จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 89 บรรพบุรุษในอดีตของตระกูล
นั่นคือตัวตนแบบใดกัน ? ความโกลาหลพลุ่งพล่าน ด้วยการปรากฏตัวออกมาจากแสงนิรันดร์ด้วยร่างกายอันพร่ามัวอยู่บ้าง
ถึงแม้เป็นเพียงร่างจําแลงอันเลือนลาง แต่ก็ราวกับเป็นศูนย์กลางของดินแดนแห่งนี้ !
จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อันแรงกล้าระเบิดออกมาจากภายในร่างกายของเขาสั่นสะเทือนฟ้าดินกดดันเก้าชั้นฟ้า !
กระจกอันวิจิตรงดงาม ปรากฏขึ้นบนศรีษะของเงาผู้ฝึกยุทธ์นี้สายธารแห่งแสงนิรันดร์และประกายดาวจํานวนไม่ถ้วนฉีกผ่านความมืดมิดและส่องสว่างไปทั่วทั้งท้องฟ้า
“จอมยุทธ์ระดับสุดยอด…!!”
ณเวลานี้ราชันหมื่นเซียนทั้งสี่ที่ล้อมรอบตระกูลไว้เปลี่ยนท่าทางและน้ำเสียงของพวกเขาก็สั่นเทา
ร่างของพวกเขาที่ราวกับเทพเจ้าเมื่อกี้นี้ก่อนที่จะได้เผชิญหน้ากับร่างจําแลง ยังไม่ทันจะได้ เห็นร่างนั้นด้วยซ้ำ มันก็แตกเป็นเสี่ยงๆ เผยให้เห็นร่างที่แท้จริงของมัน
ไม่ใช่ว่าร่างนั้นกําลังทําอะไรบางอย่างกับพวกเขา มันเป็นเพียงการบีบบังคับอย่างสูงสุดที่รุกรานไปทั่วตามธรรมชาติการาบทุกสิ่ง และข้อยกเว้นสําหรับราชันหมื่นเซียนนั้นก็เท่ากับ”ศูนย์”เช่นเดียวกัน
แม้แต่ร่างกายที่แท้จริงของพวกเขาก็ยังสั่นสะท้านและยากที่จะควบคุมได้
เพราะความผันผวนที่เล็ดลอดออกมาจากร่างจําแลงนั้นน่ากลัวมากจนจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้แตกสลาย !
นั่นคือจิตวิญญาณการต่อสู้ที่ไร้เทียมทานที่ได้รับการฝึกฝนในการสังหารที่สั่นสะเทือนยุคสมัยด้วยสายเลือดที่แข็งแกร่งและกระแสพลังอันไร้เทียมทานทําให้ผู้อื่นถึงกับใจสลายมันช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก !
เป็นเพียงแค่ราชันหมื่นเซียน แน่นอนว่าไม่มีข้อยกเว้น !
และผู้ฝึกยุทธ์ในตระกูลจีหลายคน ที่อยู่ใกล้กับร่างจําแลงนี้ก็รู้สึกได้ถึงจิตวิญญาณการต่อสู้อันน่าสะพรึงกลัวที่สั่นคลอนไปทั่วท้องฟ้านี้เช่นกัน
ร่างกายของพวกเขาสั่นสะท้านโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่แตกต่างจากสี่ราชันหมื่นเซียนผู้ฝึกยุทธ์ในตระกูลจีหลายคนสัมผัสได้ถึงการสั่นพ้องและการขานเรียกที่มาจากส่วนลึกของสายเลือด !
มันเหมือนกับว่า ร่างจําแลงที่อยู่ตรงหน้าพวกเขามีความเกี่ยวข้องที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้กับสายเลือดของพวกเขา!”ผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิ์งั้นรึ ?ไม่ไม่ใช่กระแสพลังของเขาแข็งแกร่งกว่าผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิด้วยซ้ำ ! ”
หยุนรั่วซีจ้องมองไปที่ร่างจําแลง ดวงตาคู่สวยเปี่ยมไปด้วยความตกใจ
ตอนแรก นางคิดว่าร่างจําแลงที่อยู่ตรงหน้านางนั้นคือการปรากฏตัวอีกครั้งของผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิเมื่อหลายล้านปีก่อน
อย่างไรก็ตาม กระจกโบราณที่อยู่เหนือศีรษะร่างจําแลงนี้เหมือนกับกระจกโบราณที่สลักบนม้วนคัมภีร์โบราณของมรดกกายาจักรพรรดิ
มรดกม้วนคัมภีร์โบราณ ถูกมอบให้นางโดยผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิดังนั้นหยุนรั่วซีจึงคาดเดาเช่นนั้น
แต่ทว่า การคาดเดานี้ก็กินเวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้น ก่อนที่นางจะล้มเลิกการคาดเดานี้
เงาเลอะเลือนที่อยู่ตรงหน้าของนาง แตกต่างจากตอนที่ผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิปรากฏตัวในวันนั้นและไม่ได้ทําให้เลือดในร่างกายของนางสั่นสะเทือน
ยิ่งกว่านั้น กระแสพลังที่ปล่อยออกมาจากร่างจําแลงนี้แข็งแกร่งกว่าผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิอย่างเห็นได้ชัดและแน่นอนว่ามันอยู่เหนือจอมยุทธ์ระดับสุดยอดในตํานานอย่างแน่นอน
“ไม่ใช่ผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิ แล้วเป็นใครกัน ? เป็นไปได้หรือไม่ว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ของข้ามีความสําเร็จที่ยิ่งใหญ่อีกหนึ่งคน”
หยุนรั่วซีกําลังคาดเดา หัวใจของนางสับสนไม่น้อย
แต่นางก็มั่นใจได้ว่าร่างจําแลงที่อยู่ต่อหน้าของนางนั้น แม้ว่าจะไม่ใช่ผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิแต่ก็ต้องมีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิอย่างแน่นอน
เพราะไม่อย่างนั้นผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิคงไม่จารึกกระจกโบราณนี้ไว้ในม้วนคัมภีร์โบราณของมรดกกายาจักรพรรดิแน่นอน !
หยุนรั่วซีรู้สึกสับสนและตกใจ แต่ความตกใจในใจของฉางเฉอตอนนี้มากกว่าของนางเสียอีก
เพราะว่า เมื่อร่างนี้ปรากฏขึ้นเขารู้สึกว่าเลือดในร่างกายของเขาแผดเผา !
มันเป็นการแผดเผาที่มาจากส่วนที่ลึกที่สุดของเลือด ราวกับโห่ร้องด้วยความตื่นเต้นเหมือนว่าได้เผชิญหน้ากับบรรพบุรุษที่อยู่ในอดีตของตระกูลจีทําให้เขารู้สึกอยากก้มหัวทําความเคารพ !
ใครเป็นเจ้าของร่างจําแลงนี้กันนะ ? ทําไมมันถึงสะท้อนกับเลือดของตระกูลจได้มากขนาดนี้กัน ?
รู้สึกได้ถึงพลังมิติที่เล็ดลอดออกมาจากร่างจําแลงและแผ่ปกคลุมไปทั่วโลก การเดานี้ทําให้เขารู้สึกคาดไม่ถึงก็ผุดขึ้นมาในหัว
เป็นไปได้หรือไม่ว่า ร่างจําแลงนี้เป็นบรรพบุรุษที่อยู่ในอดีตของตระกูลของเขาด้วย !
ร่างจําแลงปรากฏตัวขึ้น สั่นสะเทือนไปทั้งโลก วิญญาณทั้งหมดต่างก็ตกใจ แต่เขายืนอยู่ที่ นั่นอย่างเงียบๆ เงยหน้าขึ้นมองข้ามดาวเคราะห์ทั้งห้าแล้วมองเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดของจักร วาลอันกว้างใหญ่
“ไม่ใช่ร่างจริง เป็นเพียงแค่ร่างจําแลงที่เกิดจากการรวมตัวของฟ้าดิน”
ราชันหมื่นเซียนตัวสั้น กัดฟันและกล่าวว่า
“ใช่แล้ว ร่างไม่มีจิตสํานึก เป็นเพียงร่างจําแลงจากฟ้าดิน และมันก็จะสลายไปในเวลาอันสั้น”
ราชันหมื่นเซียนอีกคนหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชมยินดีเล็กน้อย
พวกเขาคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะได้พบกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเมื่อพวกเขามาล้อมตระกูลในวันนี้
แต่โชคดีที่ร่างจําแลงนี้ดูเหมือนจะไม่รู้สึกตัว เป็นเพียงกฎฟ้าดินที่ควบแน่นอย่างอิสระและไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ กับพวกเขา
แต่ถึงกระนั้น การปรากฏตัวของร่างจําแลงนี้ก็ทําให้ราชันหมื่นเซียนทั้งสี่ตกใจเป็นอย่างมากและเหงื่อเย็นไหลไปทั่วร่างกายของพวกเขา
“ไม่เป็นไร เปิดศิลามิติต่อไป !”
จฉางเฉอยังคงเล็งไปทางศิลามิติต่อไป
เขายังสามารถเห็นได้ว่า ร่างจําแลงที่อยู่ตรงหน้าเขานี้ไม่รู้สึกตัว แต่แค่ปรากฏมาพร้อมกับแสงนิรันดร์เท่านั้นกฏฟ้าดินถูกสลักไว้ และเมื่อเวลาผ่านไปมันจะค่อยๆเป็นหมอกเลือนลางและจางหายไป……
แต่การปรากฏตัวของร่างจําแลงมีความเกี่ยวข้องกับศิลามิติอย่างแน่นอน และมันต้องมีความลับอื่นๆซ่อนอยู่เขาจะเปิดศิลามิตินี้ต่อไปเพื่อเป็นสักขีพยาน !
บูม
ในครั้งนี้ ปู่ทวดฉางเฉอยังไม่หมดกําลัง เขาระดมโจมตีด้วยกําลังทั้งหมดของเขาศิลามิติก็แตกเป็นเสี่ยงกลายเป็นผงธุลี และสลายไปในอากาศ
และด้วยศิลามิติที่แตกเป็นเสี่ยง แต่ร่างจําแลงก็ไม่ได้หายไป กลับยิ่งชัดเจนกว่าเดิม !และทําให้ทุกคนในที่นี้รู้สึกถึงแสงสีแดงที่เปล่งประกายออกมาจากที่ซึ่งศิลามิติแตกเป็นเสี่ยงๆ
“กริ้ววววว !”
ดูเหมือนจะมีเสียงร้องของวิหคเพลิงดังก้องไปทั่วโลก
จฉางเฉออดทนต่อความเจ็บปวดอันแสบร้อนจากดวงตาขณะที่มองไปยังจุดที่แสงจ้าส่องลงมา ใบหน้าของเขาเปี่ยมไปด้วยความตกใจ
“อะไร ! นี่คือ…”
บริเวณที่ศิลามิติแตกออก ตรงที่แสงสีแดงเปล่งประกายออกมา มีร่างจําแลงของวิหคเพลิงปรากฏขึ้นบินวนไปทั่วบริเวณ
และเมื่อแสงสีแดงหมดลง กลับกลายเป็นชิ้นส่วนเปื้อนเลือดวิหคเพลิงที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย !
นั่นคือเหรียญทองเลือดวิหคเพลิง หนึ่งในวัตถุที่ใช้สร้างยุทธภัณฑ์ของจอมยุทธ์ระดับสุดยอดมันมีความแข็งมากจนไม่สามารถทําลายได้เลย
และตอนนี้ มีเหรียญทองเลือดวิหคเพลิงซ่อนอยู่ด้านล่างศิลามิติ มีรอยบากเป็นช่วงๆมีพลังงานที่น่าสะพรึงกลัวไหลเวียนอยู่บนนั้น
ดูเหมือนว่าชิ้นส่วนของยุทธภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสุดยอดจะถูกทุบจนแตกเป็นชิ้นๆ !
ที่น่าประหลาดใจกว่านั้นคือ ชิ้นส่วนของเหรียญทองเลือดวิหคเพลิงที่แตกเป็นชิ้นๆนี้จริงๆแล้วมีรอยเปื้อนเลือดสีแดงสด !รอยเลือดบนชิ้นส่วนนี้เป็นสีแดงสดและน่าสยดสยอง
มีความผันผวนอันทรงอํานาจอย่างหาที่เปรียบมิได้ แผ่ออกมาจากเลือดนั้นและครอบคลุมกระทั้งเหรียญทองเลือดวิหคเพลิงที่แตกกระจายนี้ทําให้ผู้คนต้องสั่นสะท้าน !
สิ่งที่ทําให้ผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลจีหลายคนหัวใจเต้นแรงคือในเลือดดูเหมือนจะมีแรงดึงดูดแปลกๆสั่นพ้องกับเลือดในร่างกายของพวกเขาทําให้พวกเขาต้องคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้ !
“เป็นเลือดของบรรพบุรุษตระกูลจีของข้างั้นรี ?……”
จฉางเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
แรงดึงดูดและการกําทอนของเลือดนั้นแรงเกินไป นอกจากคําอธิบายนี้แล้วเขาก็ยังหาความเป็นไปได้อื่นๆไม่พบ !