จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 132 เปิดเผยมุมมืดเมื่อหลายล้านปีก่อน!
นิยาย จอมบงการเทพยุทธ์ บทที่ 132 เปิดเผยมุมมืดเมื่อหลายล้านปีก่อน!
ใต้ต้นหม่อนศักดิ์สิทธิ์ มีภาพลวงตาปรากฏขึ้น เป็นร่างจอมจักรพรรดิสวรรค์แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์หันหน้าเข้าหาโลงศพที่ฝังศพของจอมจักรพรรดิสริยะไว้อย่างเงียบๆ
การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนี้ ทําให้กิ่งจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าอีกาทองคําต้องตกใจและอดไม่ได้ที่จะถอนมือหยุดการเคลื่อนไหวของเขา
“จอมจักรพรรดิสวรรค์แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์…”
กิ่งจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าอีกาทองคําพึมพํากับตัวเอง ไฟของดวงอาทิตย์แห่งชัยชนะที่แผดเผาเปี่ยมไปด้วยความกลัวและความระมัดระวัง
แม้ว่าจะเป็นเพียงภาพลวงตา แต่มันก็ทําให้เขารู้สึกสั่นสะท้านอย่างไม่สามารถอธิบายได้และในขณะที่เผชิญหน้ากับด้านหลังของร่างนี้ก็ยังรู้สึกถึงความกดดันอันไร้ที่สิ้นสุด
จอมจักรพรรดิสวรรค์ปรากฏตัวขึ้น สั่นสะเทือนไปทุกทิศทาง
ทุกคนมองไปที่แผ่นหลังอันยิ่งใหญ่ ดวงตาพวกเขาล้วนเปี่ยมไปด้วยความประหลาดใจ
หลายล้านปีผ่านไปแล้ว จอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์มาที่นี่ และเขามาทําอะไรมาเพียงเพื่อแสดงความเคารพต่อจอมจักรพรรดิสุริยะอย่างนั้น?
ทุกคนต่างกลั้นหายใจ และมองไปที่ภาพลวงตานั้นโดยไม่กระพริบตา
ภาพฉายของจอมจักรพรรดิสวรรค์ยืนนิ่ง วิถีแห่งเต๋เคลื่อนคล้อย กฎฟ้าดินทั้งหมดถูกเหยียบย่าอยู่ใต้ฝ่าเท้าและกฏที่โลกนับถือต้องสั่นสะท้านเมื่ออยู่ต่อหน้าเขานั่นแสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจสูงสุดของจอมจักรพรรดิสวรรค์
จากนั้น ในที่สุดจอมจักรพรรดิสวรรค์ก็เคลื่อนไหว เขาเผชิญหน้ากับโลงศพโบราณและโค้งค่านับช้าๆ และพูดว่า
“ลูกหลานเผ่าพันธุ์มนุษย์ ขอแสดงความนับถือต่อปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ถ้าวิญญาณของปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์มีอยู่ข้าหวังว่าท่านจะปรากฏตัวขึ้น!”
จอมจักรพรรดิสวรรค์แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ ต้องการพบจอมจักรพรรดิสุริยะ!
เมื่อเขาได้ยินเสียงที่เปี่ยมไปด้วยพลังอันสูงสุด แม้แต่กิ่งจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าอีกาทองคําก็ยังต้องตกใจ
จอมจักรพรรดิสวรรค์แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ ไม่ได้มาเพียงเพื่อสักการะจอมจักรพรรดิสุริยะเท่านั้นแต่เขามาเพื่อขอพบกับจอมจักรพรรดิสุริยะอีกด้วย!
ในยามนั้น เมื่อได้เห็นจอมจักรพรรดิสวรรค์ ทุกสรรพชีวิตต่างก็สั่นสะท้าน
จอมจักรพรรดสวรรค์คือใคร?
เป็นที่สงสัยกันว่าจอมยุทธ์ระดับสูงสุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์เมื่อหลายล้านปีก่อนซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้ปกครองจักรวาลยุคก่อนประวัติศาสตร์มาเป็นเวลาหลายแสนปีและเคยกําราบจักรพรรดิ โบราณด้วยนิ้วเดียวนั้นความแข็งแกร่งของเขาได้มาถึงขอบเขตที่เป็นไปไม่ได้สําหรับสิ่งมีชีวิตธรรมดา
แต่ทว่า จอมยุทธ์ระดับสูงสุดเช่นนั้น ในตอนนี้กําลังแสดงความเคารพต่อโลงศพของปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์
สิ่งนี้เน้นย้ําถึงสถานะอันสูงส่งของปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์
สิ่งนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับความแข็งแกร่งและเขตแดน แต่มันเป็นสัญลักษณ์ของสถานะที่สูงส่งแม้ว่าเขาจะมีสถานะอันทรงเกียรติอย่างจอมจักรพรรดิสวรรค์แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าปฐมจอมจักรพรรดิ แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์เขาก็ต้องแสดงท่าทางของเขาให้ต่ำลงและปฏิบัติต่อกันด้วยท่าทางที่นอบน้อม
จอมจักรพรรดิสวรรค์ได้เปิดปากเอ่ยบัญชาสวรรค์ สั่นสะท้านไปทุกทิศทุกทาง
โลงศพของปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่อยู่ใต้ต้นหม่อนศักดิ์สิทธิ์ดูเหมือนจะรู้สึกได้เช่นกัน พลังแห่งสุริยะก็ปรากฏขึ้น และมีเงาปรากฏขึ้นตรงหน้าโลงศพโบราณด้วยท่วงท่าอันสง่างาม พร้อมกับผมสีดําที่สยายออกนั่นคือจอมจักรพรรดิสุริยะ!
ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ฟื้นคืนชีพและปรากฏขึ้นอีกครั้งในโลก!จอมจักรพรรดิสวรรค์มองเห็นร่างนั้นแล้ว!
ในขณะนี้ เมื่อเห็นฉากที่แสดงขึ้นมา สิ่งมีชีวิตทั้งหมดล้วนสั่นสะท้าน
เมื่อเวลาได้ผ่านไปหลายล้านปี จอมจักรพรรดิสวรรค์แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้กลับมาพบกับปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์งั้นรึ?
นี่เป็นข่าวที่สั่นสะเทือนจักรวาลไปทุกยุคทุกสมัย!
“ข้ามิใช่ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวหนึ่งของความคิดของปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ยังคงอยู่ในฟ้าดินและเจ้าไม่จําเป็นต้องแสดงความเคารพต่อขาก็ได้”
ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์อ้าปาก เสียงของเขาทั้งนึ่งและสงบ
เขาไม่ใช่ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่แท้จริง หรือไม่ใช่ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่สมบรณ์
เป็นเพียงเศษเสี้ยวของปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ในอดีตที่ยังคงอยู่ในฟ้าดินเป็นเศษเสี้ยวความคิดที่ยังไม่สลายไป เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความทรงจําของปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์
เปลวเพลิงสีทองลุกโชนขึ้นรอบตัวเขา มีกระแสพลังอันศักดิ์สิทธิ์แผ่กระจายออกมา
“เจ้าแข็งแกร่งมาก อยู่เหนือขอบเขตที่ร่างเดิมของข้าไปถึงและก้าวไปสู่อีกขอบเขตได้ความแข็งแกร่งนั้นน่าทิ้งเป็นอย่างมาก
หากร่างของข้ารู้ว่าลูกหลานของเผ่าพันธุ์มนุษย์จะทําให้เกิดตัวตนดังกล่าวจะต้องพอใจอย่างแน่นอน”
ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์มองไปที่จอมจักรพรรดิสวรรค์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาและกล่าวด้วยความโล่งใจ
“อาา ท่านผู้อาวุโสก็ยกย่องเกินไป มีวีรบุรุษของเผ่าพันธุ์มนุษย์มากมายที่เป็นเหมือนกับข้าและมีความพยายามที่จะทําเพื่อเผ่าพันธุ์มนุษย์จากรุ่นสู่รุ่นและทําให้เผ่าพันธุ์รุ่งเรืองในที่สุด
ท่ามกลางเผ่าพันธุ์มนุษย์ในโลกนี้ มีมากกว่าหนึ่งที่เป็นเหมือนกับข้า”
จอมจักรพรรดิสวรรค์ตอบ
บทสนทนาระหว่างทั้งสอง แม้ว่ามันจะเคยเกิดขึ้นมาก่อนในสมัยโบราณแต่ก็ทําให้เกิดความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ในโลกปัจจุบัน
ความจริงทางประวัติศาสตร์ที่เปิดเผยในบทสนทนานี้น่าประหลาดใจยิ่งนัก
ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ยอมรับว่า จอมจักรพรรดิสวรรค์ก้าวไปสู่เขตแดนที่เหนือกว่าเขตแดนเดิมของเขาก้าวข้ามจอมยุทธ์ระดับสุดยอดไปอีกระดับหนึ่ง
แต่จอมจักรพรรดิสวรรค์กล่าวว่า ตอนนี้เผ่าพันธุ์มนุษย์เช่นเขาไม่ได้มีเพียงคนเดียว!
ความจริงที่น่ากลัวนี้คืออะไรกัน?
จอมยุทธ์ระดับสุดยอดที่แข็งแกร่งใดๆ ล้วนเป็นจอมยุทธ์ที่เป็นนิรันดร์ในจักรวาล
และเมื่อหลายล้านปีก่อน ไม่ได้มีเผ่าพันธุ์มนุษย์เพียงคนเดียวที่สามารถก้าวข้ามขอบเขตพลังยุทธ์ระดับสุดยอดได้
หลายล้านปีก่อน ความแข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นไปถึงระดับใดกัน?!
อย่างไรก็ตาม ความตกใจของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดก็ยังไม่สิ้นสุด และบทสนทนาต่อไปของปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ทําให้พวกเขาต้องตกอยู่ในความตกใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“ถ้าเป็นเช่นนั้น ความมืดและความโกลาหลแห่งยุคสมัยก็อาจสงบลงอย่างแท้จริง”
คําพูดของจอมจักรพรรดิสวรรค์ก่อนหน้านี้ ทําให้ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ซาบซึ้งและอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
“ใช่แล้ว ในที่สุดความมืดมิดก็จะสงบลงและความพยายามของรุ่นต่อรุ่นก็จะไม่สูญเปล่า
ผู้เยาว์มาในวันนี้ เพียงเพราะอยากรู้ทุกสิ่งที่เกิดอะไรขึ้นในอดีตและต้นกําเนิดที่แท้จริงของความมืดทั้งหมดนี้ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้โปรดบอกข้าด้วย!”
จอมจักรพรรดิสวรรค์เอ่ยปาก กล่าวถึงจุดประสงค์ของการเดินทางของเขา
“ข้ามีความจําในอดีตเพียงบางส่วนเท่านั้น ข้าสามารถบอกเจ้าได้ทุกอย่างที่ข้ารู้”
ดวงตาของปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นลึกล้ํา
“ในยุคที่ข้าอยู่ ความมืดไม่ได้แผ่ขยายออกไปและส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตทั้งหมด
หลังจากที่ข้าก้าวไปสู่เขตแดนพลังยุทธ์ระดับสุดยอด ก็สัมผัสได้ถึงที่มาของความมืดและพบว่ามันอยู่ที่นั่น
ภายใต้พิภพ เส้นทางสู่ยมโลกโบราณ”
จอมจักรพรรดิสวรรค์อ้าปาก เสียงนั้นเปี่ยมไปด้วยความเคร่งขรึมที่หาได้ยาก
“เราได้พบว่ามันอยู่ที่นั่น แต่ความมืดข้างหน้านั้นน่ากลัวเกินไป เมื่อเดินลึกลงไปข้าเกรงว่าจะไม่มีโอกาสได้หันหลังกลับ
ดังนั้น ก่อนที่จะเข้าไปด้านในสุด ข้าต้องรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเส้นทางสู่ยมโลกนี้ก่อน”
“ใช่ มันเป็นเส้นทางสู่ยมโลกโบราณ”
ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์กล่าว มีความผันผวนของยุคสมัยวูบไหวในดวงตาของเขา
“เส้นทางโบราณนําไปสู่ยมโลก และนอกจากนี้ยังนําไปสู่แหล่งที่มาของความมืดนิรันดร์อีกด้วยซึ่งข้าได้ไปถึงที่นั่นและได้ลงลึกไปในนั้นและได้ค้นพบบางอย่าง”
“ข้าไม่ใช่คนแรกที่เหยียบเส้นทางนี้ ก่อนหน้าข้า มีคนที่เหยียบเส้นทางโบราณนี้ และพวกเขาได้ต่อสู้ด้วยพลังของตัวเองอย่างแท้จริง และปิดกั้นแหล่งที่มาของความมืดนิรันดร์!”
“บนเส้นทางสู่ยมโลก เคยมีคนลงไปด้วยงั้น”
ร่างของจอมจักรพรรดิสวรรค์สั่นเล็กน้อย และข้อมูลนี้ดูเหมือนจะเกินความคาดหมายของเขาจึงทําให้เขารู้สึกตกใจเล็กน้อย
“ใช่แล้ว ครั้งหนึ่งเคยมีคนยืนอยู่เพียงลําพังบนเส้นทางสู่ยมโลก ปิดกั้นความมืดมิดและความเจ็บปวดทั้งหมด”
ปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์กล่าวช้าๆ ด้วยความระลึกถึงที่ฉายในดวงตาของเขา
“ดูเหมือนว่าข้าจะเคยเห็นเขาในตอนนั้นแต่น่าเสียดายความทรงจําของข้าเกี่ยวกับส่วนนี้มันพร่ามัวไปเสียแล้วเหลือความทรงจําเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น”
หลังจากปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์พูดเช่นนั้นเขาก็ได้ชี้ไปที่ความว่างเปล่าซึ่งสะท้อนกับชั้นฟ้าและแผ่นดินทั้งหลาย ม้วนภาพโบราณที่เผยให้เห็นความจริงอันมืดมิดในมุมหนึ่งในช่วงเวลาหนึ่งล้านปีก่อนค่อยๆคลี่ออก!
PS: มีอีกตอนนะครับวันนี้