จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up - ตอนที่ 145
ตอนที่ 145
ในทุ่งหิมะขาวโพลน เกิดเสียงระเบิดที่ดังราวฟ้าผ่าขึ้นคราหนึ่ง
เหยาชิงตายแล้ว!
เหยาชิงตายจนไม่รู้จะตายอย่างไร หยาดโลหิตพร่างพรมทั่วพื้นพื้นหิมะ ตายในที่ที่ห่างไกลผู้คนเป็นการตายที่น่าอนาถนัก
เมื่อเหยาชิงตาย โทสะของฉันเทียนก็บรรเทา เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบเขาก็หัวเราะออกมา
“ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่น ชิ้นเทียน สําหรับการสังหารเหยาชิง ได้รับค่าประสบการณ์ 500,000 หน่วย ค่าพลังปราณ 110,000 จุด ค่าการรอดชีวิต 1,000 จุด…..”
“ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่น “ฉินเทียน สําหรับการได้รับเพลงกระ ‘ไท่ซ ทักษะระดับอมตะต้องการเรียนรู้หรือไม่?…..”
“ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่น ชิ้นเทียน สําหรับการได้รับผ้าคลุมเมฆาคล้อยระดับอมตะ…..”
“ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่น ฉุนเทียน สําหรับการได้รับทักษะพิษกร่อนวิญญาณ ระดับ ??? ต้องการเรียนรู้หรือไม่?…..”
“ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่น ฉันเทียน สําหรับการได้รับโอสถเป่ยหยวนจํานวนสิบเม็ด…..”
“ขอแสดงความยินดีต่อผู้เล่น ชิ้นเทียน สําหรับการได้รับแก่นระดับห้าจํานวน 19 แก่น แก่นระดับหกจํานวน 9 แก่นแก่นระดับเจ็ดจํานวน 1 แก่น…..”
นี่สิที่รอคอย!
เสียงแจ้งเตือนจากระบบที่ดังขึ้นระรัวทําให้ฉุนเทียนตื่นเต้นลิงโลด ไม่ว่าประสบพบเจอบอสคราใดก็ยังอดตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้ไปเสียทุกครั้ง ตั้งแต่บนศีรษะของเหยาชิงมีชื่อปรากฏขึ้นแววตาท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปในใจลอบคาดเดาว่าหากสังหารบอสตนนี้แล้วเขาจะได้รับอะไรบ้าง
ย่างล้วนเป็นไปตามแผน ฉุนเทียนจึงอารมณ์ดีเอามากๆ
“เรื่องพิษของพี่ใหญ่เฮยก็คลี่คลายไปแล้ว เหยาชิงก็ตายแล้ว…เอ….ดูเหมือนข้าจะลืมอะไรไปสักอย่าง…” ฉุนเทียนยกมือลูบคางพลางใช้ความคิด ทันใดนั้นก็คิดขึ้นได้ว่าตรงนี้ยังมีเหยาคงอยู่อีกคน
เหยาคงยังสลบไสลไม่ได้สติ ใบหน้ายิ่งมายิ่งขาวซีดราวกับกระดาษ
เพียงยกมือต่อยออกก็จบชีวิตเขาได้แล้ว
ฉันเทียนคิ้วขมวด หลังจากใคร่ครวญอยู่พักหนึ่ง เขาก็เปิดหน้าต่างระบบขึ้นมาก่อนจะตรวจสอบทักษะพิษกร่อนวิญญาณ เมื่อดูแล้วก็ต้องรู้สึกประหลาดใจ ทักษะทุกทักษะล้วนแต่มีระดับระบุเอาไว้แม้แต่เคล็ดวิชามังกรฟ้าที่อยู่ในระดับเทวะก็ยังถูกระบุเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วไฉนทักษะพิษกร่อนวิญญาณนี้จึงแสดงแต่เครื่องหมายคําถาม?
“เป็นไปได้หรือเปล่าว่ามันจะเป็นทักษะที่อยู่เหนือกว่าระดับของทวีปเทียนหยวน?”
“นั่นจะเป็นไปได้ยังไง?”
คิดถึงตรงนี้แววตาของฉันเทียนก็เปลี่ยนไปคล้ายกับคนงานเหมืองที่ทรหกอดทนขุดเจาะจนค้นพบเหมืองทองคําดวงตาของเขาแทบจะเป็นกลายเป็นรูปเงินไปแล้ว
ฉินเทียนเลือกเรียนรู้ทักษะพิษกร่อนวิญญาณนี้ทันที
หน้าต่างส่วนของทักษะพลันมีทักษะใหม่เพิ่มขึ้นมา
ทักษะพิษกร่อนวิญญาณ:ระดับ ???
ขั้น: 0
ค่าความชํานาญ: 0/10000 (แต่ละครั้งใช้ค่าพลังปราณ 10000 จุด)
เพิ่มเติม: ???
“ท่านย่ามันเถอะ กระทั่งตรงคําอธิบายก็ยังเป็นเครื่องหมายคําถาม หรือระบบจะเจ๊งไปแล้ว?” ฉุนเทียนบ่นอุบแต่เมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าเฮยหยานยังอยู่ในสภาพอันย่ําแย่แล้ว ฉินเทียนกัดปาก”จัดการเจ้านี่ก่อนดีกว่า”
ฆ่ายอดฝีมือขั้นจุติก็คงได้ค่าพลังปราณหลักแสน ขณะที่การใช้พิษกร่อนวิญญาณนั้นต้องเสียค่าพลังปราณหนึ่งหมื่นจุด
จะฆ่ายอดฝีมือระดับนี้ทิ้งก็ดูน่าเสียดายเกินไป ไม่สู้…..
เพียงแค่คิดว่ายอดฝีมือระดับนี้จะอยู่ในการควบคุมของเขาฉุนเทียนก็ตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว
“อีก”
ฉินเทียนน้ําลายไหลอย่างไม่รู้ตัว
เมื่อคิดถึงแผนการอันชั่วร้ายนี้ นินเทียนก็ยินดีจนแทบแหกปากร้องตะโกน ราวกับสาวกได้พบเจอพระผู้เป็นเจ้า
ฉันเทียนเก็บยิ้มชั่วร้ายกลับพลางมองเหยาคงที่นอนซมอยู่บนพื้น “ถ้าเจ้ายังไม่อยากตายก็ให้ข้าควบคุมเจ้าซะแต่ถ้าอยากจะตายนักละก็….เหอๆ”
“ข้าจะส่งเจ้าลงนรกอย่างทุกข์ทรมาณ!”
ใบหน้าอันขาวซีดของเหยาคงกระตุกเขาทราบดีว่าตอนนี้ชีวิตของตนแขวนอยู่บนเส้นดายแล้ว
ตกตายหรือกลายเป็นทาสของฉันเทียนตลอดไป
ถูกผู้บ่มเพาะขั้นกลั่นวิญญาณคนหนึ่งบีบคั้นถึงขั้นนี้ เหยาคงเพิ่งจะเคยได้ยินเป็นครั้งแรก
ฉุนเทียนไม่รอให้เขาตอบกลับ ซึ่งแน่นอนว่าเหยาคงก็คงตอบไม่ได้ เวลานี้เขาตกอยู่ในสภาพครึ่งเป็นครึ่งตายอวัยวะภายในร่างบาดเจ็บอย่างหนัก ตกอยู่ในสภาพที่อ่อนแอสุดขีดแล้วมีหรือที่ฉินเทียนจะยอมพลาดโอ กาสดีๆเช่นนี้ไป?
ฉันเทียนบังคับจิตเคลื่อนไหว จุดตันเถียนก็เกิดการหมุนวนขณะที่ค่าพลังปราณค่อยๆลดลงไปจนครบหนึ่งหม็นจุด
พลังวิญญาณอันแกร่งกร้าวขุมหนึ่งพลันพุ่งออกมาจากหว่างคิ้วของฉันเทียน พลังวิญญาณนี้มีสภาพคล้ายหมอกควันสีฟ้าอ่อนจาง รอบๆยังมีละอองแสงสีทองคอยหมุนอยู่อีกชั้นหนึ่งดูแปลกประหลาดอย่างมาก
ตอนนี้พลังจิตวิญญาณของฉันเทียนอยู่ในสภาพที่แข็งแกร่งสุดขีด ภายใต้การควบคุมของทักษะพิษกร่อนวิญญาณก็ทําให้พลังจิตวิญญาณของฉันเทียนเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นพลังวิญญาณก็กลายเป็นหมอกแสงสีทองค่อยๆชอนไชเข้าไปตามปากและจมูกของเหยาคง
“การใช้พิษล้มเหลว…”
ถึงครั้งแรกจะล้มเหลวแต่ฉุนเทียนก็ยังคงไม่ยอมแพ้ เขาถึงกระทั่งตื่นเต้นขึ้นมากกว่าเก่าเสียด้วยซ้ําไม่ล้มเหลวย่อมไม่ประสบความสําเร็จ
ถึงอย่างไรเหยาคงก็เป็นถึงยอดฝีมือขั้นจุติ และตัวฉันเทียนก็อยู่เพียงระดับหกขั้นกลั่นวิญญาณเท่านั้น พลัง จิตวิญญาณของเขาย่อมแข็งแกร่งไม่เท่าเหยาคง การจะล้มเหลวก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้
ครั้งที่สองฉันเทียนใช้พลังจิตวิญญาณมากกว่าเดิม หมอกแสงสีทองค่อยๆไหลซึมเข้าไปในหว่างคิ้วของ เหยาคง ไม่ถึงครึ่งวินาทีถัดมา ข้อความก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
“การใช้พิษล้มเหลว…..”
“ความล้มเหลวคือมารดาแห่งความสําเร็จ!”
ฉินเทียนเพิ่มพลังจิตวิญญาณอีกครั้ง แต่ระบบก็ยังแจ้งเตือนข้อความเดิม
“ขอเพียงไม่ยอมถอดใจสุดท้ายย่อมสามารถฝนทั่งให้เป็นเข็ม!”
ฉันเทียนให้กําลังใจตัวเองอีกครั้งแต่ข้างในเริ่มใจแป้วขึ้นมาบ้างแล้ว
ครั้งที่สี่ยังคงล้มเหลว…
ครั้งที่ห้ายังคงล้มเหลว…
ครั้งที่เก้ายังคงล้มเหลว…
“บิดาขอเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายนะ ถ้าเจ้ายังกล้าตอต้านข้าอีกล่ะก็ ข้าจะเงื่อนไอ้นั่นของเจ้าทิ้งซะ!” ฉันเทียนนั่งยองชี้หน้าด่าทอเหยาคงที่หมดสติ หลังจากด่าอยู่หลายคําก็เริ่มรวบรวมพลังจิตวิญญาณอีกครั้ง…..
สามวินาทีถัดมา ระบบก็แจ้งเตือนอีกครั้ง
“การใช้พิษล้มเหลว…..”
“ถล่มน้องสาวมันเถอะ!”
ฉินเทียนลุกขึ้นง้างเท้าหวดร่างเหยาคงไปหลายที่ เขากัดฟันกรอดพลางจ้องเหยาคงราวกับจะกินเลือดกินเนื้อแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ยอมถอดใจ!
“บิดาไม่เชื่อว่าจะไม่สําเร็จ!”
หลังจากใช้พลังจิตวิญญาณไปสิบครั้ง หยาดเหงื่อก็เริ่มหลั่งไหลเต็มใบหน้า ฉนเทียนย่อตัวลงจ้องมองเหยาคงพลางขมวดคิ้ว มันยังคงไม่ได้ผลแม้เหยาคงจะหมดสติอยู่ แต่ฉินเทียนเชื่อว่าเจ้าเฒ่าคนนี้จะต้องมีสติรู้ตัวอยู่เป็นแน่ดังนั้นเพื่อที่จะฝังพิษกร่อนวิญญาณไว้ในตัวคนผู้นี้แล้วฉันเทียนก็จําต้องใช้อีกวิธีหนึ่ง
ฉินเทียนแผ่กลิ่นอายนักล่าออกเพื่อตรวจดูสภาพภายในอันสบสนยุ่งเหยิงของเหยาคง
ทันใดนั้นฉันเทียนยกยิ้มที่มุมปาก กลิ่นอายนักล่าของเขายิ่งใช้ก็ยิ่งชํานาญ สามารถรับรู้ได้ดียิ่งกว่าทักษะตรวจสอบใดๆ
แม้มันจะไม่ใช่ทักษะประเภทโจมตี แต่มันก็เป็นทักษะสายสนับสนุนสุดทรงพลัง
และครั้งนี้ฉินเทียนเลือกปรับใช้มันให้กลายเป็นทักษะในการรักษา
ฉินเทียนควบคุมจิตสํารวจตรวจสอบสภาพภายในตันเถียนของเหยาคง เขาแค่นเสียงคราหนึ่งก่อนจะกล่าวกับเหยาคง
“คงคาดไม่ถึงสินะว่าข้าจะสามารถควบคุมกลิ่นอายภายในร่างของเจ้าได้? พูดก็พูดเถอะนะ ข้ายังมีอีกหลายสิ่งที่เจ้าคาดคิดไม่ถึงเจ้าควรจะพิจารณาข้อเสนอของข้าดูอีกครั้ง”
“ในเมื่อข้าสามารถบังคับกลิ่นอายของเจ้าได้ ข้าก็สามารถบังคับให้พวกมันสงบลงได้เช่นกัน”
“ว่าอย่างไร?”
“อย่าฝืนตัวเองอีกเลย กว่าจะฝึกฝนมาถึงขั้นจุติย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย เจ้าอยากจะตายอย่างอนาถแบบนี้งั้นเหรอ? ข้ามั่นใจว่าเจ้าคงยังไม่ยากตายใช่รึไม่?”
“วางใจเถอะ ข้าจะไม่ปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนกับที่เหยาชิงปฏิบัติต่อเจ้า”
“ข้ารู้ว่าเจ้าได้ยินข้าตกลงหรือไม่ตกลง ถ้าตกลงก็ยักคิ้ว ถ้าหากว่าไม่ตกลง…..”
“เจ้าก็ตายเสีย”
กล่าวจบก็ปั้นหน้าถมึงทึงใส่เหยาคง หากแต่ในใจเขากลัวว่าเหยาคงจะไม่ยอมตกลงจริงๆ คงน่าเสียดายแยาหากว่าพลาดโอกาสฟ้าประทานเช่นนี้ไป
มียอดฝีมือขั้นจุติคุ้มครองอยู่ข้างกาย ผู้ใดยังจะกล้าลงมือต่อเขา?
กระทั่งขั้นสวรรค์อย่างหวังเยก็ทําได้เพียงอ้อนวอนร้องขอชีวิตเท่านั้น!
ชั่วครู่ถัดมาคิ้วของเหยาคงก็กระตุกเบาๆ….
ฉันเทียนฉีกยิ้มกว้าง เขาดีใจจนจินตนาการภาพตนเองกําลังวิ่งกางแขนอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์……….