จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up - ตอนที่ 127
จอมยุทธ์ระบบเลเวล ตอนที่ 127
ผู้ดูแลสำนักนอก หวังซี
หลังจากปิดด่านฝึกตนกว่าสามปี เขาก็ตัดผ่านไปขึ้นสวรรค์ได้เมื่อหนึ่งเดือนก่อน และได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ดูแลสายนอกจากประมุขน้อยของกลุ่มชิงเทียน
เขารับผิดชอบดูแลความเป็นอยู่ศิษย์สายนอกของกลุ่มชิงเทียน กลุ่มชิงเทียนมีผู้ดูแลอยู่ทั้งหมดสิบสองคน ทั้งหมดล้วนอยู่ในขั้นสวรรค์ อำนาจของพวกเขาในสำนักชั้นนอกแทบสามารถใช้มือเดียวบังฟ้า
เมื่อหยางฮั่นนำหยกประกาศิตออกมา หวังซีก็คุกเข่าโดยไม่ลังเล ไม่กล้าแสดงความไม่เคารพหวังซีเคยเห็นความแข็งแกร่งอันน่าพรั่นพรึงของประมุขน้อยแห่งกลุ่มชิงเทียนด้วยสองตาตนเองมาแล้ว ลือกันว่าเขาตัดผ่านไปขั้นจักรวาล สามารถควบคุมพลังจักรวาล แข็งแกร่งไร้เทียมทาน
“เฮ…………………………”
เสียงเชียร์จากฝูงชนดังขึ้นอีกคราหนึ่ง
ระดับหกขั้นกลั่นวิญญาณถั่วเซิงถูกฉุนเทียนสังหารในพริบตา
ความตื่นเต้นของทั้งหมดพุ่งสูงเทียมฟ้า ผู้ชมต่างตะโกนเรียกชื่อฉันเทียนราวกับนี่เป็นวิธีเดียวที่สามารถปลดปล่อยความรู้สึกพลุ่งพล่านที่อัดแน่นอยู่ในอก
ฉุนเทียนหัวเราะก่อนจะคำนวณแต้มผลงานที่เขาจะได้รับหลังจากชนะติดต่อกันสี่ครั้งติด หนึ่งแสนสองหมื่นแต้ม เพียงพอแล้ว”
ฉุนเทียนเป็นคนโลภ แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่ชอบแส่หาที่ตาย หลังจากชนะสี่ครั้งติดต่อกัน คู่ต่อสู้รอบต่อไปย่อมต้องแข็งแกร่งขึ้นอีก กระทั่งอาจดึงดูดผู้บ่มเพาะขั้นสวรรค์ให้ลงมือ
แม้ว่าศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักชั้นนอกจะอยู่เพียงระดับแปดขั้นกลั่นวิญญาณ แต่ก็ไม่มีกฏข้อใดที่บอกว่าศิษย์สายในไม่อาจเข้าร่วมสงครามชิงอำนาจ ฉุนเทียนคิดถึงสิ่งที่ผู้ตัดสินชรากล่าวเตือนเอาไว้ หากเขายังดึงดันต่อไป แน่นอนว่าย่อมต้องเกิดปัญหา
แต้มผลงานหนึ่งแสนสองหมื่นแต้มเพียงพอที่จะแลกกับคุณสมบัติเข้าเป็นศิษย์สายในแล้วขณะที่เขากำลังจะลงจากเวทีประลอง เงาร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของเขา เงาร่างสายนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายชั่วร้าย เนื้อตัวปลดปล่อยบรรยากาศอันน่าขนลุกออกมา ฉินเทียนผงะ “ขั้นสวรรค์?”
เงาร่างนี้คือหนึ่งในสิบสองผู้ดูแล หวังซี
” หลังชนะต่อเนื่องก็คิดจะถอนตัวจากไปงั้นรึ?” ดวงตาของหวังซีฉายประกายขึ้นวาบหนึ่ง ทุกก้าวของเขาบีบให้ฉุนเทียนต้องก้าวเท้าถอยหลังจนเข้าใกล้ม่านพลัง ผนึกเส้นทางถอยของเขาเอาไว้ จิตสังหารเริ่มแผ่ออกจากร่างของหวังซี
จิตสังหารสายนี้ทำให้ฉันเทียนตะลึง เขายิ่งก้าวเท้าถอยหลังอีกหลายก้าว กลิ่นอายของเขาเปลี่ยนไป เริ่มโคจรพลังปราณในร่าง ฉุนเทียนเอ่ยปากถามอย่างระมัดระวัง ” ขอเรียนถาม ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสต้องการอะไร?”
“ก็ไม่มีใด เพียงแต่เห็นเจ้าชนะติดต่อกันแล้วขัดเคืองลูกนัยน์ตา รอบต่อไปข้าจะเป็นคู่มือให้เอง” หวังซียิ้มขณะที่กลิ่นอายชั่วร้ายแผ่ออกจากใต้ฝ่าเท้า เวทีประลองค่อยๆถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายชั่วร้าย
ฉุนเทียนขมวดคิ้ว ”ผู้เยาว์ไม่คิดลงสนามรอบต่อไป”
“โอ้?” หวังซีทำท่าประหลาดใจก่อนจะหัวเราะเบาๆ ในเมื่อเจ้ายังอยู่บนเวทีประลอง ข้าก็สามารถท้าสู้กับเจ้า”
“คล้ายไม่มีกฎข้อนี้ในสงครามชิงอำนาจ” ท่าทีของฉันเทียนเปลี่ยนไปขณะที่รวบรวมพลังปราณไปไว้ที่ฝ่ามือ แรงกดดันอันมหาศาลพุ่งเข้ากดดันเขาอย่างหนัก ฉุนเทียนเคยมีประสบการณ์เผชิญหน้ากับพลังสวรรค์มาก่อน ดังนั้นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับหวังซี หัวใจของเขาจึงเต้นระรัว
” กฏ?”
“ฮ่าๆ.
“ข้าก็คือกฏ หากข้าบอกว่ามีก็ต้องมี! เจ้าใจกล้าไม่เบา ถึงกับสังหารคนของกลุ่มชิงเทียน หากข้าไม่ฆ่าเจ้าแล้วล่ะก็ ในภายหน้ายังจะมีผู้ใดกล้าเข้าร่วมกับกลุ่มชิงเทียนอีก?”
” ท่านคือ?” ฉุนเทียนเข้าใจเป้าหมายของอีกฝ่ายแล้ว แต่หวังซีปรากฏตัวขึ้นกระทันหันเกินไปแตกต่างจากสิ่งที่เขาคาดคิดเอาไว้
ชนะเพียงสี่รอบ บอสก็ออกมาเสียแล้ว
หากไม่ใช่เพราะปัจจัยจากภายนอก บอสก็คงไม่ปรากฏตัวรวดเร็วถึงเพียงนี้ คิดมาถึงตรงนี้หัวใจของเขาก็บีบรัด หรือหยางฮั่นรู้ตัวแล้ว??
ฉุนเทียนพลัยนเพิ่มความระวัง เขาและหยางฮั่นเป็นศัตรูที่ไม่อาจอยู่ร่วมฟ้า ตระกูลหยางที่เคยรุ่งเรืองในอดีต ตอนนี้หลงเหลือเพียงหยางฮั่นและหยางหลิน กระทั่งบรรพชนของตระกูลก็ตกตายแล้ว หากหยางซานทราบว่าเขาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ เช่นนั้นหยางฮั่นต้องหาคนมาฆ่าเขาอย่างแน่นอน
หรือยอดฝีมือขั้นสวรรค์ที่เบื้องหน้าก็เป็นฝีมือของหยางฮั่น?
หากว่าเป็นแบบนั้น อำนาจของหยางฮั่นในสำนักเทียนจี้ก็ออกจะน่ากลัวไปแล้ว กระทั่งตัวตนอย่างขั้นสวรรค์ยังรับคำสั่งจากเขา ศัตรูในภายหน้าจะต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้แน่
ฉินเทียนมองไปทางผู้ตัดสินชรา ผู้ตัดสินชราถอนหายใจพลางยิ้มขึ้น เขาสายศีรษะอย่างช้าๆ
ความหมายชัดเจนยิ่ง ไม่มีอะไรที่เขาสามารถกระทำได้
กลุ่มชิงเทียนทรงอิทธิพลเกินไป เขาเป็นเพียงแค่ผู้ตัดสินคนหนึ่ง ยังจะมีใครฟังคำพูดของเขา?
หวังซีแค่นเสียงก่อนจะโบกมือ ม่านพลังรอบเวทีประลองพลันกางขึ้น ปิดกั้นสรรพสิ่งไว้ภายนอก ตอนนี้บนเวทีประลองเหลือเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้น เขาจ้องมองฉันเทียนก่อนจะกล่าวว่า “ข้าเป็นคนที่ถูกส่งมาเอาชีวิตเจ้า!”
ฉินเทียนโกรธแค้น พลังปราณอันมหาศาลหลั่งไหลออกจากร่าง ในใจกล่าวขึ้นอย่างเย็นชา “บ้าคลั่งขั้นที่หนึ่ง”
วิ่ง………………..
ลำแสงสีขาวแผ่พุ่งออกจากร่างของฉันเทียนก่อนจะพุ่งชนม่านพลังที่ป้องกันเวทีประลองและสะท้อนกลับมาจนเกิดเป็นริ้วสีขาวอันงดงาม
หวังซีเลิกคิ้วอย่างตกตะลึง “ทักษะศักดิ์สิทธิ์?”
“คิดไม่ถึงว่าเจ้าถึงกับมีทักษะศักดิ์สิทธิ์ติดตัว ทว่าน่าเสียดายที่ไปล่วงเกินผู้ที่ไม่อาจล่วงเกิน ผู้ที่ล่วงเกินกลุ่มชิงเทียนจะต้องตาย!”
หวังซี่หลับตาลงก่อนจะปรากฏลำแสงสีเขียวเข้มที่ให้ความรู้สึกชวนขนลุกออกมา เขาพุ่งร่างออกพร้อมส่งท่าโจมตีที่มีพลังมหาศาลเข้าใส่ฉินเทียน
ไม่มีเส้นทางให้ถอยหลัง
ไม่มีเส้นทางให้อดกลั้น
ทางที่เหลือมีเพียงเข่นฆ่า
ฉุนเทียนแค่นเสียงพลางเพิ่มความเร็วขึ้นถึงระดับสูงสุด ภายใต้ผลของบ้าคลั่งขั้นที่หนึ่ง ค่าสถานะทั้งหมดของเขาเพิ่มขึ้นอีกสี่เท่า ร่างกายของเขากลายเป็นเส้นแสงวูบวาบพุ่งเข้าหาหวังซี ปราณเพลิงสีม่วงแผ่พุ่งจากร่าง ปรากฏเป็นร่างจำแลงของเทพดุร้ายที่ถือเคียวขึ้นมา เทพดุร้ายเผยยิ้มเหี้ยมเกรียม เคียวในมือสะบัดออกสร้างเป็นแรงปะทุขึ้นในอากาศ
“ระดับห้าขั้นกลั่นวิญญาณก็โอหังอวดดีถึงเพียงนี้ ช่างรนหาที่ตายเสียจริง” หวังซีแค่นเสียงพลังสวรรค์ปะทุออกจากร่าง ร่างกายของหวังซีพลันรายล้อมไปด้วยหมอกสีเขียวอมดำ
หมอกสีเขียวอมดำนี้เริ่มเปล่งแสงสีเขียวออกมา สร้างเป็นพลังชั่วร้ายสุดทรงพลังพุ่งเข้าสังหารศัตรู
ครืน………………..
พลังสวรรค์มีอำนาจอิทธิฤทธิ์มาก ฉินเทียนถูกกระแทกร่างถอยหลัง ร่างของเขาชนเข้ากับม่านพลังเข้าอย่างจัง สร้างความปั่นป่วนให้กับโลหิตในกาย แม้จะตกตะลึง แต่เขาหาเกรงกลัวไม่เขากัดฟันกล่าวขึ้นในใจ “ไม่สนแล้ว”
“คชสารชำระล้าง!”
ยิ้ม!
เคล็ดมังกรฟ้าในจุดตันเถียนขยับเคลื่อนไหว ทะเลปราณอันไร้ขอบเขตแผ่ขยายออกปกคลุมทั่วร่าง ภายใต้ผลของบ้าคลั่งขั้นที่หนึ่ง ขุมพลังอันมหาศาลปะทุออกส่งผลให้กลิ่นอายของฉันเทียนแข็งแกร่งกว่าเดิม
หวังขมวดคิ้ว ในใจลอบตื่นตระหนก ไม่แปลกใจทำไมฉินเทียนจึงสามารถสังหารลั่วเฉิงที่อยู่ระดับหกขั้นกลั่นวิญญาณได้ในพริบตา ความชำนาญในการใช้ทักษะของเขาบรรลุถึงขอบเขตขั้นสูงแล้ว!
พลังคชสารชำระล้างสร้างความกดดันให้กับเขาอย่างมาก สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป ความคิดฆ่าฟันยิ่งหนาหนักกว่าเดิม
ผู้ที่ท้าทายสวรรค์เช่นนี้ หากไม่ใช่คนของกลุ่มชิงเทียนก็ต้องตาย ไม่อาจปล่อยให้อีกฝ่ายเติบโตไปได้มากกว่านี้แล้ว
” เพลิงวิญญาณโลกันต์!”
หวังซีกู่ร้อง หมอกสีเขียวอมดำที่ลอยอยู่รอบกายพลันถูกรวมมาไว้ที่ฝ่ามือ ส้รางเป็นปราณสีเขียวอมดำอันหนาแน่นสุดสะพรึงขึ้นมา
ฆ่า!
ฉินเทียนมีเพียงเส้นทางเดียวเท่านั้น!