จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 191 ขึ้นสู่เขตแดนราชันเซียนนิรันดร์ฉินมู่เยือนยมโลก!
บทที่ 191 ขึ้นสู่เขตแดนราชันเซียนนิรันดร์ฉินมู่เยือนยมโลก!
“สิบแปดร้อยล้านแต้มตกใจเพื่อยกระดับเขตแดนและจัดเตรียมดินแดนลับนั้นน่าจะเพียงพอ”
ฉินมู่คิดและชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก็ได้ตัดสินใจในที่สุดยกระดับเขตแดนพลังยุทธ์เป็นเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์!
จากเซียนส่องโลกาไปเป็นราชันเซียนนิรันดร์เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจอธิบายได้
เหนือศีรษะของฉินมู่ มีแสงเงาพยับหมอกส่องลงมาจากสวรรค์ในพยับหมอกนั้นดูเหมือนจะมีร่างที่คลุมเครือนั่งอยู่ส่องสว่างอดีตจวบปัจจุบันกฏทั้งมวลไม่อาจล่วงล้ำแม้แต่กาลเวลายังยากที่จะทิ้งร่องรอย!
ราชันเซียนนิรันดร์ หลุดพ้นจากทางโลกหากเซียนส่องโลกาเป็นเขตแดนลับที่ห้าของมนุษย์เช่นนั้นการฝึกฝนในระดับราชันเซียนนิรันดร์ก็เป็นเขตแดนลับที่หกของมนุษย์!
เหนือศรีษะสามฟุตมีเทพเทวา*!
(#=RB] ความหมายก็คือ หากเราจะทําสิ่งใดที่เป็นการดีหรือไม่ดี ให้เรานั้นจง สํารวมระวังไว้เพราะเหนือหัวเราขึ้นไปเพียงสามฟุตมีเทพเทวาคอยสอดส่องตรวจตราอย่าคิดว่าทําอะไรไปไม่มีใครรู้)
โฮสต์: ฉินมู่
เขตแดน: ราชันเซียนนิรันดร์
วิชายุทธ์: หนึ่งเดียวในเก้าสวรรค์สิบชั้นภพคัมภีร์ไร้เงาเร้นฟ้าดิน แปดลับเก้าสําเร็จกฏแห่งจอมจักรพรรดิสวรรค์
วิชาลับ: ใบไม้ร่วงเก้าฤดู เคล็ดวิชาสิบอัญมณีเดือด ระฆังจันทร์ สายฟ้าสงบ วินาศสิบทิศหนึ่งจู่โจมจอมบิดเบือน หมัดราชันต้นกําเนิด
แดนลับที่สร้าง: [เก้ามังกรลากโลง] [มรดกจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ] [ห้องโถงสําริดโบราณ] [มรดกกายาจักรพรรดิ] [ภูเขาศักดิ์สิทธิ์] [วังจอมจักรพรรดิอสูร] [หุบเขาต้นหม่อนศักดิ์สิทธิ์] [เส้น ทางนิรันดร์
“นี่คือพลังของเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์งั้นรึ?”
หลังจากตรวจดูสถานะของเขาในตอนนี้และรู้สึกได้ถึงพลังอันพุ่งพล่านในร่างกายฉินมู่ก็ก้าวออกและไปยังสุดขอบจักรวาล
เพียงชั่วความคิด ดวงดาวนับหมื่นก็ระเบิดเป็นฝุ่นผงที่เล็กที่สุดในจักรวาลในทันทีแต่ครู่ต่อมาฝุ่นผงดวงดาวเหล่านี้ก็ถูกจัดเรียงใหม่และฟื้นฟูอีกครั้งในทันที! เกิดตายการทําลายการสรรสร้าง ทุกอย่างเพียงเขาคิด!
และนี้เป็นเพียงแค่ความคิดของฉินมู่
หากเขาทําเต็มที่ เกรงว่าดวงดาวทั่วทั้งจักรวาลจะระเบิด จักรวาลจะล่มสลาย และกลับคืนสู่สภาพเดิม
นี่คือเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์!
ทําลายได้ทุกสิ่งสรรสร้างได้ทุกอย่าง
ณ เวลานี้ ฉินมู่ถึงกับรู้สึกว่าการสร้างจักรวาลโบราณเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องยาก
เขตแดนราชันเซียนนิรันดร์ ตอนนี้รากฐานก็ใกล้จะสมบูรณ์แล้ว”
ฉินมู่พูดกับตนเองอย่างใจเย็น
ในจักรวาลนี้ เพียงเซียนส่องโลกาก็เป็นตัวตนอันไร้เทียมทานอยู่แล้ว
แต่ทําไมฉินมู่ถึงเลื่อนเขตแดนพลังยุทธ์ของเขาไปถึงระดับเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์น่ะ?
เพราะว่าเหนือจักรวาลนี้ยังมีแดนนิรันดร์ในตํานาน!
แม้ว่าในแดนนิรันดร์ เซียนส่องโลกานั้นแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่เท่าไหร่
เหนือเซียนส่องโลกามียังมียอดฝีมือราชันเซียนนิรันดร์เหนือราชันเซ๊ยนนิรันดร์ยังมีกึ่งจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์และแม้กระทั่งจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์
ยิ่งไปกว่านี้ ระบบยังบอกด้วยว่ายังมีอีกสามเขตแดนอยู่เหนือจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์จึงเป็นข้อพิสูจน์ว่าในพิภพนี้มีตัวตนอันทรงอํานาจที่เหนือกว่าจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์อย่าง แน่นอน ซึ่งทั้งหมดนี้ฉินมู่ด้วยต้องการไปค้นหาคําตอบด้วยตัวเอง!
ฉินปูไม่ต้องการเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดหลังจากเข้าไปยังแดนนิรันดร์ ที่ทุกอย่างต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
เขาต้องการรวบรวมแต้มตกใจให้เพียงพอในจักรวาลนี้เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งของเขาก่อนเข้าสู่แดนนิรันดร์เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยและเป็นการเตรียมความพร้อมในการสร้างดินแดนลับแห่งถัดไป
“สามร้อยล้านแต้มตกใจ ถึงเวลาสร้างดินแดนลับอันยิ่งใหญ่ของจักรวาลนี้แล้ว”
ฉินมู่กล่าวออกมา
ดินแดนลับอันยิ่งใหญ่แน่นอนว่าต้องเกี่ยวข้องกับความจริงอันมืดมิดเมื่อหลายล้านปีก่อนซึ่งถูกเปิดเผยในดินแดนลับต่างๆมากมายที่ฉินมู่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้
ในตอนนี้ด้วยการเตรียมการของฉินมู่และเวลาที่ล่วงเลยวันที่ “ความจริง”จะถูกเปิดเผยก็ใกล้เข้ามาทุกที
ฉินมู่เองก็จําเป็นเตรียมการล่วงหน้าเพื่อที่จะสร้างดินแดนลับนี้!
ยมโลกสิ่งที่ลึกลับที่สุดในจักรวาลนี้
ในประวัติศาสตร์อันยาวนานยมโลกได้ปรากฏให้เห็นหลายครั้งแต่ทุกครั้งกลับเป็นเพียงแวบเดียวไร้ซึ่งร่องรอยใดหลงเหลือเลย
แม้แต่จอมจักรพรรดิยุทธ์ระดับสุดยอดโบราณเดินทางไปทั่วทั้งจักรวาลแต่ก็ยังหาได้พบไม่อย่างไรก็ตามการตามหายมโลกแน่นอนว่าย่อมไม่ใช่เรื่องยากสําหรับฉินมู่
เมื่อเขตแดนของเขาเลื่อนเป็นเซียนส่องโลกาทั้งจักรวาลก็ไร้ซึ่งความลับในสายตาของเขา
และสถานที่ซึ่งยมโลกซ่อนอยู่ย่อมไม่อาจหลุดพ้นจากสายตาของเขาได้
เพียงแต่มันไม่มีความจําเป็นก่อนหน้านี้เขาได้ใช้สัมผัสวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เพื่อสํารวจยมโลกที่นั้นมียอดยุทธ์สูงสุดโบราณเพียงไม่มีกี่คนหลับใหลอยู่ มันก็ไม่ได้แตกต่างจากเขตต้องห้ามอื่นๆในพิภพ เพียงแต่ว่าสถานที่นั้นลึกลับและซ่อนเร้นมากกว่า
ดังงั้น เขาจึงไม่เคยไปที่ยมโลก
และตอนนี้ เพื่อสร้างสุดยอดดินแดนลับก็ได้ถึงเวลาเข้าสู่ยมโลกแล้ว
“เปิด”
สุดขอบจักรวาลอันโดดเดี่ยวด้วยเพียงการนึกคิดของฉินมู่ห้วงมิติสั่นสะเทือนรอยแยกมิติที่ทอดยาวเกือบหมื่นลี้ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
เส้นทางสายหนึ่งปรากฏขึ้นห้อมล้อมรอบไปด้วยกระแสพลังโกลาหลเส้นทางที่จะนําไปสู่พิภพอันกว้างใหญ่และล้ำลึก
ฉินมู่ก้าวเข้าไปและเดินไปบนเส้นทางโบราณนี้ ไปสู่ยมโลกในตํานาน
ยมโลกอันกว้างใหญ่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ มันไร้ซึ่งชีวิตชีวาเต็มไปด้วยความตายและยังมีวิหารมีดอีกด้วย
“จ้าวแห่งเกาะสุขาวดี เจ้ามาเยือนยมโลกของข้าด้วยเหตุใด ?”
เสียงอันยิ่งใหญ่ ดังมาจากหนึ่งในวิหารโบราณเสียงที่ดังออกมาสั่นสะเทือนยมโลกอันกว้างใหญ่
แต่หากตั้งใจฟัง มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดในน้ำเสียงนี้
“ไม่มีอะไรหรอก ขอแค่จะมายืมสมบัติและชีวิตของเจ้า”
ฉินมู่กล่าวอย่างเรียบเฉย
“จ้าวแห่งเกาะสุขาวดี! พวกเราไร้ซึ่งความแค้นต่อกันพวกเราไม่เคยทําอะไรที่เป็นภัยต่อจักรวาลทําไมเจ้าถึงอยากเป็นศัตรูของพวกเรา?”
ยอดยุทธ์โบราณอีกตนในยมโลกกล่าวน้ำเสียงของเขาดูขุ่นเคืองเล็กน้อย
“เราไร้ซึ่งความแค้นต่อกัน แต่เจ้าบอกว่าไม่ได้ทําอันตรายจักรวาลงั้นรึ? เก็บเกี่ยวดวงวิญญาณของสิ่งมีชีวิตเพื่อยืดอายุขัยของตน อะไรคือความแตกต่างระหว่างสิ่งนี้กับยอดยุทธ์
สูงสุดผู้เริ่มกลียุคอันมืดมิด?”
ฉินมู่กล่าวพร้อมกับยิ้ม
เขาคือราชันเซียนนิรันดร์ ไม่มีความลับใดในจักรวาลนี้
แม้ยอดยุทธ์สูงสุดโบราณที่ซ่อนตัวในยมโลกเหล่าจะไม่เคยเริ่มกลียุคอันมืดมิดในจักรวาล
แต่ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่พวกเขาเก็บเกี่ยววิญญาณของสิ่งมีชีวิตที่กําลังจะตายอย่างเงียบๆดูดซับพลังแห่งวิญญาณเพื่อเสริมอายุขัยของตนเอง
การกระทําเช่นนี้ ก็ไม่ต่างจากยอดยุทธ์สูงสุดโบราณเพียงแต่มันถูกซ่อนเร้นและไม่เป็นที่รู้ต่อพิภพภายนอก