋องบอบช้ำทั้งสองฝ่าย บ่าวมีคำพูดเพียงเท่านี้!” ซูกงกงกล่าว
มือในแขนเสื้อของโม่ฉือหานกำแน่น และดวงตาที่มองเข้าไปในห้องก็มืดลงทันที
ทันใดนั้น หมอหลวงหลิววิ่งออกมาจากห้อง มือทั้งสองเต็มไปด้วยเลือด “ท่านอ๋องแย่แล้ว หวางเฟยมีเลือดออกเป็นจำนวนมาก สถานการณ์อันตรายมากๆ กระหม่อมไร้ความสามารถ สามารถช่วยได้เพียงคนเดียว ท่านอ๋องโปรดรีบตัดสินใจด้วยเถอะ!”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ เส้นเลือดบนหน้าผากของโม่ฉือหานก็ปูดขึ้น สายตาเย็นชาไม่มีความอบอุ่นแม้แต่นิด และเปล่งคำไม่กี่คำออกมาอย่างช้าๆ
“ช่วยเด็ก!”
“ท่านอ๋อง ท่านได้โปรดช่วยหวางเฟยเถอะ นางไม่มีความผิดใดๆเลย เด็กไม่มีแล้วหวางเฟยยังคลอดใหม่ได้ ขอท่านแล้ว!” สาวใช้คนสนิทเป่ยตันเสวี่ยคุกเข่าลงและร้องขอความเมตตาทันที
โม่ฉือหานกลับไม่แม้แต่จะมองนาง “พานางลงไป!”
“ขอรับ!” องครักษ์สองคนเดินมาและพาสาวรับใช้ลงไป สาวรับใช้ขัดขืน องครักษ์ก็ตีท้ายทอยให้สลบและยกลงไป
หมอหลวงหลิวก็คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้ ยังหันไปมองซูกงกงที่อยู่ข้างๆโดยไม่รู้ตัว เห็นซูกงกงพยักหน้าให้กับเขา และรีบกลับไป
ส่วนเป่ยตันเสวี่ยที่อยู่ในห้อง เพราะความเจ็บปวดทำให้นางไม่มีเรี่ยวแรงไปนานแล้ว ร่างกายเหมือนหมดเรี่ยวแรง เหลือเพียงลมหายใจเดียว
แม้ว่าเสียงนอกลานของโม่ฉือหานนั้นจะไม่ดัง แต่ก็ไม่ได้เบา และถูกเป่ยตันเสวี่ยได้ยินเข้าพอดี
นางตกตะลึงและแทบไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยิน โม่ฉือหานจะเอาลูกไม่เอาแม่ เขาทำเช่นนี้กับตัวเองได้อย่างไร ใจร้ายเช่นนี้ได้อย่าง
นางให้กำเนิดลูกแก่โม่ฉือหาน ตั้งครรภ์แปดเดือน เขากลับจะเอาลูกไม่เอาแม่ในยามที่ตัวเองกำลังคลอดลูก เขาพูดออกมาได้อย่างไรกัน
เป่ยตันเสวี่ยเต็มไปด้วยความแค้น นางลุกขึ้นมาอย่างสุดกำลัง “ไป พวกเจ้าออกไปให้หมด โม่ฉือหานไอ้สารเลว ท่านทำแบบนี้กับข้าได้อย่างไร ข้าจะฆ่าท่าน ข้าเป็นองค์หญิงรองแห่งแคว้นเป่ยลี่!”
เมื่อพูดถึงองค์หญิงรอง เป่ยตันเสวี่ยจึงค่อยนึกถึงราชโองการที่ทูตส่งข่าวส่งมา และเยาะเย้ยในทันที
“เพื่อหยุนถิง เสด็จพี่กลับปลดตำแหน่งองค์หญิงของข้า แถมยังตัดความสัมพันธ์กับข้า หยุนถิงมีอะไรดี ถึงทำให้พวกเจ้าหลงใหลนางถึงเช่นนี้จนได้! นางเป็นตัวหายนะ ข้าสาปแช่งให้นางไม่ได้ตายดี!
โม่ฉือหานในเมื่อท่านใจร้าย ก็อย่าโทษข้า จะตายก็ตายพร้อมกัน ข้าไม่มีวันให้กำเนิดลูกนี้แก่ท่านแน่นอน! ” เป่ยตันเสวี่ยบ้าคลั่งเล็กน้อย ยกมือขึ้นแล้วทุบท้องตัวเองอย่างแรง
แต่ทันทีที่ยกมือขึ้นและสัมผัสโดนท้องตัวเอง นางก็ทำไม่ลง
โม่ฉือหานสารเลว แต่นี่คือลูกในท้องของนาง เป็นลูกที่นางตั้งท้องไปแปดเดือน สุดท้ายเป่ยตันเสวี่ยก็หมดสติไปเพราะความแค้น พอหมดสติไปก็ไม่เคยฟื้นขึ้นมาอีกเลย
โม่ฉือหานที่อยู่นอกลานได้ยินเสียงร้องของทารก หัวใจก็ตึงแน่นทันที
ในที่สุดเด็กก็คลอดออกมาแล้วสักที นี่คือลูกคนแรกของเขา ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ของเจ้าตัวน้อย โม่ฉือหานก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน
หลังจากนั้นไม่นาน หมอตำแยก็อุ้มเด็กออกมา “ท่านอ๋อง เป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ เพียงแต่ว่าคุณชายน้อยไม่ครบเก้าเดือน ตัวน้อยและอ่อนแอไปหน่อย”
โม่ฉือหานมองดูเจ้าตัวน้อยที่กำลังร้องไห้ เอื้อมมือไปอุ้ม แต่ก็ทำไม่เป็น ท่าทางเงอะงะเล็กน้อย
หมอตำแยก็รีบสอนเขาอุ้มทันที ทันทีที่อุ้มลูกชายไว้ในอ้อมแขน มือของโม่ฉือหานก็สั่น กลัวว่าจะทำให้เจ้าตัวน้อยเจ็บ
“ท่านอ๋อง หวางเฟยเสียชีวิตแล้ว!” หมอหลวงหลิวเดินออกมาและพูด น้ำเสียงสั่นเทาเล็กน้อย
“จัดพิธีฝังศพอย่างดีให้นาง เรื่องนี้วันนี้ใครก็ห้ามพูดออกไป มิฉะนั้นข้าจะไม่มีวันยกโทษให้อย่างแน่นอน! บอกกับภายนอกว่านางตายเพราะคลอดยาก พ่อบ้านรีบไปหาแม่นมมา!” โม่ฉือหานทำเสียงเชอะ
“ขอรับ!” พ่อบ้านรีบไปทำ
ซูกงกงเห็นเด็กเกิด เป่ยตันเสวี่ยก็เสียชีวิตแล้ว จึงค่อยออกจากจวนหลีอ๋องและกลับไปรายงาน
ในพระราชวัง
เมื่อซูกงกงกลับมา ก็รีบรายงานเรื่องในจวนหลีอ๋องให้กับฝ่าบททันที ฝ่าบาทพึงพอใจเป็นอย่างมาก “หลีอ๋องก็ยังถือว่าเป็นคนที่รู้จักแยกแยะผิดถูกรู้ว่าเรื่องใดควรเรื่องใดไม่ควร เป่ยตันเสวี่ยไอ้โง่นี้หากไม่ไปล่วงเกินจวินหย่วนโยว ข้าก็คงไม่ทำเช่นนี้!”
“นางทำตัวเองพ่ะย่ะค่ะ” ซูกงกงพูดด้วยเสียงที่เบา
“ฝ่าบาท แม่ทัพโม่กับแม่ทัพจี้ขอเข้าเฝ้า!” นอกห้องโถงใหญ่ ขันทีน้อยคนหนึ่งรายงาน
“ให้พวกเขาเข้ามา”
จี้อวี๋กับโม่หลานเดินเข้ามา และทำความเคารพต่อฝ่าบาทอย่างเคารพ “ถวายบังคมฝ่าบาท มิทราบว่าฝ่าบาททรงเรียกหม่อมฉันมามีเรื่องใดหรือเพคะ?”
“ข้าได้รับรายงานลับว่า มีกองกำลังที่ไม่ทราบจำนวนมากมารวมตัวกันที่ชายแดนแคว้นเป่ยลี่กับแคว้นต้าเยียน ไม่ทราบว่าแม่ทัพทั้งสองมีความคิดเห็นใดกับนี้?” ฝ่าบาทกล่าวอย่างเฉยชา
“ฝ่าบาท จะไปมีความคิดเห็นอะไรอีก ก็สู้ทีเดียวเลย หม่อมฉันจะพาคนไปกำจัดพวกเขาทิ้งเดี๋ยวนี้เลย!” โม่หลานพูดอย่างตรงไปตรงมา