จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 56 แท่นสักการะเทพเซียน กดดันทั่วสวรรค์อันเป็นนิรันดร์
ตัวนหยุนเชิงแสดงสีหน้าอันไม่น่าดูเป็นอย่างยิ่ง ท้องไส้ของเขาปั่นป่วนเมื่อรู้ว่ากระดูกที่เขาได้กัดแทะไปสองสามครั้งนั้นอาจจะเคยถูกสุนัขเลียมาก่อนก็แทบจะอาเจียนออกมา
ด้วยความเร่งรีบเขาจึงไม่มีเวลาที่จะตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน
แต่ตอนนี้เมื่อผนวกกับ’ขนสุนัขที่ถูกพบเขาคาดว่าน่าจะรู้ความจริงของเรื่องนี้ถึงแปดส่วนแล้ว
ที่นี่น่าจะเป็นบ้านของสุนัขอสูร
ปรากฏว่า ฟูกนี้เป็นที่นอนของสุนัขอสูร และกระดูกที่ถูกเลียก็ได้ถูกเก็บไว้ราวกับเป็นสมบัติ
สันนิษฐานว่ารูบนฟูกก็เป็นฝีมือของสุนัขอสูรด้วย
ตัวนหยนเชิงนั้นหดหูและบ้าคลั่ง ส่วนผู้ฝึกฝนเผ่าพันธุ์มนุษย์จํานวนมากก็รู้สึกสับสน
ทําไมถึงมีขนสุนัขอยู่ที่นี่
ไปได้ไม่ว่ามันยังมีชีวิตอยู่ ?
รีว่ามันเข้ามาที่นี่ในภายหลัง ?
ผู้นํากองกําลังสูงสุดทั้งห้าคิดอยู่นานก็ยังคิดไม่ออก
สุดท้ายก็พาศิษย์ออกไปจากที่นี่และกลับไปสารวจต่อ
แต่ครั้งนี้ ฝีเท้าของพวกเขาช้าลงกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม เป็นไปได้ว่าอาจมีสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักอยู่ที่นี่ จะเป็นการดีถ้ามันมีขนาดเล็ก
ทุกคนออกเดินทางผ่านทางเดินโบราณและในที่สุดก็มาถึงอีกฟากหนึ่ง
นี่คือโถงใต้ดินที่กว้างใหญ่ไพศาลจนไม่น่าเชื่อ
ทันทีที่ทุกคนมาถึงก็สัมผัสได้ถึงแตกต่าง
กระแสพลังในมิตินั้นหนาแน่นและเป็นลูกคลื่นราวกับกระแสน้ําในมหาสมุทร มีกระทั่งกระแสพลังที่ก่อตัวขึ้นจนกลายเป็นของเหลวบนพื้น น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก
ยิ่งกว่านั้น ยังมีกระแสพลังอันศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่งไหลเวียนอยู่ที่นี่ ซึ่งทําให้ทุกคนรู้สึกใจหายและตกใจ
“กระแสพลังมาจากที่นั่น !!
ร่างของผู้นําเผ่ามนุษย์สะดุ้งเมื่อเห็นแสงอันศักดิ์สิทธิ์และชี้นิ้วไปที่สุดโถงนั้น
สายตาของทุกคนได้แต่มองตามไปทางผู้นํากองกําลังสูงสุด
เมื่อเห็นสิ่งนั้น สีหน้าของทุกคนก็ตกใจจนเกินบรรยาย
ราวกับว่าพวกเขาเห็นบางอย่างที่เหลือเชื่อ
“นั่น…นั่นดูเหมือนจะเป็นเส้นทางโบราณ…”
หนึ่งในผู้ฝึกยุทธ์เผ่ามนุษย์เริ่มพูดขึ้นด้วยน้ําเสียงอันสั่นเทาที่เปี่ยมไปด้วยความตกใจ
สุดโถงโบราณ เป็นเส้นทางโบราณที่คดเคี้ยวและเลี้ยวขึ้นสู่ฟากฟ้า
เส้นทางโบราณนั้นกว้างใหญ่ ราวกับมังกรวนเวียนอยู่บนฟากฟ้า
และปลายเส้นทางโบราณนี้ เชื่อมต่อกับแท่นสักการะเทพเซียนอันงดงาม
แท่นสักการะเทพเซียนนี้ใหญ่โตและสง่างามอยู่ในมิติ
และที่น่าน่าอัศจรรย์ยิ่งกว่า มีกระแสใยปราณแห่งความโกลาหลลอยอยู่เหนือแท่นสักการะเทพเซียน
ราวกับน้ําตกเทพเซียน ที่ไหลอยู่บนสวรรค์ทั้งเก้า
กระแสพลังอันสูงส่งผันผวนและแพร่กระจายอยู่ที่นั่น ทั้งน่าเกรงขามและน่ายําเกรง
กระแสพลังอันสูงส่งไหลออกจากแท่นสักการะเทพเซียน ความผันผวนก็กระจัดกระจายลงมา
กระแสพลังอันผันผวนที่ทุกคนเคยได้สัมผัสที่ลานกว้างใต้ดินแห่งแรกนั้นน่าจะมาจากส่วนที่ลึกที่สุดของถ้ําโบราณ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นแหล่งของกระแสพลังนั้น
“คิดไม่ถึงว่าจะมีแท่นสักการะเทพเซียนอันสง่างามเช่นนี้อยู่ที่นี่ ลอยเคว้งอยู่ในมิตินั้น”
ผู้นําแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ยู่เหิงส่องสายตาเข้าไปราวกับมีแสงศักดิ์สิทธิ์ยิงออกไปจากดวงตา
แต่ก็เปล่าประโยชน์ กระแสพลังอันโกลาหลที่ไหลเวียนอยู่ได้บดบังทุกอย่างทําให้เขาไม่เห็นสิ่งใดบนแท่นสักการะเทพเซียนแม้แต่น้อย
“ข้าคิดว่าเมื่อขึ้นไปบนนั้นอาจพบร่องรอยที่เกี่ยวกับจอมจักรพรรดิอู่จื่อ !”
หนึ่งในผู้นําเผ่าพันธุ์มนุษย์พูดขึ้น ไม่อาจรอได้และอยากที่จะขึ้นไปบนแท่นสักการะเทพเซียนเพื่อรับรู้เรื่องทุกอย่าง
สถานที่ซึ่งพวกเขาเคยเดินมาก่อน กระแสพลังจอมจักรพรรดิของโบราณที่ถูกซ่อนอยู่
มีเพียงที่นี่เท่านั้น ที่มีกระแสพลังอันสูงส่งไหลเวียนอยู่
กระแสพลังนั้นสูงยิ่งกว่าภูเขา ลึกยิ่งกว่าท้องทะเล และกว้างใหญ่ยิ่งกว่าหมู่ดาวอันไร้ที่สิ้นสุดมันทําให้รู้สึกเทิดทูนอย่างมากจากก้นบึงของจิตใจ !
บางทีอาจจะมีบางอย่างที่ทิ้งไว้โดยจอมจักรพรรดิอู่จื่ออยู่ที่นี่
ผู้นําเผ่าพันธุ์มนุษย์คนอื่นๆ ก็ตามไปเช่นกัน
เพียงแต่ครั้งนี้ พวกเขาไม่ได้พาบรรดาศิษย์ไปด้วย
เพราะว่ากระแสพลังที่มาจากท้ายโถงหินนั้นกว้างขวางและยิ่งใหญ่เหลือคณาพวกเขากังวลว่าจะมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น จึงไม่ให้บรรดาศิษย์ตามมาด้วย
ผู้นําเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งห้าเคลื่อนที่ไปข้างพร้อมกัน และขึ้นสู่เส้นทางโบราณเพื่อรับรู้ทุกสิ่ง
เสือดํายักษ์แห่งเผ่าพันธุ์โบราณมองดูผู้นําเผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่ไกลๆ ดวงตาขนาดใหญ่ของมันฉายแววการดิ้นรน
แม้จะอยู่ห่างไกล มันก็ยังคงรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่และน่ากลัวของกระแสพลังที่เล็ดลอดออกมาจากเส้นทางโบราณนั้น
กระแสพลังเช่นนี้เป็นสิ่งที่มันไม่เคยรู้สึกมาก่อนในชีวิต
มันทําให้รู้สึกตื่นกลัวเป็นอย่างมาก
แต่เมื่อนึกถึงการเดินทางของมัน เจ้าเสือดํายักษ์ก็กัดฟันและเดินตาม
ไป
มันต้องการเห็นทุกอย่าง เพื่อกลับไปรายงานบรรพบุรุษ
ตอนนี้มาถึงช่วงเวลาสําคัญแล้ว จะหลีกหนีกลางทางได้อย่างไร ?
หลังจากที่เสือดําเดินตามไปแล้วก็มีอีกร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในโถงหินอันกว้างใหญ่นี้
เสื้อผ้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด ฝีเท้าของส่ายไปมา แต่กระแสพลังของเขากดดันข่มเหงอย่างมาก
ผู้นําแห่งนิกายเทียนเฉิน
เขาได้ตามมาเช่นเดียวกัน !
“จอมจักรพรรดิโบราณงั้นรึ? หึหึ ฮ่าฮ่า เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่เชื่อ !
ให้ข้าผู้นี้ดูว่ามีอะไรอยู่ที่นั่น อย่ามาแสร้งเป็นผีเพื่อคุกคามจิตเต่ของข้า !”
เสียงหัวเราะดังลั่นมาจากปากของผู้นําแห่งนิกายเทียนเฉิน
เขาเองก็ตามไปและขึ้นไปที่แท่นสักการะเทพเซียน !
ทุกคนเคลื่อนที่ไปข้างหน้าและเดินไปจนสุดโถงหิน
เมื่อระยะสั้นลง กระแสพลังอันน่าตกใจจากแท่นสักการะเทพเซียนก็เด่นชัดขึ้นเรื่อยๆซึ่งทําให้ได้แต่รู้สึกยําเกรงและเคารพนับถือจากใจ
เมื่อผู้นําแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งห้าในที่สุดก็มาถึงท้ายโถงหินแล้วมองขึ้นไปดูแท่นสักการะเทพเซียนที่ยิ่งใหญ่และงดงามนี้ก็เกิดความตกตะลึงในจิตใจอย่างอธิบายไม่ถูก
แท่นสักการะเทพเซียนขนาดมหึมานี้ ราวกับว่าจะข้ามไปบนสวรรค์ทั้งเก้า
กระแสใยปราณแห่งความโกลาหลห้อยลงมาจากแท่นสักการะเทพเซียน ดูเหมือนว่าแต่ละเส้นจะสามารถบดขยี่สวรรค์อันเป็นนิรันดร์ได้
กระแสพลังที่ไม่อาจอธิบายได้แผ่ซ่านไปทั่ว เหมือนกับมีการฟื้นคืนชีพของจอมจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์ผู้สูงส่งอยู่บนแท่นสักการะเทพเซียน
สวรรค์และดินแดนทั้งหมด ล้วนสั่นสะเทือนเพราะสิ่งนั้น !
สรรพสัตว์ทั้งหลาย ดวงวิญญาณทุกดวง ล้วนคุกเข่าศิโรราบ !
PS: กลับมาแล้วครับ แต่อาจจะยังไม่เต็มที่ดีนะครับ ช่วงนี้สงกรานต์ ทีมแปลยังไม่ครบดีบก.เองก็อยู่ต่างจังหวัดครับ