จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 277 การต่อสู้จบลงแล้ว อันตรายที่ยิ่งกว่า!
บทที่ 277 การต่อสู้จบลงแล้ว อันตรายที่ยิ่งกว่า!
การต่อสู้ของผู้กุมชะตานั้นยอดเยี่ยมจนถึงขีดสุดและก็น่ากลัวถึงขีดสุดเช่นกันพลังอันสูงสุดที่แม้แต่ผู้ที่ได้มาภายหลังก็ไม่อาจเป็นสักขีพยานได้การระเบิดครั้งนี้เกี่ยวโยงกับมิติอันไร้ที่สุดเกี่ยวข้องกับทุกสรรพสิ่งทุกยุคสมัยตลอดจนห้วงเวลาคู่ขนานและสถานที่ใน แม่น้ำนิรันดร์ทั้งหมดในนั้น
แต่ในสายตาของสวรรค์และทุกสรรพชีวิตนั้น มองเห็นเพียงสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าพวกเขาเท่านั้น ถึงกระนั้น การปะทะกันที่หาสิ่งใดเทียบได้ยากนั้น ในสายตาของสวรรค์และทุกสรรพชีวิต ต่าง ก็นเห็นเพียงเศษเสี้ยวของพลังของการต่อสู้ครั้งนี้เท่านั้น
กระบี่โบราณอยู่บนท้องฟ้า ถูกห่อหุ้มด้วยวิธีอันไร้ที่สุดของเซียนต้นกําเนิด เคลื่อนผ่านฟาก
ฟ้า แม้แต่แม่น้ำแห่งกาลเวลาอันที่ไร้ที่สุดก็ยังต้องหลีกทางให้มัน
ทุกห้วงมิติกาลเวลา สืบย้อนไปถึงจุดสิ้นสุดของยุคดึกดําบรรพ์ และจุดจบในอนาคต ทั้งหมดมี กระบี่นี้เป็นที่ประจักษ์
พิภพนี้แทบจะแบกรับความยิ่งใหญ่ของมันไม่ไหว ราวกับเป็นจินตนาการ และราวกับเป็น ตํานาน ได้รับการยกย่องจากสิ่งมีชีวิตนับร้อยล้าน จากกาลเวลาอันไร้ที่สิ้นสุด
และตราประทับโบราณชั่วร้ายอันมืดมิด ก็เป็นเช่นเดียวกับกระบี่โบราณที่ถูกซัดออกมาโดยผู้ โดดเดี่ยว มันได้ปรากฏในทุกห้วงมิติกาลเวลา แผชิญหน้ากับตัวอ่อนกระบี่โบราณ สั่นสะเทือน พิภพทั้งปวง
“อ๊ะ! ข้าเคยเห็นกระบี่นี้ข้ามผ่านแดนนิรันดร์ไป!”
“เมื่อแปดหมื่นปีก่อน ข้าก็เคยเห็นเหตุการณ์นี้!”
“อะไรนะ เมื่อหลายพันล้านปีก่อน มีผนึกแห่งความมืดต่อสู้กับกระบี่เหนือสวรรค์ทั้งเก้า!” ในตอนนี้ ฟ้าดินทั้งมวล สิ่งมีชีวิตนับร้อยล้านต่างก็มีส่วนของความทรงจําอยู่ในจิตใจ นั่นคือความทรงจําในอดีตของพวกเขา แม้ว่าจะไม่เคยปรากฏมาก่อน แต่ดูเหมือนจะปรากฏ ขึ้นมาเฉยๆ แต่ก็มีอยู่จริง
นี่เป็นเพราะพลังของการต่อสู้ระหว่างสองผู้กุมชะตาได้สัมผัสมิติกาลเวลา และมิติเวลาก็ได้
ตอบสนองต่อสิ่งนั้น
พวกเขาต่อสู้ในอดีตและปัจจุบัน เป็นธรรมดาที่จะทิ้งร่องรอยไว้ในอดีตและปัจจุบัน และถูกรับ
รู้โดยสิ่งมีชีวิตในอดีต
ความทรงจําที่ผุดขึ้นมาจากความว่างเปล่าก็เป็นผลมาจากการที่ประวัติศาสตร์เปลี่ยนไป! ในเขตแดนจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์ ผู้กุมชะตามีอยู่จริง ทุกการเคลื่อนไหวสามารถเปลี่ยน กระบวนการทั้งหมดของประวัติศาสตร์โบราณได้
นอกจากตัวตนของซึ่งกันและกัน ประวัติศาสตร์ทั้งหมดที่สิ่งมีชีวิตทั้งหลายรับรู้ได้ อาจไม่เป็น
ความจริงเสมอไป
เพราะประวัติศาสตร์ ในสายตาของผู้กุมชะตา อยู่ในทุกๆ ที่!
ย้อนกลับไปยังชายแดนร้างแดนนิรันดร์ ตอนที่ผู้โดดเดี่ยวและจอมจักรพรรดิสวรรค์กลับมา
จากแม่น้ำแห่งกาลเวลา ต่อสู้กับราชันบรรพบุรุษทมิฬอันหรานและคนอื่นๆ
ในตอนนั้น เขายังไม่บรรลุเป็นผู้กุมชะตา
และราชันบรรพบุรุษอันหราน เนื่องจากการลงมือต่อผู้โดดเดี่ยวเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน ได้ ละเมิดข้อห้ามแห่งกาลเวลา จึงดึงดูดผู้โดดเดี่ยว จอมจักรพรรดิสวรรค์และคนอื่นๆ
กาลเวลาไม่สามารถเป็นหนึ่งเดียวได้ แม้ว่าจะเป็นตัวตนอย่างราชันเซียนนิรันดร์ ก็สามารถถูก เรียกตัวผ่านกาลเวลาได้ แต่อย่างมากที่สุดที่สามารถทําได้ก็คือเป็นสักขีพยานต่อประวัติศาสตร์ เท่านั้น เนื่องพวกเขาถูกผูกมัดด้วยกฎของฟ้าดิน ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งใดๆ ได้
แต่ทว่าในสายตาของผู้กุมชะตานั้นมันไม่ได้มีความสําคัญใดๆ
ทุกสิ่งในพิภพยกเว้นแต่เพียงตัวตนของผู้ที่อยู่ในเขตแดนเดียวกันขึ้นไปต่างก็ตกอยู่ภายใต้ผู้
กุมชะตา
เรื่องราวทั้งหมดที่อยู่ในจิตใจของผู้ที่ได้มาภายหลัง พวกเขาสามารถเปลี่ยนแปลงและปรับ
แต่งตามต้องการได้อย่างง่ายดาย!
พลังกฎแห่งฟ้าดินของวิถีนับหมื่นไม่อาจเป็นอุปสรรคต่อพวกเขาได้
นี่คือพลังของผู้กุมชะตา!
การต่อสู้ระหว่างจอมจักรพรรดิผู้โดดเดี่ยวและจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์แห่งความมืด สั่น
สะเทือนตลอดกาล
เปล่า
พลังอันยิ่งใหญ่นั้น ดูเหมือนจะทําลายประวัติศาสตร์โบราณทั้งหมดให้กลายเป็นความว่าง
เป็นการประชันระหว่างพลังอันไร้ขอบเขต เว้นเสียแต่ผู้ที่สัประยุทธ์ ผู้อื่นต่างไร้ซึ่งอํานาจใดๆ ที่จะเข้าไปแทรกแซงได้ อย่าว่าแต่เปลี่ยนแปลงใดๆ เลย
สิ่งมีชีวิตที่อ่อนไหวและโหดเหี้ยมทั้งหมดในพิภพ ทําได้เพียงอธิษฐานและหวังอย่างเงียบๆ
ให้จอมจักรพรรดิผู้โดดเดี่ยวสามารถคว้าชัยชนะครั้งสุดท้ายในการต่อสู้ครั้งนี้
แล้ว
มิฉะนั้น สิ่งที่กําลังรอพวกเขาอยู่ จะเป็นจุดจบที่น่าเศร้าโดยไม่ต้องสงสัย
ทุกความเป็นความตาย ทุกช่วงเวลา ได้แต่โอดครวญในความมืด
การต่อสู้ครั้งนี้ ดูเหมือนจะกินเวลาเพียงช่วงเวลาสั้นๆ และก็ดูเหมือนจะผ่านไปหลายสิบล้านปี
ความโกลาหลกําลังเดือดดาลแม่น้ำแห่งเวลาปั่นป่วนสวรรค์ทั้งหมดและพิภพนับหมื่นสั่นสะเทือนหมื่นวิถีคราม………
เป็นการยากที่จะอธิบายถึงการต่อสู้ครั้งนี้ว่ายิ่งใหญ่และสะดุดตาเพียงใด
เกรงว่านี่จะเป็นการต่อสู้ครั้งแรกตั้งแต่พิภพถือกําเนิดและก็เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายเช่นกัน!
ในการต่อสู้ครั้งนี้เป็นการปะทะระหว่างจุดสุดยอดแห่งอํานาจในพิภพ เรียกได้ว่าพอที่จะกึกก้องไปทุกยุคสมัย!
ที่สุด
ไม่รู้ว่าผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหนเมื่อสิ่งมีชีวิตทั้งหมดตั้งสติได้การต่อสู้ก็ดูเหมือนจะจบลงในจอมจักรพรรดิผู้โดดเดี่ยวถือกระบี่จอมจักรพรรดิสูงสุดในมือสีหน้าของเขาเรียบเฉย
ปลายกระบี่จอมจักรพรรดิกระบี่มีเลือดสีดําไหลลงมาและหยดลงหยดหนึ่งมันมีพลังมหาศาลเพียงพอที่จะทําลายจักรวาล
ฝั่งตรงข้ามของเขาจักรพรรดิเซียนนิรันดร์แห่งความมืดผู้ที่ก่อนหน้านี้เย่อหยิ่งบัดนี้ตกอยู่ความโกลาหลร่างกายถูกผ่าครึ่งด้วยกระบี่จอมจักรพรรดิน่าสังเวชอย่างหาที่เปรียบมิได้!
“จอมจักรพรรดิผู้โดดเดี่ยวเป็นฝ่ายชนะ!”
“โอ้สวรรค์! จอมจักรพรรดิผู่โดดเดี่ยวชนะแล้ว พวกเรารอดแล้ว!”
“ยอดเยี่ยม! ยอดเยี่ยม! จอมจักรพรรดิผู้โดดเดี่ยว ยิ่งใหญ่ตลอดกาล!”
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่ได้เห็นฉากนี้ ต่างก็รู้สึกปลาบปลื้มและโห่ร้องด้วยความยินดี
ในความเห็นของพวกเขาการต่อสู้ได้สิ้นสุดลงแล้ว
และจอมจักรพรรดิผู้โดดเดี่ยวเป็นฝ่ายชนะการต่อสู้ระหว่างผู้กุมชะตาอย่างไม่ต้องสงสัย
กําราบคู่ต่อสู้ของเขาผู้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้ายที่สุดในรอบหลายพันล้านปีจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์แห่งความมืด!
อย่างไรก็ตาม แตกต่างจากสีหน้าความสุขและความยินดีของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจอมจักรพรรดิ
ผู้โดดเดี่ยวมีสีหน้าที่สงบนิ่งเป็นอย่างมาก จนถึงกับดูเคร่งขรึมอยู่เล็กน้อย!
เนื่องจากเขาเป็นเพียงผู้เดียวที่รู้ถึงความจริงอันหนักอึ้งในการต่อสู้ครั้งนี้เขาไม่ได้เอาชนะจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์แห่งความมืดอย่างไรก็ตามความรู้สึกทางจิตวิญญาณกําลังบอกเขา
ความพ่ายแพ้ของจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์แห่งความมืดเป็นเพียงจุดเริ่มต้นต่อไปจะมีความท้าทายที่ยิ่งใหญ่และอันตรายกว่ากําลังรอเขาอยู่!