จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 142 โองการของจอมจักรพรรดิอู่จื่ออยู่ที่นี่แล้ว!
นิยาย จอมบงการเทพยุทธ์ บทที่ 142 โองการของจอมจักรพรรดิอู่จื่ออยู่ที่นี่แล้ว!
การต่อสู้นองเลือดยังคงดําเนินต่อไป สงครามจักรพรรดิได้ทําลายพื้นที่โดยรอบหลายพันล้ำให้กลายเป็นดินแดนรกร้าง
“เผ่าพันธุ์มนุษย์ เจ้าคิดว่าพวกเจ้าเพียงไม่กี่คนจะสามารถหยุดเราได้งั้นรึ?”
“พวกเจ้าก็แค่ตักแตนต้านล้อรถ ”
(**s* ตกแตนต้านล้อรถ สํานวน หมายถึงคนที่ทําอะไรไม่ดูกําลังและความสามารถตัวเองทําอะไรเกินตัวจนเดือดร้อนนั่นเอง)
“น่าเศร้า เขตแดนจักรพรรดิทั้งเจ็ดนี้เป็นทั้งหมดของเผ่าพันธุ์มนุษย์เพียงสังหารพวกเจ้าอีกหลายร้อยล้านคนก็จะกลายเป็นสารอาหารที่เติมเต็มพลังงานชีวิตของพวกเรา”
เสียงของราชันหมื่นเซียนหลายคนเย็นชาราวกับว่าพวกเขามุ่งไปที่จักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด
ความโกลาหลพุ่งขึ้นในทะเลสาบ เลือดกําลังหลั่งไหล
จักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์ พวกเขาทั้งหมดได้รับบาดเจ็บสาหัส
และเมื่อเวลาผ่านไป อาการบาดเจ็บก็มีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้น
โดยเฉพาะประมุขของราชวงศ์ต้าเซี่ยของเผ่าพันธุ์มนุษย์เป็นเพียงคนเดียวที่มีเขตแดนพลังยุทธ์สูงสุด
ดังนั้นเขาจึงต้องใช้กําลังทั้งหมดของตัวเอง เพื่อต้านทานการปิดล้อมของจักรพรรดิหมื่นเซียนระดับสูงสุดทั้งสี่!
จักรพรรดิสูงสุดทั้งสี่ของเผ่าพันธุ์หมื่นเซียน แม้ว่าพลังชีวิตจะเหือดแห้งแต่มันก็ค่อยๆฟื้นตัวอย่างช้าๆ เมื่อเวลาผ่านไป
และจักรพรรดิเฒ่าแห่งราชวงศ์ต้าเซีย เขาแก่ชรามากแล้ว เลือดเนื้อพลังปราณของเขาก็ลดลงภายใต้การปิดล้อมของทั้งสี่เขาต้องทนทุกข์ทรมานอย่างต่อเนื่องเสื้อผ้าของเขาเปื้อนเลือดและดวงตาของเขาก็แดงฉาน
นี่เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดมาก!
“เจ้าพวกเลว!”
จักรพรรดินีชีหยางดูกังวลอยู่บ้าง
นางมีพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดา และเข้าใจคัมภีร์โบราณของปฐมจอมจักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์อีกด้วยความแข็งแกร่งของนางสูงเกินไปหากนางได้ประลองกับราชันบรรพบุรุษนาง สามารถสังหารเขาได้ในทันที
ราชันจักรพรรดิทั้งห้าของเผ่าพันธ์หมื่นเซียนโจมตีนางพร้อมกัน นางไม่มีเวลาแม้แต่จะหายใจจึงเป็นเหตุว่าทําไมสถานการณ์การต่อสู้จึงเป็นเหมือนการทุบตีข้างเดียว!
“โอ้ พระเจ้า! จักรพรรเผ่าพันธุ์มนุษย์ของข้า ข้าเกรงว่าพวกเขาจะอยู่ได้ไม่นาน…”
ห่างออกไปหลายหมื่นลี้ ผู้เฒ่าเขตแดนราชันศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ตัวสั่นด้วยความกลัว
แม้จะไม่สามารถมองเห็นสนามรบของจักรพรรดิได้อย่างใกล้ชิด แต่เขาได้ฝึกวิชาเนตรนภาซึ่งสามารถมองเห็นไกลเป็นระยะทางหลายหมื่นลี้มองเข้าไปในส่วนลึกของเขตต้องห้ามยุคแร้นแค้น และตราตรึงทุกสิ่งที่เขาเห็นในความว่างเปล่า
ในเวลานี้ เผ่าพันธุ์มนุษย์จํานวนนับไม่ถ้วนกําลังมองไปที่สนามรบที่ปรากฏบนท้องฟ้าหัวใจของพวกเขาสั่นสะท้านและรู้สึกสิ้นหวัง
แม้ว่าจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์จะต่อสู้ในศึกนองเลือดแต่จํานวนศัตรูนั้นมีมากเกินไป
เกรงว่าจะยืนหยัดอยู่ได้ไม่นาน
หากจักรพรรดิของเผ่าพันธุ์มนุษย์พ่ายแพ้ ใครเล่าจะหยุดราชันหมื่นเซียนที่น่ากลัวเหล่านี้ได้?
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทุกคนกลั้นหายใจและมองดูการต่อสู้อย่างกระวนกระวายใกล้กับศูนย์กลางของสนามรบมาก พื้นที่ก็ผันผวนอย่างกะทันหัน
ทันใดนั้นก็มีช่องทางมิติก็ปรากฏขึ้นและสุนัขดําตัวหนึ่งก็เดินออกจากช่องทางมิติ
ทันทีที่เดินออกมาพลังการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ของจักพรรดิในสนามรบก็กวาดไปทางนั้นทําให้สนัขต้องก้าวไปข้างหน้าและตีลังกาหน้าสองตลบ
แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือผลการโจมตีที่สามารถทําให้เขตแดนราชันจักรพรรดิถูกสังหารตายได้นั้นทําให้สุนัขด่าตัวนี้ตีลังกาไปสองตลบเท่านั้น
แม้แต่ขนที่เรียบลื่นบนตัวมันก็ไม่ได้หายไปเลยแม้แต่น้อย
“สุนัขดํางั้นรึ?”
“นี่… ในสนามรบของจักรพรรดิ สุนัขตัวนี้มาจากไหน?”
เผ่าพันธุ์มนุษย์จํานวนมากที่เฝ้าดูการต่อสู้กําลังส่งเสียงเอะอะ
แม้แต่ผู้เฒ่าเขตแดนราชันศักดิ์สิทธิ์ที่เฝ้าดูสถานการณ์การต่อสู้อยู่ในระยะห่างก็ยังสงสัยอยู่ครู่หนึ่งว่าตาของเขาฝาดมีอาการหลอนหรือไม่มิฉะนั้นแล้วทําไมเขาถึงเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว
แต่ในวินาทีต่อมาบางสิ่งที่น่าตกใจและพูดไม่ออกก็เกิดขึ้น
สุนัขดําตัวใหญ่ที่กลิ้งลงไปกับพื้นก็ลุกขึ้นอีกครั้งแล้วสบถสาปแช่ง!
“โฮ่ง! ใครกันที่ดวงตาไร้แววเช่นนี้กล้าที่จะโจมตีจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ผู้สูงส่งโดยไม่กลัวว่าจอมจักรพรรดาผู้นี้จะโกรธและทําให้เกิดการนองเลือด!”
สุนัขด่าดและส่ายหัวขนาดใหญ่ท่าทางดูโกรธมาก
มันเรียกตัวเองว่าเฮ้ยซีและมาจากเขาอู่จื่อ
ในอดีต มันเป็นแค่สุนัขสีดําตัวเล็กธรรมดาแต่เมื่อมันได้รับบาดเจ็บสาหัสใกล้ตายมันได้รับการช่วยเหลือและเลี้ยงดูโดยจอมจักรพรรดิอู่จื่อ
และในหลายปีต่อมา มันก็ได้หลอมสมบัติต้นกําเนิดราตรีศักดิ์สิทธิ์และปิดผนึกไว้ในภูเขาบรรพบุรุษ
ตอนนี้ ผ่านไปนับล้านปี สรรพชีวิตเวียนว่ายตายเกิด และมันก็ได้ตื่นขึ้นจากการหลับใหล
แต่ภายในภูเขาศักดิ์สิทธิ์คู่จื่อ ไม่มีร่องรอยของจอมจักรพรรดิอู่จื่อ
เดิมที่มันต้องการอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์คู่จื่อ เพื่อรอให้จอมจักรพรรดิอู่ฉอกลับมา
แต่ดูเหมือนว่าจะได้รับข้อความจากจอมจักรพรรดิอู่จื่อ ให้ปล่อยมันออกมาและทําภารกิจให้สําเร็จ
ตอนนี้จักรพรรดิได้ถือกําเนิดขึ้นบนยอดสูงของภูเขาศักดิ์สิทธิ์คู่จื่อ และลงมาที่นี่
และจักรพรรดิที่กําลังต่อสู้อยู่ที่ใจกลางสนามรบก็ยิ่งตกใจเมื่อเห็นสุนัขสีดําตัวนี้ปรากฏขึ้น
แม้แต่การต่อสู้ที่ดุเดือด ก็ยังต้องหยุดลง
“อ่า สุนัขดําที่สามารถพูดภาษามนุษย์ หรือว่านี่เป็นผู้ช่วยที่เผ่าพันธุ์มนุษย์เชิญมา?”
สิ่งมีชีวิตโบราณที่มีรูปร่างเหมือนนกหงส์ศักดิ์สิทธิ์พูดขึ้น น้ําเสียงเยาะเย้ยเล็กน้อย
จักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์กลั้นหายใจ มองไปยังจักรพรรดิดด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย
สัตว์ตัวนี้ มาจากไหน?
จักรพรรดิดก้าวไปข้างหน้า ถืออํานาจก้าวไปยังใจกลางสนามรบแล้วมองไปยังเหล่าจักรพรรดิที่หยุดด้วยความประหลาดใจโดยไม่มีความกังวลใจเลยแม้แต่น้อย
มันอ้าปากที่เป็นช่องลึกเปื้อนเลือดแดงฉานและเข้าไปใกล้สิ่งมีชีวิตโบราณที่ดูเหมือนจะเป็นจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์แล้วถือวิสาสะกล่าวว่า
“โองการของจอมจักรพรรดิอู่จื่อ มาแล้ว
ราชันหมื่นเซียนโบราณผู้สร้างหายนะให้กับโลกนี้และทําลายล้างสิ่งมีชีวิต พวกเจ้ากาลังรนหาที่ตายจักรพรรดิผู้นี้จะทําตามคําสั่งของจอมจักรพรรดิอู่จื่อสังหารพวกเจ้าทั้งหมด!”
อย่างไรก็ตาม คําพูดของจักรพรรดิ์ดําไม่ได้ทําให้ราชันหมื่นเซียนรู้สึกกระวนกระวายหรือให้ความสําคัญใดๆ
“จอมจักรพรรดิอู่จื่ออะไร? เจ้าสุนัขตัวน้อยกล้าดูถูกเรา ให้ตายเถอะ”
ราชันหมื่นเซียนพูดอย่างไม่แยแส และไม่ต้องการพูดอะไรอีก เขายื่นฝ่ามือออกและต้องการทําลายสุนัขอสูรด่าที่จู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้น
ในเวลานี้จักรพรรดิดารู้สึกโกรธมาก
“พวกเจ้า กล่าดีอย่างไรถึงมาดูถูกจอมจักรพรรดิอู่จื่อ!
โองการของจักรพรรดิอู่จื่อมุ่งเป้าไปที่สิ่งใด ไม่มีใครกล้าที่จะไม่เชื่อฟัง!”
จักรพรรดิดาโกรธมาก อ้าปากที่เปื้อนเลือดและประกาศโองการจากสวรรค์ ในทันใดนั้นฟ้าดินทั้งหมดก็สั่นสะเทือน
กระแสพลังแผ่ออกไปและแสงศักดิ์สิทธิ์ก็เปล่งประกายเหนือศีรษะของจักรพรรดิดราวกับอนุสรณ์นิรันดร์ส่องสว่างสิบทิศทาง
ความผันผวนของพลังยุทธ์ระดับสุดยอดที่รุนแรงราวกับมหาสมุทร ดูเหมือนว่าจะสามารถกําราบฟ้าดินได้!