จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 164 เตาโอสถกลืนสวรรค์ปรากฏจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญผู้แข็งแกร่ง!
- Home
- จอมบงการเทพยุทธ์
- บทที่ 164 เตาโอสถกลืนสวรรค์ปรากฏจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญผู้แข็งแกร่ง!
บทที่ 164 เตาโอสถกลืนสวรรค์ปรากฏจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญผู้แข็งแกร่ง!
“ประมวลเทพยุทธ์เหนือกว่าเล็กน้อย!ดาบสวรรค์มิมรณะล่าถอยแล้ว!”
“ช่างยากที่จะจินตนาการว่ายุทธภัณฑ์ที่จอมจักรพรรดิมิมรณะชื่นชมจะพ่ายแพ้…”
“ไม่ใช่ พูดให้ถูกต้อง มันไม่ได้พ่ายแพ้แค่มันด้อยกว่าเล็กน้อยเท่านั้น” ได้เป็นประจักษ์พยานของชัยชนะครั้งนี้ทุกสรรพชีวิตของพิภพนี้ต่างตกตะลึงถึงสุดขีด
ถึงแม้ดาบมิมรณะจะยังสมบูรณ์ไม่ได้รับความเสียหายเพียงแค่ล่าถอยและด้อยกว่าเล็กน้อย
แต่ในสายตาของชาวโลก มันเพียงพอที่จะพิสูจน์ปัญหาอะไรบางอย่างแล้ว
ดาบสวรรค์มิมรณะและประมวลเทพยุทธ์ทั้งสองต่างได้รับการพัฒนาวิถีและกฎเกณฑ์โดย
นายของตน มันเป็นการปะทะกันระหว่างจอมจักรพรรดิอู๋จื่อและจอมจักรพรรดิมิมรณะซึ่งแยกจากกันด้วยเวลาหลายพันปีแต่สิ่งนี้ก็ไม่อาจพิสูจน์ความต่างชั้นระหว่างทั้งสองได้แต่ในวันนี้ ดาบมิมรณะถูกกําราบระหว่างการปะทะ มันเพียงพอที่จะทําลายศักดิ์ศรีของจักรพรรดิมมรณะ
“โฮ่ง! จักรพรรดิผู้นี้บอกแล้วว่าการกําราบของประมวลเทพยุทธ์ที่นี่เทียบเท่ากับมือข้างหนึ่งของจอมจักรพรรดิอู่จื่อ
แล้วมือข้างหนึ่งของจอมจักรพรรดิ มันจะไปเหมือนกับตัวตนระดับสุดยอดทั่วๆไปได้อย่างไร”หลังจากเห็นผลของการต่อสู้นี้จักรพรรดิดก็พูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ
ในใจของมัน จอมจักรพรรดิอู๋จื่อเป็นตัวตนที่ไร้เทียมทานและความสําเร็จในวันนี้ก็เป็นข้อพิสูจน์ทุกสิ่ง
“ข้าไม่เชื่อว่าจะมีผู้ใดในพิภพนี้ที่เทียบกับจอมจักรพรรดิของข้าได้! นายท่านนั้นสูงส่งและอยู่ยงคงกระพันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน!”
ดาบมิมรณะสั่นสะท้าน สัมผัสวิญญาณนั้นเปี่ยมไปด้วยความโกรธและเหลือเชื่อ มันกลายเป็นดั่งหลุมดําดูดกลืนทุกสิ่ง ลอยสูงขึ้นไปในสวรรค์ทั้งเก้าดูดกลืนหมู่ดาวในบริเวณใกล้เคียง
ในช่วงเวลานี้ ดวงดาวทั้งหลายที่ใกล้เคียงกับดินแดนทั้งห้าล้วนมัวหมองและมืดลงพลังทั้งหมดของพวกมันลดลงและรวมเข้ากับร่างของดาบสวรรค์มีมรณะ
มันเป็นภาพที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนักท้องฟ้านั้นมืดมนและเงียบสงัด ดินแดนทั้งห้าตกอยู่ในความมืดไม่รู้จบราวกับว่าพวกเขาตกอยู่ในวันสิ้นโลก
ดาบสวรรค์มิมรณะโกรธเกรี้ยว มันเป็นยุทธภัณฑ์ที่ถูกหลอมสร้างขึ้นโดยจอมจักรพรรดิมิมรณะมันอยู่อยู่ยงคงกระพันมาอย่างช้านาน
แต่ตอนนี้มันกําลังทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของสมบัติวิเศษที่สร้างโดยจอมจักรพรรดิเผ่าพันธุ์
มนุษย์ สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้
ดังนั้น ในตอนนี้มันจึงรวบรวมพละกําลังทั้งหมดของมันโดยไม่สนผลข้างเคียงที่จะตามมาอีก ต่อไป เพื่อทําลายประมวลเทพยุทธ์และกอบกู้ชื่อของจอมจักรพรรดิมมรณะ!
เส้นทางช้างเผือกที่พาดอยู่บนฟากฟ้า ได้แผ่ขยายและปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า มันคือแสงดาบที่นับไม่ถ้วน แต่ละแสงดาบนั้นเพียงพอที่จะทําให้ท่าลายจอมยุทธ์ทุกคนใน พิภพ ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดยั้งมันได้
ในตอนนี้ แสงดาบอันกว้างใหญ่ราวกับทางช้างเผือกก็ได้ตกลงมา ไม่เพียงแต่ที่แดนร้างตะวัน ออก แต่เกรงว่าทั้งห้าดินแดนจะถูกฟาดฟันเป็นชิ้นๆ!
“นี่มันทรงอํานาจเกินไปแล้ว! สมบัติวิเศษทั้งสองได้ต่อสู้กัน หากเกิดการปะทะกันในครั้งนี้ ไม่ ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ข้าเกรงว่าดินแดนทั้งห้าจะทุกข์ทรมานเป็นแน่แท้” “บัดซบ นี่จะดีอย่างไร!”
“เสียสละยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ รวบรวมพลังยุทธ์ระดับสุดยอด ปกป้องเผ่าพันธุ์ของข้า!” ในตอนนี้ทุกสรรพชีวิตในพิภพต่างก็ตื่นตระหนก ดาบมิมรณะนั้นโกรธเกรี้ยวและไม่สนผลข้าง
เคียง มันได้ใช้พลังทั้งหมดเพื่อตัดอํานาจของพลังยุทธ์ระดับสุดยอดโดยไม่ยับยั้งตนเองอีกต่อไป อย่างที่ผ่านมา
ในตอนนี้ ทุกสรรพสิ่งล้วนไม่ได้อยู่ในสายตาของมัน
มันได้พยายามอย่างเต็มที่และใช้พลังอันยิ่งใหญ่เพื่อกู้ชื่อของจอมจักรพรรดิมิมรณะ!
แต่ด้วยเหตุนี้ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในดินแดนที่ยิ่งใหญ่ทั้งห้าจึงตกอยู่ในอันตราย
แม้ว่าประมวลเทพยุทธ์จะสามารถสกัดการโจมตีของดาบมิมรณะได้ แต่ผลพวงของการต่อสู้ ระหว่างทั้งสองก็เพียงพอที่จะทําลายดินแดนส่วนใหญ่ในดินแดนทั้งห้า
ช่วงเวลานี้ ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิแห่งเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนได้โบยบินขึ้นไปในสวรรค์ทั้งเก้า รวม
รวมพลังยุทธ์ระดับสุดยอดและปกป้องเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนที่อยู่เบื้องล่าง ลดทอนความสูญเสียให้
ได้มากที่สุด
เทียบกับเผ่าพันธุ์มนุษย์แล้วมันต่างกันโดยสิ้นเชิงเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นมีเพียงกระจกฟ้าว่างอยู่ชิ้นเดียวในฟากฟ้าปกป้องชีวิตที่อยู่เบื้องล่าง แต่เมื่อเทียบกับจํานวนประชากรเผ่ามนุษย์แล้วพื้นที่ถูกปกป้องนั้นราวกับเป็นหยดน้ำในมหาสมุทร
ในช่วงเวลานี้ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณภายในเขตต้องห้ามแห่งแดนร้างตะวันออกได้ตื่นขึ้น
ดวงตาที่ไม่แยแสเหล่านั้นมองไปออกไป แววตานั้นเย็นยะเยือกและไม่ได้แสดงประสงค์ใดๆแต่ก็
มีพลังสูงสุดได้ไหลเวียนปกป้องเขตต้องห้ามแห่งแดนร้างตะวันออกสําหรับยอดยุทธ์สูงสุดโบราณเหล่านี้การกลายเป็นเซียนนิรันดร์เท่านั้นถึงเป็นเรื่องสําคัญทุกสิ่งทุกอย่างในพิภพไม่มีสิ่งใดอยู่ในสายตาเขา
แม้ว่าสมบัติวิเศษทั้งสองนี้จะต่อสู้กันและทําลายดินแดนทั้งหมด ก็ไร้ซึ่งส่วนเกี่ยวข้องกับพวก”โอ๋ บัดซบ ดาบที่อยู่บนฟากฟ้า จะมีผู้ใดหยุดได้บ้าง?”
เมื่อสัมผัสถึงกระแสพลังทลายพิภพดวงตาของเย่หลิงเสวี่ยเผยถึงความวิตกกังวลนางอดไม่
ได้ที่จะมองเข้าไปในเขตต้องห้ามยุคแร้นแค้นเงียบๆ
ครั้งสุดท้ายที่นางเข้าไปในเขตต้องห้าม แม้ว่านางจะมองไม่พบจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญแต่นางก็รู้ว่าจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญอยู่ในเขตต้องห้าม
ในวันนี้ ผู้ที่จะพลิกสถานการณ์ช่วยสรรพชีวิตในดินแดนทั้งห้าและหยุดยั้งดาบนั้นได้เกรงว่าคงจะมีเพียงจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญเท่านั้น
ในขณะที่แสงดาบกําลังจะตกลงมาและทําลายทุกสิ่ง
เขตต้องห้ามยุคแร้นแค้นซึ่งเงียบมาอย่างยาวนานในที่สุดก็ไม่เงียบอีกต่อไปหมอกเซียน
กระจัดกระจายออกและแสงพุ่งออกตรงไปสู่สวรรค์ชั้นเก้า
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สําคัญนี้เตาโอสถกลืนสวรรค์ก็ได้ปรากฏ!
เตาโอสถกลืนสวรรค์นั้นสั่นไหวอย่างรุนแรงและค่อยๆเลือนรางจนในที่สุดก็กลายเป็นจอม
จักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญที่ถูกลืมยืนอยู่ในสวรรค์ทั้งเก้าอย่างสง่าผ่าเผยในพิภพ!
จอมจักรพรรดินีในชุดขาวที่แปลงมาจากเตาโอสถกลืนสวรรค์ ผมสีดําเงาปลิวไสวเด็ดเดี่ยวและดุดัน ราวกับนางฟ้าในพิภพ!
ในมืออันบอบบางของนางนั้น แจกันวิเศษแห่งวิถีปรากฏขึ้นและหันไปทางกระบี่มิมรณะ!
ในตอนนี้ดาบมิมรณะสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงทันใดนั้นมันก็มีความรู้สึกที่น่าขนลุกราวกับถูกจ้องมองโดยสิ่งมีชีวิตสูงสุดและความรู้สึกถึงภัยพิบัติที่กําลังใกล้เข้ามา!
ตู้ม!
พลังศักดิ์สิทธิ์พุ่งออกมาจากแจกันวิเศษในมือของจอมจักรพรรดินี ราวกับทะเลแห่งอํานาจอันกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุดกระจายไปหาแสงดาบทั้งหมดและทําให้ดาบสวรรค์มิมรณะจมอยู่ใต้พลังนั้น!เปรี้ยง!
นี่คือวิธีการอันสูงสุดของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ ทําลายความเลวขจัดความทรามเข้าปะทะดาบเหล่านั้นโดยตรงจนแสงดาบเหล่านั้นก็ได้มัวหมองลงอย่างถึงที่สุด
ในช่วงเวลานี้ ท้องฟ้าก็ได้เปิดกว้าง ความผันผวนที่ทําลายพิภพทั้งหมดสงบและถูกกําราบลงดินแดนที่ยิ่งใหญ่ทั้งห้ากลับสู่ความเงียบสงบราวกับว่าไม่เคยเกิดสิ่งใดขึ้นมาก่อนทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนทําให้สิ่งมีชีวิตในดินแดนทั้งห้าตกตะลึง
เตาโอสถกลืนสวรรค์แห่งจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญปรากฏขจัดภัยคุกคามทั้งหมดแม้แต่ดาบสวรรค์ก็ถูกกำราบ