จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 214 การต่อสู้อันดุเดือด ราชันผู้กําแหงแห่งแดนนิรันดร์พ่ายแพ้!
บทที่ 214 การต่อสู้อันดุเดือด ราชันผู้กําแหงแห่งแดนนิรันดร์พ่ายแพ้!
การสัประยุทธ์ระหว่างสองดินแดนวิธีการประลองมีอธิบายไว้เฉพาะในโองการของราชันบรรพบุรุษ
แต่ละดินแดนจะต้องเลือกราชันผู้กําแหงที่แข็งแกร่งที่สุดมาเก้าคน เพื่อมาต่อสู้ที่ชายแดนร้างของทั้งสองดินแดนคนหนึ่งพ่ายแพ้ และอีกคนก็เข้าไปอยู่ในสนามกระทั่งการต่อสู้มาถึงจุดที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมรับความพ่ายแพ้หรือล้มตายจึงจะตัดสินผู้ชนะคนสุดท้ายได้!
นี่คือการต่อสู้ระหว่างสองดินแดนที่มีความบาดหมางกันอย่างนองเลือด ซึ่งไม่น่าเรียกว่าการประลอง
อย่างไรก็ตาม
หากเป็นการประลองตามปกติเป็นธรรมดาที่เมื่อพ่ายแพ้แล้วก็สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ได้
แต่ครั้งนี้ มันเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของทั้งสองดินแดนผลกระทบและความสําคัญนั้นกว้างไกลเป็นอย่างมากเกรงว่าผู้ที่ลงต่อสู้จะเลือกความตายมากกว่ายอมรับความพ่ายแพ้!
ผู้ที่ราชันเฉียนนํามาในครั้งนี้โดยพื้นฐานแล้วเรียกได้ว่าเป็นราชันผู้กําแหงรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุดของแดนนิรันดร์ถึงแม้จะไม่ครอบคลุมดินแดนนิรันดร์ทั้งหมดแต่ก็คล้ายคลึงกันทั้งเก้าคนนี้ เป็นยอดฝีมือสูงสุดของผู้เยาว์แห่งแดนนิรันดร์
ตอนนี้วิธีการต่อสู้ได้ถูกกําหนดแล้วการต่อสู้ระหว่างสองดินแดนจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า
“ข้าได้ฝึกฝนวิถีแห่งเต๋ามาสองล้านปีและข้าได้บรรลุเขตแดนเซียนแดนทมิฬแล้วรอดูได้เลย
ข้าจะสังหารพวกเจ้าเอง!”
ราชันผู้กําแหงแห่งแดนทมิฬก้าวออกมาด้วยท่าทางที่สง่างาม และมองไปรอบๆด้วยสายตาที่เปล่งประกายยิ่ง
สิ่งมีชีวิตจากแดนทมิฬ มีความสูงหลายสิบลี้มีสี่แขนและสามหัว มันดูแปลกและน่ากลัวอย่างเพียงสองล้านปีพลังยุทธ์ของเขาไปถึงเขตแดนเซียนนิรันดร์แล้วงั้นรึ?
ราชันผู้กําแหงจํานวนมากในแดนนิรันดร์ต่างตกตะลึงและรู้สึกกังวลใจ และเป็นครั้งแรกที่ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากผู้มาจากแดนทมิฬนี้ซึ่งสองล้านปีในการบรรลุเขตแดนเซียนนิรันดร์ซึ่ง
แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์และความแข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบมิได้
สําหรับแดนนิรันดร์ มันเป็นเรื่องยากเกินไปที่จะบรรลุเขตแดนเซียนนิรันดร์ที่แท้จริงควบคู่ไปกับอายุที่ยืนยาวในระยะเวลาสองล้านปีแต่ตอนนี้อีกฝ่ายเป็นเพียงราชันผู้กําแหงที่ออกมาอย่าง สุ่ม และก็ก้าวเข้ามาถึงเขตแดนนี้แล้วอดไม่ได้เลยที่จะทําให้ราชันผู้กําแหงหลายคนในฝั่งแดนนิรันดร์รู้สึกกดดันอย่างหาที่เปรียบมิได!
แม้ว่าสิ่งมีชีวิตที่เป็นนิรันดร์แห่งแดนทมิฬจะแข็งแกร่งมีพรสวรรค์และชั่วร้ายแต่ตอนนี้เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งเรียกร้องการต่อสู้แล้ว แดนนิรันดร์จึงไม่สามารถทําตัวอ่อนแอได้”สองล้านปีแห่งการฝึกฝนงั้นหรือ?ข้าก็อยากจะเห็นมันซะแล้วสิ~!”
เสียงมั่นใจดังขึ้น ราชันผู้กําแหงสวมชุดเกราะสีดํามีใบหน้าที่หล่อเหลาและร่างกายที่เพรียวบางก้าวออกมาดวงตาที่ชัดเจนของเขาเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
“ข้าชื่อหยินหลง เช่นเดียวกับเจ้าข้าฝึกวิถีแห่งเต๋ามาสองล้านปีแล้ว!” นี่คือราชันผู้กําแหงที่มีความสามารถแห่งแดนนิรันดร์ นอกจากนี้ยังเป็นผู้นําในรุ่นเดียวกันของ แดนนิรันดร์อีกด้วยเมื่อเห็นราชันผู้กําแหงของแดนทมิฬเริ่มอาละวาดเป็นปกติที่เขาจะไม่นั่งดู เฉยๆ ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นคนแรก!
“หยินหลง!”
“ดี! หยินหลง มังกรโกลาหลด้วยพรสวรรค์ของมังกรแม้ว่ามองไปในหมู่รุ่นเยาว์ในแดนนิรันดร์ก็ยากที่จะหาคู่ต่อสู้ได้ไม่เป็นปัญหาสําหรับเจ้าในการจัดการกับชายผู้นี้อย่างแน่นอน!”
“ข้าคือราชันผู้กําแหงแห่งแดนนิรันดร์แน่นอนว่าข้ามีพรสวรรค์และความภาคภูมิใจที่ไม่มีใครเทียบได้!”
การเผชิญหน้าอย่างแข็งขันของหยินหลงทําให้ราชันผู้กําแหงฝั่งแดนนิรันดร์ตื่นเต้นและหัวใจของพวกเขาต่างเดือดพล่าน
หยินหลงเป็นราชันผู้กําแหงที่ทรงอํานาจอย่างหาที่เปรียบมิได้
เขาเกิดที่เมืองเฉียนหวงแต่ทว่านับตั้งแต่ที่เขามีชื่อเสียงเพิ่มขึ้น เขาได้เอาชนะผู้คนในแดนนิรันดร์ไม่เพียงแต่ในหมู่รุ่นเยาว์ของเมืองเฉียนหวงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงราชันเซียนนิรันดร์ในเมืองอื่นๆ อีกด้วย
เมื่อเห็นว่าหยินหลงออกมาต่อสู้สายตาของสิ่งมีชีวิตในแดนทมิฬก็อ่อนลงเล็กน้อย
มองไปที่แดนนิรันดร์ทั้งหมดแม้ว่าความแข็งแกร่งของหยินหลงจะไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดในรุ่นเดียวกันแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ความสามารถของเขาราชันเฉียนเคยตรวจสอบด้วยตัวเองมาก่อน และในมุมมองของราชัน
เฉียนก็ไม่น่าจะมีปัญหาในการยืนหยัดต่อสู้กับฝั่งแดนทมิฬในตอนนี้
“หยินหลงรี? อาา”
ทางด้านแดนทมิฬราชันผู้กําแหงที่ยืนขึ้นพูดด้วยน้ําเสียงที่เย็นชา แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไร
อีก แต่ทุกคนก็สามารถได้ยินคําดูหมิ่นในคําพูดของเขาได้
“เจ้าไม่ต้องว้าวุ่นไปหรอก ข้าจะสังหารเจ้าเอง”
หยินหลงพูดอย่างใจเย็น แสงแห่งความมั่นใจฉายขึ้นในดวงตาของเขา
“ก่อนตาย จงเอ่ยนามของเจ้าซะเพื่อที่เจ้าจะไม่ต้องกลายเป็นผีนิรนาม”
“คนที่จะตาย สมควรจะพูดเรื่องนี้กับข้าด้วยงั้นรึ?”
ราชันผู้กําแหงจากแดนทมิฬพูดและคําพูดของเขาเปี่ยมไปด้วยการดูถูก
“มากเกินไปแล้ว! เจ้าคิดว่าจะชนะก่อนการขับเคี่ยวงั้นรึ?”
“ชายอย่างเจ้าควรได้รับบทเรียน!”
“เอาเลยหยินหลง เอาชนะมันให้ได้แสดงให้พวกมันเห็นถึงความแข็งแกร่งของราชันผู้กําแหงแห่งแดนนิรันดร์ของพวกเรา!”
ราชันผู้กําแหงแห่งแดนนิรันดร์หลายคนในฝั่งแดนนิรันดร์ต่างก็ตื่นเต้น พวกเขาทั้งหมดปรารถนาที่จะเข้ามาแทนที่หยินหลงและสั่งสอนราชันผู้กําแหงของแดนทมิฬนี้
“เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าร้องขอความตายงั้นข้าจะเติมเต็มความต้องการของเจ้าเองไม่ดื่มสุราคารวะดื่มแต่สุราลงทัณฑ์* !”
(SVPHA TZRZTH ไม่ดื่มสุราคารวะดื่มแต่สุราลงทัณฑ์สํานวนจีน ไม่ยอมรับการให้เกียรติต้องให้ใช้การบีบบังคับ)
หยินหลงโกรธจัด ความโกรธในใจของเขามาถึงจุดสูงสุดและในที่สุดเขาก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไปและเป็นคนเริ่มบุกโจมตี!
เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวชุดเกราะส่งเสียงดังกึกก้องและเคลื่อนที่ไปพร้อมกับเขาราวกับ
ว่าท้องฟ้ากําลังจะถล่มลงมาและบุกโจมตีไปข้างหน้า!
และราชันผู้กําแหงแห่งแดนทมิฬไม่ได้แสดงอาการตื่นตระหนกแต่อย่างใดแต่รอยยิ้มที่โหดร้ายปรากฏขึ้นบนมุมปากของเขาและเขาก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อต่อสู้กับหยินหลง!
ตัวตนที่มีเขตแดนเซียนนิรันดร์อยู่ในสงครามแล้วเพียงแค่ผลพวงจากการต่อสู้ก็สามารถตัดดวงดาวได้
ทั้งสองต่อสู้กัน และเมื่อพวกเขาขึ้นมาพวกเขาก็เข้าสู่สมรภูมิรบที่ร้อนระอุการต่อสู้นั้นดุเดือดจนถึงขีดสุดเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วทุกที่และการขับเคี่ยวครั้งแรกนั้นรุนแรงจนถึงขีดสุด!แต่ทว่า ผลลัพธ์สุดท้ายนั้นเกินความคาดหมายของราชันผู้กําแหงหลายคนขอนแดนนิรันดร์
หลังจากที่ทั้งสองต่อสู้กันเพียงไม่กี่รอบราชันผู้กําแหงแห่งแดนทมิฬก็ระเบิดพละกําลัง
ทั้งหมดของเขาและพลังของเขตแดนเซียนทมิฬที่ไม่สามารถต้านทานได้กําราบหยินหลงอย่างไร้ความปรานี
และเขาก็คว้าโอกาสนั่นเปิดฉากโจมตีโดยตรงสองแขนยื่นออกมาฉีกร่างกายของหยินหลง
เป็นชิ้นๆแม้แต่เกราะทองคําอมตะก็ไม่สามารถปกป้องร่างกายของหยินหลงที่ถูกฉีกออกเป็นสองชิ้นได!
จากนั้นหนึ่งในหัวของเขาก็ยื่นออกมาและกัดเข้าที่หัวของหยินหลงโดยตรง!
ตั้งแต่นั้นมาราชันผู้กําแหงแห่งแดนนิรันดร์หยินหลงก็พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์!คงไม่มีใครคิดว่าในการต่อสู้ครั้งแรกผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นนี้
ราชันผู้กําแหงที่ทรงอํานาจในฝั่งแดนนิรันดร์ได้เข้าต่อสู้แม้ว่าอีกฝ่ายที่เดินออกมาตามความ
ต้องการจะไม่เคยเป็นศัตรูกันแต่ความพ่ายแพ้นั้นก็น่าสลดใจเป็นอย่างมาก!