จอมนางข้ามพิภพ - บทที่908 เขาทำอะไรไม่ได้
จอมนางข้ามพิภพ บทที่908 เขาทำอะไรไม่ได้
ดวงตาแสนสวยของหยุนถิงเคร่งขรึม นางไม่ได้ตามไป แต่กลับกวาดมองดูทุกคนในห้องโถงอย่างเย็นชา
รั่วเฟิงซีถูกพิษในเวลานี้ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน ต้องมีคนวางยาพิษแน่ และคนที่วางยาพิษนี้ก็อยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้
“หมอหลวง เรียกหมอหลวงมาเร็ว!” ขันทีข้างๆ ตะโกนทันที
คนทั้งห้องโถงตกใจกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ และวิพากษ์วิจารณ์กันใหญ่ในทันที
“ทำไมจู่ๆ ฮองเฮาถึงกระอักเลือด นี่เป็นพิธีแต่งตั้งฮองเฮา นี่เป็นสิ่งที่อัปมงคล” ขุนนางชั้นสูงคนหนึ่งพูดโดยไม่รู้ตัว
“สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเลย หรือว่านี่เป็นสัญญาณเตือนของฟ้าว่าคุณหนูรั่วไม่เหมาะที่จะเป็นฮองเฮา!”
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ทุกคนก็อยู่ไม่นิ่งในทันที
“หลิ่วซ่างซูเจ้าอย่าใส่ร้ายลูกสาวของข้า ลูกสาวของข้าเป็นฮองเฮาที่ชะตากรรมกำหนดไว้แล้ว นางเป็นฮองเฮาที่ฝ่าบาททรงแต่งตั้งด้วยตนเอง ทั่วทั้งแคว้นเป่ยลี่ไม่มีคนที่สูงศักดิ์กว่านาง!” รั่วเฉิงเซี่ยงทำเสียงเชอะอย่างเผด็จการ
“ต่อให้สูงศักดิ์เพียงใดก็กระอักเลือดแล้ว จะสามารถมีชีวิตรอดหรือไม่ก็ยังไม่รู้เลย ข้าว่านี่เป็นเพราะฟ้าทนดูไม่ไหวแล้ว” หลิ่วซ่างซูโต้กลับ
“ไม่แน่อาจเป็นเจ้าที่วางยาพิษให้ฮองเฮาก็ได้ ตอนนั้นเจ้าเป็นคนเสนอแนะลูกสาวเจ้าให้กับฝ่าบาท แต่ฝ่าบาทกลับไม่ชอบลูกสาวเจ้า เจ้าถึงได้คิดแค้นอยู่ในใจ!” รั่วเฉิงเซี่ยงเปิดโปงทันที
สีหน้าของหลิ่วซ่างซูแย่ลงทันที ฝ่าบาทเลือกฮองเฮา เขาเคยเสนอแนะลูกสาวตัวเองจริง แต่น่าเสียดายที่ฝ่าบาทไม่ชอบ แม้แต่เฟยก็ไม่ถูกแต่งตั้ง ซึ่งทำให้หลิ่วซ่างซูขุ่นเคืองใจ
“เจ้ากล้าใส่ร้ายข้า ข้าสู้สุดชีวิตกับเจ้า!” หลิ่วซ่างซูกระโจนไปหารั่วเฉิงเซี่ยงด้วยความโกรธ
ขุนนางเก่าทั้งสองต่อสู้กันในทันที และข้าราชการคนอื่นๆต่างก็ตกใจกลัวกันหมด และตกอยู่ในความโกลาหล
กู้สวิ๋นอวี่ที่อยู่ข้างๆยิ้มมุมปากอย่างได้ใจ คราวนี้รั่วเฟิงซีต้องตายอย่างแน่นอน ตำแหน่งฮองเฮาจะเป็นของนาง ใครก็อย่าคิดที่จะแย่งมันไป
หมี่รุ่ยสาวใช้ข้างนางเงยหน้าขึ้นมองหยู่อ๋องที่อยู่ไม่ไกล ทั้งสองมองหน้ากัน แม้ว่าจะแค่ชั่วครู่ก็ละสายตาออกแล้ว แต่ก็ถูกหยุนถิงเห็นเข้าจนได้
ที่แท้เป็นแผนการของคนเหล่านี้เอง กู้สวิ๋นอวี่เพราะอิจฉารั่วเฟิงซีนางยังพอเข้าใจ แต่ทำไมสาวรับใช้ของเขาถึงได้มีการสื่อสารผ่านดวงตากับหยู่อ๋อง
กับหยู่อ๋อง หยุนถิงเข้าใจไม่มากนัก และทันใดนั้นใจของนางก็เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้น
หยุนถิงเข้าใกล้จวินหย่วนโยวทันที และพูดด้วยน้ำเสียงที่มีทั้งสองได้ยินเท่านั้น “ท่านพี่ หรือว่าหยู่อ๋องคิดจะก่อกบฏ?”
จวินหย่วนโยวส่งสายตาที่ให้นางสบายใจ “ไม่ต้องห่วง เขาทำอะไรไม่ได้!”
“ซื่อจื่อเฟย บ่าวหาท่านเจอสักที ฝ่าบาทเชิญท่านไปดูฮองเฮา!” ขันทีคนหนึ่งเดินมาและพูดอย่างกระวนกระวายใจ
“อืม!” หยุนถิงลุกขึ้นจูงเด็กออกไป จวินหย่วนโยวก็ตามไปทันที
เดิมทีหยู่อ๋องยังกังวลว่าจวินหย่วนโยวกับหยุนถิงจะออกมือ แต่ตอนนี้เห็นพวกเขาจากไปตามขันที ก็รู้สึกโล่งใจทันที
“องค์หญิง พวกข้าก็ไปดูกันเถอะ” หมี่รุ่ยเสนอแนะ
“อืม ข้าจะไปดูกับตาว่ารั่วเฟิงซีตายอย่างไร!” กู้สวิ๋นอวี่ลุกขึ้นทันที
ห้องโถงด้านข้าง
เป่ยหมิงฉี่เห็นรั่วเฟิงซีที่กระอักเลือดนั้นหมดสติไปแล้ว สีหน้าซีดลง และยิ่งโกรธมากทันที
“ทหาร!”
เถียนต้งผู้บังคับบัญชาของกองทหารหลวง รีบเข้ามาทำความเารพอย่างเคารพ “ฝ่าบาทมีคำสั่งการใด?”
“สั่งคำสั่งของข้าปิดห้องโถงทั้งหมด และประตูของพระราชวัง ห้ามให้ใครออกไป เจ้าพาคนไปตรวจสอบให้ชัดเจนด้วยตนเอง วันนี้เรื่องที่ฮองเฮาถูกพิษนั้น ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ต้องหาผู้ร้ายออกมาให้ได้!” เป่ยหมิงฉี่คำรามอย่างโกรธเกรี้ยว
“ขอรับ!”
มองดูหยุนถิงที่เดินเข้ามาจากด้านนอก เป่ยหมิงฉี่ก็ระงับความอาฆาตรอบตัวทันที “หยุนถิง เจ้ารีบช่วยเฟิงซีตรวจดู ทำไมจู่ๆนางถึงได้กระอักเลือด?”
หยุนถิงรีบช่วยนางจับชีพจร จากนั้นก็มองไปที่เป่ยหมิงฉี่ “ระวังหยู่อ๋อง ข้าเห็นเขาแอบสบตากับสาวใช้ข้างกู้สวิ๋นอวี่!”
ประโยคหนึ่ง หน้าผากของเป่ยหมิงฉี่มีเส้นเลือดปูดขึ้น เขารู้ว่าหยุนถิงไม่มีวันปั้นเรื่องหรือยั่วยุให้เกิดเรื่องขึ้นอย่างง่ายดายแน่นอน ในเมื่อนางพูดเช่นนี้ ก็แสดงว่าหยู่อ๋องต้องมีอะไรผิดปกติ
“ขอบคุณ ที่นี่ฝากให้กับเจ้า” เป่ยหมิงฉี่พูดจบ ยกเท้าแล้วเดินออกไป
หยุนถิงถอนพิษให้รั่วเฟิงซีทันที จวินหย่วนโยวพาคนสองคนไปรอไว้ที่นอกประตู จะอย่างไรรั่วเฟิงซีก็เป็นผู้หญิง เขาในฐานะผู้ชายคนหนึ่งอยู่ข้างในก็ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่
จวินเสี่ยวเทียนกับจวินเสี่ยวเหยียนก็เห็นรั่วเฟิงซีกระอักเลือดเหมือนกัน ลูกทั้งสองก็ยืนอยู่ที่หน้าประตูกับพ่ออย่างเชื่อฟัง และไม่ได้ส่งเสียงดังรบกวน
กู้สวิ๋นอวี่ที่ไล่ตามมาเห็นจวินหย่วนโยวที่ยืนอยู่หน้าประตู ก็ตกใจกลัวจนหน้าซีด แม้ว่าจะกลัว แต่นางก็ไม่อยากพลาดโอกาสนี้ไป
“จวินซื่อจื่อ ไม่ทราบว่าคุณหนูรั่วเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”
นางไม่ได้เรียกฮองเฮา แต่กลับเรียกคุณหนูรั่ว ซึ่งเห็นได้ชัดว่านางไม่พอใจกับที่รั่วเฟิงซีได้เป็นฮองเฮา
จวินหย่วนโยวไม่แม้แต่จะมองนาง และไม่สนใจนางเลย
กู้สวิ๋นอวี่โกรธจนหน้ามืดครึ้ม แต่เพราะเกรงกลัวจวินซื่อจื่อ จึงทำได้เพียงพูดขึ้นอีกครั้ง “จวินซื่อจื่อ ข้าก็แค่เป็นห่วงความปลอดภัยของรั่วเฟิงซี ดังนั้นจึงมาดู” หลังจากพูดจบ ก็เดินไปที่ห้อง
เพียงแต่ว่านางยังเดินไปไม่ถึงหน้าประตูห้อง ก็ถูกจวินหย่วนโยวสะบัดแขนเสื้อ ลมที่แรงนั้นพัดไปที่หน้าของกู้สวิ๋นอวี่ทันที ทำเอานางก้าวถอยหลังไปสองสามเมตรโดยสัญชาตญาณและเกือบล้มลง โชคดีที่หมี่รุ่ยพยุงนางเอาไว้
“จวินซื่อจื่อ ทำไมเจ้าถึงทำเช่นนี้ ข้าก็แค่เป็นห่วงความปลอดภัยของรั่วเฟิงซี?” กู้สวิ๋นอวี่กล่าวอย่างโกรธเคือง
“ใครกล้ารบกวนถิงเอ๋อร์ช่วยคน ก็ถือเป็นศัตรูกับข้า!” จวินหย่วนโยวทำเสียงเชอะอย่างเผด็จการ
กู้สวิ๋นอวี่โกรธมากและกำลังจะหักล้าง ประตูก็ถูกคนเปิดจากด้านใน หยุนถิงเดินออกมา
“ท่านแม่ นางเป็นอย่างไรบ้าง?” จวินเสี่ยวเหยียนถามโดยสัญชาตญาณ
“รั่วเฟิงซีได้พิษกำเริบจนตายไปแล้ว พิษที่นางถูกนั้นเป็นพิษที่เห็นได้ยากนัก ข้าเองก็จนปัญญาแล้วเหมือนกัน!” น้ำเสียงของหยุนถิงดูเศร้าสร้อยเล็กน้อย
ดวงตาแสนสวยของกู้สวิ๋นอวี่เบิกกว้างในทันใด นางเงยหน้าขึ้นมองเข้าไปข้างใน จากตำแหน่งของนางสามารถมองเห็นรั่วเฟิงซีที่นอนอยู่บนเตียงได้พอดี
ไม่ขยับ เหมือนตายไปแล้ว
“ในเมื่อเช่นนี้ ข้าก็ไม่รบกวนแล้ว” กู้สวิ๋นอวี่พูดหันหลังและเดินจากไป หมี่รุ่ยก็รีบตามไป
ทั้งสองเดินไปในที่ไกลจนไม่มีใคร จู่กู้สวิ๋นอวี่ก็หัวเราะเสียงดัง “ดีมากเลย ในที่สุดรั่วเฟิงซีก็ตายสักที ข้ารอวันนี้มานานแสนนานแล้ว ในที่สุดนางก็ตายสักที ตายในพิธีแต่งตั้งฮองเฮา สะใจยิ่งนัก”
“ขอแสดงความยินดีกับองค์หญิง ยินดีองค์หญิงด้วยเพคะ!” หมี่รุ่ยกล่าวด้วยความเคารพ
“ครั้งนี้เป็นเพราะเจ้าแท้ๆ พิษนั้นของเจ้าร้ายแรงยิ่งนัก รั่วเฟิงซีตามไป ภัยพิบัติที่แอบแฝงอยู่ของข้าถูกกำจัดทิ้ง รอข้าได้ขึ้นครองตำแหน่งฮองเฮา จะปฏิบัติต่ออย่างไม่ขาดความยุติธรรมเลย!” กู้สวิ๋นอวี่กล่าวอย่างได้ใจ
“ขอบคุณองค์หญิง จู่ๆบ่าวก็รู้สึกปวดท้อง อยากไปเวจ” หมี่รุ่ยพูดโดยไม่รู้ตัวขณะกุมท้อง
“ไปเถอะ ข้าจะไปเตรียมชุดเจ้าสาวแล้ว!”
“เพคะ!” หมี่รุ่ยไปทันที
กู้สวิ๋นอวี่รอคอยเป็นอย่างมาก ตอนนี้นางก็สามารถจินตนาการถึงภาพที่เหล่าข้าราชการคำนับตัวเองในอีกไม่นานนี้ เมื่อคิดดูแล้วอารมณ์ดียิ่งนัก
เพียงแต่ว่า กู้สวิ๋นอวี่ยังไม่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว ชายชุดดำก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้านาง “องค์หญิง ฝ่าบาทต้องการพบท่าน!”