จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 158 โลงศพโบราณเปิดออกจอมจักรพรรดิปรากฏ!
บทที่ 158 โลงศพโบราณเปิดออกจอมจักรพรรดิปรากฏ!
“โลงศพโบราณ!”
เหล่ายอดฝีมือนั้นตกตะลึงดวงตาของพวกเขาฉายแววความตกใจออกมาเล็กน้อย
แม้จะอยู่ห่างไกลโลงศพโบราณที่มีความยาวสามจั้งนั้นเหมือนเป็นศูนย์กลางของดินแดนนี้และกระแสพลังแห่งยุคสมัยนั้นหมุนเวียน ควบแน่นอดีตปัจจุบันและอนาคตผ่านกาลเวลาหลายล้านปี!
สิ่งที่ทําให้บุตรธิดาสวรรค์และเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนจํานวนมากตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือการที่พวกเขารู้สึกถึงเลือดที่สั่นไหวอยู่ในร่างกาย
ราวกับว่า บนแท่นสูงนั้นมีบรรพบุรุษโบราณของเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนถูกฝังไว้ในนั้นและเลือดของพวกเขาก็ก๋าทอนกับพวกนั้น
มันคือความทรงจําที่ฝังลึกอยู่ในสายเลือด แม้ว่าจะถูกซ่อนมาหลายล้านปีก็ยังยากที่จะเลือนหายไปแม้แต่เหล่าบุตรธิดาสวรรค์ ก็ไม่มีข้อยกเว้น!
“เมื่อหลายล้านปีก่อนเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนจะมีตัวตนที่ไร้เทียมทานเช่นนี้จริงรึ?”
องค์ชายหยวนและบุตรธิดาสวรรค์คนอื่นๆก็ตกใจเป็นอย่างมาก
พวกเขาเป็นทายาทแท้ๆของจอมจักรพรรดิหมื่นเซียน พวกเขาควรจะเป็นสายเลือดที่สูงส่งที่สุดในพิภพแต่บัดนี้พวกเขารู้สึกว่าเลือดของพวกเขากําลังเดือดดาลรุนแรงเสียยิ่งว่าตอนที่บิดาของพวก ยังมีชีวิตอยู่เสียอีก
สิ่งนี้ดูเหมือนว่าจะเพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าในโลงศพโบราณนั้นต้องมีตัวตนเหนือบิดาของพวกเขา!
“ขึ้นไปและรับรู้ความจริงทุกอย่าง!”
ดวงตาของบุตรธิดาสวรรค์ส่องประกายนัยน์ตาเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นแนร้อนแรงและพวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะก้าวไปข้างหน้า ต้องการที่จะปีนขึ้นไปบนแท่นหยกนี้และไขความจริงอันลึกลับเมื่อหลายล้านปีก่อน
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ดินแดนลับซึ่งถูกสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการมีอยู่ของตัวตนอันสูงส่งแห่งเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนเมื่อหลายล้านปีก่อน ทําไมระฆังจอมจักรพรรดิอู๋จื่อถึงดังแจ้งเตือนถึงที่แห่งนี้?” จักรพรรดิด่าพูดออกมาด้วยความเหลือเชื่อดวงตากลมโตราวกับระฆังทองแดงเต็มไปด้วยความสับสนงงงวยจนถึงตอนนี้ทุกสิ่งที่เปิดเผยออกมาในดินแดนลับนี้นั้นเกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนและไร้
ซึ่งความเกี่ยวข้องกับจอมจักรพรรดิอู๋จื่อ
แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น ทําไมระฆังอู๋จื่อถึงได้ดังออกมา?
รึว่าสิ่งที่เรียกว่าตัวตนสูงสุดแห่งเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนเมื่อหลายล้านปีก่อน จอมจักรพรรดิมิมรณะจะเกี่ยวข้องกับจอมจักรพรรดิอู๋จื่อ?
ด้วยความสงสัยเช่นนั้นในจิตใจ จักรพรรดิด หยุนรั่วซี เย่หลิงเสวี่ย และคนอื่นๆก็ได้ก้าวไปข้างหน้าและตามหลังไปอย่างใกล้ชิดดินแดนลับนี้กว้างใหญ่หลายล้านลี้และสมบัติวิเศษและโอสถชั้นยอดอยู่ทุกหนทุกแห่งราวกับเป็นดินแดนแห่งขุมทรัพย์
อย่างไรก็ตาม เคียงคู่กับการมีอยู่ของสมบัติวิเศษและโอสถเหล่านี้แล้ว ยังมีอันตรายไม่รู้จบหากไม่ระวังตัวจะจบชีวิตลงในทันที
ในขณะที่ทุกคนเดินไปข้างหน้าและสํารวจสมบัติต่างๆ
สิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนมากมายก็ได้จบชีวิตลงด้วยสาเหตุนี้ ส่วนเผ่าพันธุ์มนุษย์โชคยังดีที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บเพียงไม่กี่คนพวกเขาทั้งหมดได้ผลประโยชน์ที่ดี
โดยเฉพาะราชันผู้กําแหงแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่โดดเด่นอย่างเช่นเย่หลิงเสวี่ยหยุนรั่วซีและคนอื่นๆได้รับประโยชน์มากมาย
ท้ายที่สุด หลังจากสํารวจและต่อสู้ในที่สุดทุกคนก็มาถึงแท่นอันสูงใหญ่เมื่อมาถึงตรงนี้มันยิ่งยิ่งใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ
บันทอดยาวขึ้นไปบนแท่นหยกอันสูงใหญ่ มังกรล่องลอย วิหคเพลิงโบยบินเสือคํารามก้องปกคลุมไปด้วยหมอกเซียนภาพสัตว์เทพทั้งสี่มีความสมจริงเป็นอย่างมากเปี่ยมไปด้วยความสับสนวุ่นวายอันไร้ที่สุดหมุนวนรอบแท่นหยกอันสูงใหญ่นี้อย่างช้าๆเพิ่มความลึกลับและความยิ่งใหญ่
ด้านบนสุดของแท่นหยกอันสูงใหญ่โลงศพโบราณลอยอยู่เหนือสวรรค์ทั้งเก้า
แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวไม่รู้จบราวกับคลื่นอันปั่นป่วนของมหาสมุทรอันกว้างใหญ่แผ่กระจายไปทั่วฟ้าดินแม้อยู่ห่างไกลแต่ก็รู้สึกเกรงกลัวและยอมจํานนจากก้นบึ้งของหัวใจ”ไปกัน!”
เมื่อมาถึงที่นี่แล้วไม่มีใครมีความคิดที่จะถอยกลับ พวกเขาทั้งหมดปีนขั้นบันไดหยกโบราณและฝืนขึ้นไปขั้นบันไดหยกนั้นโบราณและเต็มไปด้วยความผันผวนของชีวิตมีแรงกดดันที่แผ่ออกมายิ่งสูงขึ้นไป แรงกดดันก็ยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆ
และสิ่งที่อัศจรรย์ก็คือแรงกดดันเช่นนี้ดูเหมือนจะมีจิตวิญญาณและขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่ง
ของผู้นั้น แรงกดดันก็จะรุนแรงต่างออกไป
ราวกับเป็นการคัดกรองและทดสอบขวางกั้นเส้นทางของทุกคน
ทุกคนก้าวไปข้างหน้าภายใต้แรงกดดันและเมื่อเวลาผ่านไประดับที่แตกต่างก็เริ่มปรากฏขึ้นให้เห็น
ระดับแรกคือ แน่นอนว่าเป็นพวกบุตรธิดาสวรรค์พร้อมด้วยเย่หลิงเสวี่ยและหยุนรั่วซีที่ไม่ได้ถูก
ทิ้งไว้ข้างหลัง พวกนางกําลังเดินไปพร้อมกับพวกบุตรธิดาสวรรค์
ระดับที่สองเป็นเผ่าต่างๆที่มีชื่อเลื่องลือรวมถึงยอดฝีมือโบราณที่มีชื่อเสียงมาช้านาน
ระดับที่สามคือพวกผู้ฝึกยุทธ์ที่ไม่แข็งแกร่งหรือมีความสามารถทั่วๆ ไป
“น่าสนใจ พวกนางตามพวกเราทันด้วย”
เมื่อมองไปที่ที่หยุนรั่วซีและเย่หลิงเสวี่ยที่กําลังปืนไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องดวงตาขององค์
ชายหยวนก็สั่นไหว และเป็นครั้งแรกที่เขาให้ความสําคัญเล็กน้อยต่ออัจฉริยะเผ่าพันธุ์มนุษย์สองคนนี้
ไม่ว่าอย่างไรการที่สามารถอยู่ระดับเดียวกับเขาได้ก็พอจะพิสูจน์ได้ถึงความสามารถของอีกฝ่ายได้
ท้ายที่สุด หลังจากปีนขึ้นมาอย่างยากลําาบากในที่สุดทุกคนก็มาถึงยอดของแท่นหยกอันสูงใหญ่นี้และเข้าหาโลงศพของมหาเทพ!
สถานที่แห่งนี้กว้างใหญ่เป็นอย่างมากโดยไม่มีสิ่งใดขวางกั้นสายตาในระยะหลายพันจั้ง
โลงศพโบราณของมหาเทพห้อมล้อมด้วยกระแสพลังอันโกลาหลและหมอกเซียน
เบื้องหน้าโลงศพมีอนุสรณ์ตั้งอยู่สลักด้วยอักขระหมื่นเซียนศักดิ์สิทธิ์!”นี่คือชีวิตของจอมจักรพรรดิมิมรณะ!”
ทุกคนก้าวเข้าไปเพื่อเป็นสักขีพยานในสิ่งที่จารึกไว้บนอนุสรณ์โบราณ
มันคือเรื่องราวชีวิตของจอมจักรพรรดิมิมรณะมันมีรายละเอียดมากกว่าจารึกบนประตูมิติหินก่อนหน้านี้และประวัติศาสตร์นี้ก็งดงามอย่างหาที่เปรียบมิได้เหนือกว่าจอมจักรพรรดิระดับสุดยอดทั่วไป เรียกได้ว่าแข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันยืนอยู่เหนือทุกเผ่าพันธุ์!
“จอมจักรพรรดิมิมรณะนี้มีตัวตนยิ่งใหญ่เฉกเช่นเดียวกันกับจอมจักรพรรดิสวรรค์แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์จอมจักรพรรดิอู่จื่อ หรือจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญงั้นรึ?”
สิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนต่างตัวสั่นสะท้าน
ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้เผ่าพันธุ์มนุษย์ยังคงมีร่องรอยของจักรพรรดิปรากฏขึ้นและไปยิ่งกว่านั้นตัวตนเช่นจอมจักรพรรดิสวรรค์จอมจักรพรรดิอู่จื่อจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญเป็นตัวตนที่เหนือพลังยุทธ์ระดับสุดยอดเสียอีกแต่เผ่าพันธุ์หมื่นเซียนนั้นกลับเงียบมาโดยตลอดแต่บัดนี้ความเงียบนั้นได้ถูกทําลายลงในที่สุด
เมื่อหลายล้านปีก่อนเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนก็น่าจะมีตัวตนเช่นนี้ อยู่เหนือวิถีแห่งจักรพรรดิและทรงอานาจเป็นอย่างมาก!
ในขณะที่ทุกคนจมดิ่งลงไปในรุ่งโรจน์ของประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ โลงศพที่ถูกคาดว่าฝังศพของจอมจักรพรรดิมิมรณะก็ได้สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและเปิดออก!
กระแสพลังเซียนอันโกลาหลปั่นป่วน เบื้องหน้าโลงศพโบราณ แสงศักดิ์สิทธิ์อันวิจิตรงดงามทั้งห้าสีมีร่างอันลึกลับที่แผ่ความยิ่งใหญ่อย่างไม่รู้จบราวกับผ่านกาลเวลามาหลายล้านปีปรากฏขึ้นอีกครั้งบนพิภพ!