จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 197 พี่ชายของจอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญ?ตัวตนที่แท้จริงของจ้าวแห่งเกาะสุขาวดี!
- Home
- จอมบงการเทพยุทธ์
- บทที่ 197 พี่ชายของจอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญ?ตัวตนที่แท้จริงของจ้าวแห่งเกาะสุขาวดี!
บทที่ 197 พี่ชายของจอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญ?ตัวตนที่แท้จริงของจ้าวแห่งเกาะสุขาวดี!
ในเขตต้องห้ามสุขาวดีจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีเอ่ยปากตกลงตามคําขอเข้าพบของจอมจักรพรรดินี่เป็นข่าวที่น่าตกใจอย่างไม่ต้องสงสัย
ตัวตนสูงสุดทั้งสองจากเมื่อหลายล้านปีก่อนจะปรึกษาเรื่องอะไรกัน? มันเกี่ยวข้องกับความลับอันมืดมิดเมื่อหลายล้านปีก่อนด้วยรึไม่?
จอมจักรพรรดิสวรรค์และคณะได้กําราบกลียุคอันมืดมิดในพิภพจนหมดสิ้นแล้วจริงๆรึไม่?
ถ้าจริงแล้วทําไมประวัติศาสตร์ของพิภพถึงยังมีข้อบกพร่อง?
จักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญยังอยู่ในพิภพนี้แล้วจอมจักรพรรดิสวรรค์และจอมจักรพรรดิอู๋จื่ออยู่ที่ไหน?
มีคําถามมากมายยังคงค้างคาอยู่ในใจของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ที่ต้องการคําตอบ
แต่เบื้องหน้าเขตแดนนั้น ไร้ซึ่งผู้มีคุณสมบัติที่จะสอดส่องการสนทนาระหว่างจักรพรรดินีและจ้าวแห่งเกาะสุขาวดี
สิ่งมีชีวิตทั้งหลายมองเห็นเพียงเงาของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญที่ดูเหมือนกับนางฟ้าออกจากเขตต้องห้ามยุคแร้นแค้นและเข้าสู่เขตต้องห้ามสุขาวดีเพื่อไปพบกับจ้าวแห่งสุขาวดี!
เขตต้องห้ามสุขาวดี
ฉินมู่ผู้ซึ่งปรากฏในหน้ากากของจ้าวแห่งเกาะสุขาวดียืนเอามือไขว้หลังเขามองดูจอมเหตุการณ์ในวันนี้เขาได้คาดคิดไว้แล้วตั้งแต่ที่จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญปรากฏตัว”หลังจากรวมกับจิตแห่งเต๋าแล้วเจ้าก็แข็งแกร่งขึ้นบางทีข้าควรจะรวมจิตเต๋ากับเจ้าให้เร็วกว่านี้เพื่อที่เจ้าจะได้เดินบนเส้นทางทั้งสอง
ในเวลานั้นเส้นทางทั้งสองจะรวมกันเป็นหนึ่งและบางทีอาจจะขึ้นไปยังระดับที่สูงขึ้นได้”ฉินมู่มองไปที่จอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญและกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
“ในที่สุดก็ได้พบกันอีกครั้งตอนนี้ข้าได้ผสานรวมกับจิตแห่งเต๋าและได้ฟื้นคืนความทรงจําทั้งหมดของข้ายกเว้นเพียงการต่อสู้ครั้งสุดท้าย”
จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญมองที่ฉินมู่มีอารมณ์อันแปรปรวนซ่อนอยู่ในดวงตาคู่งาม”ข้าควรเรียกท่านว่าจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีหรือพี่ชาย?”
เสียงของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญแม้จะสงบแต่เมื่อดังออกมาก็ได้ทําให้เกิดความรู้สึกที่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้จากภาพจิตรกรรมฝาผนังของซากอารยะธรรมของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญก่อนหน้านี้ สิ่งมี ชีวิตทั้งหลายได้เห็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์เมื่อหลายล้านปีก่อนของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ
เป็นที่รู้กันว่าเมื่อนางยังเยาว์วัย นางอยู่กับพี่ชายคนหนึ่ง
แต่หลังจากนั้นไม่นาน พี่ชายของนางก็ได้หายตัวไปและจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญก็ได้เดิน
ไปบนเส้นทางอันยาวนานของการฝึกวิชาเพียงลําพังด้วยปณิธานตลอดชีวิตของนางคือการตามหาพี่ชายไม่ใช่เพื่อเป็นเซียนนิรันดร์แต่เพียงแค่รอให้เขากลับมายังโลก!
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครคาดคิดหรือแม้แต่จะกล้าที่จะจินตนาการว่าผู้ที่จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญกําลังตามหานั้นไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นจ้าวแห่งเกาะสุขาวดี!
จ้าวแห่งเกาะสุขาวดีเป็นพี่ชายของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญงั้นรึ?
นี่เป็นข่าวที่น่าตื่นเต้นอย่างไม่ต้องสงสัยเพียงพอที่จะทําให้สิ่งมีชีวิตทั้งปวงตกตะลึง!
“หยินหยิน เจ้าเติบโตขึ้นแล้ว”
ฉินมู่มองไปที่จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญพร้อมด้วยแววตาที่แสดงถึงความอ่อนโยนอาจกล่าวได้ว่าตัวตนจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญปรากฏขึ้นได้ด้วยน้ํามือของเขาเอง
และจิตแห่งเต๋าตัวน้อยของนางนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตเพียงหนึ่งเดียวที่อยู่กับฉินมู่มาเป็นเวลานานตั้งแต่ที่เขามายังพิภพนี้
หลังจากอยู่ด้วยกันมาในช่วงเวลานี้ฉินมู่เองก็ยังมีความเอ็นดูต่อหยินหยิน
การรวมตัวของจิตแห่งเต๋าและจอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญในวันนี้ แน่นอนว่าฉินมู่ก็ย่อมมีความรู้สึกบางอย่างต่อนางเช่นกันการสร้างและกลายเป็นตัวตนอย่างพี่ชายของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญเป็นสิ่งที่ฉินมู่เตรียมการไว้เมื่อนานมาแล้ว
ในครั้งแรกในจิตรกรรมฝาผนังของสถานที่ซึ่งมรดกของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญคัมภีร์มหายุทธ์กลืนสวรรค์ถูกซ่อนพี่ชายของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญในภาพจิตรกรรมฝาผนังได้ถูกจงใจซ่อนรูปลักษณ์ไว้โดยฉินมู่
ในครั้งที่สอง เขาปรากฏตัวด้วยรูปลักษณ์ของเทพในชุดขาวโดยมีแหวนสําริดอยู่ระหว่างนิ้วของเขา
ทั้งหมดนี้เพื่อเป็นการเตรียมสําหรับสิ่งนี้
หลังจากนั้น แน่นอนว่าเป็นการสร้างความทรงจําสําหรับจิตแห่งเต๋าของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยม
หาญแล้วจึงรวมกับจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญเพื่อให้เป็นจอมจักรพรรดินีที่สมบูรณ์…แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญนั้นจะไม่เป็นศัตรูกับเขาไม่ว่าในกรณี
ใดๆ?
ตัวตนที่สร้างขึ้นสําหรับเขาเองนั้นเรียกได้ว่าเป็นการรับประกันที่ไม่อาจทําลายได้
ในพิภพนี้ จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญอาจเป็นศัตรูกับใครก็ได้แต่มีเพียงกับฉินมู่เท่านั้นที่ไม่อาจเป็นศัตรูด้วยได้!
“หลังจากที่ท่านจากไปในอดีตข้าก็ค้นหาทุกที่แต่ไม่พบท่านพบแต่เพียงเบาะแสที่ท่านทิ้งไว้ในอดีต
ข้าตามเบาะแสเหล่านี้ ตั้งตารอคอยและในขณะเดียวกันก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จนการต่อสู้ครั้งนั่นมาถึง…”
จักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญพึมพํา
“เกิดอะไรขึ้นในการต่อสู้ครั้งนั้น? ข้าได้ฟื้นคืนความทรงจําทั้งหมด มีเพียงการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่ขาดหายไปจอมจักรพรรดิอู๋จื่อและจอมจักรพรรดิสวรรค์ไปไหน? ข้ายังมีชีวิตอยู่พวกเขาคงยังไม่ตายเช่นกัน”
“จอมจักรพรรดิอู๋จื่อและจอมจักรพรรดิสวรรค์ พวกเขาไม่ได้อยู่ในพิภพนี้แล้วทุกสิ่งที่เจ้าอยากรู้สามารถพบคําตอบได้ที่เส้นทางยมโลก”
ฉินมู่ตอบอย่างใจเย็น
“ดีล่ะ เช่นนั้นข้าจะไปที่นั่นเพื่อหาคําตอบ”
จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญพยักหน้า จากนั้นก็หรี่ตาลงเล็กน้อยและมองไปที่ฉินมู่
“แต่ตอนนี้ข้าอยากรู้ว่าเมื่อหลายล้านปีก่อน ทําไมท่านถึงสร้างสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ขึ้นมา?
ชักนําการเติบโตของข้ากลายเป็นอาจารย์ของพ่อของอู๋จื่อ ถ่ายทอดวิชากายาจักรพรรดิ
เลี้ยงดูอู๋จื่อ และฝึกฝนจอมจักรพรรดิสวรรค์..
ทั้งหมดนี้เพียงเพื่อให้พวกเราโตมาปราบสิ่งที่เรียกว่าความมืดมิดลงงั้นรึ?
ข้าไม่คิดเช่นนั้นแม้ว่าตอนนี้ข้าจะไม่มีความทรงจําส่วนนั้น แต่ข้ารู้ว่าสิ่งต่างๆ จะย่อมไม่ง่ายดายขนาดนั้นเป็นแน่”
ชักนําการเติบโตของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ ฝึกฝนจอมจักรพรรดิสวรรค์และครั้งหนึ่งได้เลี้ยงดูจอมจักรพรรดิอู๋จื่อ…
ข้อมูลมากมายเหล่านี้ระเบิดออกมาอย่างเหลือเชื่อ!