จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 285 ในขณะที่คิด เซียนต้นกําเนิดดับสูญ!
บท 285 ในขณะที่คิด เซียนต้นกําเนิดดับสูญ!
ps: มาละครับ ช้าหน่อยนะครับมีปรับแก้บทก่อนตอนท้ายๆเพื่อให้สอดคล้องกันกับบทนี้”เต๋าสูงสุด?”
ในความโกลาหล กระแสพลังของจอมจักรพรรดิผู้โดดเดี่ยวก็หมุนรอบตัวของเขาและความคิดนี้ก็เกิดขึ้นในใจ
ในความเป็นจริงแรงกดดันที่ปล่อยออกมาจากฉินมู่อย่างต่อเนื่องนั้นไม่ได้พุ่งเป้าไปที่เขาดังนั้นจอมจักรพรรดิผู้โดดเดี่ยวจึงสามารถคิดได้
มิฉะนั้น แรงกดดันก็จะแพร่กระจายเวลาจะสูญสิ้นพื้นที่จะไม่มีอยู่อีกต่อไปทุกอย่างจะสูญเสียความหมายไปและความคิดของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจะหยุดนิ่งอยู่กับมันตามธรรมชาติ และ
แม้แต่ความคิดเพียงเล็กน้อยก็จะไม่เกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้เมื่อนานมาแล้วจ้าวแห่งเกาะสุขาวดีที่จุติโดยฉินมู่ได้ไขกระจ่างถึงข้อสงสัยของเขาผู้โดดเดี่ยวจึงเริ่มตระหนักถึงความไม่ธรรมดาของฉินมู่
แต่อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยคาดคิดว่าฉินมู่นั้นจะเหนือกว่าถึงขั้นนี้
เต๋าสูงสุด เต๋าสูงสุด
เกรงว่าเต๋าสูงสุดนี้ คือสิ่งที่เรียกว่าบรรพบุรุษแห่งวิถี เขตแดนไร้ขอบเขตของวิถีแห่งเต๋า!เมื่อเผชิญกับตัวตนเช่นนี้ดูเหมือนว่าเซียนต้นกําเนิดจะไม่ใช่คู่เปรียบ
เพียงแค่เห็นการสําแดงในปัจจุบันของตัวตนของเซียนต้นกําเนิดลึกลับนี้ ก็เพียงพอที่จะรู้ว่าน่าสะพรึงกลัวเพียงใด
“อดีตของข้าเป็นสิ่งที่เซียนต้นกําเนิดสามารถสอดแนมได้อย่างงั้นรึ?”
ฉินมู่มองย้อนกลับไป มองไปยังตัวตนเซียนต้นกําเนิดด้วยท่าทีที่สงบและดูเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้มออกมา
“ข้าไม่รู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับท่านดังนั้นข้าจะล่าถอยและจะไม่เหยียบย่ำพิภพนี้อีก”
การมีอยู่ของเซียนต้นกําเนิดนั้นน่าหวาดกลัวจนถึงขีดสุด
แม้ว่าเขาจะมาที่นี่ด้วยเศษเสี้ยวของจิตวิญญาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแต่เมื่อตัวตนของบรรพบุรุษแห่งวิถีนั้นเข้ายุ่งเกี่ยวกับกรรมและชําเลืองมองแค่เพียงครั้งเดียวก็จะรู้ได้ว่าอีกฝ่ายนั้น
ควบคุมวิถีแบบใด
เมื่อรู้ถึงวิถีที่อีกฝ่ายพึ่งพาจะสนใจไปทําไมว่าตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่ายนั้นอยู่ที่ไหน?เมื่อเต๋าสูงสุดมาอยู่ตรงหน้าก็เพียงแค่ย้อนกลับไปและถอดวิถีแห่งเต๋าที่เขาฝึกสําเร็จออกไป
เขาก็จะตกจากเขตแดนเซียนต้นกําเนิดโดยธรรมชาติ
ดังนั้น ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่นั่นจริงๆ หรือไม่ ก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างใดๆ
“โทษตายงดได้ แต่โทษเป็นมิอาจละ เมื่อได้มายังพิภพนี้แล้ว ก็จงดับสูญไปเสียเถอะ”
ฉินมู่พูดอย่างใจเย็นและไม่แยแส
ขณะที่พูด เขายื่นฝ่ามือซึ่งขาวราวกับหยกไปที่เซียนต้นกําเนิดอันลึกลับ
“บูม!”
หมื่นวิถีคํารามสร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วฟ้าดิน
ฝ่ามือสีขาวหยกที่ยื่นออกมานั้นเปล่งกระแสพลังอันน่าสะพรึงกลัวอย่างไม่น่าเชื่อในทันทีห้านิ้วกางออกฟ้าดินทั้งหมดจักรวาลอันไร้ที่สุดอยู่ในฝ่ามือของเขา!
มันเป็นฉากที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งในขณะที่ฉินมู่เคลื่อนไหว กระแสพลังที่น่าสะพึงกลัวก็คุกคามฟ้าดินดูเหมือนจะพลิกกลับด้านอย่างสมบูรณ์ทุกสิ่งในพิภพดูเหมือนจะถูกบดบังด้วยฝ่ามือสีขาวราวกับหยกนั้น
ในขณะที่ฝ่ามือนี้กําลังกดลงไปมันได้ปิดกั้นทุกสิ่งรอบๆ เซียนต้นกําเนิด
เวลาทั้งหมดมิติทั้งหมดการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด ทุกอย่างถูกสะกัดกั้นดูเหมือนว่าช่วงเวลาที่ฉินมู่กําลังโจมตีนั้นกรรมก็ได้ถูกสร้างขึ้นผลก็ถูกกําหนดไว้ล่วงหน้าและความเป็นไปได้ทั้งหมดล้วนถูกปิดกั้นทําลาย
ไม่ว่าเซียนต้นกําเนิดนี้จะต่อต้านอย่างไรผลลัพธ์ที่เป็นไปได้เพียงอย่างเดียวก็รอเขาอยู่นั่นคือการถูกฝ่ามือสีขาวราวกับหยกกดลงและกําจัดออกไปอย่างสมบูรณ์!
“โปรดเมตตา โปรดเมตตา!”
เซียนต้นกําเนิดตกอยู่ในความตกตะลึงเมื่อเห็นฝ่ามือสีขาวหยกกําลังกดลงมาและความรู้สึกสิ้นหวังก็ฉายชัดในดวงตาของเขา
ในความเป็นจริง สําหรับเขาแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ที่จุดสูงสุดในตอนนี้และกําลังจะล่วงหล่นจากเขตแดนนี้อีกทั้งจิตวิญญาณที่มายังพิภพแห่งนี้ก็ไม่ได้มีอะไรแม้ว่าจะสูญสิ้นไปก็ไม่เจ็บไม่คัน
แต่ทว่า ตัวตนของเซียนต้นกําเนิดที่หวาดกลัวไม่ใช่เพราะการเปลี่ยนแปลง
แม้ว่าก่อนหน้านี้ฉินมู่จะแค่เอ่ยปากว่าเพียงแค่เศษเสี้ยวจิตวิญญาณของเขาเท่านั้นที่จะถูกสังหารและไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวตนอื่นของเขา แต่เซียนต้นกําเนิดก็ยังไม่สามารถดีใจได้เลย แม้แต่น้อยทําไมล่ะ?
เพราะจากการโจมตีของตัวตนเต๋าสูงสุดเศษเสี้ยวของจิตวิญญาณของเขาจะดับสูญไปอย่างแน่นอนและการสูญสิ้นนี้จะเป็นการทําลายร่องรอยของกรรมและมิติเวลาทั้งหมด
ด้วยวิธีนี้ อย่างมากที่สุดเขาก็สามารถรับรู้ได้ถึงเพียงการสูญสิ้นจิตวิญญาณของเขาเท่านั้นแต่เขาไม่มีทางรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อเป็นเช่นนี้ตามลักษณะนิสัยของเขาแม้ว่าคราวนี้เขาจะสามารถหลีกเลี่ยงไปได้ชั่วคราวแน่นอนว่าในที่สุดเขาก็จะเข้ามายังดินแดนนี้อีกครั้งทั้งทางกว้างและลึก
ในเวลานั้น ถ้าหากไปยั่วยุตัวตนเต๋าสูงสุดนี้อีกครั้งชีวิตของเขาจะไม่สูญสิ้นเลยงั้นหรือ?
สิ่งนี้เป็นไปได้มากที่จะเกิดขึ้น!
ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากการโจมตีของฉินมู่ในตอนนี้เขาจึงไม่สามารถถ่ายทอดข้อความและบอกผู้ใดได้เลย ….
หากเขาผู้นี้รู้ว่ามีบรรพบุรุษแห่งวิถีในสถานที่แห่งนี้จะไม่แม้แต่จะคิดเรื่องนี้จะอยู่ให้ห่างไกลจากพิภพนี้และไม่กล้าแม้แต่จะเข้าใกล้เลยด้วยซ้ำแต่ตอนนี้ปัญหาคือเขาผู้นี้ไม่รู้!
เมื่อนึกถึงการมาของเขาผู้นี้ในอนาคตก็อาจเป็นเช่นตอนนี้อีกครั้ง ถูกก่าราบโดยบรรพบุรุษแห่งวิถีนี้ในตอนนี้เซียนต้นกําเนิดก็มีความรู้สึกอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยดแต่อย่างไรก็ตามถึงกระนั้นเขาก็ไม่สามารถทําอะไรได้ในตอนนี้ทําได้เพียงเฝ้าดูเหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้น
ฝ่ามือขาวหยกตกลงมาครอบคลุมฟ้าดินห่อหุ้มด้วยกระแสพลังแห่งการกําราบเกือบจะใกล้เคียงกับวิถีแห่งเต๋า
ตัวตนของเซียนต้นกําเนิดนี้ ไม่มีความคิดหรือการกระทําที่จะต่อต้านเลยแม้แต่น้อยเขาถูกบดขยี้จนเป็นเถ้าถ่านด้วยฝ่ามือขาวราวกับหยกนี้และก็หายไป
ทันทีที่ฝ่ามือขาวตกลงมาฟ้าดินก็กระจ่างสว่างไสวมากขึ้นไม่มีร่องรอยของตัวตนเซียนต้นกําเนิดในพิภพอีกต่อไป!
ในตอนนี้ ทุกการเคลื่อนไหวล้วนเป็นวิถีแห่งเต่าแต่ไม่ได้แสดงออกถึงกระแสพลังแห่งการกําราบและความอยู่ยงคงกระพันไร้ที่สิ้นสุด
จนถึงขณะนี้ สิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกในพิภพทั้งหมดได้รับการปลดปล่อยจากมิติที่ต่ำกว่าและกลับสู่มิติเดิมและในเวลาเดียวกันความคิดของพวกเขาก็กลับคืนมา
เซียนต้นกําเนิดที่น่าสะพรึงกลัวล้มลงได้ง่ายขนาดนั้นเลยงั้นรึ?
เซียนต้นกําเนิดล้มลงสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในพิภพล้วนอยู่ในภาวะชะงักงัน
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไปตั้งแต่การโจมตีจากเซียนต้นกําเนิดไปจนถึงการปรากฏตัวของฉินมู่ที่น่าตกตะลึงอีกทั้งการโจมตีของฉินมู่
ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นในเวลาเพียงชั่วครู่สั้นจนดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น!
PS: อธิบายเพิ่มเติมก็คือตัวเซียนต้นกําเนิดที่มายังพิภพนี้ไม่สามารถบอกตัวเองที่อยู่ในพิภพอื่นได้ดังนั้นตัวตนในพิภพอื้นจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่แล้วก็มีสิทธิ์ที่จะมาอีกครั้งอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่