จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 101 การพิสูจน์ตนของจอมจักขอบทางการพิสูจนตินของจอมจักรพรรดิเจ้าจักรวาล
- Home
- จอมบงการเทพยุทธ์
- บทที่ 101 การพิสูจน์ตนของจอมจักขอบทางการพิสูจนตินของจอมจักรพรรดิเจ้าจักรวาล
อนุสรณ์โบราณนั้นยิ่งใหญ่และเรียบง่ายและเนื้อหาที่จารึกด้วยอักขระมหายุคเพียงบรรทัดแรกก็ทําให้หลงภู่และราชนหมื่นเซียนอื่นๆรวมไปถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งสามเกิดข้อสงสัยลึกๆ
จอมจักรพรรดิสวรรค์ศักราชที่ 250,000
จอมจักรพรรดิสวรรค์เผ่าพันธุ์มนุษย์
คําเหล่านี้ดูเหมือนจะมีพลังวิเศษบางอย่างที่ทําให้ราชันหมื่นเซียนตื่นตระหนก
พวกเขาไม่คาดคิดว่า ในวิหารจักรพรรดิหมื่นเซียนโบราณแห่งนี้ จะมีการกล่าวถึงจอมจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์!
“จอมจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์…. เป็นยอดยุทธ์ผู้สูงส่งแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ของข้าในอดีตงั้นรี”
จฉางเฉอคาดเดา
แต่จอมจักรพรรดิสวรรค์ศักราชนั้นมันคืออะไรกัน?
ตลอดกาลที่ผ่านมา เมื่อสิ่งมีชีวิตมาถึงระดับสุดยอดและเป็นที่เคารพในจักรวาลชื่อของเขาจะถูกนํามาใช้กําหนดเป็นปีศักราชในปัจจุบัน
และมักใช้อยู่ไม่เกินสองถึงสามหมื่นปี
เนื่องจากอายุขัยของจอมยุทธ์ระดับสุดยอดเหล่านี้ก็ยืนยาวได้ถึงระดับหนึ่ง
แต่บัดนี้ อนุสรณ์โบราณบันทึกไว้ว่าเป็นจอมจักรพรรดิสวรรค์ศักราชที่ 250,000 หมายความว่าเมื่อหลายล้านปีก่อน เคยมีจอมจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์ปกครองยาวนานหลายแสนปี
นี่มันเกินจริงไปแล้ว แม้มันอาจจะเป็นจริง ก็เป็นดั่งตํานาน!
“เหอะ ถึงแม้จอมจักรพรรดินี้อาจจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์ในอดีตแต่เขาก็สิ้นชีพไปแล้ว
หลังจากการจากไปของเขา ก็ไม่เคยมีจอมจักรพรรดิหน้าใหม่ถือกําเนิดขึ้นในจักรวาลอีกเลย ดังนั้นศักราชของเขาจึงถูกใช้อยู่ตลอดเวลามันก็ได้จารึกไว้ในอนุสรณ์โบราณว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่มีจอมจักรพรรดิในโลกใบนี้!”
หลงก่เย้ยหยัน อย่างเย็นชา
ราชันหมื่นเซียนอื่นๆ หลังจากได้ยินการแย้งของหลงคู่ พวกเขาทั้งหมดก็ผงกหัวด้วยสีหน้าแบบเดียวกัน
มีเพียงค่าอธิบายนี้เท่านั้นที่สมเหตุสมผลที่สุด
จฉางเฉอและคนอื่นๆ จักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งสามนั้นไม่คิดจะโต้ตอบใดๆ แต่กลับมองเนื้อหาที่จารึกบนอนุสรณ์โบราณต่อไป
พวกเขาเชื่อว่าความสงสัยทั้งหมดจะพบกับค่าตอบในที่สุด
เนื้อหาต่อไปของอนุสรณ์โบราณ ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องได้ถูกจารึกไว้
สิ่งที่จารึกไว้ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าจอมจักรพรรดิระดับสุดยอดของเผ่าแมลงหลังจากกาเนิดและก่อนที่จะกลายเป็นจักรพรรดิเขาได้เดินทางเข่นฆ่าไปทั่วจักรวาลยึดครองจักรวาลและหมู่ดาวกําราบความเหิมเกริมทุกชนิด กลายเป็นจอมจักรพรรดิเจ้าจักรวาล
เรียกได้ว่าเป็นประวัติชีวิตของจอมจักรพรรดิเจ้าจักรวาล ก่อนที่เขาจะพิสูจน์ตนเมื่อเห็นการกระทําเหล่านี้ สีหน้าของหลงภู่และราชนหมื่นเซียนทุกคนก็ค่อยๆ ดีขึ้น
ควรเป็นเช่นนั้น
เมื่อดูจากจารึกในอนุสรณ์โบราณ จอมจักรพรรดิหมื่นเซียนแห่งกลุ่มประหารเทพนี้ไร้ผู้เทียบได้และเป็นอันดับหนึ่งในหมู่ของเขาอย่างแน่นอน
เขาต่อสู้ทุกทิศทุกทางและไม่เคยพ่ายแพ้ ในช่วงเวลานี้เขาเอาชนะอสูรผู้โหดเหี้ยมนับไม่ถ้วนเส้นทางจักรพรรดิเพิ่งนองไปด้วยเลือดเลือดเหล็กและความแข็งแกร่งของเขามาถึงจุดสูงสุดแล้ว
“นี่เป็นวิถีแห่งจักรพรรดิเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนของข้า”
เสียงของหลงกูค่อนข้างภูมิใจ เขาแทบรอไม่ไหวที่จะดูส่วนล่างของเนื้อหาที่อนุสรณ์โบราณจารึกไว้
ในการคาดเดาของเขา ส่วนล่างของอนุสรณ์โบราณนี้น่าจะจารึกไว้ว่าจอมจักรพรรดิเจ้าจักรวาลเมื่อขึ้นสู่ระดับสุดยอดและก้าวเข้าสู่วิถีแล้วปกครองทั่วจักรวาลเป็นใหญ่เหนือวิญญาณทั้งหลายสยบทั่วทั้งเก้าสวรรค์ด้วยความรุ่งโรจน์ของเขา
นี่ยังเป็นช่วงที่ยิ่งใหญ่และสง่างามที่สุดในชีวิตของยอดยุทธ์เช่นเขา
แต่ทว่า จุดจบไม่ได้เป็นดั่งที่หลงภู่และราชันหมื่นเซียนอีกหลายคนคาดหวัง
เนื่องจากยอดฝีมือเผ่าพันธุ์แมลงโบราณนี้ เมื่อไปถึงเขตแดนสูงสุดและได้เป็นจอมจักรพรรดิแล้ว เขาก็เก็บตัวอยู่ในวังของตัวเองมาโดยตลอดเพื่อฝึกฝนและขัดเกลาฝีมือ ไม่ได้ปรากฏตัวสู่โลกภายนอกอีกเลย
ราวกับว่ามีศัตรูตัวฉกาจอยู่ตรงหน้า รอที่จะต่อสู้กับจอมจักรพรรดิเจ้าจักรวาลมีเพียงต้องเพิ่มพละกําลังของเขาให้ถึงขีดสุดในชีวิตนี้เท่านั้นถึงจะมีความแข็งแกร่งพอที่จะรับมือศัตรูนั้น
เมื่อมาถึงเขตแดนจอมจักรพรรดิ จะมีศัตรูเช่นไรได้อีก?
บางที่อาจเป็นเพราะจอมจักรพรรดิเจ้าจักรวาลต้องการก้าวขึ้นไปอีกและก้าวข้ามสู่เขตแดนที่เหนือกว่าเขตแดนระดับสูงสุด ดังนั้นเขาจึงได้ฝึกฝนอย่างหนัก
ไม่ว่าอย่างไร การทําลายข้อจํากัดแห่งพลังยุทธ์ระดับสุดยอด ก็เป็นสิ่งที่จอมจักรพรรดิหมื่นเซียนทุกคนพยายามมาโดยตลอด
ด้วยความสงสัยเล็กน้อย สายตาของทุกคนเลื่อนลงไปอีกครั้ง บัดนี้ก็ได้มาถึงตอนท้ายของอนุสรณ์แล้ว
และเนื้อหาท้ายสุดที่จารึกด้วยอักขระมหายุคอันศักดิ์สิทธิ์บนอนุสรณ์โบราณนี้ก็ท่าให้หลงภู่และคนอื่นๆต้องประหลาดใจอีกครั้ง!
เพราะจารึกที่เกี่ยวข้องกับจอมจักรพรรดิสวรรค์แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ปรากฏขึ้นอีก ครั้ง!
ก่อนจอมจักรพรรดิสวรรค์ศักราชที่ 256,000 ปี จอมจักรพรรดิเจ้าจักรวาลได้ขึ้นไปถึงเขตแดนระดับสูงสุดและฝึกฝนถึงสองพันปีพละกําลังและเลือดของเขาอยู่ในสถา นะที่สมบูรณ์แบบเรียกได้ว่าเป็นจุดที่สูงสุดในชีวิตของเขา
จอมจักรพรรดิสวรรค์ศักราชที่ 256,000 จอมจักรพรรดิเจ้าจักรวาลได้เดินทางออกจากวังเข้าสู่จักรวาล พละกําลังของเขาล้นหลามปลุกทั้งพิภพให้ตื่นขึ้นเมื่อจอมจักรพรรดิสวรรค์ได้สิ้นไปแล้วทุกสรรพชีวิตไม่ได้บูชาจอมจักรพรรดิสวรรค์แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์อีกต่อไปจอมจักรพรรดิเจ้าจักรวาลจึงได้ปรากฏตัวในพิภพ!
เผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นไม่ยอมศิโรราบ อ้างว่าจอมจักรพรรดิสวรรค์ยังไม่สิ้นลมและจะไม่เคารพจอมจักรพรรดิเจ้าจักรวาลเขาจึงโกรธและได้ลงโทษเผ่าพันธุ์มนุษย์ฐานหมิ่นอานาจของจอมจักรพรรดิ
ในโอกาสนี้ เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมากมาย พลังที่ยิ่งใหญ่เคลื่อนไปในพิภพหลังจากผ่านไปกว่าแสนปีจอมจักรพรรดิสวรรค์…
ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในโลก!
ณ จุดนี้ ข้อความที่ได้จารึกไว้บนอนุสรณ์โบราณก็ได้จบลงแล้วด้านหลังมีแต่ความว่างเปล่า
อย่างไรก็ตาม เพียงแค่เนื้อหาที่จารึกด้วยอักขระมหายุคไม่กี่บรรทัดนี้ก็มีข้อมูลอันมหาศาล!
“จอมจักรพรรดิสวรรค์ศักราชที่ 250,000… จอมจักรพรรดิสวรรค์แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง… สิ่งที่เรียกว่าจักรพรรดิหยกแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ยังมีชีวิตอยู่จริงๆงั้นรึ?”
หลงภู่พูดอย่างเคร่งขรึม ดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความตกใจ
อยู่ในพิภพมากว่า 250,000 ปี
นี้มันเรื่องอะไรกัน?
ไม่มีใครทําเช่นนี้ได้
ในขณะเดียวกัน การเดาที่เหลือเชื่อต่างๆ ก็ผดขึ้นในใจของเขา
โดยทั่วไปแล้วเมื่อจอมจักรพรรดิขึ้นไปสู่เขตแดนยุทธ์ระดับสุดยอด จะเป็นผู้ปกครองพิภพและเป็นเจ้าแห่งวิญญาณทั้งหมด
แต่หลังจากที่จอมจักรพรรดิเจ้าจักรวาลสิ้นสุดเส้นทางจักรพรรดิเขาได้เก็บตัวฝึกวิชาอย่างสันโดษจนกระทั่งถึงจุดสูงสุดของชีวิตนี้แล้วจึงออกมาและต้องการปกครอง จักรวาล
เป็นไปได้ไม่ว่าเขาเกรงกลัวจอมจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ครั้งหนึ่งในได้หายไปจากจักรวาลนี้
จนกว่าพละกําลังและการฝึกฝนจะถึงขีดสุดในชีวิต เขาจึงกล้าที่จะท้าทายผู้ที่ไม่ได้ปรากฏตัวในจักรวาลมากว่าแสนปีแล้วจนเป็นที่สงสัยว่าจะสิ้นลมไปแล้ว?!
“ข้าไม่เชื่อ จอมจักรพรรดินั้นเป็นหนึ่งในฟากฟ้า และวิถีระดับสูงสุดนั้นยิ่งกว่า!
สิ่งที่เรียกว่าจอมจักรพรรดิสวรรค์แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์จะทําให้จอมจักพรรดิหมื่นเซียนผู้มียุทธ์ระดับสุดยอดรู้สึกหวาดกลัวได้อย่างไร?”
หลงก่ส่ายศีรษะ ราวกับเพื่อรักษาจิตเต่าให้มั่นคงไว้ให้ได้ แต่แววตาอันสันไหวในดวงตาของเขาไม่อาจปกปิดได้เลย
และราชันหมื่นเซียนคนอื่นๆ ก็มีสีหน้าที่ไม่ได้ดีไปกว่ากัน
เขาไม่ได้ปรากฏตัวมานานกว่าแสนปี มีเพียงศักดิ์ศรีที่หลงเหลืออยู่ในพิภพจอมจักรพรรดิหมื่นเซียนนั้นถึงกับเกรงกลัวอย่างยิ่งจนถึงกับไม่กล้าปรากฏตัวจนกว่าพลังของเขาจะถึงจุดสูงสุดอย่างแท้จริง
เป็นเรื่องจริง?
เผ่าพันธุ์มนุษย์มีตัวตนเช่นนั้นจริงงั้น?!